ตอนที่แล้ว
[Part 1]
http://ppantip.com/topic/34142683
[Part 2]
http://ppantip.com/topic/34150430
[Part 3]
http://ppantip.com/topic/34165283
[Part 4]
http://ppantip.com/topic/34165722
[Part 5]
http://ppantip.com/topic/34166243
ตอนต่อไป
[Part 7]
http://ppantip.com/topic/34183803
______________________________________________________
Part 6 Let's take Shinkansen
ได้เวลาไปโตเกียวล่ะสิ~
ได้เวลาไปโตเกียวล่ะสื~
แหม~เรานี่ตื้นเต้นมากค่ะ >\\\< โตเกียวรอเราก่อนน้า~
เราบุ้คที่นั่งไว้ตั้งเมื่อวานแล้ว เราจะออกจากเกียวโต 9.33 และถึงShinagawa ประมาณ 12.00
หน้าตาตั๋วเป็นอย่างนี้ค่ะ
เรามาถึงสถานีเกียวโต 8.30 มาถึงเร็วหน่อยเพราะตั้งใจจะส่งพัสดุให้เพื่อนค่ะ
ไปรษณีย์จะอยู่ข้างนอกสถานีเกียวโตฝั่งเดียวกับ Lawson และ Isetan ค่ะ
เผื่อใครอยากส่งพัสดุ หรือโปสการ์ดมาได้เลยค่ะ
พอส่งของให้เพื่อนเรียบร้อย เราก็เข้าสถานีกันค่ะ
เข้าไปข้างในจะมีป้ายบอกทางเข้าของสถานีชินคันเซน ซึ่งเราต้องโชว์บัตรอีกรอบค่ะ
(ไม่เสียบบัตรเข้าไปนะค่ะ) และดูขบวนที่ตั๋วเลยค่ะ เพื่อจะหาว่าเราขึ้น track ไหน ของเราขบวน Hikari 514
วันนี้มื้อเช้าของพวกเราต้องเป็น Eki ben หรือข้าวกล่องสถานีรถไฟ
ซึ่งแต่ละสถานีจะไม่เหมือนกัน >____< เราก็จัดการซื้อ เดี๋ยวจะไปกินบนรถไฟล่ะ
ยืนรอรถไฟแปป~___~
และพอถึงเวลา 9.33 รถไฟขบวนของเราก็มาตรงเวลาเปะค่ะ
ภายในรถไฟ
และนี่ก็คืออาหารเช้า กล่องนี้ 920¥ เยอะมากค่ะ กินสองคนนี่อิ่มมาก อร่อยมากด้วย ><
>____< เซลฟี่กันโหน่ยยย
รถไฟจอดประมาณ 3สถานีจากเกียวโต สถานีที่ 4 ก็เป็นของพวกเราค่ะ Shinagawa ^^
จาก Shinagawa เราต้องเปลี่ยนรถไฟขึ้น Keikyu line ไปสถานี Aomono-Yokocho
ที่ตั้งของโรงแรมเรานั่นเอง แต่สถานี Shinagawa มันใหญ่ไปมั้ย 55555 (เดินหลงอีกจนได้)
แต่ก็หาเจอคร่า ออกมาหน้าสถานีเราก็ซื้อบัตร Suica เพื่อเอาไว้ใช้กับKeikyu
และรถอื่นๆที่นอกเหนือจากJR แต่เราก็ยังใช้ JR เป็นหลักค่ะ
จากสถานี Shinagawa ไปสถานี Aomono-Yokocho แค่ 4 สถานีเท่านั้น
จาก Aomono-Yokocho เดินไปโรงแรมได้ค่ะ ตลอดทางเดิน
ร้านอาหารเยอะมาก KFC,Mos Burgur และ อาหารญี่ปุ่นทั้งหลาย
และเราก็มาถึงโรงแรม (ทุลักทุเลมาก แค่ของเราก็กระเป๋า 4 ใบล่ะ5555)
ชอบโรงแรมนี้มากค่ะ สะอาด รีเซฟชั่นใจดีมาก พูดไทยใส่ด้วย 5555 ถึงห้องจะเล็ก แต่เราให้ 10 คะแนนค่ะ 55555
มื้อกลางวันของเราวันนี้ก็ขอกินแถวๆโรงแรมล่ะกัน เลยจัด KFC กันมาชุดนึง
KFC ไทยอร่อยสุดในโลกจริงๆ TT
พอทานเสร็จเราก็กลับมาพักผ่อนที่ห้อง วันนี้มื้อเย็นเราจะแยกกับเพื่อนค่ะ
เพราะเรามีนัดกับเพื่อนคนญี่ปุ่นที่ Yokohama ^^เวลา 6โมงเย็น
ส่วนเพื่อนเราสองคนมีแพลนจะไปจับจากูปองกันที่ Akihabara
ประมาณ 5โมงเย็นเราก็ออกจาก Aomono-Yokocho ไป Shinagawa โดย Keikyu Line
ก่อนจะเปลี่ยนมาขึ้น JR Tokaido Line ไป สถานี Yokohama และ เปลี่ยนขึ้น Negishi Line ลงที่ Sakuragicho
มาถึงเพื่อนเราก็มายืนรออยู่แล้ว 555 คนญี่ปุ่นเป็นคนตรงเวลามากคร่า (เมื่อเวลาเค้าอยู่ที่ญี่ปุ่นนะ)
พอออกจากสถานีเพิ่งจะรู้ว่าที่นี่คือ Minato Mirai นี่เอง
^^ อากาศวันนี้ค่อนข้างเย็นใช้ได้เลยค่า
เพื่อนเราเดินพาเราไปกินมื้อเย็นที่World porters ห้างที่อยู่อีกฝั่งของสถานี และLandmark Tower ค่ะ
ตลอดทางเดินนี่มีแต่คนมาเป็นคู่สวีทกันมุ้งมิ้งมากค่า เห็นแล้วคนโสดอย่างเราหัวใจจะวายตาย
(ดีนะไม่ได้มาคนเดียว5555) เพื่อนก็พาเข้าร้านบุฟเฟ่ร้านหนึ่ง
เป็นบุฟเฟ่อาหารอิตาเลี่ยนค่ะ ทานได้ประมาณ 2 ชั่วโมง มีของหวานด้วย
ไม่ได้ถ่ายร้านเลย กินอย่างเดียวค่ะ (กินไม่หยุดด้วย5555)
จากที่นั่งจะเห็นวิว Minato Mirai หมดเลยค่ะ ^^ (มัน Romantic มากอ่า... พิมพ์ไปด้วย เขิลไปด้วย555)
วิวจากร้าน
ไอศรีมกับวาฟเฟิลที่เราทำเอง >\\\\<
พอทานเสร็จแล้วก็เป็นเวลา 3 ทุ่ม จริงๆวันนี้เราวางแผนจะไปซื้อเค้กที่Moo Min Cafe
มาเซอร์ไพส์เพื่อนตอนเที่ยงคืน เนื่องจากพรุ่งนี้วันเกิดนาง แต่...ร้านปิด 4ทุ่ม ไม่ทันแล้วค่าา
เพื่อนก็พาเดินเล่นรอบๆอ่าวค่ะ(หาร้านเค้กด้วย) อากาศหนาวมาก 19°C =___= ใส่ขาสั้นอีก
ชิงช้าสวรรค์ ใน Cosmo world อารมณ์แบบ...Santa Claus is coming to town มาก 5555
Nippon maru
ตึก Landmark Tower
เดินกันสักพักเพื่อนก็ถามว่า...
เพื่อน : "Have you tried to cross the road as in Siem Reap?"
เรา : "No never, How to cross the road in Siem Reap style?"
เพื่อน : "Just cross any where that you want hahaha"
นางพูดก่อนจะพาเราข้ามถนนตรงนั้นเลย =___= คนญี่ปุ่นไม่ได้จะเป็นระเบียบทุกคนนะ 55555
แต่เอิ่ม... นี่มันก็ Thai Style นะค่ะ ไม่ใช่แค่ Siem Reap style นะย่ะ
หลังจากเดินเล่นฆ่าเวลาและหาเค้ก(ที่ไม่มีท่าทีว่าจะมี...) ก็เป็นเวลา 4ทุ่มครึ่ง
เราจึงแยกกับเพื่อนที่สถานี Yokohama (เพื่อนเราอยู่ Yokosuka ไปคนละทาง)
กลับมา Shinagawa แต่ก็หาเค้กไม่ได้ เดินหาแทบจะร้องไห้ค่ะ
จนเราตัดใจกลับมาแถวโรงแรม แวะ7-11 ซื้อ Onnigiri ข้าวปั้นญี่ปุ่น 1 กล่อง เทียน 1 กล่อง 55555
พอถึงโรงแรม 5ทุ่มครึ่ง เปิดเน็ตโทรศัพท์ดู มันเป็นห่วงเรามากที่ไม่ถึงโรงแรมสักที55555 (จริงๆนั่งรอจนเที่ยงคืนจะขึ้นไป)
รีเซฟชั่นโรงแรมก็มาช่วยเราจุดเทียน เค้ก Onnigiri (อายจัง ~\\~) ก่อนเราจะขึ้นไปเซอร์ไพส์เพื่อนรักในห้อง 555555
นางคงดีใจมาก มีข้าวเช้ากินแล้ว 2 ก้อน
และวันนี้ก็จบลง
)) พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันของเพื่อนเราซึ่งเกิดวันนี้ นางอยากไป Enoshima ก็จัดให้เลย
ตอนต่อไป ... Enoshima Kamakura ค่า
ค่าใช้จ่ายวันที่ 6
Food 1134¥ (มื้อเย็นฟรี555)
Suica 1500¥
Bus from hostel to Kyoto station 230¥
Total 2864¥
อันนี้เป็นภาพบรรยากาศของฝั่งเพื่อนที่ Akihabara ค่ะ
宇宙人 in Japan ... ต่างด้าวตะลุยญี่ปุ่น Osaka-Tokyo 50000 บาท 11 วัน (Part 6 Let's take Shinkansen)
[Part 1] http://ppantip.com/topic/34142683
[Part 2] http://ppantip.com/topic/34150430
[Part 3] http://ppantip.com/topic/34165283
[Part 4] http://ppantip.com/topic/34165722
[Part 5] http://ppantip.com/topic/34166243
ตอนต่อไป
[Part 7] http://ppantip.com/topic/34183803
______________________________________________________
ได้เวลาไปโตเกียวล่ะสิ~
ได้เวลาไปโตเกียวล่ะสื~
แหม~เรานี่ตื้นเต้นมากค่ะ >\\\< โตเกียวรอเราก่อนน้า~
เราบุ้คที่นั่งไว้ตั้งเมื่อวานแล้ว เราจะออกจากเกียวโต 9.33 และถึงShinagawa ประมาณ 12.00
หน้าตาตั๋วเป็นอย่างนี้ค่ะ
เรามาถึงสถานีเกียวโต 8.30 มาถึงเร็วหน่อยเพราะตั้งใจจะส่งพัสดุให้เพื่อนค่ะ
ไปรษณีย์จะอยู่ข้างนอกสถานีเกียวโตฝั่งเดียวกับ Lawson และ Isetan ค่ะ
เผื่อใครอยากส่งพัสดุ หรือโปสการ์ดมาได้เลยค่ะ
พอส่งของให้เพื่อนเรียบร้อย เราก็เข้าสถานีกันค่ะ
เข้าไปข้างในจะมีป้ายบอกทางเข้าของสถานีชินคันเซน ซึ่งเราต้องโชว์บัตรอีกรอบค่ะ
(ไม่เสียบบัตรเข้าไปนะค่ะ) และดูขบวนที่ตั๋วเลยค่ะ เพื่อจะหาว่าเราขึ้น track ไหน ของเราขบวน Hikari 514
วันนี้มื้อเช้าของพวกเราต้องเป็น Eki ben หรือข้าวกล่องสถานีรถไฟ
ซึ่งแต่ละสถานีจะไม่เหมือนกัน >____< เราก็จัดการซื้อ เดี๋ยวจะไปกินบนรถไฟล่ะ
ยืนรอรถไฟแปป~___~
และพอถึงเวลา 9.33 รถไฟขบวนของเราก็มาตรงเวลาเปะค่ะ
ภายในรถไฟ
และนี่ก็คืออาหารเช้า กล่องนี้ 920¥ เยอะมากค่ะ กินสองคนนี่อิ่มมาก อร่อยมากด้วย ><
>____< เซลฟี่กันโหน่ยยย
รถไฟจอดประมาณ 3สถานีจากเกียวโต สถานีที่ 4 ก็เป็นของพวกเราค่ะ Shinagawa ^^
จาก Shinagawa เราต้องเปลี่ยนรถไฟขึ้น Keikyu line ไปสถานี Aomono-Yokocho
ที่ตั้งของโรงแรมเรานั่นเอง แต่สถานี Shinagawa มันใหญ่ไปมั้ย 55555 (เดินหลงอีกจนได้)
แต่ก็หาเจอคร่า ออกมาหน้าสถานีเราก็ซื้อบัตร Suica เพื่อเอาไว้ใช้กับKeikyu
และรถอื่นๆที่นอกเหนือจากJR แต่เราก็ยังใช้ JR เป็นหลักค่ะ
จากสถานี Shinagawa ไปสถานี Aomono-Yokocho แค่ 4 สถานีเท่านั้น
จาก Aomono-Yokocho เดินไปโรงแรมได้ค่ะ ตลอดทางเดิน
ร้านอาหารเยอะมาก KFC,Mos Burgur และ อาหารญี่ปุ่นทั้งหลาย
และเราก็มาถึงโรงแรม (ทุลักทุเลมาก แค่ของเราก็กระเป๋า 4 ใบล่ะ5555)
ชอบโรงแรมนี้มากค่ะ สะอาด รีเซฟชั่นใจดีมาก พูดไทยใส่ด้วย 5555 ถึงห้องจะเล็ก แต่เราให้ 10 คะแนนค่ะ 55555
มื้อกลางวันของเราวันนี้ก็ขอกินแถวๆโรงแรมล่ะกัน เลยจัด KFC กันมาชุดนึง
KFC ไทยอร่อยสุดในโลกจริงๆ TT
พอทานเสร็จเราก็กลับมาพักผ่อนที่ห้อง วันนี้มื้อเย็นเราจะแยกกับเพื่อนค่ะ
เพราะเรามีนัดกับเพื่อนคนญี่ปุ่นที่ Yokohama ^^เวลา 6โมงเย็น
ส่วนเพื่อนเราสองคนมีแพลนจะไปจับจากูปองกันที่ Akihabara
ประมาณ 5โมงเย็นเราก็ออกจาก Aomono-Yokocho ไป Shinagawa โดย Keikyu Line
ก่อนจะเปลี่ยนมาขึ้น JR Tokaido Line ไป สถานี Yokohama และ เปลี่ยนขึ้น Negishi Line ลงที่ Sakuragicho
มาถึงเพื่อนเราก็มายืนรออยู่แล้ว 555 คนญี่ปุ่นเป็นคนตรงเวลามากคร่า (เมื่อเวลาเค้าอยู่ที่ญี่ปุ่นนะ)
พอออกจากสถานีเพิ่งจะรู้ว่าที่นี่คือ Minato Mirai นี่เอง
^^ อากาศวันนี้ค่อนข้างเย็นใช้ได้เลยค่า
เพื่อนเราเดินพาเราไปกินมื้อเย็นที่World porters ห้างที่อยู่อีกฝั่งของสถานี และLandmark Tower ค่ะ
ตลอดทางเดินนี่มีแต่คนมาเป็นคู่สวีทกันมุ้งมิ้งมากค่า เห็นแล้วคนโสดอย่างเราหัวใจจะวายตาย
(ดีนะไม่ได้มาคนเดียว5555) เพื่อนก็พาเข้าร้านบุฟเฟ่ร้านหนึ่ง
เป็นบุฟเฟ่อาหารอิตาเลี่ยนค่ะ ทานได้ประมาณ 2 ชั่วโมง มีของหวานด้วย
ไม่ได้ถ่ายร้านเลย กินอย่างเดียวค่ะ (กินไม่หยุดด้วย5555)
จากที่นั่งจะเห็นวิว Minato Mirai หมดเลยค่ะ ^^ (มัน Romantic มากอ่า... พิมพ์ไปด้วย เขิลไปด้วย555)
วิวจากร้าน
ไอศรีมกับวาฟเฟิลที่เราทำเอง >\\\\<
พอทานเสร็จแล้วก็เป็นเวลา 3 ทุ่ม จริงๆวันนี้เราวางแผนจะไปซื้อเค้กที่Moo Min Cafe
มาเซอร์ไพส์เพื่อนตอนเที่ยงคืน เนื่องจากพรุ่งนี้วันเกิดนาง แต่...ร้านปิด 4ทุ่ม ไม่ทันแล้วค่าา
เพื่อนก็พาเดินเล่นรอบๆอ่าวค่ะ(หาร้านเค้กด้วย) อากาศหนาวมาก 19°C =___= ใส่ขาสั้นอีก
ชิงช้าสวรรค์ ใน Cosmo world อารมณ์แบบ...Santa Claus is coming to town มาก 5555
Nippon maru
ตึก Landmark Tower
เดินกันสักพักเพื่อนก็ถามว่า...
เพื่อน : "Have you tried to cross the road as in Siem Reap?"
เรา : "No never, How to cross the road in Siem Reap style?"
เพื่อน : "Just cross any where that you want hahaha"
นางพูดก่อนจะพาเราข้ามถนนตรงนั้นเลย =___= คนญี่ปุ่นไม่ได้จะเป็นระเบียบทุกคนนะ 55555
แต่เอิ่ม... นี่มันก็ Thai Style นะค่ะ ไม่ใช่แค่ Siem Reap style นะย่ะ
หลังจากเดินเล่นฆ่าเวลาและหาเค้ก(ที่ไม่มีท่าทีว่าจะมี...) ก็เป็นเวลา 4ทุ่มครึ่ง
เราจึงแยกกับเพื่อนที่สถานี Yokohama (เพื่อนเราอยู่ Yokosuka ไปคนละทาง)
กลับมา Shinagawa แต่ก็หาเค้กไม่ได้ เดินหาแทบจะร้องไห้ค่ะ
จนเราตัดใจกลับมาแถวโรงแรม แวะ7-11 ซื้อ Onnigiri ข้าวปั้นญี่ปุ่น 1 กล่อง เทียน 1 กล่อง 55555
พอถึงโรงแรม 5ทุ่มครึ่ง เปิดเน็ตโทรศัพท์ดู มันเป็นห่วงเรามากที่ไม่ถึงโรงแรมสักที55555 (จริงๆนั่งรอจนเที่ยงคืนจะขึ้นไป)
รีเซฟชั่นโรงแรมก็มาช่วยเราจุดเทียน เค้ก Onnigiri (อายจัง ~\\~) ก่อนเราจะขึ้นไปเซอร์ไพส์เพื่อนรักในห้อง 555555
นางคงดีใจมาก มีข้าวเช้ากินแล้ว 2 ก้อน
และวันนี้ก็จบลง )) พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันของเพื่อนเราซึ่งเกิดวันนี้ นางอยากไป Enoshima ก็จัดให้เลย
ตอนต่อไป ... Enoshima Kamakura ค่า
ค่าใช้จ่ายวันที่ 6
Food 1134¥ (มื้อเย็นฟรี555)
Suica 1500¥
Bus from hostel to Kyoto station 230¥
Total 2864¥
อันนี้เป็นภาพบรรยากาศของฝั่งเพื่อนที่ Akihabara ค่ะ