ผมคิดว่ารัฐบาลควรให้การสนับสนุนประเทศไทยทำรถยนต์ไฟฟ้า

                              คำสั่งซื้อชะลอตัวเพราะเศรษฐกิจ และ การดิสรัปชั่น ในเทคโนโลยีรถยนต์ที่จากน้ำมันไปสู่ ไฟฟ้า  ทำให้โรงงานประกอบรถยนต์ในไทยปิดตัวไปมากกว่า25 แห่ง ในปี2562  ซึ่งเมื่อจบปี 2562 น่าจะทะลุ 30 แห่ง   ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองภาคส่งออกรถยนต์ไทยปี 62 ปิดลบ 2.7%    ประเด็นที่น่ากังวลคือ จีนที่ทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนกันไว้ ซึ่งรถพลังงานไฟฟ้า 100% ส่งออกมาขายในไทยโดยไม่เสียภาษีนำเข้า 


มีผลโดยตรงกับต้นทุนและทำราคาได้ถูกลง ซึ่งสวนทางกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการลงทุน โดยชวนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เข้ามาตั้งฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ที่ทุกรายต้องใช้เงินมหาศาล   และรถจากประเทศจีนน่าสงสัยในมาตราฐานคุณภาพ   ซึ่งในปี 2560  จีเอ็ม เรียกคืนรถยนต์ราวๆ 3.5 ล้านคัน จากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาถุงลมนิรภัยและถังเชื้อเพลิง  แม้จะเปลี่ยนเทคโนโลยีเป็นรถไฟฟ้าแล้ว  https://ppantip.com/topic/39486413  ก็ยังมีคนบ่นเรื่องคุณภาพอยู่เนื่องๆ
 
ไทยเองเป็นโรงงาน OEM ผลิตตัวถัง ทั้งประกอบรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในเมืองไทยนับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน รถยนต์ยี่ห้อที่เคยมีผลิตในเมืองไทย มีดังต่อไปนี้ บีเอ็มดับเบิลยู, ไดฮัทสุ, ฟอร์ด, เจเนอรัล มอร์เตอร์ (แดวู, โอเปิล และเชฟโลเลต), ฮอนด้า, อีซูซุ, มาสด้า, เอ็มจี, มิตซูบิชิ, นิสสัน, ทาทา, ไทยรุ่ง, วอลโว่, โฟล์คสวาเกน, ยนตรกิจ มอเตอร์ส (เปอโยต์ และซีตรอง), เมอร์เซเดส-เบนซ์  ยกตัวอย่างเช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ C300 BlueTec Hybrid ที่ผลิตและประกอบในเมืองไทย โดยใช้อะไหล่ที่ผลิตในประเทศไทยของเราถึง 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ซึ่งจะเห็นได้ว่าประเทศไทยเป็นเบอร์ต้นๆในการประกอบรถยนต์ซึ่งภาครัฐน่าจะให้การสนับสนุนภาคเอกชนที่ผลิตรถไฟฟ้าในประเทศมากกว่าการนำเข้า  หรือ  รอให้ต่างประเทศมาตั้งโรงงานผลิตซึ่ง  แม้แต่เราผลิตให้เขาแต่เขาก็ใช้สิทธิพิเศษทางภาษี  ญี่ปุ่นเองก็มี BOI  จีนก็มี  FTA  ประเทศเราได้อยากมากก็ค่าแรง     แม้เราอาจจะเดินช้ากว่าคนอื่น  แต่ไม่ได้แปลว่าจะเดินตามเขาไม่ทัน  แต่ถ้าเราเป็นผู้ใช้โดยไม่ผลิตนวัตกรรมเองเลยเราก็จะเป็นประเทศโลกที่ 3 อย่างแท้จริง !!!    
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่