สวัสดีคร้าบบบ เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน
วันนี้ จขกท ดีใจมาก ในที่สุดก็มีเวลามาแบ่งปันเรื่องราวดีดี จากทริปล่าสุดที่ประเทศศรีลังกากันครับ
โดยทริปของเราครั้งนี้ ได้ดีลดีดีจากสายการบินฟูลเซอร์วิส ที่บินตรง สุวรรณภูมิ-โคลอมโบ อย่างSrilankan Airlines ครับ แต่นอกจากนี้ เพื่อนๆสามารถบินตรงกับการบินไทย และไทยไลออนแอร์ ได้เ่ช่นกันครับ
การเตรียมตัว
> หนังสือเดินทางที่ไม่ชำรุดและมีอายุอย่างน้อย6เดือนครับ
> วีซ่าสำหรับชาวไทย จะต้องลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าก่อนเดินทาง โดยเมื่อกรอกเสร็จแล้วใช้เวลาอนุมัติเพียง1-2วันเท่านั้นครับ
> ชาวไทยไม่ต้องชำระค่าวีซ่าครับ แต่ต้องได้รับการอนุมัติก่อนการเดินทางเท่านั้น
> ลิงค์กรอกวีซ่าครับ
http://www.eta.gov.lk/slvisa/visainfo/apply.jsp
> หากเดินทางในช่วงหน้าหนาว เมืองในหุบเขามีอากาศค่อนข้างเย็น ให้พกเสื้อกันหนาวแบบที่ใส่ในบ้านเราไปด้วยครับ อากาศประมาณ13-20องศาบนเขา เช่นที่ Ella และ Kandy
> พกรองเท้าผ้าใบสำหรับการเดินป่า และกางเกงขายาว เนื่องจากหากไปเดินป่า จะดิบชื้น และอาจจะมีปลิงครับ
> พกสเปรย์กันยุงไปด้วย หรือจะไปซื้อที่นั่นก็ได้ครับ
> พกเงินดอลล่าห์หรือยูโรไปก็สะดวกดีครับ บางที่เช่นตามโรงแรม หรือร้านอาหาร รับบัตรเครดิต
ทริปทั้งหมดนี้จะออกมาในรูปแบบ วิดีโอ บนยูทูปและเพจบนเฟสบุ้ค ฝากเพื่อนๆติดตาม กดไลค์ กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจทำที่ใหม่ๆด้วยนะคร้าบ
facebook
https://www.facebook.com/billybreakingborders/?ref=bookmarks
youtube
https://www.youtube.com/channel/UCDIVnpIzuodR0v5b5h4uueg?view_as=subscriber
หากพร้อมแล้ว ก็เริ่มกันเลยครับ
จัดสักภาพก่อนเข้าข้างในจุดรอขึ้นเครื่อง เพราะจขกท เป็นชาวต่างจังหวัด นานๆทีจะได้มาสนามบินในเมืองหลวงกับเค้าครับ 5555
หลังจากนั้นก็เริ่มขึ้นเครื่อง
ที่นั่งจะมีที่เสียบชาร์จแบบสำหรับสายUSB มีจอทีวีที่มีหนังจากหลายๆประเทศ หรือจะฟังเพลงก็ได้เช่นกันครับ ส่วนจขกทนั้น เล่นเกมคาสิโนครับ 555 ไม่ถนัดเท่าไหร่😂
ส่วนสำหรับที่นั่ง ความคิดเห็นจขกท ส่วนตัว คิดว่าเล็กพอๆกับสายการบินต้นทุนต่ำครับ ต่างกันแค่มีอาหารเสริฟและกระเป๋าฟรีครับ ส่วนเรื่องกลิ่น จขกท ไม่ได้เจอปัญหาครับ เหมือนนั่งเครื่องบินสายการบินทั่วไป
อาหารบนเครื่องมีให้เลือกครับ มีทั้งแบบอาหารเช้า ผัดไท หรือจะเป็นแกงกะหรี่แบบฉบับศรีลังกาในไฟล้ท์ขากลับครับ แต่เพื่อนๆสามารถดูเมนูได้จากหน้าจอครับ หรือจะเป็นเมนูกระดาษที่พนักงานแจกให้ เพื่อที่จะได้ตัดสินใจกันล่วงหน้าครับ
เที่ยวบินนี้ประมาณ3ชั่วโมงครึ่งครับ ถ้าบินกลางวัน ผมแนะนำให้ดูแผนที่ในหน้าจอ เพราะเป็นเที่ยวบินที่บินข้ามทะเลอันดามันครับ ระหว่างทางอาจจะได้เห็นเกาะสวยๆ อย่าทะเลพม่า หรือจะเป็นอย่างรูปข้างล่างนี้ ชื่อว่าเกาะ เซนทิเนล เป็นเกาะใจกลางมหาสมุทรอินเดียที่ได้ชื่อว่าหนึ่งในเกาะที่อันตรายที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวเผ่าที่ไม่ยอมรับการติดต่อจากโลกภายนอกเด็ดขาด และผู้ที่เดินทางขึ้นเกาะ อาจจะมีอันตรายถึงชีวิตได้ สำหรับข้อมูลที่แน่นอนร้อยเปอร์เซนต์ ลองเอาชื่อเกาะ Sentinel Island ไปหาในกูเกิ้ลนะคร้าบ
นี่คือภาพของเกาะเซนทิเนลที่มองเห็นได้จากหน้าต่างเครื่องบินครับ
ถึงสนามบินโคลอมโบครับ สำหรับการเดินทางเข้าเมือง มี2รูปแบบ
แบบที่1 ออกมานอกอาคารจะเจอกับแท็กซี่มากมายคอยเรียกลูกค้าครับ ซึ่งจขกทตั้งกฏไว้ว่า ต้องต่อราคาเท่านั้น เพราะคนขับเหล่านี้ปล่อยราคามาสูงราวกับในประเทศตะวันตกเลยครับ แนะนำให้เปรียบเทียบราคากับ แอ้พ Pickme ซึ่งคล้ายๆGrabบ้านเราครับ หรือจะใช้บริการจากแอ้พนี้เลยก็ได้เช่นกันครับ
แบบที่2 ถ้าไม่อยากนั่งแท็กซี่ ขาลุยอาจจะอยากสัมผัสประสบการ์ณรถบัส หากเดินออกมายังจุดรอแท็กซี่ในภาพ ให้เดินไปทางซ้ายสุด จะเห็นสถานที่จอดรถบัสเข้าเมืองครับ
สำหรับทริปนี้ จขกท มีผู้ร่วมทริปรวม3คนครับ แต่อีกคนจะมาวันที่3 จขกทเลยขอพักผ่อนหรูๆสัญชาติไทยเก็บแรงก่อนที่ทริปจะเริ่มครับ โดยเริ่มต้นจากนั่งแท็กซี่จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟ Colombo Fort Railway station เพื่อที่จะนั่งรถไฟ 45 นาทีต่อไปยังเมือง Kalutara ซึ่งตลอดเส้นทาง รถไฟจะวิ่งเรียบไปกับชายหาด และถือเป็นรถไฟสายหนึ่งที่สวยงามมากๆครับ โดยราคาตั๋วนั้นถือว่าถูกมากๆ จขกท ซื้อตั๋วชั้นเฟิร์สคล้าสในราคาเพียง 400 LKR ครับ หรือประมาณ70บาทเท่านั้น
สำหรับตั๋วเฟิร์สคล้าส เพื่อนๆสมาชิกจะต้องซื้อที่ช่องหมายเลข 17 เท่านั้นนะครับ
บรรยากาศสถานีรถไฟ คนเยอะแต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่วุ่นวายครับ หากแต่เราเที่ยวอย่างไร้อคติ เราจะได้มองเห็นสถานที่นั้นๆในมุมมองที่สวยงามครับ
ที่สำคัญสำหรับการนั่งรถไฟในศรีลังกานั้น เพื่อนๆจะต้องเก็บตั๋วไปตลอดการเดินทางจนกว่าจะออกจากสถานี เพราะจะมีเจ้าหน้าที่เก็บตั๋วอีกครั้งที่สถานีปลายทางครับ โดยตั๋วจะเป็นรูปแบบตั๋วรถไฟสมัยก่อนของบ้านเราครับ แต่เฟิร์สคล้าสจะเป็นแบบกระดาษครับ
ภายในห้องโดยสารเฟิร์สคล้าส เป็นแบบปรับอากาศ ที่นั่งกว้างขวาง เอนได้ สะอาด และมีที่เสียบชาร์จแบตเตอรี่ครับ
ที่นั่งชั้น2 ไม่วุ่นวาย เป็นห้องโดยสารพัดลมครับ แต่ที่เห็นคนแน่นๆอยู่ตู้ข้างหน้า คือชั้น3ครับ เป็นแบบนั่งหันหลังชนกันเหมือนชั้น3บ้านเราและมีตั๋วยืนครับ
บรรยากาศระหว่างทางครับ รุปภาพอาจจะเบลอนิดนึงต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ แฮร่ๆๆๆ😁 เพราะนำมาจากวิดีโอครับ
ภาพนี้ต้องการให้ห็นว่า รางรถไฟใกล้ชิดทะเลขนาดไหน
ถึงแล้วครับสถานี Kalutara South Railway Station
ลงจากรถไฟเราก็มาต่อกันที่รถตุ๊กๆไปยังโรงแรมครับ ซึ่งที่นี่เองก็เรียกว่ารถตุ๊กๆเหมือนบ้านเราครับ
ตัวเมืองKalutara มีร้านค้ามากมายครับ สำหรับศรีลังกา รถวิ่งฝั่งเดียวกับประเทศไทยครับ จขกท ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษมาก่อนหรือเปล่านะครับ โดยสภาพถนนโดยรวมทั้งครึ่งประเทศที่จขกทไป ก็ถือว่าคล้ายๆกับบ้านเราครับ ถนนทั้งหมดเป็นแบบลาดยาง แทบจะไม่มีหลุมครับ
จากสถานีรถไฟ เดินทางมาเพียง 15นาทีโดยรถตุ๊กๆ ก็จะถึงโรงแรม Anantara Kalutara ครับ
ห้องนอนเป็นแบบ ลากูนวิว ซึ่งสามารถเปิดมาเจอกับแม่น้ำ รวมไปถึงโซนพักผ่อนหย่อนใจริมน้ำด้วยครับ
ห้องน้ำ กว้างมากกกกกก
ศาลาริมน้ำ บริเวณหลังห้องครับ
หนึ่งคืนผ่านไป มาชมบรรยากาศยามเช้าครับ เนื่องจากเมื่อคืนฝนตก เช้านี้แม่น้ำเลยมีหมอก สวยมากกกกกกกก จขกท อดไม่ได้ที่จะวิ่งออกไปชักภาพอีกสักหน่อยครับ
2คืนหลังจากเก็บแรงมาเต็มที่แล้ว วันต่อมา จขกท เดินทางกลับมาที่ โคลอมโบ เมืองหลวงของศรีลังกาเพื่อนัดพบอีก1คน ก่อนออกทริปอย่างเป็นทางการครับ
โดยทริปของเรา เป็นการเช่ารถพร้อมคนขับท้องถิ่น ตลอด6วัน5คืนครับ โดยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายอยู่ที่วันละประมาณ1พันต้นๆครับ รถของเราทริปนี้เป็นยี่ห้อ TATA ครับ รถค่อนข้างเก่าครับ แต่ถ้าเพื่อนร่วมทางน่ารัก รถก็ไม่ใช่ปัญหาครับ
ข้อแนะนำสำหรับการเช่ารถพร้อมคนขับครับ หากไม่มีปัญหาอะไรระหว่างการเดินทาง แนะนำให้ให้ทิปคนขับปรมาณวันละ 1000 รูปีครับ หรือประมาณวันละ 170บาทครับ
สำหรับการเดินทางจะเป็นยังไงนั้น มาติดต่อตอนที่2กันครับ โดยตอนที่สองจะเป็นการเดินทาง ทั้งทางรถและรถไฟครับ แล้วเจอกันตอนที่สองคร้าบบบบบ
เที่ยวศรีลังกา ดีกว่าที่คิด
วันนี้ จขกท ดีใจมาก ในที่สุดก็มีเวลามาแบ่งปันเรื่องราวดีดี จากทริปล่าสุดที่ประเทศศรีลังกากันครับ
โดยทริปของเราครั้งนี้ ได้ดีลดีดีจากสายการบินฟูลเซอร์วิส ที่บินตรง สุวรรณภูมิ-โคลอมโบ อย่างSrilankan Airlines ครับ แต่นอกจากนี้ เพื่อนๆสามารถบินตรงกับการบินไทย และไทยไลออนแอร์ ได้เ่ช่นกันครับ
การเตรียมตัว
> หนังสือเดินทางที่ไม่ชำรุดและมีอายุอย่างน้อย6เดือนครับ
> วีซ่าสำหรับชาวไทย จะต้องลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าก่อนเดินทาง โดยเมื่อกรอกเสร็จแล้วใช้เวลาอนุมัติเพียง1-2วันเท่านั้นครับ
> ชาวไทยไม่ต้องชำระค่าวีซ่าครับ แต่ต้องได้รับการอนุมัติก่อนการเดินทางเท่านั้น
> ลิงค์กรอกวีซ่าครับ http://www.eta.gov.lk/slvisa/visainfo/apply.jsp
> หากเดินทางในช่วงหน้าหนาว เมืองในหุบเขามีอากาศค่อนข้างเย็น ให้พกเสื้อกันหนาวแบบที่ใส่ในบ้านเราไปด้วยครับ อากาศประมาณ13-20องศาบนเขา เช่นที่ Ella และ Kandy
> พกรองเท้าผ้าใบสำหรับการเดินป่า และกางเกงขายาว เนื่องจากหากไปเดินป่า จะดิบชื้น และอาจจะมีปลิงครับ
> พกสเปรย์กันยุงไปด้วย หรือจะไปซื้อที่นั่นก็ได้ครับ
> พกเงินดอลล่าห์หรือยูโรไปก็สะดวกดีครับ บางที่เช่นตามโรงแรม หรือร้านอาหาร รับบัตรเครดิต
ทริปทั้งหมดนี้จะออกมาในรูปแบบ วิดีโอ บนยูทูปและเพจบนเฟสบุ้ค ฝากเพื่อนๆติดตาม กดไลค์ กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจทำที่ใหม่ๆด้วยนะคร้าบ
facebook https://www.facebook.com/billybreakingborders/?ref=bookmarks
youtube https://www.youtube.com/channel/UCDIVnpIzuodR0v5b5h4uueg?view_as=subscriber
หากพร้อมแล้ว ก็เริ่มกันเลยครับ
จัดสักภาพก่อนเข้าข้างในจุดรอขึ้นเครื่อง เพราะจขกท เป็นชาวต่างจังหวัด นานๆทีจะได้มาสนามบินในเมืองหลวงกับเค้าครับ 5555
หลังจากนั้นก็เริ่มขึ้นเครื่อง
ที่นั่งจะมีที่เสียบชาร์จแบบสำหรับสายUSB มีจอทีวีที่มีหนังจากหลายๆประเทศ หรือจะฟังเพลงก็ได้เช่นกันครับ ส่วนจขกทนั้น เล่นเกมคาสิโนครับ 555 ไม่ถนัดเท่าไหร่😂
ส่วนสำหรับที่นั่ง ความคิดเห็นจขกท ส่วนตัว คิดว่าเล็กพอๆกับสายการบินต้นทุนต่ำครับ ต่างกันแค่มีอาหารเสริฟและกระเป๋าฟรีครับ ส่วนเรื่องกลิ่น จขกท ไม่ได้เจอปัญหาครับ เหมือนนั่งเครื่องบินสายการบินทั่วไป
อาหารบนเครื่องมีให้เลือกครับ มีทั้งแบบอาหารเช้า ผัดไท หรือจะเป็นแกงกะหรี่แบบฉบับศรีลังกาในไฟล้ท์ขากลับครับ แต่เพื่อนๆสามารถดูเมนูได้จากหน้าจอครับ หรือจะเป็นเมนูกระดาษที่พนักงานแจกให้ เพื่อที่จะได้ตัดสินใจกันล่วงหน้าครับ
เที่ยวบินนี้ประมาณ3ชั่วโมงครึ่งครับ ถ้าบินกลางวัน ผมแนะนำให้ดูแผนที่ในหน้าจอ เพราะเป็นเที่ยวบินที่บินข้ามทะเลอันดามันครับ ระหว่างทางอาจจะได้เห็นเกาะสวยๆ อย่าทะเลพม่า หรือจะเป็นอย่างรูปข้างล่างนี้ ชื่อว่าเกาะ เซนทิเนล เป็นเกาะใจกลางมหาสมุทรอินเดียที่ได้ชื่อว่าหนึ่งในเกาะที่อันตรายที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวเผ่าที่ไม่ยอมรับการติดต่อจากโลกภายนอกเด็ดขาด และผู้ที่เดินทางขึ้นเกาะ อาจจะมีอันตรายถึงชีวิตได้ สำหรับข้อมูลที่แน่นอนร้อยเปอร์เซนต์ ลองเอาชื่อเกาะ Sentinel Island ไปหาในกูเกิ้ลนะคร้าบ
นี่คือภาพของเกาะเซนทิเนลที่มองเห็นได้จากหน้าต่างเครื่องบินครับ
ถึงสนามบินโคลอมโบครับ สำหรับการเดินทางเข้าเมือง มี2รูปแบบ
แบบที่1 ออกมานอกอาคารจะเจอกับแท็กซี่มากมายคอยเรียกลูกค้าครับ ซึ่งจขกทตั้งกฏไว้ว่า ต้องต่อราคาเท่านั้น เพราะคนขับเหล่านี้ปล่อยราคามาสูงราวกับในประเทศตะวันตกเลยครับ แนะนำให้เปรียบเทียบราคากับ แอ้พ Pickme ซึ่งคล้ายๆGrabบ้านเราครับ หรือจะใช้บริการจากแอ้พนี้เลยก็ได้เช่นกันครับ
แบบที่2 ถ้าไม่อยากนั่งแท็กซี่ ขาลุยอาจจะอยากสัมผัสประสบการ์ณรถบัส หากเดินออกมายังจุดรอแท็กซี่ในภาพ ให้เดินไปทางซ้ายสุด จะเห็นสถานที่จอดรถบัสเข้าเมืองครับ
สำหรับทริปนี้ จขกท มีผู้ร่วมทริปรวม3คนครับ แต่อีกคนจะมาวันที่3 จขกทเลยขอพักผ่อนหรูๆสัญชาติไทยเก็บแรงก่อนที่ทริปจะเริ่มครับ โดยเริ่มต้นจากนั่งแท็กซี่จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟ Colombo Fort Railway station เพื่อที่จะนั่งรถไฟ 45 นาทีต่อไปยังเมือง Kalutara ซึ่งตลอดเส้นทาง รถไฟจะวิ่งเรียบไปกับชายหาด และถือเป็นรถไฟสายหนึ่งที่สวยงามมากๆครับ โดยราคาตั๋วนั้นถือว่าถูกมากๆ จขกท ซื้อตั๋วชั้นเฟิร์สคล้าสในราคาเพียง 400 LKR ครับ หรือประมาณ70บาทเท่านั้น
สำหรับตั๋วเฟิร์สคล้าส เพื่อนๆสมาชิกจะต้องซื้อที่ช่องหมายเลข 17 เท่านั้นนะครับ
บรรยากาศสถานีรถไฟ คนเยอะแต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่วุ่นวายครับ หากแต่เราเที่ยวอย่างไร้อคติ เราจะได้มองเห็นสถานที่นั้นๆในมุมมองที่สวยงามครับ
ที่สำคัญสำหรับการนั่งรถไฟในศรีลังกานั้น เพื่อนๆจะต้องเก็บตั๋วไปตลอดการเดินทางจนกว่าจะออกจากสถานี เพราะจะมีเจ้าหน้าที่เก็บตั๋วอีกครั้งที่สถานีปลายทางครับ โดยตั๋วจะเป็นรูปแบบตั๋วรถไฟสมัยก่อนของบ้านเราครับ แต่เฟิร์สคล้าสจะเป็นแบบกระดาษครับ
ภายในห้องโดยสารเฟิร์สคล้าส เป็นแบบปรับอากาศ ที่นั่งกว้างขวาง เอนได้ สะอาด และมีที่เสียบชาร์จแบตเตอรี่ครับ
ที่นั่งชั้น2 ไม่วุ่นวาย เป็นห้องโดยสารพัดลมครับ แต่ที่เห็นคนแน่นๆอยู่ตู้ข้างหน้า คือชั้น3ครับ เป็นแบบนั่งหันหลังชนกันเหมือนชั้น3บ้านเราและมีตั๋วยืนครับ
บรรยากาศระหว่างทางครับ รุปภาพอาจจะเบลอนิดนึงต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ แฮร่ๆๆๆ😁 เพราะนำมาจากวิดีโอครับ
ภาพนี้ต้องการให้ห็นว่า รางรถไฟใกล้ชิดทะเลขนาดไหน
ถึงแล้วครับสถานี Kalutara South Railway Station
ลงจากรถไฟเราก็มาต่อกันที่รถตุ๊กๆไปยังโรงแรมครับ ซึ่งที่นี่เองก็เรียกว่ารถตุ๊กๆเหมือนบ้านเราครับ
ตัวเมืองKalutara มีร้านค้ามากมายครับ สำหรับศรีลังกา รถวิ่งฝั่งเดียวกับประเทศไทยครับ จขกท ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษมาก่อนหรือเปล่านะครับ โดยสภาพถนนโดยรวมทั้งครึ่งประเทศที่จขกทไป ก็ถือว่าคล้ายๆกับบ้านเราครับ ถนนทั้งหมดเป็นแบบลาดยาง แทบจะไม่มีหลุมครับ
จากสถานีรถไฟ เดินทางมาเพียง 15นาทีโดยรถตุ๊กๆ ก็จะถึงโรงแรม Anantara Kalutara ครับ
ห้องนอนเป็นแบบ ลากูนวิว ซึ่งสามารถเปิดมาเจอกับแม่น้ำ รวมไปถึงโซนพักผ่อนหย่อนใจริมน้ำด้วยครับ
ห้องน้ำ กว้างมากกกกกก
ศาลาริมน้ำ บริเวณหลังห้องครับ
หนึ่งคืนผ่านไป มาชมบรรยากาศยามเช้าครับ เนื่องจากเมื่อคืนฝนตก เช้านี้แม่น้ำเลยมีหมอก สวยมากกกกกกกก จขกท อดไม่ได้ที่จะวิ่งออกไปชักภาพอีกสักหน่อยครับ
2คืนหลังจากเก็บแรงมาเต็มที่แล้ว วันต่อมา จขกท เดินทางกลับมาที่ โคลอมโบ เมืองหลวงของศรีลังกาเพื่อนัดพบอีก1คน ก่อนออกทริปอย่างเป็นทางการครับ
โดยทริปของเรา เป็นการเช่ารถพร้อมคนขับท้องถิ่น ตลอด6วัน5คืนครับ โดยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายอยู่ที่วันละประมาณ1พันต้นๆครับ รถของเราทริปนี้เป็นยี่ห้อ TATA ครับ รถค่อนข้างเก่าครับ แต่ถ้าเพื่อนร่วมทางน่ารัก รถก็ไม่ใช่ปัญหาครับ
ข้อแนะนำสำหรับการเช่ารถพร้อมคนขับครับ หากไม่มีปัญหาอะไรระหว่างการเดินทาง แนะนำให้ให้ทิปคนขับปรมาณวันละ 1000 รูปีครับ หรือประมาณวันละ 170บาทครับ
สำหรับการเดินทางจะเป็นยังไงนั้น มาติดต่อตอนที่2กันครับ โดยตอนที่สองจะเป็นการเดินทาง ทั้งทางรถและรถไฟครับ แล้วเจอกันตอนที่สองคร้าบบบบบ