หากวันหนึ่งคุณตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าคนที่มองสบตาจากกระจกเงาตรงหน้าไม่ใช่ตัวคุณที่คุ้นเคยมาทั้งชีวิต แต่เป็นใครก็ไม่รู้ วัยไม่ใช่ หน้าตาไม่ใช่ เพศก็อาจจะไม่ใช่ แต่หัวใจที่เต้นอยู่ในอกเบื้องซ้ายของคนในกระจกนั้น มันคือตัวคุณอย่างจริงแท้แน่นอน คุณจะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร
ฮันเซกเย นักแสดงสาวชื่อชั้นระดับแถวหน้าในวงการ อาจเป็นคนที่ให้คำตอบเราได้ดีที่สุดในสถานการณ์ที่ว่านี้ เพราะนั่นคือความลับที่เธอเก็บซ่อนไว้จากทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งแม่แท้ๆ ของเธอเอง ในโลกนี้มีแค่เพื่อนรักที่สุดสองคนของเธอที่รู้ความลับข้อนี้ คือสองคนที่อยู่เคียงข้าง เป็นกองหลังและกองหนุนให้กับเธอตลอดมา
อ้อ ยังมีอีกหนึ่งชีวิต ที่ไม่เคยทอดทิ้งเซกเย ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนเป็นใครหน้าไหนก็ตาม เจ้าหมาน้อย กิงกัง ผู้จงรักภักดี
ฮันเซกเยทำทุกวิถีทางเพื่อจะหาคำตอบให้กับปรากฏการณ์ประหลาดนี้ ที่จะเกิดขึ้นกับเธอเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในทุกๆ เดือน แต่มันก็ไม่เคยมีคำตอบหรือคำอธิบายที่จะคลี่คลายปรากฏการณ์นี้ มานานปี โดยไม่มีสัญญาณว่ามันจะมีวันสิ้นสุดลงหรือไม่
เธอคือ ตัวปัญหา สำหรับผู้คนในแวดวงการงานของเธอ ชื่อเสียงความสามารถของเธอโด่งดังแค่ไหน ก็จะตามติดมาด้วยเสียงติติงในความเป็น ตัวปัญหา ของเธอ หลายคนไม่ต้องการร่วมงานกับเธอ เพราะเธออาจจะหนีหายไปวันใดวันหนึ่งโดยไม่บอกกล่าวใดใด นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอ และทำให้ทุกคนเข็ดขยาดในการร่วมงานกับเธอ
เธอทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า ยอมรับกับเงื่อนไขนี้ ก้มหน้ายอมรับมันและอยู่กับมัน หัวเราะและร้องไห้ให้กับสิ่งที่ไม่อาจบอกกล่าวและไม่สามารถอธิบายกับใครๆ เมื่อไหร่ที่ปัญหาวิ่งเข้ามาชน วันนี้เธอยังมีกองหลังและกองหนุน เพื่อนรักทั้งสองอยู่ ตราบเท่าที่ยังไม่มีใครล่วงรู้ความลับนี้
แต่แล้ววันหนึ่ง ผู้ร่วมงานทางธุรกิจ สายการบินใหญ่ที่เธอเป็นพรีเซนเตอร์หลักอยู่นั้น ผู้บริหารสายการบินหนุ่ม
ซอโดแจ จะกลายเป็นทั้งผู้ที่ล่วงรู้ความลับนี้ของเธอและเป็นผู้ช่วยเหลือให้เธอรอดพ้นจากการถูกเปิดเผยความลับในที่สาธารณะในคราวเดียวกัน การที่เขาเผชิญความลับของเซกเยอย่างกะพร่องกะแพร่ง ทั้งๆ ที่ทุกอย่างถูกเปิดเผยอย่างแจ่มแจ้ง ทำให้เซกเยจับได้ว่า ซอโดแจเองก็มีจุดบอดที่เขาพยายามปกปิดไว้เท่าชีวิตเช่นกัน
อุบัติเหตุครั้งใหญ่ในอดีต ทำให้ระบบสั่งการในสมองที่เป็นตัวควบคุมการจดจำและจำแนกผู้คนของเขาเสียหายอย่างหนัก แม้หมอจะไม่ได้พูดตรงๆ ว่าจะไม่มีวันรักษาหาย แต่ในความหมายคือมันจะไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมได้อีก
ซอโดแจ ผู้บริหารสายการบินที่เป็นกิจการของครอบครัว ในตำแหน่งประธาน พร้อมจะโดนหอกข้างแคร่โค่นลงได้ทุกเมื่อ ขอเพียงพบข้อบกพร่องเล็กน้อยของเขา ภายใต้ท่าทีมั่นอกมั่นใจในตัวเอง เฉียบขาดและมุ่งมั่นนั้น ไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องพยายามมากแค่ไหน และต้องผ่านความเคี่ยวกรำตัวเองมาขนาดไหน แม้แต่ตอนที่หอกข้างแคร่เหล่านั้นยังไม่อาจหาข้อบกพร่องของเขาได้ ไม่มีใครรู้ว่าเขายังจมอยู่กับความทุกข์ในชะตาชีวิตที่อยู่กับเขามายาวนาน จนกระทั่งเขาได้มาพบเธอ ฮันเซกเย
ในวันที่ปรากฏการณ์พิเศษของฮันเซกเยบังเกิดขึ้น แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่า เธอจะเปลี่ยนไปเป็นใคร และไม่มีใครจะจดจำเธอได้อีกด้วย แต่เมื่อซอโดแจปรากฏตัวขึ้นในชีวิตของเธอ เขาผู้ซึ่งไม่สามารถจดจำใบหน้าของใครเพียงแค่การมองเห็นด้วยดวงตา แม้แต่คนในครอบครัวหรือบางครั้งกระทั่งตัวเขาเอง กลับเป็นซอโดแจที่สามารถจดจำฮันเซกเยได้ แม้หน้าตา, เพศ และวัยของเธอจะเปลี่ยนไปเป็นคนอื่น
คนสองคน กับความลับในชีวิตที่ต้องปกปิดไว้จากผู้คน แต่กลับถูกอีกฝ่ายล่วงรู้ความลับของกันและกัน เริ่มจากความหวาดระแวงระหว่างกัน แต่เมื่อทั้งคู่ได้เผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากของอีกฝ่าย ก็กลับช่วยเหลืออีกคนให้รอดพ้นจากสถานภารณ์ที่สุ่มเสี่ยง แน่นอนว่ามันย่อมเริ่มต้นจากความเห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของอีกฝ่าย ความช่วยเหลือที่เขามีให้เธอ และเธอมีให้เขา เป็นสิ่งที่ไม่ต้องใช้เวลาไตร่ตรองอะไรมากมาย แต่มันแสดงออกมาทันทีทันใด ด้วยหัวใจที่งดงามของพวกเขา
The beauty inside ซีรีส์ที่ได้แรงบันดาลใจและดัดแปลงบทมาจากภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันที่ออกฉายเมื่อปี 2015 คนเขียนบทเลือกที่จะเล่าใหม่ในรูปแบบที่แตกต่างไปจากต้นฉบับ ทั้งเนื้อหาเรื่องราว ตัวละคร และโทนอารมณ์ของเรื่อง คงไว้แต่ความแฟนตาซีของตัวละครหลัก และเพิ่มความซับซ้อนของตัวละครหลักอีกตัวมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน รวมทั้งตัวละครแวดล้อมที่จะมาเพิ่มสีสันให้กับเรื่องราวยิ่งขึ้น
ในความเห็นส่วนตัวของฉันมองว่าทีมงานตัดสินใจได้ดีที่ไม่เลือกเดินตามแนวทางเดิมของฉบับภาพยนตร์ ด้วยวิถีและเงื่อนไขของความเป็นซีรีส์ การดัดแปลงมาเล่าใหม่เหมือนเป็นเรื่องใหม่นี้จะสร้างความกระตือรือร้นและตื่นเต้นให้กับผู้ชม โดยเฉพาะผู้ชมที่ได้เคยชมฉบับภาพยนตร์มาแล้ว และจากผลการตอบรับของผู้ชมในส่วนนั้น เท่าที่ฉันเห็นถือว่าทีมงานประสบความสำเร็จในระดับที่ดีทีเดียว กำไรที่ผู้ชมจะได้รับจากการรับชมซีรีส์เรื่องนี้อีกอย่างคือ เหล่านักแสดงรับเชิญที่จะมาปรากฏตัวในบท ฮันเซกเย ที่ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้ากับผู้ชมก่อนว่าเราจะได้พบกับใครกันบ้าง นี่คืออีกหนึ่งเรื่องสนุกๆ ที่จะได้ลุ้นกันในทุกตอนค่ะ
ซอฮยอนจิน นักแสดงสาวมากความสามารถ การันตีด้วยรางวัลทางการแสดงมากมายที่เธอได้รับมา เป็น
ฮันเซกเย นักแสดง เจ้าบทบาท และเป็นตัวสร้างปัญหาในเวลาเดียวกัน คนส่วนใหญ่รับรู้แต่เพียงความวุ่นวายที่ฮันเซกเยทิ้งไว้เบื้องหลังในทุกครั้งที่เธอก่อปัญหา ทั้งๆ ที่ไม่เคยสักครั้งที่เธออยากจะให้มันเกิดขึ้น สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือ ก้มหน้ารับคำประณาม อดทนและน้อมรับเพราะมันคือส่วนหนึ่งในชีวิต ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้น เธอแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
แต่การที่เธอเปลี่ยนเป็นใครสักคนที่ไม่ใช่ฮันเซกเยที่ทุกคนจดจำรู้จัก ก็เป็นโอกาสให้เธอได้ทำสิ่งที่มีคุณค่าให้กับคนอื่นๆ ที่เธอจะไม่มีวันทำได้อย่างนั้นหากอยู่ในร่างของฮันเซกเย นักแสดงสาว เพราะจิตใจที่ดีงามของเธอ ไม่ว่าจะอยู่ในร่างใด ก็ยังคงงดงามเสมอ
ซอฮยอนจิน ถ่ายทอดตัวตนของ ฮันเซกเย ได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นธรรมชาติ ทั้งอารมณ์ขัดแย้งในตัวเอง ความเศร้า ความเข้มแข็ง ความอ่อนไหว อ่อนแอ อารมณ์ขัน เธอจัดมาครบ ไม่เคยทำให้แฟนๆ ผลงานของเธอต้องผิดหวังกับการแสดงของเธอเลยสักครั้ง
อีมินกิ นักแสดงหนุ่มหน้านิ่ง เป็น
ซอโดแจ ประธานสายการบิน ผู้ชายที่แทบไม่เคยแสดงความรู้สึกใดๆ บนใบหน้าเรียบเฉย ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถจะพูดได้ว่า ภายใต้ใบหน้าเฉยชาคือหัวใจที่กระด้างเย็นชา ฮันเซกเยอาจเป็นคนแรกที่สัมผัสได้ถึงความโรแมนติกในความคิดและตัวตนของผู้ชายคนนี้ที่มีอย่างเต็มเปี่ยม ความโรแมนติกที่ไม่ใช่คำพูดหวานๆ หรือการปรนเปรอด้วยสิ่งของเงินทอง แต่มันคือความเอาใจใส่ที่เขาทุ่มเทให้กับคนที่เขาห่วงใย คนที่เขารัก
ด้วยเงื่อนไขพิเศษของซอโดแจ ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเขาสามารถรับเงื่อนไขชีวิตของฮันเซกเยได้อย่างเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน และด้วยเงื่อนไขพิเศษของตัวเขาเองนั่นล่ะที่เคี่ยวกรำให้เขาตัดสินใจเรื่องสำคัญในชีวิตได้อย่างเด็ดเดี่ยวมั่นคง ไม่มีความลังเล โลเล เพราะมันได้ผ่านการวิเคราะห์ พิสูจน์และไตร่ตรองอย่างดีแล้ว ยิ่งเรื่องหัวใจที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งของชีวิต จำเป็นต้องเป็นคนที่จะยอมรับเงื่อนไขพิเศษในตัวเขาได้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอใครคนนั้น แต่เมื่อฮันเซกเยปรากฏตัวขึ้นในชีวิตเขา เธอคือคนที่ดึงความโรแมนติกทั้งหมดในตัวเขาออกมาได้อย่างสมเหตุสมผลและสมน้ำสมเนื้ออย่างที่สุด
มีบางคนบอกว่า ตัวละครซอโดแจกับนัมเซฮี ที่มินกิรับบทไว้ในผลงานเรื่องก่อนหน้านี้ของเขา มีความคล้ายคลึงกันมาก จนอาจจะทำให้รู้สึกถึงความซ้ำได้ ฉันกลับมองว่าแม้ในบุคลิกความนิ่งของตัวละครสองตัวนี้จะใกล้เคียงกัน แต่ซอโดแจมีความแตกต่างจากนัมเซฮีอยู่มาก ในแง่ของท่าทีการแสดงออก มุมมองและทัศนคติ โดแจมีความเด็ดขาด มีความมั่นคงทางอารมณ์มากกว่า มีลูกล่อลูกชน มีความชัดเจน มีอารมณ์ขันที่แสดงออกในเวลาที่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ ที่สำคัญที่สุดในความแตกต่างระหว่างตัวละครนัมเซฮีและซอโดแจคือ การจัดลำดับความสำคัญในชีวิต โดแจให้ความสำคัญกับความต้องการของคนที่เขารัก มาก่อนเสมอ นี่คือหัวใจที่งดงามของซอโดแจ
ฉันอยากจะพูดว่า การเลือกอีมินกิมารับบทซอโดแจ คือส่วนหนึ่งในความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ ไม่น้อยไปกว่าการมอบบท ฮันเซกเย ให้กับ ซอฮยอนจิน ในทุกๆ ฉากที่ทั้งคู่ต้องแสดงร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ความยอกย้อนในบทสนทนา คนเขียนบทจงใจให้ตัวละครสองตัวนี้ หยิบเอาคำพูดของอีกฝ่ายมาย้อนแย้งกันอย่างมีสีสันทุกครั้ง และจบลงด้วยรอมยิ้มของผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นฉากซึ้งๆ ที่ต้องแสดงอารมณ์บีบคั้นจากเงื่อนไขของปรากฏการณ์พิเศษในชีวิตของทั้งคู่ มินกิและฮยอนจินก็สามารถถ่ายทอดและสื่อสารทางอารมณ์ระหว่างกันได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นฉากเรียกเสียงหัวเราะ ในความเฉพาะตัวของบุคลิกตัวละครของทั้งคู่ เขาและเธอก็ยังทำได้กลมกลืนลื่นไหลไม่แพ้ฉากเศร้าๆ ซึ้งๆ เรียกน้ำตา ก็มาจากเสน่ห์เฉพาะตัวทางการแสดงของทั้งมินกิและฮยอนจิน นั่นเอง
ใน
Another Oh Hae Young อันเป็นการร่วมงานครั้งแรกระหว่างผู้กำกับซงฮยอนอุคคนนี้และซอฮยอนจิน ที่มีเอริค มุน มารับบทพระ-นางคู่กับเธอ แม้ว่าในความรู้สึกส่วนตัวของฉันจะมองว่าฮยอนจินเป็นนางเอกที่มีเคมีสาธารณะกับพระเอกทุกคนของเธอก็ตาม แต่กับเอริค มุน ทั้งคู่ทำให้ฉันรู้สึกว่าคงจะหาพระเอกคนไหนมาจับคู่ (match) กับฮยอนจินได้ลงตัวเท่าเขาไม่ได้อีกแล้ว บทบาทการแสดงที่ตราตรึงใจผู้ชมของทั้งคู่ยังประทับอยู่ในความทรงจำ
ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ มีเอริค มุน โลกก็ยังส่ง อีมินกิ มาให้กับซอฮยอนจิน ฉันจะไม่พูดอะไรที่ฟังดูตื้นเขินอย่างใครหล่อกว่าเท่กว่า หรือใครเหมาะสมกว่า แต่จะบอกให้คุณไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองกับการแสดงของซอฮยอนจินและอีมินกิใน
The Beauty Inside
คุณอาหน้ามึน กับ คุณน้าหน้ามน
ฉันเชื่อว่าความหมายของคำ The Beauty Inside ที่ซีรีส์เรื่องนี้อยากจะสื่อสารกับผู้ชม อาจไม่ได้หมายถึงจิตใจอันงดงามของใครคนใดคนหนึ่ง หรือหมายถึงเฉพาะ ฮันเซกเย แต่มันคือ ความงดงามจากข้างในของหัวใจสองดวง หนึ่งคือ ฮันเซกเย หนึ่งคือ ซอโดแจ และแท้ที่จริงแล้ว อาจจะหมายถึงจิตใจอันอ่อนโยนและความรักที่ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้แบ่งปันให้กันและกัน คุณตา แม่ พ่อ พี่-น้อง เพื่อนรัก และคนที่รักเรา.. คนที่เรารัก
วันที่หัวใจงดงามสองดวงได้มาพบกัน ความอบอุ่นอ่อนโยนจากเนื้อใน จากความ ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ กลายเป็น คนที่มาเติมเต็ม อาจจะเดินตามบ้าง เดินนำบ้าง หรือเดินเคียงข้างไปด้วยกัน ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนอีกกี่ครั้ง ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนไปเป็นใคร ผมจะจดจำคุณได้เสมอ ผมจะหาคุณจนเจอ ผมจะจับมือคุณก่อน . . ในนามของความรัก
[รีวิวซีรีส์] [ The Beauty Inside ] หัวไหล่ ก้านคอ ใบหู . . รู้แต่เพียงว่า รักเธอ ~~
หากวันหนึ่งคุณตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าคนที่มองสบตาจากกระจกเงาตรงหน้าไม่ใช่ตัวคุณที่คุ้นเคยมาทั้งชีวิต แต่เป็นใครก็ไม่รู้ วัยไม่ใช่ หน้าตาไม่ใช่ เพศก็อาจจะไม่ใช่ แต่หัวใจที่เต้นอยู่ในอกเบื้องซ้ายของคนในกระจกนั้น มันคือตัวคุณอย่างจริงแท้แน่นอน คุณจะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร
ฮันเซกเย นักแสดงสาวชื่อชั้นระดับแถวหน้าในวงการ อาจเป็นคนที่ให้คำตอบเราได้ดีที่สุดในสถานการณ์ที่ว่านี้ เพราะนั่นคือความลับที่เธอเก็บซ่อนไว้จากทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งแม่แท้ๆ ของเธอเอง ในโลกนี้มีแค่เพื่อนรักที่สุดสองคนของเธอที่รู้ความลับข้อนี้ คือสองคนที่อยู่เคียงข้าง เป็นกองหลังและกองหนุนให้กับเธอตลอดมา
อ้อ ยังมีอีกหนึ่งชีวิต ที่ไม่เคยทอดทิ้งเซกเย ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนเป็นใครหน้าไหนก็ตาม เจ้าหมาน้อย กิงกัง ผู้จงรักภักดี
ฮันเซกเยทำทุกวิถีทางเพื่อจะหาคำตอบให้กับปรากฏการณ์ประหลาดนี้ ที่จะเกิดขึ้นกับเธอเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในทุกๆ เดือน แต่มันก็ไม่เคยมีคำตอบหรือคำอธิบายที่จะคลี่คลายปรากฏการณ์นี้ มานานปี โดยไม่มีสัญญาณว่ามันจะมีวันสิ้นสุดลงหรือไม่
เธอคือ ตัวปัญหา สำหรับผู้คนในแวดวงการงานของเธอ ชื่อเสียงความสามารถของเธอโด่งดังแค่ไหน ก็จะตามติดมาด้วยเสียงติติงในความเป็น ตัวปัญหา ของเธอ หลายคนไม่ต้องการร่วมงานกับเธอ เพราะเธออาจจะหนีหายไปวันใดวันหนึ่งโดยไม่บอกกล่าวใดใด นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอ และทำให้ทุกคนเข็ดขยาดในการร่วมงานกับเธอ
เธอทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า ยอมรับกับเงื่อนไขนี้ ก้มหน้ายอมรับมันและอยู่กับมัน หัวเราะและร้องไห้ให้กับสิ่งที่ไม่อาจบอกกล่าวและไม่สามารถอธิบายกับใครๆ เมื่อไหร่ที่ปัญหาวิ่งเข้ามาชน วันนี้เธอยังมีกองหลังและกองหนุน เพื่อนรักทั้งสองอยู่ ตราบเท่าที่ยังไม่มีใครล่วงรู้ความลับนี้
แต่แล้ววันหนึ่ง ผู้ร่วมงานทางธุรกิจ สายการบินใหญ่ที่เธอเป็นพรีเซนเตอร์หลักอยู่นั้น ผู้บริหารสายการบินหนุ่ม ซอโดแจ จะกลายเป็นทั้งผู้ที่ล่วงรู้ความลับนี้ของเธอและเป็นผู้ช่วยเหลือให้เธอรอดพ้นจากการถูกเปิดเผยความลับในที่สาธารณะในคราวเดียวกัน การที่เขาเผชิญความลับของเซกเยอย่างกะพร่องกะแพร่ง ทั้งๆ ที่ทุกอย่างถูกเปิดเผยอย่างแจ่มแจ้ง ทำให้เซกเยจับได้ว่า ซอโดแจเองก็มีจุดบอดที่เขาพยายามปกปิดไว้เท่าชีวิตเช่นกัน
อุบัติเหตุครั้งใหญ่ในอดีต ทำให้ระบบสั่งการในสมองที่เป็นตัวควบคุมการจดจำและจำแนกผู้คนของเขาเสียหายอย่างหนัก แม้หมอจะไม่ได้พูดตรงๆ ว่าจะไม่มีวันรักษาหาย แต่ในความหมายคือมันจะไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมได้อีก
ซอโดแจ ผู้บริหารสายการบินที่เป็นกิจการของครอบครัว ในตำแหน่งประธาน พร้อมจะโดนหอกข้างแคร่โค่นลงได้ทุกเมื่อ ขอเพียงพบข้อบกพร่องเล็กน้อยของเขา ภายใต้ท่าทีมั่นอกมั่นใจในตัวเอง เฉียบขาดและมุ่งมั่นนั้น ไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องพยายามมากแค่ไหน และต้องผ่านความเคี่ยวกรำตัวเองมาขนาดไหน แม้แต่ตอนที่หอกข้างแคร่เหล่านั้นยังไม่อาจหาข้อบกพร่องของเขาได้ ไม่มีใครรู้ว่าเขายังจมอยู่กับความทุกข์ในชะตาชีวิตที่อยู่กับเขามายาวนาน จนกระทั่งเขาได้มาพบเธอ ฮันเซกเย
ในวันที่ปรากฏการณ์พิเศษของฮันเซกเยบังเกิดขึ้น แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่า เธอจะเปลี่ยนไปเป็นใคร และไม่มีใครจะจดจำเธอได้อีกด้วย แต่เมื่อซอโดแจปรากฏตัวขึ้นในชีวิตของเธอ เขาผู้ซึ่งไม่สามารถจดจำใบหน้าของใครเพียงแค่การมองเห็นด้วยดวงตา แม้แต่คนในครอบครัวหรือบางครั้งกระทั่งตัวเขาเอง กลับเป็นซอโดแจที่สามารถจดจำฮันเซกเยได้ แม้หน้าตา, เพศ และวัยของเธอจะเปลี่ยนไปเป็นคนอื่น
คนสองคน กับความลับในชีวิตที่ต้องปกปิดไว้จากผู้คน แต่กลับถูกอีกฝ่ายล่วงรู้ความลับของกันและกัน เริ่มจากความหวาดระแวงระหว่างกัน แต่เมื่อทั้งคู่ได้เผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากของอีกฝ่าย ก็กลับช่วยเหลืออีกคนให้รอดพ้นจากสถานภารณ์ที่สุ่มเสี่ยง แน่นอนว่ามันย่อมเริ่มต้นจากความเห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของอีกฝ่าย ความช่วยเหลือที่เขามีให้เธอ และเธอมีให้เขา เป็นสิ่งที่ไม่ต้องใช้เวลาไตร่ตรองอะไรมากมาย แต่มันแสดงออกมาทันทีทันใด ด้วยหัวใจที่งดงามของพวกเขา
The beauty inside ซีรีส์ที่ได้แรงบันดาลใจและดัดแปลงบทมาจากภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันที่ออกฉายเมื่อปี 2015 คนเขียนบทเลือกที่จะเล่าใหม่ในรูปแบบที่แตกต่างไปจากต้นฉบับ ทั้งเนื้อหาเรื่องราว ตัวละคร และโทนอารมณ์ของเรื่อง คงไว้แต่ความแฟนตาซีของตัวละครหลัก และเพิ่มความซับซ้อนของตัวละครหลักอีกตัวมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน รวมทั้งตัวละครแวดล้อมที่จะมาเพิ่มสีสันให้กับเรื่องราวยิ่งขึ้น
ในความเห็นส่วนตัวของฉันมองว่าทีมงานตัดสินใจได้ดีที่ไม่เลือกเดินตามแนวทางเดิมของฉบับภาพยนตร์ ด้วยวิถีและเงื่อนไขของความเป็นซีรีส์ การดัดแปลงมาเล่าใหม่เหมือนเป็นเรื่องใหม่นี้จะสร้างความกระตือรือร้นและตื่นเต้นให้กับผู้ชม โดยเฉพาะผู้ชมที่ได้เคยชมฉบับภาพยนตร์มาแล้ว และจากผลการตอบรับของผู้ชมในส่วนนั้น เท่าที่ฉันเห็นถือว่าทีมงานประสบความสำเร็จในระดับที่ดีทีเดียว กำไรที่ผู้ชมจะได้รับจากการรับชมซีรีส์เรื่องนี้อีกอย่างคือ เหล่านักแสดงรับเชิญที่จะมาปรากฏตัวในบท ฮันเซกเย ที่ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้ากับผู้ชมก่อนว่าเราจะได้พบกับใครกันบ้าง นี่คืออีกหนึ่งเรื่องสนุกๆ ที่จะได้ลุ้นกันในทุกตอนค่ะ
ซอฮยอนจิน นักแสดงสาวมากความสามารถ การันตีด้วยรางวัลทางการแสดงมากมายที่เธอได้รับมา เป็น ฮันเซกเย นักแสดง เจ้าบทบาท และเป็นตัวสร้างปัญหาในเวลาเดียวกัน คนส่วนใหญ่รับรู้แต่เพียงความวุ่นวายที่ฮันเซกเยทิ้งไว้เบื้องหลังในทุกครั้งที่เธอก่อปัญหา ทั้งๆ ที่ไม่เคยสักครั้งที่เธออยากจะให้มันเกิดขึ้น สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือ ก้มหน้ารับคำประณาม อดทนและน้อมรับเพราะมันคือส่วนหนึ่งในชีวิต ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้น เธอแก้ไขอะไรไม่ได้เลย แต่การที่เธอเปลี่ยนเป็นใครสักคนที่ไม่ใช่ฮันเซกเยที่ทุกคนจดจำรู้จัก ก็เป็นโอกาสให้เธอได้ทำสิ่งที่มีคุณค่าให้กับคนอื่นๆ ที่เธอจะไม่มีวันทำได้อย่างนั้นหากอยู่ในร่างของฮันเซกเย นักแสดงสาว เพราะจิตใจที่ดีงามของเธอ ไม่ว่าจะอยู่ในร่างใด ก็ยังคงงดงามเสมอ
ซอฮยอนจิน ถ่ายทอดตัวตนของ ฮันเซกเย ได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นธรรมชาติ ทั้งอารมณ์ขัดแย้งในตัวเอง ความเศร้า ความเข้มแข็ง ความอ่อนไหว อ่อนแอ อารมณ์ขัน เธอจัดมาครบ ไม่เคยทำให้แฟนๆ ผลงานของเธอต้องผิดหวังกับการแสดงของเธอเลยสักครั้ง
อีมินกิ นักแสดงหนุ่มหน้านิ่ง เป็น ซอโดแจ ประธานสายการบิน ผู้ชายที่แทบไม่เคยแสดงความรู้สึกใดๆ บนใบหน้าเรียบเฉย ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถจะพูดได้ว่า ภายใต้ใบหน้าเฉยชาคือหัวใจที่กระด้างเย็นชา ฮันเซกเยอาจเป็นคนแรกที่สัมผัสได้ถึงความโรแมนติกในความคิดและตัวตนของผู้ชายคนนี้ที่มีอย่างเต็มเปี่ยม ความโรแมนติกที่ไม่ใช่คำพูดหวานๆ หรือการปรนเปรอด้วยสิ่งของเงินทอง แต่มันคือความเอาใจใส่ที่เขาทุ่มเทให้กับคนที่เขาห่วงใย คนที่เขารัก
ด้วยเงื่อนไขพิเศษของซอโดแจ ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเขาสามารถรับเงื่อนไขชีวิตของฮันเซกเยได้อย่างเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน และด้วยเงื่อนไขพิเศษของตัวเขาเองนั่นล่ะที่เคี่ยวกรำให้เขาตัดสินใจเรื่องสำคัญในชีวิตได้อย่างเด็ดเดี่ยวมั่นคง ไม่มีความลังเล โลเล เพราะมันได้ผ่านการวิเคราะห์ พิสูจน์และไตร่ตรองอย่างดีแล้ว ยิ่งเรื่องหัวใจที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งของชีวิต จำเป็นต้องเป็นคนที่จะยอมรับเงื่อนไขพิเศษในตัวเขาได้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอใครคนนั้น แต่เมื่อฮันเซกเยปรากฏตัวขึ้นในชีวิตเขา เธอคือคนที่ดึงความโรแมนติกทั้งหมดในตัวเขาออกมาได้อย่างสมเหตุสมผลและสมน้ำสมเนื้ออย่างที่สุด
มีบางคนบอกว่า ตัวละครซอโดแจกับนัมเซฮี ที่มินกิรับบทไว้ในผลงานเรื่องก่อนหน้านี้ของเขา มีความคล้ายคลึงกันมาก จนอาจจะทำให้รู้สึกถึงความซ้ำได้ ฉันกลับมองว่าแม้ในบุคลิกความนิ่งของตัวละครสองตัวนี้จะใกล้เคียงกัน แต่ซอโดแจมีความแตกต่างจากนัมเซฮีอยู่มาก ในแง่ของท่าทีการแสดงออก มุมมองและทัศนคติ โดแจมีความเด็ดขาด มีความมั่นคงทางอารมณ์มากกว่า มีลูกล่อลูกชน มีความชัดเจน มีอารมณ์ขันที่แสดงออกในเวลาที่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ ที่สำคัญที่สุดในความแตกต่างระหว่างตัวละครนัมเซฮีและซอโดแจคือ การจัดลำดับความสำคัญในชีวิต โดแจให้ความสำคัญกับความต้องการของคนที่เขารัก มาก่อนเสมอ นี่คือหัวใจที่งดงามของซอโดแจ
ฉันอยากจะพูดว่า การเลือกอีมินกิมารับบทซอโดแจ คือส่วนหนึ่งในความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ ไม่น้อยไปกว่าการมอบบท ฮันเซกเย ให้กับ ซอฮยอนจิน ในทุกๆ ฉากที่ทั้งคู่ต้องแสดงร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ความยอกย้อนในบทสนทนา คนเขียนบทจงใจให้ตัวละครสองตัวนี้ หยิบเอาคำพูดของอีกฝ่ายมาย้อนแย้งกันอย่างมีสีสันทุกครั้ง และจบลงด้วยรอมยิ้มของผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นฉากซึ้งๆ ที่ต้องแสดงอารมณ์บีบคั้นจากเงื่อนไขของปรากฏการณ์พิเศษในชีวิตของทั้งคู่ มินกิและฮยอนจินก็สามารถถ่ายทอดและสื่อสารทางอารมณ์ระหว่างกันได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นฉากเรียกเสียงหัวเราะ ในความเฉพาะตัวของบุคลิกตัวละครของทั้งคู่ เขาและเธอก็ยังทำได้กลมกลืนลื่นไหลไม่แพ้ฉากเศร้าๆ ซึ้งๆ เรียกน้ำตา ก็มาจากเสน่ห์เฉพาะตัวทางการแสดงของทั้งมินกิและฮยอนจิน นั่นเอง
ใน Another Oh Hae Young อันเป็นการร่วมงานครั้งแรกระหว่างผู้กำกับซงฮยอนอุคคนนี้และซอฮยอนจิน ที่มีเอริค มุน มารับบทพระ-นางคู่กับเธอ แม้ว่าในความรู้สึกส่วนตัวของฉันจะมองว่าฮยอนจินเป็นนางเอกที่มีเคมีสาธารณะกับพระเอกทุกคนของเธอก็ตาม แต่กับเอริค มุน ทั้งคู่ทำให้ฉันรู้สึกว่าคงจะหาพระเอกคนไหนมาจับคู่ (match) กับฮยอนจินได้ลงตัวเท่าเขาไม่ได้อีกแล้ว บทบาทการแสดงที่ตราตรึงใจผู้ชมของทั้งคู่ยังประทับอยู่ในความทรงจำ
ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ มีเอริค มุน โลกก็ยังส่ง อีมินกิ มาให้กับซอฮยอนจิน ฉันจะไม่พูดอะไรที่ฟังดูตื้นเขินอย่างใครหล่อกว่าเท่กว่า หรือใครเหมาะสมกว่า แต่จะบอกให้คุณไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองกับการแสดงของซอฮยอนจินและอีมินกิใน The Beauty Inside
คุณอาหน้ามึน กับ คุณน้าหน้ามน
ฉันเชื่อว่าความหมายของคำ The Beauty Inside ที่ซีรีส์เรื่องนี้อยากจะสื่อสารกับผู้ชม อาจไม่ได้หมายถึงจิตใจอันงดงามของใครคนใดคนหนึ่ง หรือหมายถึงเฉพาะ ฮันเซกเย แต่มันคือ ความงดงามจากข้างในของหัวใจสองดวง หนึ่งคือ ฮันเซกเย หนึ่งคือ ซอโดแจ และแท้ที่จริงแล้ว อาจจะหมายถึงจิตใจอันอ่อนโยนและความรักที่ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้แบ่งปันให้กันและกัน คุณตา แม่ พ่อ พี่-น้อง เพื่อนรัก และคนที่รักเรา.. คนที่เรารัก
วันที่หัวใจงดงามสองดวงได้มาพบกัน ความอบอุ่นอ่อนโยนจากเนื้อใน จากความ ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ กลายเป็น คนที่มาเติมเต็ม อาจจะเดินตามบ้าง เดินนำบ้าง หรือเดินเคียงข้างไปด้วยกัน ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนอีกกี่ครั้ง ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนไปเป็นใคร ผมจะจดจำคุณได้เสมอ ผมจะหาคุณจนเจอ ผมจะจับมือคุณก่อน . . ในนามของความรัก