รู้จักกับสาเหตุของรอยคล้ำใต้ตาทั้ง 4 แบบ + วิธีรักษา 🐼🐼

กระทู้สนทนา
             
ถ้ารอยคล้ำใต้ตา 🐼🐼
ทำให้เราดูเศร้า เหนื่อย หน้าโทรม ไม่สดใส 

รู้จักกับรอยคล้ำใต้ตาทั้ง4แบบ แบ่งตามสาเหตุหลักนะคะ 🔍🔍
1. เม็ดสีบริเวณผิวหนังใต้ตาเพิ่มขึ้น มักจะเป็นสีน้ำตาล (brown color) เช่น การขยี้ตาบ่อยๆ, คนที่มีผื่นผิวหนังอักเสบรอบๆดวงตา ผื่นแพ้เครื่องสำอาง พอผื่นหายก็ทิ้งรอยดำเอาไว้ 
2. เกิดจากเส้นเลือดที่อยู่แถวๆรอบดวงตา มักจะเห็นเป็นสีม่วงอมชมพู (blue/pink/purple color) เช่น คนอดนอน นอนดึก ภูมิแพ้อากาศที่มีอาการคัดจมูกเป็นประจำ 
3. เกิดจากการมีร่องน้ำตา เบ้าตาลึก หรือไขมันใต้ตาหายไป(ตามอายุที่เพิ่มขึ้น) จริงๆแบบนี้เป็นตามสีผิว (skin color) แต่เมื่อมีเงากระทบทำให้เห็นเป็นเงาดำขึ้นมา 
4. แบบผสม เช่น มีทั้งเม็ดสีที่เพิ่มขึ้นปนกับการเห็นเส้นเลือดที่ชัดเจน (1+2) , เม็ดสีเยอะปนกับมีเงาใต้ตา (1+3), เส้นเลือดใต้ตาปนกับมีร่องน้ำตา (2+3), หรือมีทั้ง 3 แบบปนกัน

ซึ่งการแยกว่าเป็นรอยคล้ำแบบไหน ต้องอาศัยประสบการณ์ (ให้คุณหมอแยกให้นะคะ #คนทั่วไปไม่จำเป็นต้องแยกเองได้) 

ที่ต้องแยกสาเหตุ 
เพราะการรักษาใช้วิธีที่ต่างกันไปแล้วแต่สาเหตุ 

รอยคล้ำแบบที่ 1 การทายาที่ช่วยลดการสร้างหรือจัดการกับเม็ดสี เช่น ไฮโดรควิโนน, โกจิ (kojic acid), กรดอะซิเลอิก (Azelaic acid), อาบูติน (Arbutin), วิตามินซี ช่วยทำให้รอยคล้ำจางลงได้ 

             แบบที่ 2 การใช้เลเซอร์ที่ใช้รักษาเกี่ยวกับเส้นเลือด ช่วยให้รอยคล้ำจางลงได้ แต่ไม่ใช่ทำครั้งเดียวหาย + ต้องแก้สาเหตุ คือ รักษาภูมิแพ้และไม่นอนดึก 
 
             แบบที่ 3 แก้ไขโดยการฉีดฟิลเลอร์ (สารเติมเต็ม)หรือ #ฉีดไขมันเพื่อให้ร่องใต้ตาตื้นขึ้น ช่วยเปลี่ยนมุมที่แสงเงาตกกระทบ หรือ #ผ่าตัดแก้ไข #แต่การรักษาวิธีนี้ค่อนข้างอันตรายมาก ถ้าทำโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ควรปรึกษาแพทย์และหาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจค่ะ 
#ส่วนวิธีอื่นๆที่ช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาดูดีขึ้น (ได้บ้าง) 
เช่น การทา eye cream และใช้เครื่องสำอางปกปิด, นอนให้เพียงพอ, ไม่นอนดึก, ไม่ขยี้ตา
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และไม่สูบบุหรี่

เพจ Dr. Yui คุยทุกเรื่องผิว ❤️
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่