คุณยายอายุ 86 ปี อวัยวะภายในเสื่อมสภาพ เริ่มจากเป็นโรคปอด
ต่อมาเกิด เส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพาตครึ่งซีก กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง
ร่างกายขาดเกลือแร่อย่างหนักเนื่องจากต่อมหมวกไตทำงานผิดปกติ

ตอนเส้นเลือดในสมองแตก ไปรักษารพ.รัฐใกล้แหล่งคนจีน
แล้วถูกส่งต่อไป รพ.รัฐ กลางกรุง ด้วยสิทธิ์ 30 บาท(กรณีฉุกเฉิน)
ตอนนั้นยังอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเกิดเส้นเลือดแตกที่อวัยวะสำคัญอื่นๆ อีก
แต่ทาง รพ. ก็ขอให้ออกโดยไว เนื่องจากมีผู้ป่วยเข้ามาทุกวัน
และอาการยายก็จะทรงๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ 

พอพายายกลับมาบ้าน ดูแลกันเอง ปฏิบัติตามหมอสั่ง
แต่แล้วอาการขาดเกลือแร่รุนแรงก็เกิดขึ้น
จึงส่งไป รพ.รัฐใกล้แหล่งคนจีน พอหมอรักษา อาการดีขึ้น บอกให้รีบเอาออกจากรพ.
ด้วยเหตุผลเดิม คือ เตียงไม่เพียงพอ ต้องให้คนอื่นเข้ารับการรักษา

ทางครอบครัวไม่มีใครสามารถดูแล 24 ชม. เพราะต้องทำงานหาเงินมารักษายาย
จึงส่งยายไปศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียง แล้วก็ให้แม่ไปหาทุกวันแทน

แล้วอยู่ๆ ยายก็มีอาการติดเชื้อที่ปอด เนื่องจากหวัดลงปอด และร่างกายขาดเกลือแร่อีกครั้ง
จึงส่งไปรักษาที่ รพ.รัฐขนาดเล็ก ใกล้ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียง
แต่รพ.รัฐแห่งนี้ ไม่มีพยาบาลคอยช่วยเหลือ ญาติผู้ป่วยต้องเฝ้าเอง
และรพ.ไม่มีแพทย์เฉพาะทาง แต่ยังดีที่ยอมให้ยายนอนรักษาตัวต่อ

ตอนนี้มืดแปดด้าน เนื่องจากก็ไม่มีสิทธิ์รักษา 30 บาท
และตามสิทธิ์รักษา จะต้องไปรักษาที่ รพ.รัฐ ที่ไม่มีเครื่องมือที่ดี
จะส่งไปรักษาที่รพ.เอกชน ก็ค่ารักษาสูงมาก เพราะอาจจะต้องอยู่ รพ. อีกนาน

ทำยังไงดีคะ คงไม่มีใครนิ่งเฉยและปล่อยให้คนที่เรารักจากไปใช่มั้ยคะ
ครอบครัวยังพอมีเงินสำหรับค่ารักษาพยาบาล แต่ไม่มากพอที่จะให้นอนในรพ.เอกชนนานๆ
เรารู้ว่า ยาย ก็ไม่มีทางหายแล้ว แต่ก็จะปล่อยก็ไม่ได้ ยังต้องช่วยพยุงอาการ

คนฐานะปานกลางยังมีพอทางเลือกในการรับการรักษาที่ไม่แย่ หรือต่ำกว่ามาตรฐานมั้ยคะ