https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3094778
จีนขู่อีก ตอบโต้เด็ดขาด หลัง ทรัมป์ ลงนามใช้กฎหมายสิทธิมนุษยชน หนุนม็อบฮ่องกง!!!
28/11/2019
เอเอฟพี และ บีบีซี รายงานสถานการณ์ความสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ
สหรัฐอเมริกา และจีน เมื่อ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามบังคับใช้
กฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง
ภายหลังสภาคองเกรสลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายทรัมป์กล่าวว่าอาจใช้สิทธิวีโต้ไม่เห็นชอบกับร่างกฎหมาย
สนับสนุนผู้ประท้วงฮ่องกง ซึ่งยังรวมตัวชุมนุมต่อต้านรัฐบาลท้องถิ่น รวมถึงจีนแผ่นดินใหญ่
เพราะต้องการปูทางที่จะนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน
ส่งผลให้รัฐบาลจีนไม่พอใจและออกแถลงว่าจะใช้มาตรการเด็ดขาดตอบโต้สหรัฐ
ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุถึงการตัดสินใจลงนามในร่างกฎหมายฉบับนี้ว่า
ตนมีความเคารพใน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และหวังว่าบรรดาผู้นำ
รวมทั้งผู้แทนของจีนกับฮ่องกง จะสามารถแก้วิกฤตความเห็นต่างด้วยไมตรีจิต
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงตำหนิการเคลื่อนไหวของสหรัฐว่า
“แก่นแท้ของกรณีนี้ช่างน่ารังเกียจอย่างยิ่งยวด
และเป็นความพยาบาทที่มีจุดประสงค์มุ่งร้ายอย่างสมบูรณ์”
สหรัฐใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างชัดเจน การกระทำนี้เข้าข่ายละเมิดกฎหมาย
และแนวทางปฏิบัติว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รัฐบาลสหรัฐสนับสนุนอาชญากร
ที่ใช้ความรุนแรงซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อระเบียบสังคม รวมถึงต้องการทำลายความมั่นคงของฮ่องกง
จีนขอแนะนำให้สหรัฐเลิกดันทุรังทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้แล้ว มิฉะนั้นจีนจะใช้มาตรการเด็ดขาด
และฝ่ายสหรัฐต้องยอมรับผลลัพธ์ทั้งหมดที่จะตามมา อย่างไรก็ตาม
ในแถลงไม่ได้ชี้ชัดถึงวิธีตอบโต้ที่จีนจะดำเนินการกับสหรัฐ
ทั้งนี้ สื่อมวลชนขอให้นายทรัมป์ส่งสารถึงชาวฮ่องกงที่ลงคะแนนเลือกพรรคหนุรนประชาธิปไตย
จนคว้าชัยชนะศึกเลือกตั้งสภาเขต ครองที่นั่งข้างมากใน 17 เขตจากทั้งหมด 18 เขต เมื่อ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดยนายทรัมป์กล่าวว่า “เราอยู่ข้างพวกเขา อย่างที่คุณก็รู้ๆ กัน ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ
กับประธานาธิบดีสี เราอยู่ในช่วงสุดท้ายของข้อตกลงที่สำคัญยิ่ง คุณอาจพูดได้ว่า
เป็นหนึ่งในข้อตกลงทางการค้าที่สำคัญที่สุดตลอดกาล และมันจะประสบความสำเร็จ
แต่ขณะเดียวกันเราก็อยากเห็นฮ่องกงเดินหน้าไปด้วยดี ผมคิดว่าประธานาธิบดีสี
สามารถทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ ผมรู้จักเขา และผมรู้ว่าเขาก็ต้องการที่จะทำเช่นกัน” นายทรัมป์กล่าว
https://mgronline.com/china/detail/9620000114026
ฮ่องกง Trump ลงนาม กฎหมาย สิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง!!! ไฟเขียวแทรกแซง!!!
28/11/2019
เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ (28 พ.ย.) โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในพระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชน
และประชาธิปไตยของฮ่องกง ปักกิ่งโต้การลงนามดังกล่าวว่าเป็น "การแทรกแซง"
และหากผู้นำสหรัฐลงนามจักได้รับ "ผลที่ตามมา" ทรัมป์โต้
ลงนามด้วยความเคารพต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง, ประเทศจีน และประชาชนชาวฮ่องกง
รายงานข่าวกล่าวว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (27 พ.ย.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ ทรัมป์
ได้ลงนามในกฎหมายกฎหมายที่สามารถนำมาดำเนินการทางการทูตและการลงโทษ
ทางเศรษฐกิจกับฮ่องกง ไม่แยแสคำเตือนของทางการจีนกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว
ทำเนียบขาวกล่าวในแถลงการณ์ “พระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง
และแก้ไขพระราชบัญญัตินโยบายสหรัฐอเมริกา
ฮ่องกงปี พ.ศ. 2535 ระบุนโยบายของสหรัฐฯ ที่มีต่อฮ่องกง
รวมถึงการประเมินผลการพัฒนาการเมืองในฮ่องกง”
“บทบัญญัติบางประการให้อำนาจตามรัฐธรรมนูญของประธานาธิบดี ในการกระทำ
แทรกแซงในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา”
กฎหมายดังกล่าวได้กระตุ้นการรุกกลับจากรัฐบาลจีนซึ่งในวันจันทร์ที่ผ่านมา
ได้เรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศจีน นายเทอร์รี่ แบรนดส
เพื่อเตือนว่าการผ่านกฎหมายของสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเป็นการ
"การแทรกแซง" ในกิจการภายในของประเทศจีน
โดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมาย ซึ่งจะห้ามการขายอาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯ
เช่นแก๊สน้ำตาและกระสุนยางให้กับเจ้าหน้าที่ของเมือง
“ผมลงนามในกฎหมายเหล่านี้ด้วยความเคารพต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง,
ประเทศจีน และประชาชนชาวฮ่องกง” ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าวของทำเนียบขาว
“กฎหมายดังกล่าวถูกตราขึ้นมาด้วยความหวังว่าผู้นำและผู้แทนของจีน
และฮ่องกงจะสามารถใช้ความแตกต่างอย่างเป็นมิตรเพื่อนำไปสู่สันติภาพ
และความเจริญรุ่งเรืองในระยะยาวสำหรับทุกคน”
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เจิ้ง เจ้อกวง ได้เรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ
ประจำประเทศจีน นายเทอร์รี่ แบรนดส
เพื่อประท้วงเป็นครั้งที่สามจากรัฐบาลปักกิ่งในเวลาไม่ถึงสัปดาห์
“ผลที่เกิดขึ้นทั้งหมด [จากพระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของฮ่องกง]
จะต้องตกเป็นภาระของสหรัฐอเมริกา” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
กล่าวหลังจากการพบปะกับ แบรนดส
กฎหมายจะอนุญาตให้วอชิงตันระงับสถานะการค้าพิเศษของฮ่องกง นอกจากนี้ยังจะให้
ดุลยพินิจของกระทรวงการต่างประเทศแก่ผู้ที่ถูกลงโทษจากจีนแผ่นดินใหญ่
ในข้อหาบ่อนทำลายเขตปกครองตนเองของฮ่องกง และสั่งเจ้าหน้าที่ไม่ให้ปฏิเสธวีซ่า
ให้กับบุคคลผู้เคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ถูกจับกุมหรือถูกคุมขังในฮ่องกง
วุฒิสมาชิกแห่งฟลอริดา มาร์โค รูบิโอ กล่าวว่า ด้วยการออกกฎหมายของสหรัฐฯ ขณะนี้
สหรัฐฯ มี“ เครื่องมือใหม่ที่ใช้เพื่อยับยั้งอิทธิพล
และการแทรกแซงจากปักกิ่งเข้าสู่กิจการภายในของฮ่องกง”
ทั้งนี้การลงนามกฎหมายฯ ของทรัมป์เกิดขึ้นในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในฮ่องกง
ซึ่งการประท้วงต่อต้านรัฐบาล เกิดจากข้อเสนอร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน
และขยายสู่การเรียกร้องปฏิรูปประชาธิปไตยและเรียกร้องความรับผิดชอบ
ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ประท้วงของตำรวจ
ผู้ประท้วงหลายคนเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนการประท้วงของพวกเขา
กฎหมายนี้เป็นอีกความคืบหน้าหนึ่ง หลังชัยชนะอย่างถล่มทลายของพรรคประชาธิปไตย
ในการเลือกตั้งท้องถิ่นของฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
โดยมีค่ายผู้สนับสนุนประชาธิปไตยคว้าชัยชนะใน 17 เขต จาก 18 เขต
“หลังจากการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในฮ่องกง ซึ่งรวมไปถึงกฏหมายใหม่นี้
ไม่มีจังหวะอะไรเหมาะสมไปกว่านี้แล้ว ในการแสดงการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ
กับอิสรภาพอันควรค่าการหวงแหนของชาวฮ่องกง” วุฒิสมาชิกฯ กล่าว
https://mgronline.com/china/detail/9620000114026
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3094778
https://www.dailynews.co.th/foreign/743992
https://www.bbc.com/news/world-asia-china-50581862
https://www.theguardian.com/us-news/2019/nov/27/trump-hong-kong-bills-signed-china-protest
https://www.aljazeera.com/news/2019/11/trump-approves-legislation-backing-hong-kong-protesters-191128002853679.html
https://twitter.com/freehkleeds/status/1199898455981936642
https://ppantip.com/topic/39436494
ฮ่องกง ผลเลือกตั้งท้องถิ่น ฝ่ายประชาธิปไตย ชนะถล่มทลาย!!! ฝ่ายจีนแดง แพ้ยับ!!!
ฮ่องกง Trump ลงนาม กฎหมาย สิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง!!! ไฟเขียวแทรกแซง!!!
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3094778
จีนขู่อีก ตอบโต้เด็ดขาด หลัง ทรัมป์ ลงนามใช้กฎหมายสิทธิมนุษยชน หนุนม็อบฮ่องกง!!!
28/11/2019
เอเอฟพี และ บีบีซี รายงานสถานการณ์ความสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ
สหรัฐอเมริกา และจีน เมื่อ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามบังคับใช้
กฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง
ภายหลังสภาคองเกรสลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายทรัมป์กล่าวว่าอาจใช้สิทธิวีโต้ไม่เห็นชอบกับร่างกฎหมาย
สนับสนุนผู้ประท้วงฮ่องกง ซึ่งยังรวมตัวชุมนุมต่อต้านรัฐบาลท้องถิ่น รวมถึงจีนแผ่นดินใหญ่
เพราะต้องการปูทางที่จะนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน
ส่งผลให้รัฐบาลจีนไม่พอใจและออกแถลงว่าจะใช้มาตรการเด็ดขาดตอบโต้สหรัฐ
ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุถึงการตัดสินใจลงนามในร่างกฎหมายฉบับนี้ว่า
ตนมีความเคารพใน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และหวังว่าบรรดาผู้นำ
รวมทั้งผู้แทนของจีนกับฮ่องกง จะสามารถแก้วิกฤตความเห็นต่างด้วยไมตรีจิต
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงตำหนิการเคลื่อนไหวของสหรัฐว่า
“แก่นแท้ของกรณีนี้ช่างน่ารังเกียจอย่างยิ่งยวด
และเป็นความพยาบาทที่มีจุดประสงค์มุ่งร้ายอย่างสมบูรณ์”
สหรัฐใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างชัดเจน การกระทำนี้เข้าข่ายละเมิดกฎหมาย
และแนวทางปฏิบัติว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รัฐบาลสหรัฐสนับสนุนอาชญากร
ที่ใช้ความรุนแรงซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อระเบียบสังคม รวมถึงต้องการทำลายความมั่นคงของฮ่องกง
จีนขอแนะนำให้สหรัฐเลิกดันทุรังทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้แล้ว มิฉะนั้นจีนจะใช้มาตรการเด็ดขาด
และฝ่ายสหรัฐต้องยอมรับผลลัพธ์ทั้งหมดที่จะตามมา อย่างไรก็ตาม
ในแถลงไม่ได้ชี้ชัดถึงวิธีตอบโต้ที่จีนจะดำเนินการกับสหรัฐ
ทั้งนี้ สื่อมวลชนขอให้นายทรัมป์ส่งสารถึงชาวฮ่องกงที่ลงคะแนนเลือกพรรคหนุรนประชาธิปไตย
จนคว้าชัยชนะศึกเลือกตั้งสภาเขต ครองที่นั่งข้างมากใน 17 เขตจากทั้งหมด 18 เขต เมื่อ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดยนายทรัมป์กล่าวว่า “เราอยู่ข้างพวกเขา อย่างที่คุณก็รู้ๆ กัน ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ
กับประธานาธิบดีสี เราอยู่ในช่วงสุดท้ายของข้อตกลงที่สำคัญยิ่ง คุณอาจพูดได้ว่า
เป็นหนึ่งในข้อตกลงทางการค้าที่สำคัญที่สุดตลอดกาล และมันจะประสบความสำเร็จ
แต่ขณะเดียวกันเราก็อยากเห็นฮ่องกงเดินหน้าไปด้วยดี ผมคิดว่าประธานาธิบดีสี
สามารถทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ ผมรู้จักเขา และผมรู้ว่าเขาก็ต้องการที่จะทำเช่นกัน” นายทรัมป์กล่าว
https://mgronline.com/china/detail/9620000114026
ฮ่องกง Trump ลงนาม กฎหมาย สิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง!!! ไฟเขียวแทรกแซง!!!
28/11/2019
เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ (28 พ.ย.) โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในพระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชน
และประชาธิปไตยของฮ่องกง ปักกิ่งโต้การลงนามดังกล่าวว่าเป็น "การแทรกแซง"
และหากผู้นำสหรัฐลงนามจักได้รับ "ผลที่ตามมา" ทรัมป์โต้
ลงนามด้วยความเคารพต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง, ประเทศจีน และประชาชนชาวฮ่องกง
รายงานข่าวกล่าวว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (27 พ.ย.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ ทรัมป์
ได้ลงนามในกฎหมายกฎหมายที่สามารถนำมาดำเนินการทางการทูตและการลงโทษ
ทางเศรษฐกิจกับฮ่องกง ไม่แยแสคำเตือนของทางการจีนกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว
ทำเนียบขาวกล่าวในแถลงการณ์ “พระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง
และแก้ไขพระราชบัญญัตินโยบายสหรัฐอเมริกา
ฮ่องกงปี พ.ศ. 2535 ระบุนโยบายของสหรัฐฯ ที่มีต่อฮ่องกง
รวมถึงการประเมินผลการพัฒนาการเมืองในฮ่องกง”
“บทบัญญัติบางประการให้อำนาจตามรัฐธรรมนูญของประธานาธิบดี ในการกระทำ
แทรกแซงในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา”
กฎหมายดังกล่าวได้กระตุ้นการรุกกลับจากรัฐบาลจีนซึ่งในวันจันทร์ที่ผ่านมา
ได้เรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศจีน นายเทอร์รี่ แบรนดส
เพื่อเตือนว่าการผ่านกฎหมายของสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเป็นการ
"การแทรกแซง" ในกิจการภายในของประเทศจีน
โดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมาย ซึ่งจะห้ามการขายอาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯ
เช่นแก๊สน้ำตาและกระสุนยางให้กับเจ้าหน้าที่ของเมือง
“ผมลงนามในกฎหมายเหล่านี้ด้วยความเคารพต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง,
ประเทศจีน และประชาชนชาวฮ่องกง” ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าวของทำเนียบขาว
“กฎหมายดังกล่าวถูกตราขึ้นมาด้วยความหวังว่าผู้นำและผู้แทนของจีน
และฮ่องกงจะสามารถใช้ความแตกต่างอย่างเป็นมิตรเพื่อนำไปสู่สันติภาพ
และความเจริญรุ่งเรืองในระยะยาวสำหรับทุกคน”
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เจิ้ง เจ้อกวง ได้เรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ
ประจำประเทศจีน นายเทอร์รี่ แบรนดส
เพื่อประท้วงเป็นครั้งที่สามจากรัฐบาลปักกิ่งในเวลาไม่ถึงสัปดาห์
“ผลที่เกิดขึ้นทั้งหมด [จากพระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของฮ่องกง]
จะต้องตกเป็นภาระของสหรัฐอเมริกา” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
กล่าวหลังจากการพบปะกับ แบรนดส
กฎหมายจะอนุญาตให้วอชิงตันระงับสถานะการค้าพิเศษของฮ่องกง นอกจากนี้ยังจะให้
ดุลยพินิจของกระทรวงการต่างประเทศแก่ผู้ที่ถูกลงโทษจากจีนแผ่นดินใหญ่
ในข้อหาบ่อนทำลายเขตปกครองตนเองของฮ่องกง และสั่งเจ้าหน้าที่ไม่ให้ปฏิเสธวีซ่า
ให้กับบุคคลผู้เคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ถูกจับกุมหรือถูกคุมขังในฮ่องกง
วุฒิสมาชิกแห่งฟลอริดา มาร์โค รูบิโอ กล่าวว่า ด้วยการออกกฎหมายของสหรัฐฯ ขณะนี้
สหรัฐฯ มี“ เครื่องมือใหม่ที่ใช้เพื่อยับยั้งอิทธิพล
และการแทรกแซงจากปักกิ่งเข้าสู่กิจการภายในของฮ่องกง”
ทั้งนี้การลงนามกฎหมายฯ ของทรัมป์เกิดขึ้นในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในฮ่องกง
ซึ่งการประท้วงต่อต้านรัฐบาล เกิดจากข้อเสนอร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน
และขยายสู่การเรียกร้องปฏิรูปประชาธิปไตยและเรียกร้องความรับผิดชอบ
ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ประท้วงของตำรวจ
ผู้ประท้วงหลายคนเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนการประท้วงของพวกเขา
กฎหมายนี้เป็นอีกความคืบหน้าหนึ่ง หลังชัยชนะอย่างถล่มทลายของพรรคประชาธิปไตย
ในการเลือกตั้งท้องถิ่นของฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
โดยมีค่ายผู้สนับสนุนประชาธิปไตยคว้าชัยชนะใน 17 เขต จาก 18 เขต
“หลังจากการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในฮ่องกง ซึ่งรวมไปถึงกฏหมายใหม่นี้
ไม่มีจังหวะอะไรเหมาะสมไปกว่านี้แล้ว ในการแสดงการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ
กับอิสรภาพอันควรค่าการหวงแหนของชาวฮ่องกง” วุฒิสมาชิกฯ กล่าว
https://mgronline.com/china/detail/9620000114026
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3094778
https://www.dailynews.co.th/foreign/743992
https://www.bbc.com/news/world-asia-china-50581862
https://www.theguardian.com/us-news/2019/nov/27/trump-hong-kong-bills-signed-china-protest
https://www.aljazeera.com/news/2019/11/trump-approves-legislation-backing-hong-kong-protesters-191128002853679.html
https://twitter.com/freehkleeds/status/1199898455981936642
https://ppantip.com/topic/39436494
ฮ่องกง ผลเลือกตั้งท้องถิ่น ฝ่ายประชาธิปไตย ชนะถล่มทลาย!!! ฝ่ายจีนแดง แพ้ยับ!!!