สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เรื่องคุยกันกระแสเป็นหลักจริงๆครับ
การชาร์จด่วนรุ่นที่ใช้ USB3.1 type-c จะเป็น Watt สูงทั้งนั้น
ที่ผมใช้อยู่มีเครื่องนึงของ huawei ซึ่งตอนแบตเหลือน้อย ช่วงเริ่มต้นชาร์จจะใช้กระแสสูงสุด 4.5 ถึง 5 แอมป์เลย
ทดลองเมื่อใช้สายธรรมดาหัว android micro USB แล้วลองใช้ต่อหัวแปลงอแดปเป็น type-c ในบางครั้ง (ผมเอาสายเก่าแถมมากับ power bank แบบสั้นๆ มาใช้ เพื่อจะพกสะดวก ก็พบว่าสายคุณภาพดี สำหรับ USB 2.0 ชาร์จถึง 2A ได้จริง ถ้าสายแบบทั่วไปจะได้แค่ 1 แอมป์หรือไม่ถึง 1 แอมป์ ก็มี)
ยังไงมันก็จะไม่ยอมให้หัวชา์จปล่อยออกมาเป็นกระแสสูงขนาดที่ว่านี้แต่แค่ 2 แอมป์หัวก็ร้อนจี๋เลย
ส่วนทางเทคนิคการคุยกันที่ว่าคือมี data ส่งหากัน ช่วยประเมินการรองรับกระแสที่ผ่านในสายด้วย ถ้ามีชิปจะมีไอดีข้างในว่าผ่านการรับรอง
แต่ถ้าไม่มีก็ต้องมาวัดกันก่อน
ผมมีสายยาวอยู่แล้วแต่ก็ทดลองพวกหลายๆรูปแบบว่าจะเป็นยังไง
ถ้าเป็นสั้นๆแบบหักมุมเฉยๆ อันนี้ไม่มีความแตกต่าง คงมองว่าเป็นขั้วธรรมดา ความต้านทานต่ำ
พอเริ่มต่อ hub ที่ระบุ USB 3.0 ดูสายก็เส้นใหญ่ดี
เสียบไปปรากฏว่าวินาทีแรกๆ ยังเป็นซุปเปอร์ชาร์จอยู่แต่แป๊บนึงลดระดับลงมาเป็นชาร์จธรรมดา
แล้วก็ทดลองอีกอันเป็นแบบสายพ่วงให้ยาวอันนี้ใช้มานานแล้ว จนสายเหลืองคือเป็นสายแบบเห็นตัวนำข้างใน
ปรากฏว่าแปลกใจมากเป็นชาร์จด่วนได้ ไม่คิดว่าสายที่ออกมายุค USB 2.0 จะสามารถรองรับได้
แต่ก็สังเกตว่าในช่วงที่แบตเตอรี่อยู่เปอร์เซ็นต์สูงเท่านั้น
ถ้าแบตเตอรี่เปอร์เซ็นต์ต่ำต้องการกระแสชาร์จสูงมันก็จะไม่ขึ้นเครื่องหมายซุปเปอร์ชาร์จ
แปลว่า checkhand ถึงกัน คุณภาพตัวนำข้างในก็คงดี ถูกมองว่าความต้านทานต่ำคล้ายกับการใช้หัวหักมุมสั้นๆ
แต่พอจะเอาจริงๆ จ่ายกระแสสูงๆ แล้วผ่านไม่ได้คงทำนองนั้น
พอมาใช้สายพ่วงรูปร่างคล้ายกันแต่เป็นแบบก๊องแก๊งของแถมมาจากกระเป๋าจีนรุ่นที่บอกว่าใส่พาวเวอร์แบงค์ข้างใน อันนี้ได้แค่แอมป์กว่าๆ แค่นั้นเอง กลายเป็น super slow ชาร์จไปเลย
USB hub ตัวละ 20 กว่าบาทนี่ก็เช่นกัน
แต่แค่ทดลองอยากรู้เฉยๆ แล้วเผื่อฉุกเฉินจำเป็นต้องใช้บางเวลา
ดูก็เห็นแล้วว่าสายขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกระจึ๋งเดียว รวมฉนวนเข้าไปแล้ว แค่เห็นเล็กนิดเดียว ข้างในเล็กนิดเดียวแน่นอน
การชาร์จด่วนรุ่นที่ใช้ USB3.1 type-c จะเป็น Watt สูงทั้งนั้น
ที่ผมใช้อยู่มีเครื่องนึงของ huawei ซึ่งตอนแบตเหลือน้อย ช่วงเริ่มต้นชาร์จจะใช้กระแสสูงสุด 4.5 ถึง 5 แอมป์เลย
ทดลองเมื่อใช้สายธรรมดาหัว android micro USB แล้วลองใช้ต่อหัวแปลงอแดปเป็น type-c ในบางครั้ง (ผมเอาสายเก่าแถมมากับ power bank แบบสั้นๆ มาใช้ เพื่อจะพกสะดวก ก็พบว่าสายคุณภาพดี สำหรับ USB 2.0 ชาร์จถึง 2A ได้จริง ถ้าสายแบบทั่วไปจะได้แค่ 1 แอมป์หรือไม่ถึง 1 แอมป์ ก็มี)
ยังไงมันก็จะไม่ยอมให้หัวชา์จปล่อยออกมาเป็นกระแสสูงขนาดที่ว่านี้แต่แค่ 2 แอมป์หัวก็ร้อนจี๋เลย
ส่วนทางเทคนิคการคุยกันที่ว่าคือมี data ส่งหากัน ช่วยประเมินการรองรับกระแสที่ผ่านในสายด้วย ถ้ามีชิปจะมีไอดีข้างในว่าผ่านการรับรอง
แต่ถ้าไม่มีก็ต้องมาวัดกันก่อน
ผมมีสายยาวอยู่แล้วแต่ก็ทดลองพวกหลายๆรูปแบบว่าจะเป็นยังไง
ถ้าเป็นสั้นๆแบบหักมุมเฉยๆ อันนี้ไม่มีความแตกต่าง คงมองว่าเป็นขั้วธรรมดา ความต้านทานต่ำ
พอเริ่มต่อ hub ที่ระบุ USB 3.0 ดูสายก็เส้นใหญ่ดี
เสียบไปปรากฏว่าวินาทีแรกๆ ยังเป็นซุปเปอร์ชาร์จอยู่แต่แป๊บนึงลดระดับลงมาเป็นชาร์จธรรมดา
แล้วก็ทดลองอีกอันเป็นแบบสายพ่วงให้ยาวอันนี้ใช้มานานแล้ว จนสายเหลืองคือเป็นสายแบบเห็นตัวนำข้างใน
ปรากฏว่าแปลกใจมากเป็นชาร์จด่วนได้ ไม่คิดว่าสายที่ออกมายุค USB 2.0 จะสามารถรองรับได้
แต่ก็สังเกตว่าในช่วงที่แบตเตอรี่อยู่เปอร์เซ็นต์สูงเท่านั้น
ถ้าแบตเตอรี่เปอร์เซ็นต์ต่ำต้องการกระแสชาร์จสูงมันก็จะไม่ขึ้นเครื่องหมายซุปเปอร์ชาร์จ
แปลว่า checkhand ถึงกัน คุณภาพตัวนำข้างในก็คงดี ถูกมองว่าความต้านทานต่ำคล้ายกับการใช้หัวหักมุมสั้นๆ
แต่พอจะเอาจริงๆ จ่ายกระแสสูงๆ แล้วผ่านไม่ได้คงทำนองนั้น
พอมาใช้สายพ่วงรูปร่างคล้ายกันแต่เป็นแบบก๊องแก๊งของแถมมาจากกระเป๋าจีนรุ่นที่บอกว่าใส่พาวเวอร์แบงค์ข้างใน อันนี้ได้แค่แอมป์กว่าๆ แค่นั้นเอง กลายเป็น super slow ชาร์จไปเลย
USB hub ตัวละ 20 กว่าบาทนี่ก็เช่นกัน
แต่แค่ทดลองอยากรู้เฉยๆ แล้วเผื่อฉุกเฉินจำเป็นต้องใช้บางเวลา
ดูก็เห็นแล้วว่าสายขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกระจึ๋งเดียว รวมฉนวนเข้าไปแล้ว แค่เห็นเล็กนิดเดียว ข้างในเล็กนิดเดียวแน่นอน
ความคิดเห็นที่ 5
เข้าใจว่าเป็น Gimmick หลอกๆนะครับ ไม่น่ามีประโยชน์อะไรมากมาย (อาจมีประโยชน์นิดหน่อยได่)
ถ้าเป็น Spec มาตรฐาน ของ USB C และ PD ไม่จำเป็นต้องมี controller ในสายเลย (ก็แน่ละ)
ตัว controller มันอยู่ที่ต้นทางและปลายทางอยู่แล้วครับ ดังนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ในสายเลยจริงๆ
ถ้าจะมีประโยชน์ก็อาจเพื่อลด noise , ปรับ amplitude กระแส หรือป้องกัน Short circuit เช่น
Short-to-VBUS protections , High voltage protections พออ้างได้บ้างครับ (เหมือน ป้องกัน double) หรือแย่สุดอาจเป็นแค่ R ธรรมดาๆ
เพิ่มเติม : อีกอันที่เป็นไปได้คือ controller ส่งข้อมูลเพื่อปรับลดกระแสในการชาร์จครับ (กรณีที่สาย spec ไม่ถึง)
ถ้าเป็น Spec มาตรฐาน ของ USB C และ PD ไม่จำเป็นต้องมี controller ในสายเลย (ก็แน่ละ)
ตัว controller มันอยู่ที่ต้นทางและปลายทางอยู่แล้วครับ ดังนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ในสายเลยจริงๆ
ถ้าจะมีประโยชน์ก็อาจเพื่อลด noise , ปรับ amplitude กระแส หรือป้องกัน Short circuit เช่น
Short-to-VBUS protections , High voltage protections พออ้างได้บ้างครับ (เหมือน ป้องกัน double) หรือแย่สุดอาจเป็นแค่ R ธรรมดาๆ
เพิ่มเติม : อีกอันที่เป็นไปได้คือ controller ส่งข้อมูลเพื่อปรับลดกระแสในการชาร์จครับ (กรณีที่สาย spec ไม่ถึง)
แสดงความคิดเห็น
ทำไมสาย Fast Charge ต้องมี Chip Control อยู่ทีตัวสายด้วยครับ ในเมื่อระบบการชาร์จอยู่ในตัวมือถืออยู่แล้ว
ต้องมี chip Control อยู่ทีตัวสายด้วยครับ
ผมเห็นในเวป shopping online มีหลายยี่ห้อที่มีภาพประกอบว่ามี chip control อยู่ทีสาย
ทีผมสงสัย เพราะในเมื่อระบบการชาร์จเร็วอยู่ในตัวโทรศัพท์มือถืออยู่แล้ว
ทำไมต้องมีที่สายอีกขั้นหนี่ง
.
รบกวนท่านทีทราบด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ