วันนี้เป็นวันอังคารเดินผ่านร้าน Pepper Lunch สาขาเดอะมอลล์ท่าพระ พนักงานหน้าร้านบอกว่าวันนี้มีโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์นะคะ ได้ยินว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ก็หูตาฝึ่ง แต่วันนี้เป็นวันสบายๆเลยไม่ได้พกกล้องมา จะเดินผ่านเฉยๆก็ไม่ได้ ต้องทานและมารีวิวกันสักหน่อย วันนี้ใช้กล้อง Iphone 11 ถ่ายรูปอาหารในรีวิวนี้ทั้งหมดนะครับ บุฟเฟ่ต์ราคาเริ่มต้นที่ 399.- /499.- และแพงสุดที่ 899.- ทานได้ 1.30 ชม. บุฟเฟ่ต์มีอีก 2 รอบคือวันที่ 3 ธ.ค. และ 10 ธ.ค.62 นี้ ใครที่อ่านรีวิวนี้แล้วอยากไปทาน ก็รีบหน่อยนะครับ มีสาขาร่วมทั้งหมด 24 ร้าน ได้แก่ เซ็นทรัลเวิล์ด /เซ็นจูรี่อ่อนนุช / สีลมคอมเพล็กซ์ / เซ็นทรัลพระราม 2 / เดอะมอลล์บางแค / เซ็นทรัล เวสต์เกต /แฟชั่นไอส์แลนด์ / The Promenade รามอินทรา / โรบินสันบางรัก / เซ็นทรัลปิ่นเกล้า / Mega Bangna / ห้างเซ็นจูรี่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ / จามจุรีสแควร์ / Siam Square One / เทอร์มินอล 21 / เซ็นทรัลพระราม 9 / ฟอร์จูนทาวน์ / เอสพลานาดรัชดา / เดอะมอลล์ท่าพระ / Gateway Ekamai / ยูเนี่ยนมอลล์ / La Villa อารีย์ / Whizdom 101 และ Central Pattaya Beach ใครอยู่ใกล้ที่สาขาไหนก็เข้าไปใช้บริการที่นั่นได้เลยครับ ตอนนี้ก็เตรียมลุยกันเลย

บรรยากาศภายในร้านก็เป็นแบบร้าน Pepper Lunch ทั่วไป จากนั้นพนักงานก็จะนำป้ายเมนูออกมาให้เราดู ราคาเริ่มต้นที่ 399.- บาท มีให้ทานเฉพาะเมนูหมูและไก่ ถ้าเป็นราคา 499.- บาท ก็จะเป็นเมนูเนื้อ/ปลาแซลมอน ถ้าเป็นราคาแพงสุด 899.- บาท จะได้ทานเป็นเนื้อวัวระดับพรีเมี่ยม/หมูคุโรบูตะและปลาแซลมอน วันนี้ผมเลือกทานเป็นราคา 499.- บาทพอครับ เพราะรู้สึกว่าการเพิ่มเงินอีก 400 บาทเพื่อทานเพิ่มอีกไม่กี่เมนู รู้สึกไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ จากนั้นพนักงานก็จะนำเงื่อนไขการทานบุฟเฟ่ต์มาให้เราอ่าน เด็กส่วนสูงต่ำกว่า 90 ซม. ทานฟรี ส่วนสูง 90-120 ซม. ได้รับส่วนลด 100 บาทสำหรับบุฟเฟ่ต์ทุกราคา ส่วนเงื่อนไขอื่นๆอ่านได้ตามใบนี้เลยครับ จากนั้นใบสั่งอาหารสำหรับเมนู 499.- บาท ก็จะถูกนำมาวางไว้ที่โต๊ะ โดยเขียนเลขที่โต๊ะ จำนวนเมนูที่ต้องการลงในใบสั่ง ส่วนช่องที่เขียนว่าเพิ่มเติมนั้น สามารถสั่งได้เลยว่าจะเอาข้าวน้อย/ข้าวเยอะ/ไม่เอาข้าว/เพิ่มเส้น/ลดเส้น/ไม่เอาผัก แต่สำหรับจานแรกนั้นทางร้านจะบังคับให้เราต้องสั่งเมนูที่มีข้าวเสิร์ฟในขนาดปกติ 1 จานก่อน เมนูต่อมาจึงจะเขียนช่องเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ และจะทยอยนำมาเสิร์ฟให้เรื่อยๆ (เพราะพื่นที่บนโต๊ะมีจำกัด) จากนั้นก็แค่รออาหารมาครับ

จากนั้นพนักงานก็จะนำป้ายฟิวเจอร์บอร์ดสีเหลืองมาเสียบไว้ที่โต๊ะ เพื่อบ่งบอกว่าแต่ละโต๊ะนั้นสั่งเป็นบุฟเฟ่ต์ราคาเท่าไหร่ และก็ทิ้งใบสั่งของไว้ให้อีกใบที่โต๊ะ บนโต๊ะก็ยังคงมีซอสเค็ม/ซอสหวาน/เกลือ/พริกไทย เอาไว้ให้เราปรุงรสกับข้าวผัดต่างๆได้ตามใจเช่นเคย ส่วนตัวแล้วชอบแบ่ง 1 จานออกเป็น 2 ฝั่ง ผัดใส่ซอสฝั่งละสูตรแล้วค่อยทาน เป็นการเปลี่ยนรสชาติข้าวผัดไปเรื่อยๆ ใครมีเทคนิคการทาน Pepper Lunch ยังไง มาบอกผมกันบ้างนะครับ

จานแรกเป็นเมนูที่ต้องมีข้าวบังคับ เลยสั่งเป็นข้าวเปปเปอร์เนื้อกระทะร้อน เมื่อมาถึงก็ต้องรีบผัด ปรุงรสด้วยซอสหวานหรือซอสเค็มตามใจชอบ รสชาติอร่อยกลมกล่อม หอมกลิ่นข้าวไหม้ ตามแบบฉบับของทางร้านเลยครับ

จานต่อมาเป็นสุกี้ยากี้เนื้อเพิ่มข้าวของแฟนผมครับ เป็นชุดบังคับที่ต้องมีข้าวมาให้ด้วย 1 ถ้วย เนื้อวัวในกระทะร้อนกรอบๆ ราดด้วยซอสสุกี้ยากี้รสชาติเข้มข้น ผัดจนเข้าเนื้อ ทานกับไข่ดาว เต้าหู้ เห็ดหอม วางบนข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งอร่อยฟินห์ครับ เนื้อของที่นี่กลิ่นหอม แทรกไขมันนุ่ม ย่างบนกระทะร้อนยิ่งหอมขึ้นไปอีก ติดใจเนื้อร้านนี้แล้วครับ

เมนูถัดมาสั่งเป็นยากินิคุเนื้อ + ไข่ มาพร้อมกับผักกาดขาวสไลด์/ข้าวโพด/บล๊อกโคลี่ และไข่ดาว ใครที่ไม่ทานผักก็สามารถเขียนลงในช่องเพิ่มเติมได้นะครับ เนื้อย่างบนกระทะหอมๆ ทานกับซอสยากินิคุรสเค็ม หอมกลิ่นโชยุ/น้ำมันงา เนื้ออร่อยดีแต่ซอสเค็มไปหน่อยครับสำหรับจานนี้ เหมาะกับทานกับข้าวสวยมากกว่า จานต่อมาเป็นไก่เทอริยากิ+ไข่ดาว เป็นเนื้อได่ส่วนสะโพกชิ้นใหญ่ เสิร์ฟมาในกระทะร้อน มาพร้อมซอสเทริยากิรสหวานเค็มกลมกล่อม ส่วนตัวก็รู้สึกว่ารสชาติเข้มข้นเกินไป ยังไงก็เหมาะทานกับข้าวสวยอยู่ดี แต่นี่คือบุฟเฟ่ต์เราจะสั่งข้าวเยอะไม่ได้นะ

ทานไปมาเริ่มรู้สึกเลี่ยน เลยสั่งเป็นข้าวหน้าแกงกะหรีชีส+ชีฟู๊ด มาทาน 1 จาน แกงกะหรี่รสชาติกลางๆ ราดลงบนซีฟู๊ด(กุ้ง/ปลาหมึก)ตัวจิ๋ว ภายในน้ำแกงกะหรี่ผสมมอสซาเรลล่าชีส เวลาตักทานแต่ละทียืดเหนียวทานยากสุดๆ อีกทั้งรสชาติก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก แนะนำว่าอย่าสั่งจานนี้เป็นดีสุดครับ (นึกว่าแกงจะรสเข้มข้นและเผ็ดกว่านี้)

จานต่อมาเป็นพาสต้าเนื้อ ภายในกระทะร้อนมีกระเทียม/พริกแห้ง/พาเมซาชีส ราดด้วยซอส Olio ที่มีความหอมกลิ่นน้ำมันมะกอก รสเค็มนิดๆ เมื่อผสมทุกอย่างรวมกันกลายเป็นว่าลงตัว ทานง่าย กลิ่นชีสและเนื้อเข้ากันได้ดีกับเส้นพาสต้า กระเทียมและพริกแห้งช่วยแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดี แต่จานนี้เหมาะกับคนที่มีพื้นที่ในกระเพาะเหลือหน่อยนะครับ เพราะเสิร์ฟมาจานใหญ่มาก (แต่เราสามารถเขียนเพิ่มเติมว่าขอเส้นน้อยได้นะ) ถัดมาเป็นดับเบิ้ลแฮมเบิร์กเนื้อไข่ดาว เนื้อบดผสมหอมใหญ่และเกล็ดขนมปัง มีความหนานุ่ม ราดด้วยซอสแฮมเบิร์กรสชาติเค็ม/หวานหอมตัวใหญ่สับ/อมเปรี้ยวนิดๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับมันบดเนื้อละเอียดเนียน ราดน้ำเกรวี่ เข้ากันได้ดีกับเนื้อแฮมเบิร์กมากครับ

ตอนนี้เรา 2 คนแทบจะเดินออกจากร้านไม่ไหวแล้วครับ แต่แฟนผมบอกว่าอยากทานเมนูพาสต้าเบคอนพริกแห้ง เดี๋ยวสั่งแบบเส้นน้อยแล้วมาช่วยกันทานหน่อย ปริมาณเส้นน้อยลงกว่าเมื่อกี้ 1:3 ส่วน แต่ก็ยังเยอะอยู่ดี เนื้อเบคอนที่ใช้หอมกลิ่นรมควัน ให้มาชิ้นใหญ่ ผัดใส่ซอสคลุกให้เข้ากันกับกระเทียมสดและพริกแห้ง อร่อยแซ่บดีครับ เกือบลืมบอกไปว่าบุฟเฟ่ต์มื้อนี้รวมน้ำดื่มสั่งได้ทั้ง น้ำอัดลม / ชาเขียว / ชามะนาว เครื่องเคียงพวกมันบด / ซุปมิโสะ / สลัด ก็สั่งทานได้เรื่อยๆ มีของหวานอย่างไอศครีมชาเขียว / วนิลา / และช๊อกโกแลตให้ทานได้ไม่อั้นอีกด้วย

มื้อนี้ทานกัน 2 คนจ่ายคนละ 499 บาท รวมเป็น 978 บาท เห็นเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น ไม่มี Vat. และ Service Charge มากวนใจ โดยสรุปแล้วผมถือว่าบุฟเฟ่ต์ Pepper Lunch ไม่น่าจะเหมาะกับคนทั่วไป ที่ทานสัก 2 จานก็รู้สึกอิ่มแล้ว เหมาะกับคนที่ทานได้ 4 เมนูขึ้นไปถึงจะคุ้มราคาบุฟเฟ่ต์มื้อนี้ อีกทั้งรสชาติอาหารยังเข้มข้นแบบเดียวกับที่เสิร์ฟเป็นชุดไว้ทานพร้อมกับข้าว ทำให้ทานได้ไม่เยอะ แต่ถ้าใครเป็นคนที่ทานเยอะอยู่แล้ว หรือรู้สึกอึดอัดใจว่าเข้าไปร้าน Pepper Lunch ทีไรไม่กล้าสั่งเมนูราคาสูงมาทาน บุฟเฟ่ต์รอบนี้ถือเป็นโอกาสที่จะได้ชิมของที่อยากลองเลยครับ ส่วนรีวิวนี้ผมขอให้คะแนนความอร่อย/ความคุ้มค่าบุฟเฟ่ต์ Pepper Lunch ไว้ 4 ดาวครับ🌟🌟🌟🌟

พิกัด : เดอะมอลล์ท่าพระ ชั้น 1 ถนนรัชดาภิเษก แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600
เปิดทุกวัน 10.30 - 22.00 น. โทร. 02-477-7172 
Facebook : https://www.facebook.com/pepperlunchthailand/
ลิงค์ Google Maps : https://goo.gl/maps/Qc9s3XehYmw2NqmP9