Death on the Nile (Kenneth Branagh)
“สนุกนะ สนุกกว่าตอนแรก แม้เครื่องจะติดช้าไปนิด แต่สนุก”
…
จริงๆ รักการทำหนังของเคนเนธ บรานาห์นะ เป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ติดตามผลงานตลอด (นอกเหนือจากบทบาทการเป็นนักแสดง) ดูหนังเรื่องแรกของบรานาห์คือ Dead Again แล้วชอบมาก สนุกมาก จนต้องไปหา Henry V หนังที่ทำจากบทละครของเชคสเปียร์ ที่ทำให้บรานาห์เข้าชิงออสการสาขานักแสดงนำชายและผู้กำกับภาพยนตร์ในปีเดียวกัน
แต่ต้องยอมรับตรงๆ บรานาห์เองก็เก่งกาจในการทำหนังได้ทั้งแบบเล็กๆ อาร์ทๆ ดีๆ และหนังสเกลใหญ่ๆ ทั้ง Thor ภาคแรก , Jack Ryan , Cinderella และ Murder on the Orient Express แม้จะเป็นผู้กำกับที่รักมาก แต่ก็มีหลายชิ้นงานที่ผิดหวัง เช่น อาร์ทิมีส ฟาล์ว นี่เข้าขั้นเฟลเลย
ปีนี้ บรานาห์สร้างสถิติใหม่บนเวทีออสการ์ ด้วยการเข้าชิงใน 7 สาขา (แม้จะต่างปีกัน) บวกกับการพา Belfast เข้าชิงหนังยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม พร้อมกับมีหนัง Death on the Nile หนังตอนต่อของนักสืบแองกูล ปัวโรต์ เข้าฉาย (หลังจากเลื่อนมาเพราะโควิด)
Death on the Nile คืองานต่อของนิยายแนวสืบสวนของนักเขียนระดับปรมาจารย์ อกาธา คริสตี้ ที่บรานาห์หนิบมาทำต่อจาก Murder on the Oreint Express ตอนเป็นนิยายก็สนุ๊ก สนุก ..สนุกจนละครไทยช่อง 3 เคยนำมาทำเป็นละครชื่อ ทะเลเลือด มาแล้ว
ถ้าจำได้ในตอนจบภาคแรก ปัวโรต์ ได้รับคำเชิญให้มาที่อียิปต์ ซึ่งคนที่เชิญ หรือจ้างให้สืบคือ มาดามยูฟีเมีย ( แอนเนธ เบนนิ่ง) จ้างให้ปัวโรต์ตามสืบถึงปูมหลังของสาวที่บุ๊ค (ทอม เบธแมน) เพื่อนรักของปัวโรต์หลงรัก สาวคนที่ว่าคือ โรซาลี่ (เลทิเทีย ไวท์) แต่ปัวโรต์ต้องจับพลัดจับผลูมาขึ้นเรือสำราญล่องแม่น้ำไนล์ เพื่แฉลองงานวิวาห์ของมหาเศรษฐินี ลินเน็ท (กัล กาดอธ) เพื่อนรักของโรซาลี่ ที่แต่งกับ ไซม่อน (อาร์มี่ แฮมเมอร์) ที่เธอแย่งแฟนหนุ่มมาจากเพื่อนรัก แจ็กเกอรีน (เอมมา แม็คคีย์) ก่อนจะเกิดเหตุฆาตกรรมไม่คาดฝันบนเรือสำราญนี่ ทำให้ปัวโรต์ต้องมาไขคดีปริศนานี้แทน
สำหรับผม Death on the Nile เป็นหนึ่งตอนของนักสืบปัวโรต์ที่สนุกมาก สนุกตั้งแต่ตอนเป็นหนังสือแล้ว แม้จะพอคาดเดาฆาตกรได้ แต่ความสนุกคือ มันมีความซับซ้อน ซ่อมปมของฆาตกร ที่ในตอนนั้นที่อ่านก็บอกเลยว่าคาดไม่ถึง …แต่ต้องบอกไว้ก่อนครับ นอยายสืบสวนของอกาธา คริสตี้ ถูกแต่งมานานมาก นี่คือต้นตำรับของนิยายฆาตกรรมสืบสวน สอบสวน สำหรับคนรุ่นหลังๆ ที่คุ้ยเคยกับแนวฆาตกรรมสืบสวน อาจรู้สึกเชยๆ เพลนๆ พื้นๆ แต่งานของอากธาถือว่าเป็นครูให้นิยายสืบสวนรุ่นหลังๆ ให้สานต่อได้อย่างน่าชื่นชม
ยอมรับตรงๆ ตัวหนังอาจไม่ทันใจคนรุ่นใหม่ๆ เพราะใช้เวลานานอยู่ในการเล่าเรื่องราว ปูเรื่องราว นี่เล่ากันตั้งแต่ตอนปัวโรต์ยังเป็นทหารถึงที่มาของการไว้หนวดโค้ง กว่าจะเรือก็ปาไปเกินค่อนเรื่อง แต่ยอมรับว่าช่วงสืบสวนคดี บรานาห์ยังปรุงแต่งหนังให้ดูสนุก และสนุกกว่าตอนแรก แอบเสียดาย ถ้าช่วงต้นกระชับกว่านี้ หนังจะสมบูรณ์มากกว่านี้อีก
สิ่งที่ต้องชมเลยคืองานด้านโปรดักชั่น งานภาพ งานศิลป์ต่างๆ ในหนังดูดีงามมาก ลงตัว แม้จะไม่ได้มีซียรถไฟอลังการเหมือนตอนแรก แต่ภาพของเรือสำราญล่องกลางแม่น้ำไนล์ พร้อมการ grading สีให้ดูโทนร้องแรง (ตามธีมหนัง) ก็ดูอลังการและน่าขนลุกไปพร้อมๆ กัน
ตัวหนังขนดารามาเพียบ (ส่วนหนึ่งเชื่อว่าอิทธิพลของบรานาห์เอง ที่ตัวนักแสดงก็อยากทำงานด้วย) ที่โดดเด่นมาก คงไม่พ้น กัล กาดอธ ที่สวยสง่ามาก รวมถึงเอ็มม่า แม็คคีย์ ที่สลัดภาพจำจากซีรีส์ Sex Education ไปได้ แต่ที่โดดเด่นและชอบมากคือน้อง เลทิเทีย ไวท์ ส่วนตัวชอบมาตั้งแต่ Black Panther มาเรื่องนี้ดูสวยแปลกตา เป็นสาวมาก และชอบน้องมากขึ้นอีก
ต้องบอกเลย ผมชอบ Death on the Nile มากกว่า Murder on the Orient Express และคิดว่าคุ้มค่าที่จะตีตั๋วเข้าไปดู แค่งานอาร์ทในหนังก็ดีพร้อมแล้ว …
ทันทีที่ดูหนังจบ ออกมาจากโรง คิดในใจ โอ๊ยยยย อยากดู Belfast โว้ยยย เอาเข้ามาฉายเถอะ อยากดูหนังเรื่องนั้นของบรานาห์จริงๆ
รีวิว : Death on the Nile แม้เครื่องจะติดช้าไปนิด แต่ก็สนุกกว่า ชอบกว่าตอนแรก
“สนุกนะ สนุกกว่าตอนแรก แม้เครื่องจะติดช้าไปนิด แต่สนุก”
…
จริงๆ รักการทำหนังของเคนเนธ บรานาห์นะ เป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ติดตามผลงานตลอด (นอกเหนือจากบทบาทการเป็นนักแสดง) ดูหนังเรื่องแรกของบรานาห์คือ Dead Again แล้วชอบมาก สนุกมาก จนต้องไปหา Henry V หนังที่ทำจากบทละครของเชคสเปียร์ ที่ทำให้บรานาห์เข้าชิงออสการสาขานักแสดงนำชายและผู้กำกับภาพยนตร์ในปีเดียวกัน
แต่ต้องยอมรับตรงๆ บรานาห์เองก็เก่งกาจในการทำหนังได้ทั้งแบบเล็กๆ อาร์ทๆ ดีๆ และหนังสเกลใหญ่ๆ ทั้ง Thor ภาคแรก , Jack Ryan , Cinderella และ Murder on the Orient Express แม้จะเป็นผู้กำกับที่รักมาก แต่ก็มีหลายชิ้นงานที่ผิดหวัง เช่น อาร์ทิมีส ฟาล์ว นี่เข้าขั้นเฟลเลย
ปีนี้ บรานาห์สร้างสถิติใหม่บนเวทีออสการ์ ด้วยการเข้าชิงใน 7 สาขา (แม้จะต่างปีกัน) บวกกับการพา Belfast เข้าชิงหนังยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม พร้อมกับมีหนัง Death on the Nile หนังตอนต่อของนักสืบแองกูล ปัวโรต์ เข้าฉาย (หลังจากเลื่อนมาเพราะโควิด)
Death on the Nile คืองานต่อของนิยายแนวสืบสวนของนักเขียนระดับปรมาจารย์ อกาธา คริสตี้ ที่บรานาห์หนิบมาทำต่อจาก Murder on the Oreint Express ตอนเป็นนิยายก็สนุ๊ก สนุก ..สนุกจนละครไทยช่อง 3 เคยนำมาทำเป็นละครชื่อ ทะเลเลือด มาแล้ว
ถ้าจำได้ในตอนจบภาคแรก ปัวโรต์ ได้รับคำเชิญให้มาที่อียิปต์ ซึ่งคนที่เชิญ หรือจ้างให้สืบคือ มาดามยูฟีเมีย ( แอนเนธ เบนนิ่ง) จ้างให้ปัวโรต์ตามสืบถึงปูมหลังของสาวที่บุ๊ค (ทอม เบธแมน) เพื่อนรักของปัวโรต์หลงรัก สาวคนที่ว่าคือ โรซาลี่ (เลทิเทีย ไวท์) แต่ปัวโรต์ต้องจับพลัดจับผลูมาขึ้นเรือสำราญล่องแม่น้ำไนล์ เพื่แฉลองงานวิวาห์ของมหาเศรษฐินี ลินเน็ท (กัล กาดอธ) เพื่อนรักของโรซาลี่ ที่แต่งกับ ไซม่อน (อาร์มี่ แฮมเมอร์) ที่เธอแย่งแฟนหนุ่มมาจากเพื่อนรัก แจ็กเกอรีน (เอมมา แม็คคีย์) ก่อนจะเกิดเหตุฆาตกรรมไม่คาดฝันบนเรือสำราญนี่ ทำให้ปัวโรต์ต้องมาไขคดีปริศนานี้แทน
สำหรับผม Death on the Nile เป็นหนึ่งตอนของนักสืบปัวโรต์ที่สนุกมาก สนุกตั้งแต่ตอนเป็นหนังสือแล้ว แม้จะพอคาดเดาฆาตกรได้ แต่ความสนุกคือ มันมีความซับซ้อน ซ่อมปมของฆาตกร ที่ในตอนนั้นที่อ่านก็บอกเลยว่าคาดไม่ถึง …แต่ต้องบอกไว้ก่อนครับ นอยายสืบสวนของอกาธา คริสตี้ ถูกแต่งมานานมาก นี่คือต้นตำรับของนิยายฆาตกรรมสืบสวน สอบสวน สำหรับคนรุ่นหลังๆ ที่คุ้ยเคยกับแนวฆาตกรรมสืบสวน อาจรู้สึกเชยๆ เพลนๆ พื้นๆ แต่งานของอากธาถือว่าเป็นครูให้นิยายสืบสวนรุ่นหลังๆ ให้สานต่อได้อย่างน่าชื่นชม
ยอมรับตรงๆ ตัวหนังอาจไม่ทันใจคนรุ่นใหม่ๆ เพราะใช้เวลานานอยู่ในการเล่าเรื่องราว ปูเรื่องราว นี่เล่ากันตั้งแต่ตอนปัวโรต์ยังเป็นทหารถึงที่มาของการไว้หนวดโค้ง กว่าจะเรือก็ปาไปเกินค่อนเรื่อง แต่ยอมรับว่าช่วงสืบสวนคดี บรานาห์ยังปรุงแต่งหนังให้ดูสนุก และสนุกกว่าตอนแรก แอบเสียดาย ถ้าช่วงต้นกระชับกว่านี้ หนังจะสมบูรณ์มากกว่านี้อีก
สิ่งที่ต้องชมเลยคืองานด้านโปรดักชั่น งานภาพ งานศิลป์ต่างๆ ในหนังดูดีงามมาก ลงตัว แม้จะไม่ได้มีซียรถไฟอลังการเหมือนตอนแรก แต่ภาพของเรือสำราญล่องกลางแม่น้ำไนล์ พร้อมการ grading สีให้ดูโทนร้องแรง (ตามธีมหนัง) ก็ดูอลังการและน่าขนลุกไปพร้อมๆ กัน
ตัวหนังขนดารามาเพียบ (ส่วนหนึ่งเชื่อว่าอิทธิพลของบรานาห์เอง ที่ตัวนักแสดงก็อยากทำงานด้วย) ที่โดดเด่นมาก คงไม่พ้น กัล กาดอธ ที่สวยสง่ามาก รวมถึงเอ็มม่า แม็คคีย์ ที่สลัดภาพจำจากซีรีส์ Sex Education ไปได้ แต่ที่โดดเด่นและชอบมากคือน้อง เลทิเทีย ไวท์ ส่วนตัวชอบมาตั้งแต่ Black Panther มาเรื่องนี้ดูสวยแปลกตา เป็นสาวมาก และชอบน้องมากขึ้นอีก
ต้องบอกเลย ผมชอบ Death on the Nile มากกว่า Murder on the Orient Express และคิดว่าคุ้มค่าที่จะตีตั๋วเข้าไปดู แค่งานอาร์ทในหนังก็ดีพร้อมแล้ว …
ทันทีที่ดูหนังจบ ออกมาจากโรง คิดในใจ โอ๊ยยยย อยากดู Belfast โว้ยยย เอาเข้ามาฉายเถอะ อยากดูหนังเรื่องนั้นของบรานาห์จริงๆ