ไรอัน จอห์นสัน กำกับ Star Wars แล้วมาต่อด้วยหนังฆาตกรรมหรรษา (?) Knives Out

ช่วงสักสามปีก่อน ชื่อของไรอัน จอห์นสันกลายเป็นชื่อผู้กำกับที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคนหนึ่งในฮอลลีวูดหลัง Star Wars: The Last Jedi (2017) ออกฉาย เพราะไม่เพียงแต่หนังจะกวาดคำวิจารณ์แง่บวกแบบท่วมท้น แต่มันยังกลายเป็นหนังที่ทำเงินมากที่สุดตลอดกาลเป็นลำดับที่เก้าในทันทีที่ออกฉายด้วย

ตอบรับกับความสำเร็จนั้น จอห์นสันหายไปซุ่มทำโปรเจ็กต์ลับที่เฝ้าฝันอยากทำมาตั้งแต่เด็กอย่าง Knives Out (2019) หนังฆาตกรรมอารมณ์ขัน (ห๊ะ?) ที่ดัดแปลงมาจากนิยายเลื่องชื่อของเจ้าแม่นิยายสืบสวน อากาธา คริสตี้ ว่าด้วยครอบครัวใหญ่ที่กลับมารวมตัวกันในงานวันเกิดของคุณปู่ แต่ยังไม่ทันได้ฉลองอะไรเป็นเรื่องเป็นราว เช้าวันถัดมาเขาก็กลายเป็นศพซะได้ แถมรูปการณ์ทุกอย่างยังดูเหมือนเขาจะฆ่าตัวตายด้วย... แต่จริงหรือ 

แต่นักสืบเบอร์นัวต์ บลังก์ (แดเนียล เคร็ก) สังหรณ์ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล และยิ่งสืบสวนลึกลงไปก็พบว่า เผลอๆ แล้วผู้ต้องสงสัยก็คือคนในบ้านหลังนี้นี่แหละ! ไม่ว่าจะเพลย์บอยหนุ่มหล่อ (คริส อีแวนส์), ลูกสะใภ้สุดเก๋ (โทนี่ คอลเล็ตต์), เด็กสาวนักกิจกรรมเพื่อสังคม (แคเธอรีน แลงฟอร์ด), หลานชายตัวน้อยที่ติดโทรศัพท์งอมแงม (เจเดน มาร์เทลล์) ฯลฯ ซึ่งดูเหมือนพอสาวให้ลึกลงไปแล้ว ทุกคนล้วนมีเหตุจูงใจในการสังหารคุณปู่ของบ้านทั้งนั้น



ไม่น่าแปลกที่จอห์นสันจะรีบคว้าโปรเจ็กต์นี้ทันทีที่มีการประกาศสร้าง อันที่จริง เขาแจ้งเกิดจากหนังสืบสวนอย่าง Brick (2005 เด็กหนุ่มที่ออกตามหาสาเหตุที่แฟนสาวหายตัวไปในโรงเรียน), The Brothers Bloom (2008 เล่าถึงสองพี่น้องนักต้มตุ๋น) และ Looper (2012 หนังเกี่ยวกับนักฆ่าที่ถูกตัวเองในอนาคตไล่สังหารจนต้องตามหาถึงสาเหตุความบ้าระห่ำนั้น)

มิหนำซ้ำ จอห์นสันยังเป็นแฟนพันธุ์แท้นิยายของอากาธา คริสตี้อีกด้วย "ผมโตมากับการอ่านนิยายของอากาธา คริสตี้น่ะ ลึกๆ แล้วก็เลยอยากทำหนังแนว 'ใครคือฆาตกร' และเตรียมพร้อมจะทำหนังแบบนี้เป็นสิบปีได้ และสำหรับผมนะ มันเป็นหนังที่เจ๋งที่สุดที่เคยเกิดขึ้นเลย" เขาบอกอย่างปลื้มปริ่ม "โอเค The Last Jedi นั้นสร้างประสบการณ์เยี่ยมยอดให้ผมก็จริงแต่มันกินเวลาสร้างตั้งสี่ปีแน่ะ ฉะนั้น Knives Out ที่ถ่ายทำอย่างรวดเร็วและรวบรัดมันเลยให้ความรู้สึกว่า 'เฮ้ย มาทำหนังกันเถอะ! มาสนุกกันดีกว่า' อะไรแบบนั้นครับ"

อย่างไรก็ดี ความสำเร็จระดับปรากฏการณ์ของ The Last Jedi สร้างหลักประกันแน่นหนา (ยิ่งกว่าเดิม) ให้จอห์นสัน เขากวาดเอานักแสดงระดับแถวหน้าของฮอลลีวูดมาไว้ในหนังเรื่องเดียวกันแบบที่คนทำหนังคนอื่นๆ อาจไม่กล้าฝันถึง ทั้งคริส อีแวนส์, แดเนียล เคร็ก, โทนี่ คอลเล็ตต์, ไมเคิล แชนนอน, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ ทั้งหมดเพื่ออยู่ในหนังที่ว่าด้วยคดีฆาตกรรมชวนหัวของคนในบ้าน

"ผมว่าสิ่งที่น่าสนใจในหนังแนวฆาตกรรมแบบนี้คือ มันต่างมีทิศทางเฉพาะตัวและไม่ซ้ำน่ะ ผมนึกถึงหนังเรื่อง Gosford Park (2001, โรเบิร์ต อัลต์แมน ว่าด้วยคดีฆาตกรรมลึกลับในคฤหาสน์หลังงามที่ผู้ต้องสงสัยล้วนเป็นแขกเหรื่อ)" เขาว่า และทันทีที่ Knives Out ออกฉายรอบปฐมทัศน์ มันก็ประสบความสำเร็จด้วยการที่นักวิจารณ์และคนดูออกมาแสดงความชื่นชมอย่างหนาหู มันไม่ใช่หนังสืบสวนที่สนุกเท่านั้น แต่จอห์นสันยังใส่รายละเอียดยิบย่อยที่เล่าถึงชนชั้นในสังคมและความเหลื่อมล้ำในอเมริกาได้อย่างชาญฉลาดและแนบเนียน "ผมนึกถึงนิยายเรื่องอื่นๆ ของอากาธา คริสตี้ที่เต็มไปด้วยเรื่องของขั้นบันได ชั้นบน ชั้นล่างของบ้าน เพราะเรื่องราวมันล้วนเกี่ยวข้องกับ 'ชนชั้น' ในสังคมที่แทนค่าด้วยตัวละครต่างๆ และสถานที่เดียวที่คุณจะเห็นตัวละครจากทุกคนชนชั้นมารวมกันคือห้องด้านหน้าของบ้าน

"แต่ผมหวังว่ามันจะไม่ออกมาเป็นหนังที่ทำตัวสั่งสอนคนดูนะ ผมอยากให้มันเป็นหนังที่บันเทิง สร้างความสนุกสุดๆ มากกว่า แต่แค่ว่าเราใส่เรื่องราวทางชนชั้นเข้าไปในหนังด้วยเท่านั้นเพราะผมคิดว่ามันน่าสนใจดี" จอห์นสันบอก "เราดูหนังสนุกๆ ไปด้วยได้ หัวเราะไปด้วยได้ หนังแบบที่คุณสามารถนั่งดูด้วยกันกับคนในครอบครัวไปพลาง ขบคิดถึงปริศนาในหนังไปพลาง แต่มันจะไม่หนักหน่วงถึงขนาดทำให้คุณต้องปวดเศียรเวียนเกล้า มันจะเป็นหนังที่ทำให้คุณได้มีช่วงเวลาดีๆ และผมว่านี่แหละเป็นหนังที่ทุกคนควรได้ดูน่ะ"

และเอกลักษณ์สำคัญในงานกำกับของจอห์นสันคือ ท่ามกลางเส้นเรื่องหนักหนา ดุดัน หนังของเขามักมีท่าทีผ่อนคลายและรุ่มรวยอารมณ์ขันอยู่เสมอ ถึงขั้นที่เขาบอกว่า แดเนียล เคร็กที่รับบทเป็นนักสืบของเรื่องนั้น "แสนจะบันเทิงเริงใจ" เมื่อต้องเข้าฉากถ่ายทำ "ถ้าคุณได้ดูหนัง คุณคงบอกได้เองน่ะว่าเขาสนุกกับงานแค่ไหน ได้ปลดปล่อยมุกตลกของตัวเองออกมามากเพียงใด" จอห์นสันว่า "เขาเหมาะกับบทนี้โคตรๆ คือตอนเขียนบทน่ะผมไม่เคยเลยนะที่จะตั้งธงหรือวาดภาพเป็นนักแสดงคนไหนไว้ในใจ เพราะถ้าไม่ได้มาจะแป้วเสียเปล่าๆ ก็เลยมักจะเขียนตัวละครแบบที่เป็นตัวละครในบทอย่างเดียวเลย แล้วก็ให้เขาพูดสำเนียงใต้ด้วยเพื่อให้ดูผิดที่ผิดทางจากตัวละครอื่นๆ แล้วแดเนียลก็โคตรจะเหมาะเลย" (ทั้งนี้ แดเนียล เคร็กทำการบ้านด้วยการไปนั่งฟัง เชลบี ฟุต ซึ่งเป็นนักเขียนชาวอเมริกันที่มีสำเนียงใต้จ๋ามากๆ ในสารคดีที่ฟุตให้เสียง "ผมนั่งฟังเขาอยู่สามชั่วโมงครึ่งได้" นอกจากนี้ยังเข้าพบโค้ชเพื่อการออกเสียงวันจะสามชั่วโมงเป็นการส่วนตัว แต่ทั้งนี้ พอถ่ายหนังจบเขาก็บอกว่า "ผมลืมวิธีออกเสียงแบบใต้ไปหมดแล้วเนี่ย" TT)

ทั้งนี้ หลังจากกำกับเรื่อง Knives Out แล้ว จอห์นสันจะหวนกลับมานั่งแท่นผู้กำกับแฟรนไชส์ Star Wars อีกหน เตรียมอดใจรอกันได้เลยจ้ะ และระหว่างนี้ก็ไปดู Knives Out ให้หายคิดถึงเขากันไปก่อนในโรงภาพยนตร์จ้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่