ทางสายกลาง ก็คือ ความสันโดษ

ทางสายกลาง ก็คือ ความสันโดษ

  โอวาทปาฏิโมกข์ เป็นการให้ปฏิบัติ คือ ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส

  หัวใจของพระพุทธเจ้า ก็คือ อริยสัจ ๔ สอนให้ขบคิด รู้จักให้เจริญวิปัสสนากรรมฐาน

  มรรค ก็คือ เส้นทางการปฏิบัติ ก็ต้องเป็นทางสายกลาง ตึงไปเราก็ไม่ไหว หย่อนไปก็ไม่เหมาะ ก็แย่ ก็เสียเวลา ฉะนั้น จะต้องให้เหมาะแก่เหตุ คือสันโดษ

  สันโดษกับสมถะ ไม่เหมือนกัน

  สมถะ คือ รู้จักสำรวม ให้พอดี ไม่ตื่นเต้น ไม่อวด ไม่แสดงอะไรเกินไป

  ส่วนสันโดษ คือ เหมาะสมแก่เหตุ

  สมถะ วิเวก จะอยู่ในสันโดษ

  ทุกวันเราจะต้องใช้สันโดษทั้งนั้น

  อย่างเช่น ความรัก ถ้ารักไม่สันโดษ ก็จะกลายเป็นหึงหวง ยุ่งไหม? ชีวิตประจำวันก็ต้องใช้ ถ้าเมียไม่สันโดษ ไปไหนก็จะติดตามไปด้วย ก็ตายแน่ ไม่สมควรแก่เหตุเราก็จะยุ่ง นี่แหละสันโดษเราจะต้องใช้ในชีวิตประจำวันทั้งนั้น และเป็นปฏิจจสมุปบาทด้วย

  จุดเด่นของศาสนาพุทธ ก็คือ การใช้ชีวิตประจำวัน เขาจะไม่ว่าถึงอดีตไกลแค่ไหน ไม่ว่าจะไปทางไหน คือ เน้นปัจจุบัน ภพนี้ ชีวิตนี้จะอยู่ยังไง
  จุดเด่นของศาสนาพุทธ ก็คือ ดูแลปัจจุบันให้ดีที่สุด เข้าใจแล้วอยู่เป็น อยู่ได้

  บางคนไม่รู้ คิดว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งความทุกข์ ความเศร้าโศก ไม่ใช่เลย

  จุดเด่นของพระพุทธเจ้า คือ เน้นปัจจุบัน คุณจะอยู่ยังไง คุณจะอยู่ได้ยังไง คุณจะอยู่รอดยังไง ดียังไง แล้วได้สุขสันติ เน้นตรงนี้!!

  อันที่จริง พระพุทธเจ้าไม่เน้นไปถึงสวรรค์ ฯลฯ อันนั้นคนยุคหลังเติมเอาเอง แต่สมัยพระพุทธเจ้าจะเน้นคุณจะอยู่ยังไง อยู่แล้วได้ดียังไง ไม่ต้องรอชาติหน้า เสวยชาตินี้เลย

  พระพุทธเจ้าสอนเลยว่า คุณอย่าไปจมปลักกับอดีต อดีตชาติไม่ดีมากี่ชาติก็เหอะ ขอให้ชาตินี้ตั้งใจทำดี จะแก้ไขยังไง จะละสิ่งที่เราเคยทำชั่วมายังไง เห็นไหม? นี่คือหัวใจของพระพุทธเจ้า ประกาศหลักการว่า ประกาศชัดเจนอย่างนี้ วิธีการชัดเจน หาเหตุผล ก็แก้ได้

^_^  ..._/\_...  ^_^ 
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา

อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่