แชร์ประสบการณ์เรียนภาษาจีนที่ เมืองฮาร์บิน

กระทู้สนทนา

เรียนภาษาที่ต่างประเทศ เรียนต่อต่างประเทศ ชีวิตในต่างแดน ประเทศจีน เรียนภาษาระยะสั้น

สวัสดีค่าทุกคนนนน นี่เป็นกระทู้แรกของเราน้า เพิ่งหัดเขียนเลย เราอยากมาแชร์ประสบการณ์การเรียนภาษาจีนที่ประเทศจีนให้ได้อ่านกัน

เผื่อจะเป็นแนวทางหรือเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนที่กำลังสนใจอยากมาเรียนต่อที่ประเทศจีนกัน

ก่อนอื่นขอเล่าก่อนเลยว่าสาเหตุที่เรามาเลือกเรียนภาษาจีนเนี่ย เพราะอยากได้ภาษาที่สามเพิ่ม เนื่องจากตอนที่เรียนปริญญาตรี เราเรียนอยู่ที่มหาลัย

แม่ฟ้าหลวง ซึ่งเป็นที่รู้ๆกันอยู่แล้วว่ามหาลัยแห่งนี้ทุกวิชา ทุกสาขา จะมีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด และถามว่าสำหรับเราทุกวันนี้

แค่ภาษาอังกฤษพอมั้ย บอกเลยว่า ไม่พอจ้าา อย่างที่ทุกคนรู้ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้กันทั่วโลก เป็นภาษากลางที่ใช้ในการสื่อสาร

และคนส่วนใหญ่ก็หันมาให้ความสนใจและใส่ใจกับภาษาอังกฤษกันมากขึ้น ซึ่งก็หมายความว่าคู่แข่งในการทำงานของเราก็เยอะขึ้นไปด้วย

และตรงนี้แหละที่เป็นจุดที่ทำให้เราเลือกที่จะหาภาษาที่สามเพิ่มมาอีกภาษานึงเพื่อให้เป็นข้อได้เปรียบทางด้านการทำงานหรือการทำธุรกิจ

เราเลยตัดสินใจเลือกที่จะเรียนภาษาจีน และสำหรับเรา เราคิดว่าการที่จะเรียนภาษาจีนให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและไวที่สุด ก็คือ...

การที่เราเรียนภาษากับของเจ้าของภาษาและไปอยู่ในที่ที่เราได้มีโอกาสได้ใช้ภาษานั้นอย่างเต็มที่

ดังนั้น..เราจึงตัดสินใจไปเรียนภาษาจีน ที่ประเทศจีน นั่นเองงงง

จากนั้นเราก็ทำการหาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการเรียนภาษาจีนที่ประเทศจีน ทั้งเรียนที่ไหนดี เมืองไหนดี ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

ชีวิตการเป็นอยู่เป็นยังไง ค่าครองชีพสูงมั้ย บลาๆๆๆ จนสุดท้ายเราก็เลือกเมืองและสถาบันที่เราอยากเรียน และไม่รอช้า ทำการสมัครเรียนเลยจ้าาา

โอเคคคคค หลังจากที่เราเกริ่นนำไปเยอะพอสมควร 555555 และจากนี้ไปเราจะมารีวิวว่าการเรียนภาษาที่จีนเนี่ย เป็นยังไงบ้าง

ขอบอกก่อนเลย เราเรียนอยู่ที่มหาลัย Harbin Institute of Technology (HIT) เป็นมหาลัยที่ขึ้นชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์และอวกาศจ้าาา

1. ชีวิต 1 วันของนักเรียนที่เรียนภาษาจีน (留学生)

- นักเรียนต่างชาติอย่างเราที่มาเรียนภาษาจีนเนี่ย ในแต่ละวันจะมีความคล้ายกันเลย คือเราจะมีเรียนสัปดาห์ละ 5 วัน (จันทร์-ศุกร์)

ใน 1 วัน ก็คือ ตื่นนอน > อาบน้ำ > ไปเรียน > กินข้าวเที่ยง(ข้าวเช้ากินไม่ทัน 5555) > กลับหอ > ทำการบ้าน/ท่องศัพท์ > กินข้าวเย็น > อ่านหนังสือ

(อ่านหนังสือล่วงหน้าเพื่อเตรียมเรียนในวันต่อไป เวลาเหล่าซือสอนจะได้เข้าใจมากขึ้น) เป็นแบบนี้ทุกวัน เพราะจะทำให้ภาษาจีนของเรานั้นพัฒนาไวขึ้น

เราจะเรียนครึ่งวัน และอีกครึ่งวันคือทำการบ้านนั่นเอง (อาจจะคิดว่าโหดใช่ม้าาา ไม่โหดขนาดนั้นหรอกกก อิอิ )

ซึ่งเวลาเรียนเนี่ยจะมี 2 ช่วง คือ ช่วงเช้า (8.00-11.40) และ ช่วงบ่าย (13.00-16.30)

พอถึงเสาร์-อาทิตย์เราก็พักผ่อนได้ เที่ยวได้ สบายยยยยยยยยยยยย

- ในส่วนของคลาสเรียนนั้น ก็จะมีตั้งแต่คลาส A-F กันเลยทีเดียว (คลาสA คือคลาสเริ่มแรกเลยสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีนมาก่อน เหล่าซือที่สอน

ก็จะใช้ภาษาอังกฤษในการสอน) ยิ่งคลาสสูงมากเท่าไหร่ความยากก็จะมากขึ้นไปเรื่อยๆ

เมื่อเรียนจบคลาสก็สามารถฟังและพูดคุยสื่อสารกับคนจีนได้ในระดับนึงกันเลยทีเดียว ตอนเรามาครั้งแรกเราก็อยู่คลาสA เหมือนกันจ้าา เมื่อเรียนจบ 1เทอม รู้สึกเลยว่าภาษาของเราดีขึ้นมากกก จากคนที่พูดจีนไม่ได้เลย (ยกเว้นหนี่ห่าว กับ หว่ออ้านหนี่ อ่ะนะ 555555) และเรายังสามารถใช้ชีวิตที่นี่ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นอีกด้วย

- ในแต่ละห้องเรียนก็จะมีนักเรียนหลากหลายเชื้อชาติมาเรียนด้วยกัน บอกเลยยิ่งสนิทกัน ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศในห้องเรียนสนุกมาก

เพื่อนๆต่างชาติน่ารักทุกคนเลย คุยง่าย ช่วยเหลือกันเรื่องการเรียนตลอดมีอะไรสามารถปรึกษากันได้ บางครั้งก็สอนภาษาบ้านเค้าให้เราพูดเล่นกันด้วย

เรียกได้ว่าเป็นการแลกเรียนภาษาและวัฒนธรรมที่แท้ทรู 5555555

รูปนี้คือเหล่าซือพานักเรียนออกมาทำกิจกรรมนอกสถานที่กันจ้าา เพื่อนๆในห้องเรียนเราเองงง smile

ซึ่งตอนนี้ เราเองก็เรียนมาจะครบ 1ปีแล้ว สามารถสื่อสารกับคนจีนได้คล่องขึ้น และก็ตั้งใจว่าจะเรียนต่ออีกสักระยะเพื่อให้สามารถสื่อสารภาษาจีน

ได้คล่องขึ้นกว่าเดิม wink

2. การคมนาคมต่างๆเป็นยังไง สะดวกสบายดีมั้ย?

- ขอบอกเลยว่า การคมนาคมที่นี่คือดี ดีมากกกกกกกก สะดวกสบายที่สุด เพราะอะไรน่ะหรอ? ก็เพราะว่าค่าโดยสารของรถขนส่งสาธารณะนั้น ถูกมากกกก

ค่ารถเมล์เพียงแค่ 1-2 หยวนเท่านั้น (5-10 บาท) ขอบอกเลยว่า ราคานี้ตลอดสายจ้าาาาาา

ค่ารถไฟใต้ดินก็ 2-5 หยวน (10-50 บาท) ขึ้นอยู่กับระยะทางว่าใกล้หรือไกล ต้องเปลี่ยนสายรถไฟมั้ย

ค่ารถแท็กซี่ เริ่มต้นที่ 8 หยวน (ประมาณ 40บาท)

อูเบอร์แบบบ้านเราก็มีนะ สามารถเรียกรถจากแอพได้เลย ราคาก็ขึ้นอยู่กับระยะทางเช่นกันจ้าา

การเดินทางไปยังที่ต่างๆในเมือง สะดวกสบายแน่นอนเพราะทั้งรถเมล์และรถไฟใต้ดินทั่วถึงอย่างแน่นอน หายห่วงได้

3. การกิน การอยู่ และความปลอดภัย

- ส่วนในเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ เราอยู่หอในมอ เป็นหอเฉพาะนักเรียนต่างชาติเท่านั้น (A13 留学生公寓)

ใน 1ห้อง(อยู่ 4 คน) จะมี 2 ห้องนอน (2คน 1ห้องนอน) ห้องน้ำและห้องครัว เรื่องความปลอดภัยคือหายห่วงเลย เพราะจะมีอาอี๋และคุณลุงตำรวจคอยดูแลอยู่ตรงทางเข้า-ออกหอพักตลอด 24ชม. และสิ่งที่มหัศจรรย์มาก คือ อาอี๋ที่หอพักจำชื่อของเด็กทุกคนที่อยู๋ในหอได้จ้าาาาาา

แบบว่าเด็ก100กว่าคน คือเรียกชื่อถูกหมดทุกคนจ้าาา

- ส่วนในเรื่องการใช้เงินในแต่ละเดือนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเลยจ้าาา อย่างเราใช้เดือนละประมาณ 2,000 หยวน (10,000 บาท)

- ส่วนเรื่องอาหารการกินของคนที่นี่ ด้วยความที่ฮาร์บินเป็นเมืองหนาว อาหารจีนส่วนใหญ่ก็จะมีความมันอยู่สูง แต่อร่อยนะ

เมนูยอดฮิตก็จะเป็นหม่าล่าทัง 麻辣烫, หั่วกัว 火锅 (คล้ายชาบูบ้านเรา)，กัวเปาโร่ 锅包肉และอีกหลายเมนู

นอกจากอาหารจีนแล้ว รอบๆมอก็ยังมีร้านอาหารเกาหลี จำพวกปิ้งย่างอยู่อีกมากมาย อร่อยๆทั้งนั้นเลย (น้ำหนักแอบมีขยับขึ้นบ้าง อิอิ)

อาหารจานเดี่ยวเฉลี่ยราคาประมาณ 15-30 หยวน ราคานี้บอกเลยว่า ถ้าเทียบกับปริมาณอาหารที่ได้แล้วคือคุ้มมาก เพราะเค้าให้เยอะมากกกกกกก

และอีกทางเลือกนึงสำหรับคนที่อยากประหยัดมากกว่านี้ ขอแนะนำโรงอาหารในมอเลยจ้าา มี 4 โรงใหญ่ๆ ทั้งเยอะและถูกมาก

ราคาประมาณ 10-13 หยวนเท่านั้น แถมยังมีอาหารให้เลือกเยอะแยะมากมาย แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาเลิกเรียนคนก็จะเยอะหน่อย ชนิดที่ไม่มีที่นั่งเลย

ตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายแล้วววว ยังอ่านกันอยู่มั้ยน้าาา

ขอพูดโดยรวมเลยว่าการเรียนภาษาจีนที่นี่คือดีจริงๆ เห็นผลไวมาก เพราะการใช้ชีวิตของเราที่นี่นั้นต้องใช้ภาษาจีนในการสื่อสารตลอด

จึงทำให้เราได้ฝึกและพัฒนาภาษาของเราอยู่ทุกๆวัน เหล่าซือก็สอนดี อธิบายหลักการใช้ศัพท์ต่างๆได้ละเอียดมาก

ฮาร์บินถือเป็นเมืองที่สำเนียงภาษาจีนกลางชัดมากที่สุด ง่ายต่อการฟังด้วย ในส่วนของค่าครองชีพและค่าเทอม รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆถูกมากกกก

ในช่วงหน้าหนาว ก็จะมีเทศกาลน้ำแข็ง ซึ่งคนจีนส่วนใหญ่ก็จะชอบมาเที่ยวในช่วงนี้กันเยอะมาก เพราะเค้ามีการนำเอาน้ำจากแม่น้ำมาปั้นเป็นรูปปั้นต่างๆ แถมยังมีการประดับโคมไฟที่สวยงามอีกด้วย สุดยอดไปเลยยยยย