สวัสดีครับ วันนี้ผมกลับมาอีกครั้งกับการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว ในสไตล์ผมนะครับ โดยครั้งนี้ผมกับแฟน ได้มีการลางานยาวๆ เพื่อไปลุยภาคเหนือกัน โดยจะเน้นไปที่จังหวัด พะเยา - น่าน - แพร่ ครับ
วันที่ไป 27 - 30 พ.ย และ 1 ธ.ค 2562
วิธีเดินทาง : ขับรถครับ รวมแล้ว 2,000 กิโล พอดี
อากาศโดยเฉลี่ย : 18 - 25 องศา
ค่าใช้จ่าย : คนละ 5,000 บาท
เอาล่ะครับไม่พูดมาก มาดูกันดีกว่าว่าผมไปไหนมาบ้าง
วันที่ 27 พ.ย. 2562 (ออกเดินทางมุ่งหน้าพะเยา)
วันแรกนี้ผมออกเดินทางจากบ้าน (กทม.) โดยผมจะขึ้นพะเยาก่อนเพราะว่าไกลสุด ขากลับจะได้ไม่ต้องขับรถไกล ออกจากบ้านตี 4 ไปถึงพะเยาประมาณ 3 โมงเย็นครับ โดยแวะตลอดทาง พอถึงผมก็เข้าที่พักเอากระเป๋ามาวางก่อนเลย
คืนแรกผมนอนที่ Zen Home Resort and Garden เป็นรีสอร์ทขนาดไม่ใหญ่มากครั้ง ตกแต่งสไตล์เซน แต่ค่อนข้างจะมีอายุพอสมควรแล้ว โดยรวมถือว่าไม่แย่ครับ
พอวางของเสร็จก็ถึงเวลาตะลุยที่แรกครับ โดยที่ผมวางแผนไว้จะเป็น "วัดอนาลโยทิพยาราม" ครับ เป็นวัดเก่าแก่ ที่ดูมีมนต์ขลังมากครับ
อันนี้เป็นวิวระหว่างทางไปวัดอนาลโยฯ ครับเสียดายว่าไปถึงตอนข้าวเกี่ยวแล้ว เลยได้เห็นแต่วิวฝางข้าว
วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัด พะเยาครับ โดยมีขนาดค่อนข้างกว้าง วันที่ผมไปเป็นวันพุธ ไม่มีนักท่องเที่ยวสักคน เลยได้ Private Tour กับแฟนโดยการเหมารถคุณลุงพานำเที่ยว 400 บาท เพื่อพาชมวัดที่มีความสวยงามมากจริงๆ ครับ โดยศิลปะในวัดโดยส่วนใหญ่จะเป็นแบบอินเดียพุทคยา และศิลปะแบบชาวเหนือครับ
ลงจากวัดอนาลโยฯ ก็ไปต่อที่วัดศรีโคมคำ วัดคู่บ้านคู่เมือง ของจังหวัดพะเยา แต่ตอนไปจะมีงานพอดี เลยได้แค่ไหว้จากข้างนอก และถ่ายภาพมาเท่านั้นครับ
ปิดท้ายวันสวยๆ ด้วยการไปนั่งโง่ๆ ที่กว๊านพะเยา สถานที่ที่ ไปจังหวัดนี้ไม่ไปไม่ได้ ผมส่งรูปให้น้องที่ทำงานที่เป็นคนพะเยาดู น้องบอก พี่ถ่ายรูปเก่งนะ ถ่ายกว๊านพะเยายังไงให้ดูไม่ออกเลยว่าเป็นกว๊านพะเยา 555+
วันที่ 28 พ.ย. 2562 (ตื่นแต่เช้ามุ่งหน้า ภูลังกา)
วันนี้ผมออกเดินทางแต่เช้า คือ ตี 5 เพื่อที่จะมุ่งหน้าสู่ "ภูลังกา" สถานที่สุดฮอตของเมืองพะเยา โดยต้องขับรถจากตัวเมืองไปเกือบ 2 ชั่วโมง ครับ
คำแนะนำ
ให้กดแผนที่ไปที่ ภูลังการีสอร์ท หรือ ร้านกาแฟ Magic Mountain นะครับ เพราะถ้ากดไปที่ ภูลังกา ต้องสำหรับคนที่มีรถโฟร์วีลเท่านั้น ไม่อย่างนั้นต้องเหมารถขึ้นไป 1,000 บาท ผมไม่มีตังค์เลยได้แค่แบบแรกครับ
นี่เป็นวิวจาก ภูลังการีสอร์ท นะครับ จะเห็นภาพมุมกว้างของเข้า ภูลังกานี่ล่ะ เสียดายผมไปไม่เจอหมอก แต่หลายๆ คนไปเจอหมอกตรงนี้จะสวยมากครับ
หมายเหตุ
- ทางค่อนข้างโหดนะครับ ใครขับรถไปก็อย่าซิ่งมาก > <
หลังจากภูลังกา ผมก็มุ่งหน้าสู่ จังหวัดน่านครับ ทางคดเคี้ยวเลี้ยวลด แต่สวยงามครับ ใช้เวลา ชั่วโมงกว่าก็มาถึงจังหวัดน่าน ผมไปถึงประมาณ 10 โมง และเอาของไปเช็คอินก่อนที่ Yindee Travelers Lodege โฮสเทลเล็กๆ น่ารักๆ ราคาไม่แพง อยู่ใกล้กับร้านอาหาร Good View ครับ เพียงแต่สำหรับคนตัวอ้วน ห้องอาจจะเล็กไปหน่อย 555+
เมื่อเชคอินเสร็จ ก็เตรียมตัวไปแรดต่อเลย สถานที่ต่อไป ของผมคือ วัดศรีมงคล หรือ วัดก๋ง หนึ่งไฮไลท์ของเมืองน่าน เสียดายตอนไปผมลืมถ่ายภาพไว้ เลยอดเอามาโชว์ แต่สวยดีครับ
ออกจากวัดศรีมงคลก็ไปต่อยาวๆ ที่ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ ร้านกาแฟชื่อดังของอำเภอปัว จุดเด่นคือจะมีวิถีชาวบ้าน ให้ได้ดู วิวมุมกว้างของนา และทิวเขาของอุทยานแห่งชาติภูคาเป็นแบคกราวน์
หลังจากกินกาแฟ และซื้อผ้าแล้ว ผมก็ไปต่อที่ฟาร์มเห็ดบ้านต้นน้ำ ที่ขายก้อนเห็ดเต็มไปหมด แต่ !!! ถึงจะมีเห็ด แต่ทีเด็ดอยู่ที่ พิซซ่า ถ้าไปแล้วไม่ได้สั่งจะหาว่าไม่เตือน อร่อยโฮก
ขากลับก่อนเข้าเมือง มีเวลาเหลือผมเลยได้แวะ หอศิลป์ริมน่าน ซึ่งจัดตั้งโดยคุณวินัย ปราบริปู ศิลปินชาวน่าน มีภาพเขียนสวยๆ เยอะเลยครับ ใครชอบเสพย์งานศิลป์ที่มีเอกลักษณ์ และงดงาม ห้ามพลาดแวะที่นี่ครับ...
วันที่ 29 พ.ย. 2562 (ตะลุยวัดน่าน และไปนอนนับดาวที่ดอยเสมอดาว)
วันนี้โปรแกรมหลักๆ คือเก็บตัวเมืองน่านให้หมดครับ โดยมีทั้งวัดวาอารามที่งดงาม ร้านรวงสวยๆ เต็มไปหมด และตอนเย็นผมจะขึ้นไปนอนที่ดอยเสมอดาว อำเภอนาน้อย
ผมเปิดด้วยสถานที่สำคัญของเมืองน่านอย่าง วัดภูมินทร์ เลยครับ โดยเป็นวัดกลางเมืองที่มีความเก่าแก่ จุดสำคัญไม่น่าจะหนีพ้น ภาพวาดในโบสถ์ ที่จะเล่าถึงประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของคนในอดีตครับ (ขออภัยที่ผมทำตัวอักษรในภาพผิด ต้องใช้ บันลือโลก นะครับ)
สำหรับภาพที่มีความสำคัญอย่าง "กระซิบรักบันลือโลก" ผมมีโอกาสได้ฟังคุณลุงที่อยู่ร้านขายของที่ระลึกมาเล่าให้ฟังว่า เค้ากระซิบกันว่าอะไร ถ้าใครอยากรู้ ลองไปฟังเพลง "แลรักนิรันดร์กาล" ของ ปู่จ๋าน ดูก็ได้นะครับ ^ ^ มีใส่ไว้
ต่อจากวัดภูมินทร์ ผมก็ไปต่อที่พิพิธภัณฑ์สถานจังหวัดน่านครับ ที่นี่มีอุโมงค์ลีลาวดีเป็นทิว ให้ได้ถ่ายรูป สำหรับตัวพิพิธภัณฑ์นั้นมีของเก่าต่างๆ ที่บอกความเป็นตัวเมืองน่านได้อย่างดีครับ
สถานที่ต่อไปคือ วัดศรีพันต้น ครับ วัดขนาดไม่ใหญ่มาก บริเวณชุมชนศรีพันต้น ทีเด็ดอยู่ที่โบสถ์สีทอง ที่มีความงดงาม อายุมากกว่า 200 ปี ด้านในมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองน่านอยู่ด้วยนะครับ
ต่อจากวัดศรีพันต้น ผมก็ไปต่อที่วัดพระธาตุเขาน้อย อยู่บริเวณเขาน้อย ห่างจากตัวเมืองน่านเล็กน้อยครับ จุดเด่นคือจะมีพระพุทธมหา อุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร หันหน้าเข้าหาตัวเมืองน่าน สวยงาม ให้เห็นวิวแบบ 180 องศา
และ จากนี้ผมยังได้มีโอกาสไปยังวัดพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุประจำคนเกิดปีเถาะ (กระต่าย) ที่มีความสวยงาม โอ่อ่ามากครับ แต่ลืมถ่ายภาพเอาไว้ 5555+ ที่พักของคืนนี้ก็ไปยังอำเภอนาน้อย ที่ดอยเสมอดาว ดอยที่ขับรถไปถึง มีเต็นท์ให้บริการ ห้องน้ำสะอาด สะอ้าน และมีที่นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นอย่างสะดวกสบาย
วันที่ 30 พ.ย. 2562 (ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอย และไปอ้อยอิ่งต่อที่ แพร่)
ตื่นมากับวิวหมอกบางๆ แต่ยังมีโชคที่วันนี้ได้เห็นน้องไข่แดง บริเวณดอยเสมอดาว แต่คนเยอะมากกกก นี่ขนาดยังไม่พีคสุดๆ นะครับ
ระหว่างทางมุ่งหน้าจากดอยเสมอดาว ไปยังจังหวัดแพร่ ผมได้ขึ้นไปยัง อช.ขุนสถาน เสียดายที่ไม่ได้มาในช่วงมีดอกพญาเสือโคร่ง คงได้เห็นเพียงวิวเขาฝั่งน่านที่มีความโล้นอย่างที่เขาพูดกัน T T จากการทำเกษตร
หลังจากขุนสถานผมก็เข้ามาที่จังหวัดแพร่ และได้พักที่โฮสเทลชื่อ คัมมูน บอกได้เลยว่าคุ้มมาก ตัวโฮสเทลตั้งอยู่ใกล้ กาดกองเก่า และกาดพระนอน เดินไปแค่ 5 นาที ก็ถึง
พอจัดแจง เช็คอินเสด ก็ถึงเวลาไปแรดครับ ที่แรกที่ไปในจังหวัดเลย คือ พระธาตุช่อแฮ ถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผมพอดี ซึ่งผมเคยได้มาสักการะแล้วเมื่อช่วง 4 ปีที่แล้ว ซึ่งกลับมาครั้งนี้ก็ยังดูงดงามเช่นเดิมครับ
หลังจากพระธาตุช่อแห ซึ่งตอนไปถึงเป็นเวลา 5 โมงแล้ว ผมได้บึ่งรถต่อไปยัง อุทยานแห่งชาติแพะเมืองผี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของจังหวัดแพร่ แต่ผมดันไปถึงตอน 5.20 ไม่มีคนเหลือแล้ว ดูวังเวง เล็กๆ พอเข้าไปได้สัก 10 นาที ก็ต้องออก เพราะเริ่มมืดครับ
วันที่ 1 ธ.ค. 2562 (กลับกรุงเทพ โดยสวัสดิภาพ)
วันนี้ผมก็ไม่ได้แวะที่ไหนเลย แค่ร้านกาแฟชื่อ Charlotte Hut ตอนเช้า แล้วก็ออกจากแพร่ตอน 10 โมง ครับ มาถึงกรุงเทพฯ ก็หกโมงนิดๆ
สรุป
- เหนื่อยนิดหน่อยกับการขับรถครับ แต่ถือว่าได้ฝึกสกิลขับรถขึ้นเขาอย่างมาก
- เน้นกินอาหารไม่แพงมากครับ แต่ขอให้นอนดีไว้ก่อน เพราะผมดันฟัง The Ghost บ่อย 555+
- ทั้ง 3 จังหวัด ยังมีอะไรให้ไปอีกเยอะครับ โดยเฉพาะน่าน บริเวณ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เสียดายผมไม่มีเวลาไป
- อาหารโดยส่วนใหญ่จะเป็นหมูครับ ถ้าใครกินไม่ได้ ก็อาจจะเตรียมเมนูไก่ ไปหน่อย
- คนเหนือพูดจาน่ารักครับ ผมชอบ > <
จบทริป ครับ ต่อไปที่จะมารีวิวจะไปที่ไหนอย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ
[CR] 5 วัน เที่ยวจุกๆ บุกเมืองรองภาคเหนือ พะเยา - น่าน - แพร่ แบบไร้แผนใดๆ ^ ^
คำแนะนำ
ให้กดแผนที่ไปที่ ภูลังการีสอร์ท หรือ ร้านกาแฟ Magic Mountain นะครับ เพราะถ้ากดไปที่ ภูลังกา ต้องสำหรับคนที่มีรถโฟร์วีลเท่านั้น ไม่อย่างนั้นต้องเหมารถขึ้นไป 1,000 บาท ผมไม่มีตังค์เลยได้แค่แบบแรกครับ
นี่เป็นวิวจาก ภูลังการีสอร์ท นะครับ จะเห็นภาพมุมกว้างของเข้า ภูลังกานี่ล่ะ เสียดายผมไปไม่เจอหมอก แต่หลายๆ คนไปเจอหมอกตรงนี้จะสวยมากครับ
หมายเหตุ
- ทางค่อนข้างโหดนะครับ ใครขับรถไปก็อย่าซิ่งมาก > <
หลังจากกินกาแฟ และซื้อผ้าแล้ว ผมก็ไปต่อที่ฟาร์มเห็ดบ้านต้นน้ำ ที่ขายก้อนเห็ดเต็มไปหมด แต่ !!! ถึงจะมีเห็ด แต่ทีเด็ดอยู่ที่ พิซซ่า ถ้าไปแล้วไม่ได้สั่งจะหาว่าไม่เตือน อร่อยโฮก
สำหรับภาพที่มีความสำคัญอย่าง "กระซิบรักบันลือโลก" ผมมีโอกาสได้ฟังคุณลุงที่อยู่ร้านขายของที่ระลึกมาเล่าให้ฟังว่า เค้ากระซิบกันว่าอะไร ถ้าใครอยากรู้ ลองไปฟังเพลง "แลรักนิรันดร์กาล" ของ ปู่จ๋าน ดูก็ได้นะครับ ^ ^ มีใส่ไว้
วันที่ 1 ธ.ค. 2562 (กลับกรุงเทพ โดยสวัสดิภาพ)
วันนี้ผมก็ไม่ได้แวะที่ไหนเลย แค่ร้านกาแฟชื่อ Charlotte Hut ตอนเช้า แล้วก็ออกจากแพร่ตอน 10 โมง ครับ มาถึงกรุงเทพฯ ก็หกโมงนิดๆ
สรุป
- เหนื่อยนิดหน่อยกับการขับรถครับ แต่ถือว่าได้ฝึกสกิลขับรถขึ้นเขาอย่างมาก
- เน้นกินอาหารไม่แพงมากครับ แต่ขอให้นอนดีไว้ก่อน เพราะผมดันฟัง The Ghost บ่อย 555+
- ทั้ง 3 จังหวัด ยังมีอะไรให้ไปอีกเยอะครับ โดยเฉพาะน่าน บริเวณ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เสียดายผมไม่มีเวลาไป
- อาหารโดยส่วนใหญ่จะเป็นหมูครับ ถ้าใครกินไม่ได้ ก็อาจจะเตรียมเมนูไก่ ไปหน่อย
- คนเหนือพูดจาน่ารักครับ ผมชอบ > <
จบทริป ครับ ต่อไปที่จะมารีวิวจะไปที่ไหนอย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้