▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ชีวิตในต่างแดน
เรียนภาษาที่ต่างประเทศ
ภาพถ่ายทิวทัศน์
《แชร์ประสบการณ์》 Summer จีนกลางสำเนียงเป๊ะ กับงบ 3 หมื่น in ฮาร์บินมอสโกแห่งตะวันออก!
ไหนๆก็เล่าแล้วเล่าแบบละเอียดยิบเลยละกัน อย่างที่บอกไปแหละค่ะหมิวเรียนเอกจีน เลยอยากจะลองไปเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมจากคนจีนจริงๆ เลยตัดสินใจว่าปิดเทอมSummerนี้ฉันจะไปเรียนภาษาที่จีน แต่ ! ไปเมืองไหนดีหล่ะ? พอตัดสินใจแน่ว่าจะไปก็เริ่มหาข้อมูลค่ะ ตอนแรกลังเลระหว่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หาไปหามาดันเจอโพสต์ของเพจนึง โพสต์ว่า " ฮาร์บินไม่ได้มีดีแค่หน้าหนาว " พร้อมกับภาพนี้
ตอนนั้นในใจแบบเหยดด เมืองอย่างกับยุโรป สถาปัตยกรรมนี่แบบรัสเซียชัดๆ เมืองนี้อยู่ในจีนจริงๆป่ะวะ เลยกดเข้าไปดูถึงรู้ว่าเพจนี้เป็นให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนภาษาที่เมืองฮาร์บิน ไม่รอช้า inbox จ้าคุณผู้โชม พอทักไปก็มีพี่คนนึงขอเบอร์ติดต่อเรา ก็ทิ้งไว้ให้ พี่เขาก็โทรมาแนะนำตัวว่าชื่อพี่เอ็ม พี่เขาช่วยงานให้กับอาจารที่มหาลัย HIT โดยตรง จากนั้นก็อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการให้ฟัง แล้วคือแบบอึ้งมากที่พี่เขาบอกว่ามหาลัยนี้เป็นมหาลัยอันดับ 8 ของจีน แต่ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดแค่ประมาณ 3 หมื่นนิดๆ ไม่มีเก็บเพิ่มนะครับน้องไม่มีค่าดำเนินการด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมดจ่ายโดยตรงที่มหาวิทยาลัย นี่แบบคิดในใจว่าถูกเว่อะ 1 เดือน 3 หมื่นกว่ารวมทุกอย่างแล้วจะโดนหลอกไปขายป่ะเนี่ย พี่เขาก็ให้ความเชื่อมั่นเราเต็มที่โดยส่งเอกสารของทางมหาวิทยาลัยประจำตัวพี่เค้ามาให้ดูและแอบไปส่องในเฟสส่วนตัวพี่เค้ามา เลยตัดสินใจเอาเมืองนี้แหละ เมืองสวย พี่เขาบอกว่าภาษาจีนกลางที่นี่สำเนียงดีด้วย สำคัญสุดถูกกว่าเมืองที่ดูไว้เป็นเท่าตัว พอตัดสินใจสมัครพี่เขาก็ดึงเราเข้ากรุ๊ป wechat ในกรุ้ปนี้พี่เขาจะคอยแจ้งข้อมูลและการเตรียมตัวต่างๆ ทีนี้ก็จัดการจองตั๋ว ขอวีซ่า(ขั้นตอนนี้สามารถดำเนินการเองได้นะ)แต่เราให้พี่เขาจัดการให้หมดเลยเพราะไม่มีค่าดำเนินการ ฮ่าๆ วาร์ปไปวันเดินทางเลยละกัน
ไฟท์บินของเราคือตี 2 ของวันที่ 30 มิถุนายน พี่เขานัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิตอน 5 ทุ่มครึ่งของวันที่ 29 มิถุนายน ขอสารภาพว่าเกือบมาผิดวันด้วย มาถึงก็จะมีคนแจ้งรายละเอียดต่างๆและทำความรู้จักกับเพื่อนๆจาก ม. อื่นๆส่วนใหญ่ก็มาคนเดียวกัน มาหาเพื่อนเอาข้างหน้า
จากนั้นก็ถึงเวลาบิน
เราใช้เวลาบินทั้งหมดประมาณ 8 ชั่วโมง เปลี่ยนเครื่อง 1 ครั้งที่กว่างโจ บนเครื่องก็มีอาหารเครื่องดื่มให้กินตลอด เรียกได้ว่ากินนอนกินนอน
จนในที่สุดก็ถึง ไปถึงสนามบินฮาร์บินเจอไวไฟจ้า เล่นกันเพลินจนลืมไปเลยว่าพี่เอ็มมารอรับที่สนามบิน ทักทายกันเสร็จพี่เขาก็พาไปขึ้นรสบัสของมหาลัย บรรยากาศสองข้างทางจากสนามบินไปมหาลัยคือสวยมาก หลงรักตั้งแต่มาถึง ไปถึงมหาลัยพี่เอ็มก็พาไปเข้าหอพัก เอาของไปเก็บ แล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยไปทำซิมมือถือเพื่อให้เล่นเน็ตอัพเดตชีวิตดี๊ดีและโทรกลับหาผู้ปกครองนั่นเอง ซิมเน็ตที่นี่ราคา150 หยวน=750฿ ไทยใช้ได้ตั้งแต่วันแรกถึงวันกลับ ที่สำคัญคุ้มมากโทรหาเบอร์ในเมืองเดียวกันไม่เสียเงิน คนที่เปิดโรมมิ่งมาแอบน้ำตาไหลกันเป็นแถว หลังจากได้เน็ตสมใจอยากทุกคนก็เริ่มติดโซเชียลหลังจากห่างหายมา 8 ชม. พี่เขาเลยแนะนำที่กินข้าวใน ม.แล้วปล่อยให้แยกย้ายกลับไปจัดของและพักผ่อน จบวันแรก เห้ยนี่เพิ่งวันแรกทำไมยาวเบอร์นี้
หอพัก
หอพักที่นี่จะเป็นห้องสูตข้างในมี 2 ห้องนอน นอนห้องละ 2 คน คือ1ห้องใหญ่มี 4 คนนั่นแหละ ห้องสะอาดนะมีชุดเครื่องนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะอ่านหนังสือให้คนละ 1 ชุด สำหรับเค้าคือโอเคมาก มีห้องส่วนกลางไว้อ่านหนังสือทุกชั้น ด้านล่างหอก็มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ห้องรีดผ้า ใช้คีการ์ดผ่านประตู สะดวก และปลอดภัย
บรรยากาศในมหาลัยก็ดีเลยทีเดียวค่ะ
ในมหาลัยมีทุกอย่าง ทั้งธนาคาร โรงพยาบาล ร้านขายยา ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านถ่ายเอกสาร ร้านถ่ายรูปคือมีทุกอย่างไม่ต้องออกไปข้างนอกเลยยังได้
อาหาร ร้านขายอาหารในมหาลัยมีเยอะมาก เฉพาะโรงอาหารมี 3 แห่ง ยังไม่นับที่เป็นร้านทั่วๆมหาลัย แต่เนื่องจากฮาร์บินเป็นเมืองหนาว อาหารที่นี่เคยค่อนข้างมัน ทำให้ไม่คุ้นปากคนเมืองร้อนอย่างไทยเรา ใครจะไปแนะนำให้พกพวกมาม่า ปลากระป๋อง น้ำพริกแห้งไปด้วยจะช่วยได้เยอะ แต่ร้านอร่อยๆก็มีเยอะนะอันนี้ต้องมีความสามารถในการเสาะแสวงหานิดนึงเพราะร้านเด็ดๆจะชอบซ่อนอยู่และยังมีร้านอาหารนานาชาติอีกด้วย เช่น อาหารไทย อาหารเกาหลี อาหารตะวันตก ราคาจะแพงกว่าอาหารจีนหน่อย แต่ถ้าให้ประหยัดสุดๆแนะนำอาหารโรงอาหารในมหาลัยเลยค่ะ อร่อย ได้เยอะ ที่สำคัญถูกมากกก(ใครจะให้แนะนำร้านอาหารหลังไมค์ได้นะ)
ปล.รูปอาหารมีอีกเยอะมาก แต่พอก่อนดีกว่าพูดเรื่องกินยังไงก็ไม่จบ55555
การคมนาคมคือดีตรงที่ราคาถูก มหาลัยอยู่ใจกลางเมืองนั่งรถบัส 1 หยวน (5บาท) ตลอดสาย นั่งรถไฟใต้ดิน 2 หยวน (10บาท)ตลอดสาย แท็กซี่เริ่มต้นที่ 8 หยวน (40บาท) แต่ต้องทำใจหน่อยนะ เสียงบีบแตรจะดังนิดนึง เขาบีบกันสนั่นหวั่นไหวเป็นเรื่องปกติของเขา อยู่ซักพักก็ชินไปเอง
การช็อปปิ้ง ที่ช็อปปิ้งมีเยอะค่ะ แถมราคาถูกกว่าไทยด้วย สาวๆนี่กระเป๋าสั่นคลอนตอนกลับต้องซื้อกระเป๋าเดินทางเพิ่มกันแน่นอนแต่เราโชคดีตรงที่ให้พี่เอ็มจัดการตั๋วเครื่องบินให้พี่เค้าทำเป็นตั๋วนักเรียนให้เรา ก็เลยได้กระเป๋าสำภาระเป็น 2 ชิ้น ชิ้นละ23กก.
เห้ย ฉันหลงประเด็นรึเปล่า ยังไม่ได้เข้าเรื่องเรียนเลยนะ การจัดการเรียนการสอนที่นี่คือดี วันแรกจะมีการลงทะเบียนและจ่ายเงิน เงินนี่เรามาจ่ายให้มหาลัยด้วยตัวเองนะ ไม่ได้ผ่านพี่เขา จ่ายตามที่มหาลัยเรียกเก็บจริง จ่ายเงินลงทะเบียนเสร็จสรรพ ก็จะมีการสอบวัดระดับ ที่นี่แบ่งห้องเรียนถี่มาก มีตั้งแต่ห้อง A สำหรับคนไม่มีพื้นฐานเลย ไล่ระดับเป็น B C C+ D E F ขึ้นไปเรื่อยๆ ห้องนึงจะมีนักเรียนประมาณ 15 คน คละชาติกัน ส่วนใหญ่จะเป็น รัสเซีย เกาหลี แคนนาดา และอีกบลาๆ
เรียกว่านอกจากได้จีนแล้วยังได้ภาษาอื่นด้วย เผลอๆได้มากกว่าภาษาด้วยนะ คุ้มไหมหล่ะ? 55555นอกเรื่องอีกละช่วยตบให้เดี๊ยนวกกลับมาเรื่องเรียนหน่อย การเรียนจะเรียนจ-ศตั้งแต่ 8 โมง- เที่ยง4 ชม. เหล่าซือที่นี่สอนดีมาก อธิบายจนเข้าใจและรู้ว่าใช้ยังไง แทบจะไม่ต้องจดภาษาไทยประกอบเลย นี่ถ้าไม่ติดว่าขึ้นปี 3 แล้วจะซิ่วไปเรียนที่นี่จริงๆเพราะแอบถามพี่เค้ามาค่าเรียนป.ตรี คณะมนุษย์ศาตร์ที่นี่ถูกมากกกก ค่าเรียนปีละแค่2หมื่นหยวน หรือประมาณ1แสนบาท ค่าหอแค่เดือนละ3พันบาท โอ้วพระเจ้าราคาพอๆกับที่จ่ายที่ไทยตอนนี้เลยแล้วค่าครองชีพที่นี่แอบถูกกว่าไทยนะเพราะถ้าเราเรียนระยะยาวปตรี เห็นพี่ๆเค้าเน้นทำกับข้าวกินกันเองคือกับข้าวถูกมาก ที่สำคัญนี่ให้คำแนะนำเพิ่มสำหรับน้อง ม6 ที่กำลังจะจบนะ ลองไปข้อมูลดูนะจ่ะ และที่สำคัญคณะมนุษย์เอกจีนที่นี่ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานภาษาจีนมาก่อนด้วยเรียนจบสี่ปีการันตีเลยว่าภาษาจีนขั้นเทพแน่นอน เด็ดกว่านั้นคือคนฮาร์บินไม่มีภาษาถิ่น เลยพูดภาษาจีนกลางชัดมาก นอกจากเรียนภาษาก็จะมีคลาสเรียนวัฒนธรรมจีนให้เข้าร่วมเยอะมาก ทั้งการชงชา เขียนพู่กัน ระบายสีหน้ากากงิ้ว ชุดจีน ตัดกระดาษ ร้องเพลงจีน เล่นดนตรีจีน ครบเครื่องทุกอย่าง เรียกว่าไป 1 เดือนได้สำเนียงเป๊ะๆพร้อมวัฒนธรรมจีนแท้ๆกลับมาทีเดียว เขียนไปเขียนมาเริ่มรู้สึกอวยเหมือนเป็นอธิการบดีมหาลัยนี้เองละ มันดีมากจริงๆ เอาเป็นว่าได้กลับไปเกินคุ้มราคาที่จ่าย เรื่องเรียนพอละมาเรื่องเที่ยวต่อ จ-ศ เรียน ส-อา เที่ยวจ้า ข้อดีของการมาเรียนผ่านเพจ Study in harbin คือ นอกจากการสมัคร ฟรี ไม่มีค่าดำเนินการแล้ว พี่ๆเค้ามีทีมงานพาไปเที่ยวทุกจุดในเมืองฮาร์บินอีกด้วย ดูแลดีมากกกกกกเหมือนพี่น้อง สรุปคือ ได้ทั้งทัวร์เมืองฮาร์บินได้ทั้งเรียนภาษาจีน คุ้มสุดที่จุดนี้ เราจะยกตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆว่ามีที่เที่ยวที่ไหนบ้างนะ
中央大街 เป็นถนนคนเดินที่มีร้านค้าตลอด2ฝั่งให้บรรยากาศเหมือนเดินshoppingอยู่ยุโรป เป็นอีกหนึ่งสถานที่ต้องห้าม(พลาด)ของเมืองฮาร์บิน
วัด极乐寺เป็นวัดพุทธที่เป็นศุนย์รวมจิตใจของพุทศาสนิกชนในเมืองฮาร์บิน
สวนสนุกมีเครื่องเล่นมากมายส่วนใหญ่จะเน้นเป็นพวกเครื่องเลย 3D 4D แอบเห็นว่ามีถึง12Dเลย แต่นี่ยังไม่ได้ลอง ว่าจะกลับไปลองตอนหน้าหนาวว่าจะตื่นตาตื่นใจแค่ไหน
太阳岛 หรือเกาะพระอาทิตย์ พี่เอ็มบอกว่าในช่วงฤดูหนาวเกาะจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ ที่นี่จะใช้เป็นสถานที่เล่นสเก็ตน้ำแข็ง , เลื่อนหิมะ , และ ชมนิทรรศการและศิลปกรรมแกะสลักหิมะประจำปีของฮาร์บิ้น
โบสถ์เซนต์โซเฟีย พี่เอ็มเล่าให้ฟังว่าเป้นโบสถ์ที่สร้างขึ้นมาสมัยที่รัสเซียเข้ามายึดครองเมืองฮาร์บินใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของทหารรัสเซีย คือสวยมากพี่เค้าอธิบายเหมือนไกด์นำเที่ยววมากก แต่หมิวจำได้แค่นี้ใครอยากรู้ต่อไปถามพี่เค้าเอานะ อิอิ
เขียนไม่พอละตามมาอ่านต่อข้างล่างนะจ้ะทุกคนน