Numazu พูดขึ้นมาชื่อนี้ แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่แฟนๆของ Love Live! Sunshine ก็คงจะงงว่า อดีตเมืองรองที่เป็นแค่เมืองทางผ่านนี้มีของดีอะไร แต่สำหรับแฟนๆ Love Live! Sunshine แล้วนี่เป็นเมืองบ้านเกิดของพวกเธอ ที่สักครั้งต้องมา (แสวงบุญ) ให้ได้ และเชื่อได้เลยว่า เมือง Numazu นี่แหละ เหมาะจะเป็นเมืองต้นแบบของการท่องเที่ยวตามรอยอนิเมะที่สุดแล้ว
Plan เที่ยวทั้งหมด ผมใช้เวลาจัดเต็มไปเลย 6 วัน 5 คืน ใช้เวลาวางแผนร่วม 2 เดือนกว่าๆ โดยข้อมูลทั้งหมด ตั้งขอขอบคุณ Page โซจังร้านสึจิโซ/เว็บเครือข่ายถังคุง/Block medium ของKasidis Arunruangsirilert/กระทู้ Pantip ของ แอ๊บซัง/Block ของ PETITH1ME/แอดมินกลุ่มทาสการตลาด Love Live ใน facebook นะครับ
ถ้าท่านอยากจัดทริปแบบนี้สามารถหลังไมค์ถามผมได้ หรือ สอบถามจากแหล่งข้อมูลด้านบนได้เหมือนกันครับ พอจะสามารถปรับแต่งที่เที่ยวให้เหมาะสมได้ครับ
ทริปนี้ ผมหิ้ว Olympus EM10 Mark III ไปลุยนะครับและอาจต้องขออภัยในฝีมือการถ่ายนิดนึง เพราะเรียนรู้พื้นฐานการใช้กล้องมาจากร้านเบื้องต้นแล้วก็ถ่ายเองเลย วันแรกๆนี่ภาพอย่างกากครับ 555 (เอ้อ ลืมบอกผม Solo Traveler นะครับ อิอิ)
สารบัญ
ตอนที่ 1:
https://ppantip.com/topic/39469982
ตอนที่ 2:
https://ppantip.com/topic/39475052
ตอนที่ 3:
https://ppantip.com/topic/39482391
ตอนที่ 4:
https://ppantip.com/topic/39489117
ตอนที่ 5:
https://ppantip.com/topic/39501608
Day 0 [25/11/62] จากภูเก็ต มา สุวรรณภูมิ
เริ่มต้นการเดินทางจากภูเก็ต มา สุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Bangkok Airway ไฟล์ทเช้าถึงประมาณ 10.10 และไปญี่ปุ่นโดยการบินไทย 22.30 จะได้ถึงญี่ปุ่นตอนเช้ามืดพอดี เหตุที่ต้องยอมมาเร็วและเลือกไฟล์ทแบบนี้ เพราะไม่อยากเสี่ยงกับการดีเลย์อีก (เคยโดนการบินไทยดีเลย์ 4 ชั่วโมงมาแล้ว เวลาเที่ยวหายไปเลยครึ่งวัน) กับ ป้องกันปัญหาไม่คาดคิด ซึ่งรอบนี้โชคดีไปไม่มีปัญหาอะไรครับ
แต่เพราะงั้นเวลาที่ว่างเกือบ 12 ชั่วโมง จึงฝากกระเป๋าเดินทางแล้วนั่งแอร์พอร์ตลิ้งค์ ไปหาอะไรกิน เดินเล่นตามห้างก่อน เสร็จประมาณ 17.00 แล้วเดินทางเข้าสนามบินครับ
Day 1 [26/11/62] Narita > Numazu
หลังจากลงมา Narita ก็รีบบึ่งไปตม.ครับ โชคดีที่ไฟล์ทเช้ามาก คิวตม.เลยไม่ยาว จากนั้นรับกระเป๋าแล้วนั่งรถไฟไป Numazu
การเดินทางไป Numazu นั้น ไม่ยากเลยครับ จะมีสองเส้นทางคือ
1. นั่ง Narita Express [NEX] > Shinagawa จากนั้นนั่งชินคันเซนไปลงที่ Mishima > นั่งอีก 1 สถานีก็ถึง Numazu แล้วครับ
2. แบบนี้คล้ายๆกับแบบแรกคือนั่ง Keisei Skyliner > Ueno จากนั้นนั่ง JR Yamatono ไปลงที่ Shinagawa จากนั้นก็นั่งชินคันเซนต่อเหมือนแบบแรก
ซึ่งผมใช้รูปแบบแรกไป เนื่องจากขี้เกียจต่อหลายสถานีนั่นเอง
สามารถซื้อรวดเดียวจากเคาน์เตอร์ได้เลยครับ
อากาศที่ญี่ปุ่นประมาณ 8-10 องศา อากาศเย็นสบายพอดี (ผมพวกขี้ร้อน ต้องอยู่ห้องแอร์เย็นๆตลอด) แต่ที่ทำให้หนาวหน่อยคือเวลาลมพัดมานี่ หน้าชาปากชาเลยทีเดียว โดยเฉพาะตอนรอรถไฟจาก Shinagawa ไป Mishima รถไฟวิ่งผ่านแต่ละที มันต้องมีบรึ๋ยๆบ้างแหละ
อีกสถานีเดียวแล้วจ้า
ในที่สุด 11.10 ก็ถึง Numazu จนได้ครับ Numazu Station จะมีสองทางออกคือ North gate กับ South gate ผมเดินมาทาง South gate ก่อน เพราะจะไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมก่อน
เห็นป้ายต้อนรับแบบนี้ แสดงว่ามาถูกเมืองแล้วคร้าบบบ
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว มีโปรชัวร์แจก + สมุดปั้มแสตมป์ขายด้วยนะ
ลงมาขั้น1 เจอร้านข้าวกล่องแฮะ
เดินผ่านร้านแรกๆในสถานีก็ประดับประดาไปด้วย Goods Love Live! แล้ว
ขนมปังนปโปะหรือขนมปังยีราฟ ยาว 34 เซ็นติเมตร ของขึ้นชื่อเมือง numazu ผลิตตั้งแต่ 1978 แต่ยกเลิกการผลิตไปช่วงนึง แล้วกลับมาใหม่ตามเสียงเรียกร้องของคนในพื้นที่
ทีแรกนึกว่าจะกินไม่หมด ตัวเนื้อขนมปังไม่ได้หนา ออกไปทางโปร่งมากกว่า แต่พอกินกับไส้ทีรามิสุแล้วอร่อยดี ไม่เลี่ยน กินได้เรื่อยๆ ถือว่าชอบ เอาไป 8.5/10 (สีธงชาติอิตาลี)
ส่วนรสอื่นที่กินรสนมสีเหลือง เลื่ยนชิบ 555
คล้ายเยลลี่ล้ม รสหวานแสบคอสุดๆ 555 มีแถม Sticker ด้วยนะ
เค้กสอดใส้รสส้ม เหมาะซื้อเป็นของฝากอย่างยิ่ง ลายกล่องน่ารักแข็งแรงด้วย ราคาไม่แพง แค่ 900 เยน
ออกจากตัวสถานีแล้ว อากาศครึ้มๆ
จุดที่มานัดพบในอนิเมะ
ดาดฟ้าห้างที่เป็นฉากหลังเพลงสุดอลังการอย่าง Brightest melody กับ คาเฟ่ Love Live!
ข้ามถนนเดินลงมาเรื่อยๆ ก็ประดับประดาด้วยธงแบบนี้
ร้านเหล้ามัสสึอุระ (ดันไปพ้องกับนามสกุลของคานัน) ร้านนี้ก็เลยอวยคานันอย่างที่เห็น
นางฟ้าตกสวรรค์ (คนพากย์อย่างไอแคนก็เคยมาถ่ายรูปแล้วด้วยนะ)
นี่คือ โรงแรมที่ผมจอง 2 คืนแรกครับ Numazu Riverside Hotel ตอนแรกก็งงอยู่ๆ นี่โรงแรมที่จองใช่ไหม หรูเกิ้นนน ผมแวะมาดรอปกระเป๋าเดินทางก่อนครับ
หน้าฟร้อนท์ก็เต็มไปด้วยโยฮาเนะไปหมดดด
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นถึงกับต้องเอาภาพมาลง เมื่อเซย์ยูตัวจริงมาเยือน
เดินออกจากโรงแรมนิดหน่อย เจอร้านสองร้านที่มีจุด stamp
ร้านขายผ้า จำพวกผ้าเช็ดหน้า
อันนี้ร้านขายนาฬิกากับพวก Jewelry
บรรยากาศริมแม่น้ำ Kano ถ้าอากาศโปร่งๆนี่ บรรยากาศดีมากเลยครับ เสียดายเมฆเยอะไปหน่อย ถ้าท่านพัก Numazu Riverside เดินมาหลังโรงแรมก็เจอแล้วครับ
(มีต่อจ้า)
บันทึกการเดินทางเมือง Numazu ตามรอย Love Live! Sunshine ฉบับลุยเดี่ยว – Chapter I
Plan เที่ยวทั้งหมด ผมใช้เวลาจัดเต็มไปเลย 6 วัน 5 คืน ใช้เวลาวางแผนร่วม 2 เดือนกว่าๆ โดยข้อมูลทั้งหมด ตั้งขอขอบคุณ Page โซจังร้านสึจิโซ/เว็บเครือข่ายถังคุง/Block medium ของKasidis Arunruangsirilert/กระทู้ Pantip ของ แอ๊บซัง/Block ของ PETITH1ME/แอดมินกลุ่มทาสการตลาด Love Live ใน facebook นะครับ
ถ้าท่านอยากจัดทริปแบบนี้สามารถหลังไมค์ถามผมได้ หรือ สอบถามจากแหล่งข้อมูลด้านบนได้เหมือนกันครับ พอจะสามารถปรับแต่งที่เที่ยวให้เหมาะสมได้ครับ
ทริปนี้ ผมหิ้ว Olympus EM10 Mark III ไปลุยนะครับและอาจต้องขออภัยในฝีมือการถ่ายนิดนึง เพราะเรียนรู้พื้นฐานการใช้กล้องมาจากร้านเบื้องต้นแล้วก็ถ่ายเองเลย วันแรกๆนี่ภาพอย่างกากครับ 555 (เอ้อ ลืมบอกผม Solo Traveler นะครับ อิอิ)
สารบัญ
ตอนที่ 1: https://ppantip.com/topic/39469982
ตอนที่ 2: https://ppantip.com/topic/39475052
ตอนที่ 3: https://ppantip.com/topic/39482391
ตอนที่ 4: https://ppantip.com/topic/39489117
ตอนที่ 5: https://ppantip.com/topic/39501608
Day 0 [25/11/62] จากภูเก็ต มา สุวรรณภูมิ
เริ่มต้นการเดินทางจากภูเก็ต มา สุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Bangkok Airway ไฟล์ทเช้าถึงประมาณ 10.10 และไปญี่ปุ่นโดยการบินไทย 22.30 จะได้ถึงญี่ปุ่นตอนเช้ามืดพอดี เหตุที่ต้องยอมมาเร็วและเลือกไฟล์ทแบบนี้ เพราะไม่อยากเสี่ยงกับการดีเลย์อีก (เคยโดนการบินไทยดีเลย์ 4 ชั่วโมงมาแล้ว เวลาเที่ยวหายไปเลยครึ่งวัน) กับ ป้องกันปัญหาไม่คาดคิด ซึ่งรอบนี้โชคดีไปไม่มีปัญหาอะไรครับ
แต่เพราะงั้นเวลาที่ว่างเกือบ 12 ชั่วโมง จึงฝากกระเป๋าเดินทางแล้วนั่งแอร์พอร์ตลิ้งค์ ไปหาอะไรกิน เดินเล่นตามห้างก่อน เสร็จประมาณ 17.00 แล้วเดินทางเข้าสนามบินครับ
Day 1 [26/11/62] Narita > Numazu
หลังจากลงมา Narita ก็รีบบึ่งไปตม.ครับ โชคดีที่ไฟล์ทเช้ามาก คิวตม.เลยไม่ยาว จากนั้นรับกระเป๋าแล้วนั่งรถไฟไป Numazu
การเดินทางไป Numazu นั้น ไม่ยากเลยครับ จะมีสองเส้นทางคือ
1. นั่ง Narita Express [NEX] > Shinagawa จากนั้นนั่งชินคันเซนไปลงที่ Mishima > นั่งอีก 1 สถานีก็ถึง Numazu แล้วครับ
2. แบบนี้คล้ายๆกับแบบแรกคือนั่ง Keisei Skyliner > Ueno จากนั้นนั่ง JR Yamatono ไปลงที่ Shinagawa จากนั้นก็นั่งชินคันเซนต่อเหมือนแบบแรก
ซึ่งผมใช้รูปแบบแรกไป เนื่องจากขี้เกียจต่อหลายสถานีนั่นเอง
สามารถซื้อรวดเดียวจากเคาน์เตอร์ได้เลยครับ
อากาศที่ญี่ปุ่นประมาณ 8-10 องศา อากาศเย็นสบายพอดี (ผมพวกขี้ร้อน ต้องอยู่ห้องแอร์เย็นๆตลอด) แต่ที่ทำให้หนาวหน่อยคือเวลาลมพัดมานี่ หน้าชาปากชาเลยทีเดียว โดยเฉพาะตอนรอรถไฟจาก Shinagawa ไป Mishima รถไฟวิ่งผ่านแต่ละที มันต้องมีบรึ๋ยๆบ้างแหละ
อีกสถานีเดียวแล้วจ้า
ในที่สุด 11.10 ก็ถึง Numazu จนได้ครับ Numazu Station จะมีสองทางออกคือ North gate กับ South gate ผมเดินมาทาง South gate ก่อน เพราะจะไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมก่อน
เห็นป้ายต้อนรับแบบนี้ แสดงว่ามาถูกเมืองแล้วคร้าบบบ
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว มีโปรชัวร์แจก + สมุดปั้มแสตมป์ขายด้วยนะ
ลงมาขั้น1 เจอร้านข้าวกล่องแฮะ
เดินผ่านร้านแรกๆในสถานีก็ประดับประดาไปด้วย Goods Love Live! แล้ว
ขนมปังนปโปะหรือขนมปังยีราฟ ยาว 34 เซ็นติเมตร ของขึ้นชื่อเมือง numazu ผลิตตั้งแต่ 1978 แต่ยกเลิกการผลิตไปช่วงนึง แล้วกลับมาใหม่ตามเสียงเรียกร้องของคนในพื้นที่
ทีแรกนึกว่าจะกินไม่หมด ตัวเนื้อขนมปังไม่ได้หนา ออกไปทางโปร่งมากกว่า แต่พอกินกับไส้ทีรามิสุแล้วอร่อยดี ไม่เลี่ยน กินได้เรื่อยๆ ถือว่าชอบ เอาไป 8.5/10 (สีธงชาติอิตาลี)
ส่วนรสอื่นที่กินรสนมสีเหลือง เลื่ยนชิบ 555
คล้ายเยลลี่ล้ม รสหวานแสบคอสุดๆ 555 มีแถม Sticker ด้วยนะ
เค้กสอดใส้รสส้ม เหมาะซื้อเป็นของฝากอย่างยิ่ง ลายกล่องน่ารักแข็งแรงด้วย ราคาไม่แพง แค่ 900 เยน
ออกจากตัวสถานีแล้ว อากาศครึ้มๆ
จุดที่มานัดพบในอนิเมะ
ดาดฟ้าห้างที่เป็นฉากหลังเพลงสุดอลังการอย่าง Brightest melody กับ คาเฟ่ Love Live!
ข้ามถนนเดินลงมาเรื่อยๆ ก็ประดับประดาด้วยธงแบบนี้
ร้านเหล้ามัสสึอุระ (ดันไปพ้องกับนามสกุลของคานัน) ร้านนี้ก็เลยอวยคานันอย่างที่เห็น
นางฟ้าตกสวรรค์ (คนพากย์อย่างไอแคนก็เคยมาถ่ายรูปแล้วด้วยนะ)
นี่คือ โรงแรมที่ผมจอง 2 คืนแรกครับ Numazu Riverside Hotel ตอนแรกก็งงอยู่ๆ นี่โรงแรมที่จองใช่ไหม หรูเกิ้นนน ผมแวะมาดรอปกระเป๋าเดินทางก่อนครับ
หน้าฟร้อนท์ก็เต็มไปด้วยโยฮาเนะไปหมดดด
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นถึงกับต้องเอาภาพมาลง เมื่อเซย์ยูตัวจริงมาเยือน
เดินออกจากโรงแรมนิดหน่อย เจอร้านสองร้านที่มีจุด stamp
ร้านขายผ้า จำพวกผ้าเช็ดหน้า
อันนี้ร้านขายนาฬิกากับพวก Jewelry
บรรยากาศริมแม่น้ำ Kano ถ้าอากาศโปร่งๆนี่ บรรยากาศดีมากเลยครับ เสียดายเมฆเยอะไปหน่อย ถ้าท่านพัก Numazu Riverside เดินมาหลังโรงแรมก็เจอแล้วครับ
(มีต่อจ้า)