Frozen 2 หนังภาคต่อที่น่าเสียดาย



ออกตัวก่อนนะครับ ผมเป็นคนชอบดูหนังของ Disney มาโดยตลอด แต่ Frozen 2 นี้ ไม่สนุกอย่างที่คาดหวังไว้ 

ไม่ใช่ว่าหนังแย่จนดูไม่ได้ แต่น่าเสียดายที่หลายๆอย่างมันทำมาได้ขัดใจจริงๆ เดียววิเคราะห์เป็นส่วนๆไป 

1. ภาพ 

ถือว่าทำได้ดี เนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงทำให้ภาพสวยขึ้น ฉากหลายๆฉากทำได้ตระการตา ให้คะแนนเรื่องภาพดีมากครับ 

2. เพลง

ไม่ได้แย่ แต่ไม่น่าจดจำเท่าภาคแรก (Let it go) ที่กลายเป็น talk of the town ภายในชั่วเวลากี่วันที่หนังออกฉาย จนกลายเป็นตำนานเพลงประกอบภาพยนต์ที่มีคนรู้จักมากที่สุด ดูเหมือนหนังเรื่องนี้จะพยายามดัน Into the unknown แต่ก็สร้างกระแสไม่ติด 

อีกจุดที่หลายๆคนบ่นมา และตัวผมเองก็รู้สึกคือ เพลงประกอบภาพยนต์เยอะมาก จนกลายเป็นหนัง Musical ไปเรียบร้อย 

3. เนื้อเรื่อง

Disney พยายามทำให้หนัง Frozen 2 โตขึ้นตามเวลาที่ห่างกับภาคแรกหลายปี จึงให้ตัวละครได้ออกผจญภัยเพื่อเปิดเรื่องให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งกลายเป็นจุดด้อยของหนังไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลในหลายๆตอน 

-เรื่องของจิตวิญญาณทั้ง 4 ที่ชวนมึนงง อยู่ดีๆ ก็มาเรียก เอลซ่า แบบไม่มีเหตุผล เอลซ่าก็ไปตอบรับ และโกรธขึ้นมา ทำลายเมืองซะงั้น 
-ไปเจอจิตวิญญาณทั้ง 4 (จิ้งเหลน, ม้า, มนุษย์หินยักษ์, ลมที่ไม่มีตัวตน) กลายเป็นตัวละครแปลกๆ ที่ดูไม่มีพิษมีภัย แล้วไปมีพลังทำลายเมืองได้ยังไง? 
-แม่น้ำแห่งความทรงจำ (อัลโต...อะไรนี้ละ) ที่เข้าใจยากว่ามันคืออะไร (แล้ว เอลซ่าทำไมอยู่ดีๆก็โดนแช่แข็งไป??) 
-เรื่องพ่อแม่ของเอลซ่า ที่น่าจะทำให้ซึ้งได้มากกว่า 
-คนที่โดนกักตัวอยู่ในป่า 34 ปี ออกมาแบบเก้ๆกังๆ character ไม่ชัดเจน 
-ทำลายเขื่อนแล้วเรื่องจบแค่นี้? 
-เอลซ่า ทิ้งเมืองตอนจบไปดูแลป่า แบบเร็วไปไหม 
และอีกหลายๆครั้ง ที่ทำได้แย่กว่าที่คิด

ยังดีที่มีโอราฟ ตัวฮาของเรื่อง ที่แบกเรื่องให้ยังมีความสนุกอยู่ 

4. พัฒนาตัวละคร

เอลซ่า - ไม่ได้มีการพัฒนาการของการเป็นราชินีให้เห็น 
แอนนา - ดูโตขึ้น อันนี้โอเค 
คริสตอฟ - บ้าผู้หญิงขึ้น แทนที่จะเอาเวลามาช่วยคิดหาทางออก ให้เมืองรอดพ้นจากภัยพิบัติ เอาแต่คิดหาทางขอแอนนาแต่งงาน อันนี้ไร้สาระมากๆ 
โอราฟ - ตลกเสมอต้นเสมอปลาย 
กวาง - no comment 

สรุปทั้งหมด น่าเสียดายที่ไม่สามารถสู้ภาคแรกได้เลย 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่