“อนุสรณ์”แนะนายกฯลาออกหลังบ่นเครียดนอนไม่หลับ
https://www.innnews.co.th/politics/news_552746/
 
 
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บ่นเครียดหลายเรื่องจนนอนไม่หลับ ว่า

พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการส่งสัญญาณถึงประชาชน นโยบายที่หาเสียงหลายนโยบายอาจไม่สามารถทำได้ ตอนนี้เงินที่จะแจกก็ไม่มีแล้ว รวมถึงต้องสื่อสารไปถึงฝ่ายค้านว่าไม่ควรคว่ำงบฯ พล.อ.ประยุทธ์ สารภาพชัด ว่า มีปัญหามาก โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณ ทุกโครงการ  ทุกนโยบายที่หาเสียงไว้ ไม่รู้วิธีการว่าจะทำอย่างไรให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายที่แถลงไว้ได้ ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท ปรับจริง 5-6 บาท นโยบายลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ตามนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ พอเป็นรัฐบาล กลายเป็นแค่การยกตัวอย่างช่วงหาเสียงเท่านั้น นโยบายมารดาประชารัฐที่จะให้เงิน ตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์ ได้ให้ใครหรือยัง เบี้ยผู้สูงอายุที่จะปรับเป็น 1 พันบาท ก็สารภาพว่าให้ไม่ได้แล้ว เพราะรัฐบาลไม่มีเงิน รัฐบาลมาถึงจุดที่นโยบายที่หาเสียง นโยบายที่แถลงต่อสภา ไม่สามารถทำได้แล้วไม่เกิดผลอะไร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นิ่งเฉย ปล่อยผ่านเรื่องนี้ได้อย่างไร พรรคฝ่ายค้านชี้มาตั้งแต่ต้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่แจ้งที่มาของงบประมาณในการจัดทำนโยบายรัฐบาล ถึงวันนี้ยอมรับแล้วว่าไม่รู้จะเอาเงินจากไหนมาทำนโยบายตามที่ได้หาเสียงและแถลงนโยบายไว้
 
ทั้งนี้ ปีหน้าราคาพืชผลทางทางการเกษตรก็คงจะตกต่ำแทบทุกรายการ ยกเว้น กล้วย ประเภทที่ใช้เลี้ยงลิง น่าจะราคาแพงขึ้น เพราะรัฐบาลยังจะต้องแจกกล้วยลิงอีกหลายวาระ ถ้ารัฐบาลลิงกินกล้วย 18 มงกุฎ ไม่มีความสามารถทำให้งบฯ ผ่านสภาได้ ก็ต้องยอมจำนนลาออกให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน
 
นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงว่า ที่ดิน ส.ป.ก. ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ คืนรัฐแล้วไม่ผิด พร้อมยกตัวอย่างกรณี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี คืนที่ดิน ส.ป.ก. แล้วก็จบกัน ว่า ตอนแรกประชาชนมีคำถามว่าคนในรัฐบาลคนใดสั่งให้อุ้ม น.ส.ปารีณา แต่ดูไปดูมาเหมือนจะพร้อมใจกันอุ้มทั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกตั้งคำถามว่าเป็นบิดาแห่งความย้อนแย้ง ตอนเป็นรัฐบาลรัฐประหาร ออกนโยบายทวงคืนผืนป่า แต่พอมารัฐบาลเป็นสืบทอดอำนาจกลับมีท่าทีอุ้มคนรุกป่าหรือไม่ นายวิษณุ ก็ถูกตั้งคำถามว่าเป็นบิดาแห่งข้อยกเว้นการที่ออกมาปกป้อง น.ส.ปารีณา เพราะได้รับสัญญาณจาก พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ การเอากรณีนี้ไปเปรียบเทียบกับกรณีเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นคนละกรณีกัน การยึดครองเขายายเที่ยงมีการฟ้องร้องดำเนินคดีข้อหาบุกรุกครอบครองโดยมิชอบ แต่ต่อมาอัยการสั่งไม่ฟ้อง นายวิษณุ ทำตัวคล้ายกับว่าปรับลดหน้าที่ตัวเองจากรองนายกฯ ไปเป็นเป็นโฆษกรัฐบาลเพราะโฆษกและรองโฆษกรัฐบาล ไม่สามารถสื่อสารตอบโต้ประเด็นทางการเมืองได้ นอกจากนั่งแถลงมติ ครม. กับโพสต์ไอโอเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ ไปวันๆเท่านั้น
 
ทั้งนี้ เรื่องที่ดินของ น.ส.ปารีณา รัฐบาลถูกกระแสสังคมกดดันอย่างหนัก ส.ป.ก. และ กรมป่าไม้ ต้องยึดตามแนวการตัดสินของศาลฎีกา ไม่ใช่ไปปรึกษากฤษฎีกา เพราะอาจช่วยอะไรได้ไม่มากนัก หากกรมป่าไม้ หรือ ส.ป.ก. ไม่ฟ้อง น.ส.ปารีณา ต้องมีคำตอบให้กับประชาชน และอาจถูกดำเนินคดีข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่เสียเอง
 

---

 
แกนนำมะพร้าวโวยรัฐบาลไร้ความจริงใจ หลังอนุมัตินำเข้า3.2 หมื่นตันหวั่นทุบราคาร่วงฮวบ
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1807831
 
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ อดีตประธานอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราครามะพร้าว สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช มีมติเห็นชอบการจัดสรรปริมาณนำเข้ามะพร้าวผลภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟต้า ปี 2562 ให้กับผู้ประกอบการแปรรูปมะพร้าวที่มีคุณสมบัติและเป็นผู้มีสิทธิจำนวน 15 ราย ปริมาณนำเข้า 3.2 หมื่นตัน หรือ 26 ล้านผลมีอัตราภาษี 0 % ภายในเดือนธันวาคม 2562 เพื่อแก้ไขปัญหาตามข้ออ้างในการผลิตเพื่อส่งออก เนื่องจากวัตถุดิบในประเทศมีน้อยตามฤดูกาลผลิต แต่ยืนยันว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการตรวจสอบการนำเข้าอย่างเข้มงวด รวมทั้งติดตามแนวทางที่อนุกรรมาธิการศึกษาไว้และนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันผลกระทบกับราคาผลผลิตในประเทศ
 
นายประมวล กล่าวว่า ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเกรงว่าจะกระทบกับเสถียรภาพของราคามะพร้าวในประเทศ ล่าสุดที่ อ.บางสะพานมีพ่อค้ารับซื้อที่ผลละ 22 บาท เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบ เพราะมีการนำเข้าในระยะสั้น ขณะที่ในภาวะปกติยังมีการนำเข้ามะพร้าวตามกรอบดับเบิ้ลยูทีโอ อย่างต่อเนื่องในอัตราภาษี 54% นอกจากนั้นในภาวะที่ฝนทิ้งช่วงทำให้สวนมะพร้าวในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีพื้นที่ปลูกมากที่สุดในประเทศ มีการระบาดของแมลงดำหนาม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรร่วมกับหน่วยงานในระดับจังหวัดเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับผลผลิตมะพร้าวภายในประเทศ
 
นายพงษ์ศักดิ์ บุตรรักษ์ แกนนำเครือข่ายชาวสวนมะพร้าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การอนุมัตินำเข้ามะพร้าวตามกรอบอาฟต้าในปี 2562 เป็นบทพิสูจน์ชัดเจนว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้มีความจริงใจกับเกษตรกรชาวสวน ไม่สนใจกระบวนการการรับฟังความคิดเห็นหรือมีการประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับราคาผลผลิตในประเทศ รวมทั้งการดำเนินการตามข้อเรียกร้อง สำหรับการนำเข้าตามกรอบอาฟต้าซึ่งควรห้ามนำไปกะเทาะเปลือกนอกโรงงานเพื่อทำมะพร้าวขาวหรือนำไปจำหน่ายเป็นมะพร้าวหัวขูดเพื่อบริโภคภายในประเทศ 

แต่ขณะนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบยังไม่มีความชัดเจนในกฎกติกาหรือข้อห้าม ขณะที่โรงงานกะทิบางแห่งที่ตั้งมานาน 37 ปี ยังมีข้ออ้างว่าไม่มีศักยภาพในการกะเทาะภายในโรงงานจึงจำเป็นต้องจ้างล้งขนาดใหญ่ในต่างจังหวัด
 
“ เมื่อมีการนำเข้าตามกรอบอาฟต้าพร้อมกับกรอบดับเบิ้ลยูทีโอเจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่า ไม่สามารถแยกแยะผลมะพร้าวจากการนำเข้าตามกรอบการค้าทั้ง 2 ประเภทได้ รวมทั้งมาตรการป้องกันการลักลอบมะพร้าวเถื่อนยังมีปัญหาต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยทั้งหมดจะส่งผลกระทบกับเสถียรภาพด้านราคาวัตถุดิบในประเทศอย่างแน่นอน หลังจากราคาเพิ่งฟื้นตัวในรอบ 2 ปี จากเดิมผลละไม่เกิน 5 บาท ดังนั้นเร็วๆ นี้เครือข่ายชาวสวนจะต้องเดินทางไปพบนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง “ นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว