ชะนีไทยไปย่างกุ้ง ทริป 1 วัน ไปเช้า-เย็นกลับ


เพิ่งกลับมายังไม่ถึงเดือนเลยจะไปอีกแล้วอ่อ ทุกคนถามเราแบบนี้ตอนได้ยินว่าเราจะไปอีกครั้ง พม่ามีอะไรนะ เราถึงได้ไปได้ซ้ำๆไม่เบื่อแบบนี้ เลยตัดสินใจมาเขียน One Day Trip ใน Pantip ดีฟ่า

ด้วยความที่เพื่อนเราไปพม่ามาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แล้วขอพรได้หมดเลย และเพื่อนอีกคนก็ไปขอพรมาก็ได้ คือได้ยินว่าใครไปก็ได้เลยต้องพิสูจน์กันหน่อย
แต่เราไปสองทริปติดเลย ไปแบบเทพคงยังไม่ทันลืมหน้า ท่านคงคิดว่ามันมาอีกแล้วหรอ 55555+

โดยเราได้จองรถไว้ล่วงหน้า เพราะครั้งที่แล้วก็เดินทางไปกับน้องเค้าแล้วเกิดอาการติดใจ 555+ น้องบริการทุกระดับประทับใจจริงๆ ที่สำคัญน้องถ่ายรูปสวยมากกกกกกกก ไปนอนเกลือกกลิ้งกลางแดดเพื่อให้เราได้รูปสวยๆ ซึ่งรถก็ดีงามอยู่ ใหญ่โต แอร์เย็นเฉียบ ขอเพลงได้ 55555+


ใครจะไปแนะนำน้องเลยนะคะ น้องน่ารักบริการดีมาก ขึ้นรถมาที่ไหนที่ร้อนๆ น้องเอาน้ำเย็นๆมาให้ดื่มตลอด เวลาเราถ่ายรูปหรือทำไรอยู่ นางถือกระเป๋าให้ด้วย จนบางครั้งเรานิสัยเสียแกล้งลืมให้น้องถือยังมี 55555+ และที่สำคัญน้องถ่ายรูปสวยยมากกกกกกกกกกกกกกกก นี่แนะนำให้น้องไปทำเพจไปเลยยยถ่ายสวยขนาดนี้ ค่าจอดรถค่าไรน้องออกหมดเลยค่ะไม่มีชาร์ท บอกให้พาไปไหน ถ้าเวลาทันน้องพาไปด้วยตลอดเลย บริการดี๊ดี


น้องชื่อ : Khaylu นะคะ น้องพูดไทยได้นิดหน่อย

ภาษาอังกฤษได้แต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง 555 แต่โดยรวมสื่อสารกันได้นะคะ

Line ID : khaylu1089 

ตอนแรกเราตั้งใจว่าเราจะไปไหว้เทพทันใจ 5 องค์ เพราะครั้งที่แล้วเราทำได้ แต่ไม่ใช่ที่ๆเค้าไปๆกันนะ อาจจะเป็นจำลองหรืออะไรไม่รู้ แต่เราก็นะคิดว่าเทพทันใจเหมือนกัน ใครอยากรู้ว่าทั้ง 5 องค์อยู่ที่ไหนบ้างจดค่ะ

องค์แรก : ที่เจดีย์ชเวดากอง
องค์ที่สอง : ที่เจดีย์สุเหล่
องค์ที่สาม : ที่เจดีย์โบตะทาว
องค์ที่สี่ : ที่ด้านหลังพระนอนตาหวาน (น่าจะเป็นองค์จำลอง)
องค์ที่ห้า : ทีพระนั่งสมาธิ (น่าจะเป็นองค์จำลอง)

ที่แรกที่เราไป คือ เจดีย์ชเวดากองงง


แนะนำให้ไปที่แรกเลยนะ ไม่งั้นได้วิ่งเพราะร้อนมากกก เพื่อนไปช่วงบ่ายบอกว่าเหมือนวิ่งลุยไฟ 5555 เราไปเช้าตลอดเราเลยเดินได้ชิวๆ ที่เจดีย์ชเวดากองเพราะเป็นร้อยองค์เดินหากันเจ็บหัวแน่นอนถ้าหาเอง ดีที่น้องไกด์ขึ้นไปด้วยครั้งที่แล้วใจดีบอกน้องไม่ต้องไป เป็นไงละเดินวนหาอยู่  2 ชั่วโมงครึ่งจ้าาา

การแต่งกายนะ คือถ้าใส่กางเกงแต่ไม่รัด ไม่ขาดก็ขึ้นไปได้เลย แต่เราใส่กางเกงยีนส์ Slim Fit ไป เราต้องเช่าโสล่ง มีให้เช่าแถวๆ หน้าลิฟท์ราคา 3000 จ๊าด รีเควสสีได้ว่าจะเอาสีอะไร แนะนำให้เอาสีเดียวกับสีเสื้อ เห็นสาวๆพม่าใส่กัน น่ารักกกก

แต่ใครที่แต่งตัวมาเรียบร้อยถูกกฎขอเช่าโสล่งเค้า เค้าไม่ให้นะจ๊ะ เพื่อนนี่ลองมาแล้ว ดิ้นตรงนั้นเค้าก็ไม่ให้จ้า อ้อลืมรองเท้าก็ฝากไว้ใกล้กับตรงที่เช่าโสล่งเลยนะ

ข้อมูลที่เราจะบอกต่อไปนี้ว่าไหว้แต่ละองค์ให้ขอเรื่องอะไรเราได้รับข้อมูลจากเพื่อนสายมูที่รวบรวมมาจากรายการต่างๆนะ

องค์แรกที่เราไปไหว้คือ พระสุริยันต์ จันทรา

ช่วยในเรื่องของเน้นเรื่องเงิน และธุรกิจ เวลาขอพรน้องแนะนำว่าให้ขอทั้งสององค์ในเรื่องเดียวกันนะ


องค์ที่สองเราไป เทพทันใจ 

เทพทันใจที่คนไทยคุ้นเคยยย ไม่ต้องพูดเยอะเน้อะะ เค้าบอกให้เสี่ยงทายกับหินที่อยู่ด้านหน้า ถ้าสำเร็จขอให้ยกขึ้นหรือไม่ขึ้นก็แล้วแต่

(รูปจิกเพื่อนมา วันนั้นไม่ได้ถ่าย)

องค์ที่สาม แม่ยักษ์

ที่นี่คือป๊อปปูล่ามากกกกกกกกกกกกก มาครั้งที่แล้วคนล้นออกมาข้างนอกเลยจ้า ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน ถวายบุหรี่ หรือบนอะไรก็ได้ที่เป็นสีเขียว
(ขอพรเรื่อง หน้าที่การงาน ความมั่นคง เกียรติยศ ชื่อเสียง ) 

วิธีก็คือ มองตาและก็คุยกับเขา 

สถานที่สี่ ลานอธิษฐาน

ควรนั่งหรือยืนตั้งจิตอธิษฐาน ๑๐ถึง ๒๐ นาที มีประวัติคือพระเจ้าบุเรงนองจะมาอธิษฐานก่อนไปทำศึก


ความทุ่มทุนสร้างของน้องไกด์ ลงไปเลือกกลิ้งบนพื้นเลยจ้าา เเล้วเราไปกัน 4 คน คือน้องถ่ายจนแดดเผาร่างแตกเลยจ้า 5555


องค์ที่ห้า พระอุปคุต

ขอให้ไม่อดไม่อยาก มีกินมีใช้ตลอด บูชาด้วยน้ำหอม น้ำอบ หรือพวงมาลัยดอกมะลิ เพราะท่านชอบกลิ่นหอมๆ


องค์ที่หก พระนาคปรก

ยักษ์พระราหู ปกป้อง ๓ตน ช่วยในกรณีหากโดนหักหลัง ลมพัดลมเพ ป่วย


แล้วรอบๆมีพระประจำวันเกิดเราเดินวนแล้วถ้าเจอก็แวะได้เลย เราเกิดวันพฤหัสบดีถามน้องน้องบอกว่าให้สรงน้ำที่องค์พระ 3 ครั้ง ที่เทพ 3 ครั้งที่กระต่าย 3 ครั้ง และตอนสรงให้อธิษฐานในใจว่าสาธุ 3 ครั้ง


ครั้งนี้เราหิวโหยเลยเก็บได้แค่ 7 องค์ แต่ครั้งที่แล้วเราเดินสองชั่วโมงครึ่งเราจึงเก็บได้เยอะกว่าครั้งนี้

ไหว้พระที่ชเวดากองเรียบร้อยก็ปาเข้าไปเที่ยงกว่าจ้า น้องเลยถามว่าจะกินอาหารไทย อาหารพม่า หรืออาหารจีน ใช่ค่ะ เราเลยอาหารไทยยย ราคาไม่แพงนะ เยอะอยู่เราลิ้นจรเข้กินแล้วอร่อยทุกอย่างเลยย เราสั่งข้าวผัดสับปะรด น้ำชาเย็น และส้มตำ ซึ่งอร่อยหมด ส้มตำนี่แทบเลียจานกันเลยที่เดียว 5555


โบตะทาว

เติมพลังเสร็จเราก็ไปต่อกันที่โบตะทาว คือสวยมากสีทองอร่าม เห็นคนมุงๆตรงสุดทาง ไกด์บอกว่าข้างในเป็นพระเกศาธาตุ และใกล้ๆเป็นเทพทันใจ
ซึ่งส่วนใหญ่คนจะถวายด้วยกล้วย อย่างที่เคยได้ยินกันเลย ขอพรเทพทันใจต้องเตรียมแบงค์ไป 2 แบงค์ ทำเป็นรูปกรวย และใส่ไว้ในมือเทพทันใจ 1 ใบเอากลับบ้าน อีก 1 ใบใส่ตู้บริจาคไว้หลังขอพรเสร็จ ซึ่งขอพรเสร็จเค้าว่ากันว่าให้ลูบไม้เท้าของเทพทันใจด้วย


เวลาไหว้เสร็จแบงค์ที่เค้าให้กลับมาก็พับๆๆ แบบนี้ของเราน้องไกด์พับให้ คือทำให้ทุกอย่างจริงๆ


ตอนขอพรเสร็จเค้าจะให้ใบไม้มาก็ให้เราเสียบไว้ในแบงค์ที่แหละ แล้วเอาแบงค์ใส่ในกระเป๋าเงินเรียกทรัพย์ อย่างเอาไปใส่ในกระเป๋ากางเกงเหมือนเรา เราไม่รู้เห็นเค้าบอก Pocket ๆ แล้วเอามือตีกระเป๋ากางเกง คือเราก็ใส่ไง ปรากฎไกด์รู้ด่าเป็นภาษาพม่าเลย ฟังไม่ออกหรอก แต่สัมผัสได้ว่าด่า 555555555555555555

เทพกระซิบ


เทพกระซิบอยู่ตรงข้ามโบตะทาวเลย ข้ามถนนไปถึงเลย สำหรับเทพกระซิบเราถวายเป็นดอกไม้กับนม นมเจาะด้วย และวิธีการขอพรก็เข้าไปใกล้ๆข้างหูและกระซิบขอพรเลยค่ะ

พระนอนตาหวาน


ด้านหลังพระนอนตาหวานมีเทพทันใจอีก 1 องค์ แต่น่าจะเป็นองค์จำลองนะคะ

พระนั่งสมาธิ


ด้านหน้าพระนั่งสมาธิเป็นเทพทันใจอีก 1 องค์ค่ะ น่าจะเป็นองค์จำลองเช่นกันค่ะ


พระเขี้ยวแก้ว

สถานที่สุดท้ายที่เราไปคือวัดพระเขี้ยวแก้ว เป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุทนต์ของพระพุทธเจ้า


เพิ่งทราบว่าเขียนกระทู้ในพันทิปก็ต้องใช้พลังงานเยอะเหมือนกัน 555 กระทู้แรกเลยมีอะไรก็ติชมแนะนำกันได้เลยนะคะ lovelove

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่