สวัสดีค่ะ ไม่คิดว่าจะมาตั้งกระทู้แบบนี้ ตอนแรกยังทำใจไม่ได้ค่ะ
ตอนนี้ดีขึ้นมากและสามารถอยู่กับมันได้ ยาวหน่อยนะคะ
อาการเริ่มแรกของน้อง ประมาณเดือนต้นพฤษภาเป็นไข้ต่ำ ๆ เจ็บคอ มีน้ำมูกไม่มาก หลังจากนั้น 2-3 วัน ไม่มีไข้แล้ว เจ็บคอบ้าง ไปหาหมอได้ยาปฏิชีวนะก็ทานจนครบ ตอนนั้นน้องหนัก 33 กิโลกรัม สูง 123ซม. อายุ 6 ขวบกว่าค่ะ กำลังอวบเลย หลังจากหายแล้วน้องผอมลง ดื่มน้ำเยอะมาก เข้าใจว่าอากาศคงร้อน น้องเล่นมาเหนื่อย และคงผอมลงเพราะเพิ่งหายไข้ น้ำหนักลดลงมาเหลือ 27 กิโลกรัม ภายในเวลาไม่กี่อาทิตย์
เมื่อเปิดเทอมกลางเดือนพฤษภา น้องไปโรงเรียนปกติค่ะ แต่ดื่มน้ำมาก และตื่นมาฉี่ตอนกลางคืน ดูเหนื่อยและเพลียตลอด แม่เข้าใจว่าคงจะเรียนหนักเพราะน้องเพิ่งขึ้น ป.1 ง่วงตลอดเวลา ขับรถพาไปทานข้าวนอกบ้านก็หลับ ปกติไม่เคยหลับนะคะ ขับรถไปแค่สิบนาทีเองค่ะ เรานอนกอดลูกทุกวันรู้เลยค่ะว่าลูกผอมลงมาก ๆ แต่ยังคิดอยู่ว่าเป็นเพราะลูกเรียนเหนื่อย วิ่งนิดเดียวก็แก้มแดงเป็นลูกตำลึงแล้วค่ะ
หลังจากนั้นไม่นาน ปกติแล้วแม่เป็นคนแปรงฟันให้ลูกก่อนนอนทุกคืน เริ่มสังเกตเห็นฝ้าขาว ๆ ที่ริมฝีปากด้านในทั้งบนและล่าง กระพุ้งแก้ม แม่ไม่นิ่งนอนใจค่ะ พาไปพบคุณหมอวันนั้นเลย คุณหมอบอกว่าเป็นเชื้อรานะ ให้ยามาทาน แต่ประโยคหนึ่งที่ทำให้แม่เริ่มคิดเมื่อคุณหมอพูดว่า
“ปกติจะมีแต่เด็กเล็กเป็นนะ” แม่มั่นใจมากว่าแปรงฟันให้ลูกสะอาด แถมน้ำยาบ้วนปาก กลั้วคอน้ำเกลือ ทำไมยังเป็นอยู่นะ ทำไมกันนะ?
แม่ชอบอ่าน pantip ค่ะ ต้องขอบคุณกระทู้หนึ่งใน pantip ครั้งแรกเราอ่านผ่าน ๆ ต้องขออภัยด้วยนะคะจำชื่อกระทู้ไม่ได้ เจ้าของกระทู้เคยติดยา พอเลิกแล้วก็มีปัญหาสุขภาพมากมาย และเขาเล่าให้ฟังว่ามีมดตอมโถฉี่ แม่ของเจ้าของกระทู้จึงบอกให้ไปตรวจเบาหวาน ผลออกมาว่าเขาเป็นเบาหวาน ทำให้นึกย้อนกลับไปถึงลูกของเรา… มีอยู่คืนหนึ่ง แม่ส่งน้องไปฉี่ตอนกลางคืน เปิดฝารองชักโครกขึ้นมา มีมดดำตัวใหญ่ ๆ ตอมเต็มเลยค่ะ ปกติไม่ค่อยเห็นมดแบบนี้ในบ้าน ในตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไร อย่างที่บอกค่ะ คำว่าเบาหวานช่างดูห่างไกลจากเด็กเล็กมาก เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเบาหวานมีสองชนิด แต่พอลูกเราเป็นเชื้อราในปาก และประโยคที่หมอพูด ทำให้แม่นึกถึงกระทู้มดตอมโถฉี่ใน pantip ขึ้นมาทันใด
มีต่อข้างล่างค่ะ
ประสบการณ์ลูกเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 DKA นอนไอซียู
ตอนนี้ดีขึ้นมากและสามารถอยู่กับมันได้ ยาวหน่อยนะคะ
อาการเริ่มแรกของน้อง ประมาณเดือนต้นพฤษภาเป็นไข้ต่ำ ๆ เจ็บคอ มีน้ำมูกไม่มาก หลังจากนั้น 2-3 วัน ไม่มีไข้แล้ว เจ็บคอบ้าง ไปหาหมอได้ยาปฏิชีวนะก็ทานจนครบ ตอนนั้นน้องหนัก 33 กิโลกรัม สูง 123ซม. อายุ 6 ขวบกว่าค่ะ กำลังอวบเลย หลังจากหายแล้วน้องผอมลง ดื่มน้ำเยอะมาก เข้าใจว่าอากาศคงร้อน น้องเล่นมาเหนื่อย และคงผอมลงเพราะเพิ่งหายไข้ น้ำหนักลดลงมาเหลือ 27 กิโลกรัม ภายในเวลาไม่กี่อาทิตย์
เมื่อเปิดเทอมกลางเดือนพฤษภา น้องไปโรงเรียนปกติค่ะ แต่ดื่มน้ำมาก และตื่นมาฉี่ตอนกลางคืน ดูเหนื่อยและเพลียตลอด แม่เข้าใจว่าคงจะเรียนหนักเพราะน้องเพิ่งขึ้น ป.1 ง่วงตลอดเวลา ขับรถพาไปทานข้าวนอกบ้านก็หลับ ปกติไม่เคยหลับนะคะ ขับรถไปแค่สิบนาทีเองค่ะ เรานอนกอดลูกทุกวันรู้เลยค่ะว่าลูกผอมลงมาก ๆ แต่ยังคิดอยู่ว่าเป็นเพราะลูกเรียนเหนื่อย วิ่งนิดเดียวก็แก้มแดงเป็นลูกตำลึงแล้วค่ะ
หลังจากนั้นไม่นาน ปกติแล้วแม่เป็นคนแปรงฟันให้ลูกก่อนนอนทุกคืน เริ่มสังเกตเห็นฝ้าขาว ๆ ที่ริมฝีปากด้านในทั้งบนและล่าง กระพุ้งแก้ม แม่ไม่นิ่งนอนใจค่ะ พาไปพบคุณหมอวันนั้นเลย คุณหมอบอกว่าเป็นเชื้อรานะ ให้ยามาทาน แต่ประโยคหนึ่งที่ทำให้แม่เริ่มคิดเมื่อคุณหมอพูดว่า
“ปกติจะมีแต่เด็กเล็กเป็นนะ” แม่มั่นใจมากว่าแปรงฟันให้ลูกสะอาด แถมน้ำยาบ้วนปาก กลั้วคอน้ำเกลือ ทำไมยังเป็นอยู่นะ ทำไมกันนะ?
แม่ชอบอ่าน pantip ค่ะ ต้องขอบคุณกระทู้หนึ่งใน pantip ครั้งแรกเราอ่านผ่าน ๆ ต้องขออภัยด้วยนะคะจำชื่อกระทู้ไม่ได้ เจ้าของกระทู้เคยติดยา พอเลิกแล้วก็มีปัญหาสุขภาพมากมาย และเขาเล่าให้ฟังว่ามีมดตอมโถฉี่ แม่ของเจ้าของกระทู้จึงบอกให้ไปตรวจเบาหวาน ผลออกมาว่าเขาเป็นเบาหวาน ทำให้นึกย้อนกลับไปถึงลูกของเรา… มีอยู่คืนหนึ่ง แม่ส่งน้องไปฉี่ตอนกลางคืน เปิดฝารองชักโครกขึ้นมา มีมดดำตัวใหญ่ ๆ ตอมเต็มเลยค่ะ ปกติไม่ค่อยเห็นมดแบบนี้ในบ้าน ในตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไร อย่างที่บอกค่ะ คำว่าเบาหวานช่างดูห่างไกลจากเด็กเล็กมาก เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเบาหวานมีสองชนิด แต่พอลูกเราเป็นเชื้อราในปาก และประโยคที่หมอพูด ทำให้แม่นึกถึงกระทู้มดตอมโถฉี่ใน pantip ขึ้นมาทันใด
มีต่อข้างล่างค่ะ