จากที่แฟนบนบานศาลกล่าว กับเทพทันใจว่าเรียนจบป.โท แล้วจะไปไหว้องค์จริงที่พม่า แต่ก็ยังไม่มีเวลาและทุนทรัพย์ไปซักที วันที่ 28 พฤศจิกายน ออกรถใหม่ ตอนเอารถมาหัดขับตอนเย็น ขับชนรถที่จอดไว้ กับวันที่ 1 ธันวาคม ที่แผงขายหวยแถวแยกหมอมี ก็พูดลอยๆ ว่าไม่มีเงินไปไหว้เทพทันใจเลย ขอให้ถูกหวยทีเถอะ พอหวยออก หวยที่ซื้อไว้ 18 ดันไม่ออก ออก 81 เซงกันไปตามๆ กัน แต่ผมก็ถามเอาสลากกินแบ่งที่ซื้อไว้อีก 5 ใบมาตรวจ ...................เฮ้ยตัว ตัวถูกรางวัลที่ 4 2 ใบ เฮกันลั่นบ้านกระโดดกอดผมซะงั้น ซึ่งผมก็ดีใจนะแต่ไม่อยากยินดียินร้ายอะไรมาก พระท่านสอนมาให้ไม่มีอารณ์ไปตามสิ้งเร้ารอบตัว จากนั้นเราก็เลยวางแผนกันไปเที่ยวพม่า One day trip กันแฟนก็หาทัวร์มาเปรียบเทียบกัน ดูเวลาว่าง เป็นอันว่า เราว่างวันที่ 7 ธันวาคม เริ่มจากไปเช็คอิน พร้อมกับจ่ายค่าทิปไกด์ ไปเช็คอินตั้งแต่ตี 4 ง่วงมาก
หลังจากนั้นก็เดินทางไปถึงไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง อุณหภูมิตอนนั้น น้อยกว่ากรุงเทพฯ 1 องศาเอง
จากนั้นก็นั่งรถทัวร์ไปเจดีย์วเวดากอง ยิ่งใหญ่มากครับ
ยังไงก็อุดหนุนช่างภาพในท้องถิ่นครับ
ในแต่ละจุดในเจดีย์ชเวดากอง อาจารย์ จมื่น ก็จะพาเราไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับอธิบายความเป็นมาครับ ก็ที่จำได้ก็ ไหว้เจดีย์ ตามด้วย ไหว้พระประจำวันเกิด จุดธุปตามวันเกิดของใครของมัน ก็เดินไหว้วนรอบๆ ตามด้วยไหว้แม่ยักย์ ที่อยู่ด้านหลัง ตามด้วยไหว้พระอื่นๆ เยอะ จำไม่ได้ จบด้วยรบมเงินกันบริจาค ถึงเวลานั้นหิวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เช้าก็ไม่ได้กินข้าว บนเครื่องนกแอร์พนักงานตอนรับก็รีบเสียจริง ว่าจะซื้อมื้อเช้ากินซะหน่อย
แต่ก็แปลกนะครับมากับทัวร์นี่กินชาบู อะไรนะ ชาบู ซึ่งไม่พลาดอยู่แล้ว เพราะก็ไม่ได้กินบ่อยเท่าไหร่ เห็นทัวร์อื่นๆ กินแต่ล็อปเตอร์ กับ เป็ดย่าง แต่ที่นี่ชาบู ถึงเวลาไปลอง มันดีนะ อาหารกินเล่นมี 9 อย่าง อร่อยทุกอย่างมีผัดหมูกรอบด้วย ขาหมูกรอบห้ามพลาด แถมอาหารทะเลก็สด กุ้งตัวใหญ่ คุ้มค่าในการเสียเวลาแกะกิน ชื่อร้าน Hot pot king hot pot และที่ว๊าว คือมีชานมไขมุกด้วย แต่ไปเอาไม่มัน ไข่มุกหมดซะก่อน
หลังจากกินอิ่มจนแน่นมาก ก็ไปเดินตลาดสก๊อต ต่อ ได้ชาพม่าถุงสีเขียวมา 6 ถุง ราคา 3 ถุง 200 บาท รับเงินไทย หยกก็สวยแต่ไม่ได้ซื้อมา
แล้วก็ต่อด้วยไปไหว้เทพทันใจ และเทพกระซิบ ที่เจดีย์โบตาทาวน์ ไกด์ชาวพม่าเล่าให้ฟังว่า เทพทันใจ มีชื่อมาจาก ไกด์ชาวไทยพานักท่องเที่ยวมาไหว้ขอพร แล้วสมหวังสมปรารถนาหลายคน และได้ผลเร็ว ก็เลยตั้งชื่อให้ว่าเทพทันใจ อะมาดอว์เมียะ ไกด์ชาวไทยถามวิธีไหว้จากชาวพม่า ว่าจะขอพรยังไงก็บอว่าให้ขอเบาๆ สงบๆ ไกด์ชาวไทยก็เข้าใจว่าให้กระซิบบอก ไกด์ชาวไทยก็ตั้งชื่อให้ว่าเทพกระซิบ
ขอพรเทพทันใจเสร็จก็ไปขอพรเทพกระซิบต่อ มีเคล็ดที่ว่า เรื่องความรักเน้นขอเทพทันใจ เรื่องเงินการงานขอเทพกระซิบ
จากนั้นก็ไปไหว้พระตาหวานต่อ หรือที่ชื่อว่า พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี ที่นี่อาจารย์จมื่น ก็จะพาไปไหว้พระตาหวาน กับพระอุปคุต สวดมนต์กันยาวๆ
ตามด้วยไปไหว้หลวงพ่อพระภัททันตะ กิตติวาระ เกจิอาจารย์ดังของพม่า ที่วัดบารมี ท่านแจกพระธาตุคนละซองด้วย
จากนั้นก็เดินทางไปสนามบิน กลับถึงดอนเมืองประมาณ 4 ทุ่่มกว่าๆ
ผมไปกับทัวร์บริษัทนี้คัรบ
[CR] เที่ยวพม่า One day Trip กับทัวร์เน้นไหว้พระสวดมนต์ อ.จมื่น
หลังจากนั้นก็เดินทางไปถึงไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง อุณหภูมิตอนนั้น น้อยกว่ากรุงเทพฯ 1 องศาเอง
จากนั้นก็นั่งรถทัวร์ไปเจดีย์วเวดากอง ยิ่งใหญ่มากครับ
ยังไงก็อุดหนุนช่างภาพในท้องถิ่นครับ
ในแต่ละจุดในเจดีย์ชเวดากอง อาจารย์ จมื่น ก็จะพาเราไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับอธิบายความเป็นมาครับ ก็ที่จำได้ก็ ไหว้เจดีย์ ตามด้วย ไหว้พระประจำวันเกิด จุดธุปตามวันเกิดของใครของมัน ก็เดินไหว้วนรอบๆ ตามด้วยไหว้แม่ยักย์ ที่อยู่ด้านหลัง ตามด้วยไหว้พระอื่นๆ เยอะ จำไม่ได้ จบด้วยรบมเงินกันบริจาค ถึงเวลานั้นหิวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เช้าก็ไม่ได้กินข้าว บนเครื่องนกแอร์พนักงานตอนรับก็รีบเสียจริง ว่าจะซื้อมื้อเช้ากินซะหน่อย
แต่ก็แปลกนะครับมากับทัวร์นี่กินชาบู อะไรนะ ชาบู ซึ่งไม่พลาดอยู่แล้ว เพราะก็ไม่ได้กินบ่อยเท่าไหร่ เห็นทัวร์อื่นๆ กินแต่ล็อปเตอร์ กับ เป็ดย่าง แต่ที่นี่ชาบู ถึงเวลาไปลอง มันดีนะ อาหารกินเล่นมี 9 อย่าง อร่อยทุกอย่างมีผัดหมูกรอบด้วย ขาหมูกรอบห้ามพลาด แถมอาหารทะเลก็สด กุ้งตัวใหญ่ คุ้มค่าในการเสียเวลาแกะกิน ชื่อร้าน Hot pot king hot pot และที่ว๊าว คือมีชานมไขมุกด้วย แต่ไปเอาไม่มัน ไข่มุกหมดซะก่อน
หลังจากกินอิ่มจนแน่นมาก ก็ไปเดินตลาดสก๊อต ต่อ ได้ชาพม่าถุงสีเขียวมา 6 ถุง ราคา 3 ถุง 200 บาท รับเงินไทย หยกก็สวยแต่ไม่ได้ซื้อมา
แล้วก็ต่อด้วยไปไหว้เทพทันใจ และเทพกระซิบ ที่เจดีย์โบตาทาวน์ ไกด์ชาวพม่าเล่าให้ฟังว่า เทพทันใจ มีชื่อมาจาก ไกด์ชาวไทยพานักท่องเที่ยวมาไหว้ขอพร แล้วสมหวังสมปรารถนาหลายคน และได้ผลเร็ว ก็เลยตั้งชื่อให้ว่าเทพทันใจ อะมาดอว์เมียะ ไกด์ชาวไทยถามวิธีไหว้จากชาวพม่า ว่าจะขอพรยังไงก็บอว่าให้ขอเบาๆ สงบๆ ไกด์ชาวไทยก็เข้าใจว่าให้กระซิบบอก ไกด์ชาวไทยก็ตั้งชื่อให้ว่าเทพกระซิบ
ขอพรเทพทันใจเสร็จก็ไปขอพรเทพกระซิบต่อ มีเคล็ดที่ว่า เรื่องความรักเน้นขอเทพทันใจ เรื่องเงินการงานขอเทพกระซิบ
จากนั้นก็ไปไหว้พระตาหวานต่อ หรือที่ชื่อว่า พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี ที่นี่อาจารย์จมื่น ก็จะพาไปไหว้พระตาหวาน กับพระอุปคุต สวดมนต์กันยาวๆ
ตามด้วยไปไหว้หลวงพ่อพระภัททันตะ กิตติวาระ เกจิอาจารย์ดังของพม่า ที่วัดบารมี ท่านแจกพระธาตุคนละซองด้วย
จากนั้นก็เดินทางไปสนามบิน กลับถึงดอนเมืองประมาณ 4 ทุ่่มกว่าๆ
ผมไปกับทัวร์บริษัทนี้คัรบ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้