EP 4 “MRI ในโลกส่วนตัวของฉัน”
 
Diary for Herniated Nucleus Pulposus (HNP) one stop service 
 
บันทึกการรักษาของคนไข้โรคหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท (ผ่านการรักษามาแล้วทุกวิธีที่หาได้ ครบจบในคนเดียว!!)
 
เรานอนพัก bed rest ทั้งที่บ้าน ทั้งใน ward มาเดือนกว่าแล้ว ทำ tractionไปมากกว่า 10 ครั้งแล้ว แต่อาการปวดยังคงที่และเดินได้แค่ 5 m. เท่าเดิม, หมอ 3 แนะนำให้ทำ MRI เพื่อดูพยาธิสภาพของ Lumbar spine ณ ตอนนี้
MRI คืออะไร เพื่อนๆ ไป google กันได้เลยนะคะ เราจะมาเล่า experience จริงๆ เรารู้สึกสนุก ตื่นเต้นเหมือนจะได้เล่นอะไรสักอย่างในอุโมงค์สีขาวๆ นั่น, การทำ MRI 1 ตำแหน่งของร่างกายใช้เวลาประมาณ 30 นาที เสียงดังมากนะคะ เจ้าหน้าที่จะให้คนไข้ใส่ ear plug นอนราบลงและส่งเรา slide เข้าไปในอุโมงค์นั้น ใครที่มีอาการวิตกกังวลหรือเป็นโรคกลัวที่แคบ (Claustrophobia) ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่นะคะ แต่เขาจะถามคนไข้อยู่แล้ว, มันไม่น่ากลัวเลยคะ นอนสวดมนต์สบายๆ ไปสักพักก็ slide ตัวกลับออกมา, หมอ 3 ดู film MRI ว่า disc L5-S1 ของเรามันปลิ้นออกมาก้อนโตมาก แนะนำให้เราเริ่มรักษา step ต่อไปเลย คือ EDSI แล้วทำกายภาพฝึกกล้ามเนื้อหลังหรือถ้าจะให้ sure ก็ผ่าตัดไปเลยเพราะ disc มันยื่นออกมามากจริงๆ รักษาหาย sure, หมอ 3 แนะนำศัลยแพทย์ผ่าตัดโรคกระดูกสันหลังในจังหวัดนี้มา 3 คน พร้อม briefed profile คร่าวๆ มาให้ราพิจารณา เรานอนคิดและใช้เวลาต่อสู้กับความกลัวในใจตัวเองอยู่ 2-3 ชั่วโมง แล้วก็ตัดสินใจเลือกหมอคนที่ 1 ที่ถูกแนะนำมา (เราเรียกเขาว่าหมอ 4) เพราะหมอ 3 บอกว่าคนนี้เป็นเพื่อนเขา เราก็เลยคิดไปว่าหมอ 4 ก็น่าจะใจดีเหมือนกับหมอ 3 ที่ใจดีและเข้าใจคนไข้ล้านคำถามอย่างเราด้วย
จากนั้นเราก็ Google profile ของหมอ 4 ต้องขอบคุณ internet ที่ทำให้ชีวิตพวกเรา สะดวกสบายและ smart, เราพบว่าหมอ 4  ทำงานที่ รพ. ของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัฐในเมืองที่เราอยู่และเขาเรียนและ trained การผ่าตัดเป็น specialist ด้าน spine surgery จากต่างประเทศ (เราโชคดีที่ทุกอย่างลงตัว เราเรียนจบจาก ม.มหิดล ก็จะมี trust ใน รพ. ของคณะแพทย์มากกว่าและหมอ 4 น่าจะเข้าใจ click กับคนไข้พูดภาษาไทย + อังกฤษ งงๆ แบบเรา เป็นความคิดส่วนตัวแบบขำๆ นะคะ หมอทุกคนก็เข้าใจภาษาอังกฤษหมดละ เพราะเขาอ่าน text book) และเราตัดสินใจเลือกหมอได้ถูกต้อง หมอ 4 ใจดีมากจริงๆ คะ เราเชื่อว่าคนไข้มีสิทธ์เลือกแพทย์เจ้าของไข้ เลือก รพ. ที่เราสบายมากที่สุด แต่ละคนก็มีเหตุผลต่างๆ กันไป และคนไข้ควรจะถามหมอถึงประวัติการผ่าตัดรักษาของเขาว่า success rate เป็นยังไง เพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่เราไม่ได้ถามหมอ 4 นะ ประมาณว่า ฉันเลือกคุณแล้ว I trust you!!

 
“พบกันครั้งแรกก็ผิดหวัง ไม่ได้ดั่งใจ” เฮ้อ…
หมอ 3 discharged เราออกจาก รพ. และเราตัดสินใจอย่างแน่วแน่ มุ่งมั่นสุดๆ ว่าจะทำการผ่าตัดแน่นอน!! จะได้กลับมาเดินได้ตามปรกติ, เราตรงไปหาหมอ 4 ที่ clinic เขาทันทีเพื่อเร่งการรักษาให้เร็วขึ้น (แนะนำคนไข้ว่าถ้าแพทย์คนนั้นเปิด clinic หรือ OPD รพ. เอกชน ให้ไปคุยกับเขาก่อนนะคะ เพื่อจะได้คิวเร็วขึ้น แล้วค่อยให้แพทย์ refer เราเข้าไปใน รพ. รัฐบาลที่เราต้องการก็ได้) หมอ 4 ซักประวัติเราตามปรกติ เรามีอุบัติเหตุมาก่อนนะคะ ลักษณะการทำงาน (หมอทุกคนถามเหมือนกันหมดตามสูตร) และคำแนะนำของหมอ 4 คือ!! “ผมแนะนำให้ฉีดยา EDSI ไปก่อน” (ในหัวเรานี่…. โอย ฉันตัดความกลัวจนมาขอผ่าตัด ทำเหอะ! จะได้จบๆ ไป) หมอ 4 น่าจะมองเห็นความคิดและสายตาของเรา เลย lectured มาอย่างยาวเป็น 20 นาที (หมอ 4 เป็นอาจารย์แพทย์คะ) สอนแบบจริงจัง ศัพท์แพทย์ technical term มาเต็ม หมอรู้ได้ไงว่าเราเข้าใจ? เราก็เข้าใจทุกอย่างนั่นแหละ เพราะเราเรียน health science และ google เพื่อ study HNP มาก่อนจะมาพบหมอ, แนะนำคนไข้ว่าการศึกษาลักษณะโรคไปก่อนก็ดี หรือถ้าไม่เข้าใจที่หมอพูด ก็ควรถาม เราจะได้สบายใจนะคะ สรุปจากหมอ 4 “คนไข้ 80% รักษาได้ด้วยการนอนพัก กินยาและทำกายภาพบำบัด อีก 20% อาจต้องฉีด EDSI หรือผ่าตัดเป็นทางสุดท้าย” เขาพยายามชักจูงเราให้รักษาไปช้าๆ แบบใจเย็นๆ นะ “การผ่าตัดมันมีความเสี่ยงนะครับ ที่กระดูกสันหลังมีเส้นประสาทอยู่ด้วยนะ แต่ถ้าไม่ดีขึ้นจริงๆ ค่อยมาคุยกันใหม่” เรากลับบ้านไปด้วยความผิดหวัง นอนกินยาไปอีกหลายวัน เพื่อรอ admit EDSI กับหมอ 4 ที่ รพ.ของคณะแพทย์
 
“admit อยู่ รพ. ดีกว่าอยู่บ้านคนเดียว”
สำหรับคนไข้ที่สามารถลางานได้และมีประกันสุขภาพรองรับและอยู่บ้านคนเดียว (เหมือนอย่างเรา) หรือบ้านอยู่ไกลจาก รพ. มากๆ การคุยกับแพทย์เพื่อขอ admit pain control อาจจะช่วยได้นะคะ ทั้งหมอ3 และหมอ 4 สั่งให้ฉีดยาแก้ปวดให้เราและไปทำกายภาพบำบัดทุกวัน เพื่อให้เราฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังได้เร็วขึ้น ให้คนไข้ทรมานน้อยลงด้วย จริงๆ หมอก็อยากให้ธรรมชาติ คือร่างการเรารักษา ดูแลมันเองได้ 
 
“ห้าม! ห้าม! ห้าม! ห้าม! ห้าม!!!”
เราสรุปได้จากแพทย์ทั้ง 4 คน สอนเหมือนกันหมด คือ ห้าม! ห้าม! ห้าม!, โดยเฉพาะหมอ 4 เขา lectured เราทุกครั้งที่เห็นหน้าเรา ฮ่า ฮ่า
ห้ามก้มหลัง บิดหลัง เด็ดขาด!! อันตรายมากนะคะ จะยิ่งทำให้อาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว 
ห้ามนั่งกับพื้น ห้ามนั่งบนเตียง ห้ามยกของหนัก ห้ามนั่งนาน ประมาณ 30 นาทีให้ลุกเดินนะคะ
ถ้าต้องขับรถไกลๆ นานๆ ให้หยุดพัก แล้วลุกเดินเปลี่ยนท่าทาง
เราทำได้ทุกอย่างนะคะ เพื่อตัวเอง นั่งใน office นี่ก็จะเพลินนะ นั่งแล้วยาว เราใช้การดื่มน้ำมากๆ เพื่อสุขภาพดีโดยรวม และต้องลุกเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น ฮ่า ฮ่า
 
หมอ 3 สอนว่าเวลานอนแล้วจะลุกขึ้นนั่ง ปกติเราก็จะลุกขึ้นตรงๆ คล้ายๆ การ sit up แบบนั้นคะ แต่คนไข้ HNP ห้ามทำ!! (แนะนำคนยังไม่ป่วยด้วยนะคะ) หมอ 3 เรียกมันว่าเป็นการงัดหลังตัวเอง มันเพิ่มแรงดันในช่องท้องและเพิ่มแรงกดที่กระดูกสันหลัง จะทำให้ disc มันยิ่งปลิ้นออกมามากขึ้น, จากความเคยชิน เราต้องเปลี่ยนตัวเองและฝึกนะคะ เพื่อตัวเราเองคะ นอกจากที่ทำงาน สภาพแวดล้อมที่บ้านก็สำคัญมากๆ ตัวเราปรับสภาพทุกอย่าง ย้ายลงมานอนชั้นล่าง นอนราบกับพื้นธรรมดาเลยคะ เพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นบันได ยิ่งเดินขึ้นสูงมันยิ่งกดที่หลังและปวดขามาก, จัดการการกิน การอยู่ หยิบของต่างๆ ให้อยู่ในระดับตัวเรา ห้ามก้มเด็ดขาดและห้ามนั่งซักผ้าด้วยนะ การยกกะละมังใส่น้ำหนักๆ ก็อันตราย สำคัญอีกอย่างคือถ้าคนไข้น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน แพทย์จะแนะนำหรือสั่งให้ลดน้ำหนักนะคะ คิดดูว่าน้ำหนักตัวเราทั้งหมดตั้งแต่หัว แขน ลงมาถึงเอว โดยเฉพาะใครที่มีพุง รอบเอวหนาๆ แล้วกระดูกสันหลังของเราต้องรับน้ำหนักแบบนี้ตลอดเวลาที่เรานั่งและยืนนะคะ, จริงๆ เรื่องความอ้วนนี่ ถ้าเพื่อนๆ ดูแลตัวเองได้ดีก็จะช่วยลดโรคหลักๆ แบบ package 4 สหายคือ เบาหวาน ความดัน ไขมัน หัวใจ และยังมีความเสี่ยงด้านสุขภาพอีกมากที่เกิดจากพฤติกรรมการกิน การอยู่และควา
 
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่ช่วยกัน share review นี้ออกไป เพื่อเป็นความรู้และกำลังใจ เราพบว่ามีคนรอบๆ ตัวเริ่มป่วยเป็นโรคนี้เยอะมากขึ้น ด้วยอายุที่น้อยลงเรื่อยๆ ให้กำลังใจทุกๆ คนนะคะ 
ถ้าเพื่อนๆ หรือคนไข้คนไหนสนใจอยากรู้รายละเอียดว่าเรารักษาที่ รพ. ไหนกับแพทย์คนไหนบ้าง อยากถามเพิ่มเติม ติดต่อมาได้เลย เรายินดีช่วยคะ ถ้าอยู่จังหวัดใกล้ๆ กันกับเรา ก็คงได้มาเลือก รพ. ที่นี่หรือมีแพทย์ที่ดีพร้อมที่จะช่วยเหลือคนไข้หลายคนมากคะ แต่เราว่าหมอใจดี คุณอาจจะว่าไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความเข้าใจ พอใจของแต่ละคนนะคะ ในที่นี้ไม่มีโฆษณาประกันหรือแพทย์อะไรทั้งสิ้นนะคะ ไม่มีการผิดใจกับหมอไหนทั้งสิ้นนะคะ เล่าให้ฟังเผื่อมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่วางแผนการเงิน งาน สุขภาพ กับคนไข้และครอบครัวที่ต้องตัดสินใจ 
เราขอขอบคุณทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยเหลือเราให้ผ่านช่วงเวลาการรักษาโรคไปด้วยดี ขอบคุณคะ

วันนี้คนไข้ HNP L5-S1 Microdiscectomy ต้องขอลาไปก่อน ขอบคุณสำหรับการติดตามและพบกันใน EP ต่อไป สวัสดีคะ