มีเรื่องอยากเล่า...
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมเป็นอดีตพนักงานออฟฟิศ วัย 31ปี ทำเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ อายุงาน 10ปี ปัจจุบันตกงานมาแล้ว 2 เดือน ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ ใช้เงินเก็บส่วนตัวกินไปวันๆ ภาระที่ต้องจ่ายหลักๆ ก็มีค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่างวดรถ อันหลังนี่หนักสุดๆ เคยลงประกาศขายดาวน์ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะรถผมเป็น ECO Car ตัวท็อป ค่างวดค่อนข้างสูง ผ่อนยาวๆ 84 งวด ด้วยภาระที่ต้องจ่ายทุกเดือน ผมจึงต้องออกหาสมัครงานท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้และด้วยวัยที่เข้าสู่เลข 3 เริ่มกันเลยดีกว่า
- บริษัทแรกที่นัดไปสัมภาษณ์ประกาศรับ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่การตลาดออนไลน์ สถานที่ พุทธมณฑลสายสี่ ระยะทาง 33 กม.
- จากการคุยรายละเอียดงานทางโทรศัพท์ลักษณะงานเป็นงานที่เคยทำและเชี่ยวชาญพอสมควร ไม่น่ามีอะไรที่ผมทำไม่ได้
- งานที่ผมถนัด : ทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ เขียน Content ทำสื่อลงโซเชี่ยลต่างๆ เช่น Facebook, Youtube
- ส่วนเรทเงินเดือนที่เรียกไป ทางฝ่ายบุคคลแจ้งว่าไม่ติดปัญหาขอแค่ทำงานให้เค้าได้ ตอนนี้ต้องการคนด่วน
- ผมติดอยู่เรื่องเดียวคือระยะทางที่ค่อยข้างไกลจากบ้านมากๆ 33 กม. บ้านอยู่พระราม2
- เพื่อความชัวร์จึงแอดไลน์ไปถามเรื่องงานและความต้องการให้ชัดเจนอีกครั้งนึง ตามที่ระบุไว้ที่หน้าเว็บ
- คำตอบที่ได้คือ ต้องการเจ้าหน้าที่การตลาดออนไลน์ ทำงานเป็นทีม มีทั้งหมด 3 คน ต้องการคนด่วน
- รายละเอียดงานเชิงลึกต้องเข้าไปคุยกับผู้จัดการฝ่ายเท่านั้น ฝ่ายบุคคลตอบไม่ได้
- หลังจากนั้นผมแจ้งไปว่าเรื่องงานไม่มีปัญหา แต่ติดปัญหาเรื่องระยะทาง เพราะไกลจากบ้านผมมาก
- ฝ่ายบุคคลตอบ: ง่อววว / แสดงว่าไม่สะดวก / ส่งสติ๊กเกอร์เหมือนผิดหวังมาเป็นรูป “เป็ดนอนร้องไห้”
- แต่ดูเหมือนเค้าอยากให้เข้าไปคุยรายละเอียดดูก่อน จึงให้ผมเสนอเรทเงินเดือนเข้าไปใหม่
- หลังจากผมแจ้งไป ทางนั้นก็แจ้งว่าไม่น่าติดปัญหาอะไร เพราะเรทสูงสุดยังห่างไกลจากที่ผมแจ้ง ผมจึงตัดสินใจเข้าไป
- พอถึงวันสัมภาษณ์ คุยรอบแรกกับฝ่ายบุคคลที่ติดต่อไว้ก่อนหน้าดูเหมือนจะราบรื่นดี
- หลักๆ ที่คุยก็เป็นกฎระเบียบของบริษัท ทัศนคติกับองค์กรเดิม และประสบการณ์การทำงานที่ผ่านๆ มา
- พอคุยเสร็จนั่งรอประมาณ 15นาที ก็ได้คุยกับ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เป็นผู้ชายอายุไม่น่าจะห่างจากผมเท่าไหร่
- พอเข้ามาก็ให้แนะนำตัว ถามประวัติการทำงานของผม ให้ผมเล่าเกี่ยวกับการตลาดที่เคยทำให้ฟัง
- ต่อจากนั้นก็ยิงคำถามโดยใช้ศัพท์การตลาดรัวๆ ถามถึง SEO, SEM, KPI ซึ่งในตอนนั้นผมไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ใช้ความสามารถบวกประสบการณ์ที่ผ่านมาตอบคำถามไป และอะไรที่ไม่เข้าใจก็สอบถามกลับไป
อธิบายคำศัพท์
SEO คือการทำการตลาดแบบไม่เสียเงิน โดยการใช้ Keyword เล่นคำ เขียน Content เพื่อให้ Google เข้ามาจดจำ
SEM คือการทำการตลาดแบบเสียเงิน เช่นการซื้อโฆษณาผ่าน Facebook ซึ่งในตอนแรกผมไม่เข้าใจ จึงถามกลับไป
KPI คือการวัดผลจากการทำงาน เช่น การทำการตลาดวัดผลจาก ยอดไลค์จาก Facebook ยอดวิวจาก Youtube เป็นต้น
- จากนั้นก็โดนคำถามเกี่ยวกับการเขียน CODE JAVA, CODE WEBSITE ระบบหลังบ้าน ซึ่งเป็นงานที่เคยผ่านมือ แต่ไม่ถนัดเท่าไหร่ ผมจึงแจ้งไปว่า “ยินดีเรียนรู้และฝึกฝนไปพร้อมกับหน้าที่ที่รับผิดชอบ”
- คำถามต่อมา เคยซื้อ Ads ผ่าน Facebook ไหม? ผมจึงตอบไปว่า ที่ทำงานเดิมทำการตลาดแบบไม่เสียเงิน จึงไม่เห็นความจำเป็นในการเสียเงินซื้อ Ads เพราะเรามีวิธีอื่นที่ดีกว่าในการทำการตลาดออนไลน์ เช่นการเขียน Content หา Keyword เจ่งๆ มาให้ Google จดจำ
- แล้วผมก็เสริมไปว่า การทำการตลาดออนไลน์ที่ผมทำ เป็นการทำแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้นมันจะไม่เห็นผลทันที ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป แต่ก็สามารถวัดผลได้การที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาหรือยอดวิว ยอดไลค์ต่างๆ
- ทาง ผจก. จึงสวนกลับมาว่า ตอนนี้ธุรกิจของเค้าเป็นธุรกิจใหม่ ต้องการการเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องการอะไรที่ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ต้องการร่วมงานกับคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์มากกว่านี้!!!
- จนถึงบทสนทนาสุดท้าย ทาง ผจก. ถามผมว่า “มีอะไรอยากสอบถามเพิ่มไหม?”
- ผมจึงสอบถามไปว่า “นอกจากงานที่ผมทำได้ตามที่แจ้งไป ยังมีงานอะไรที่ผมต้องรับผิดชอบเพิ่มอีกไหมครับ?”
- คำตอบที่ได้คือ “งานการตลาดมีเยอะมาก เป็นงานที่หนักมากด้วย ถ้าให้เล่าวันนี้คงเล่าให้ฟังไม่หมด ยังไงก็ขอบคุณมากที่เข้ามาสัมภาษณ์งานนะครับ” แล้วก็เชิญผมกลับบ้านได้
- ผมเดินหน้าเหวอออกมาจากห้องประชุม พร้อมทั้งตั้งคำถามว่า “นี่กูมาทำอะไรที่ว่ะ”
สรุปแล้ว
- ฝ่ายบุคคลต้องการคนเข้ามาสัมภาษณ์งานเพื่อทำผลงานใช่ไหมครับ?
- ผจก. ฝ่ายการตลาดออนไลน์ ต้องการคนที่นั่งทางในแล้วรู้หมดทุกอย่าง เปิดโอกาสให้ถามได้ แต่ชั้นไม่ตอบค่ะ
เดี๋ยวมาต่อบริษัทที่ 2 นะครับ
ประสบการณ์ไปสัมภาษณ์จากเว็บไซต์รับสมัครงานจ็อบบีเคเคดอทคอม
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมเป็นอดีตพนักงานออฟฟิศ วัย 31ปี ทำเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ อายุงาน 10ปี ปัจจุบันตกงานมาแล้ว 2 เดือน ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ ใช้เงินเก็บส่วนตัวกินไปวันๆ ภาระที่ต้องจ่ายหลักๆ ก็มีค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่างวดรถ อันหลังนี่หนักสุดๆ เคยลงประกาศขายดาวน์ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะรถผมเป็น ECO Car ตัวท็อป ค่างวดค่อนข้างสูง ผ่อนยาวๆ 84 งวด ด้วยภาระที่ต้องจ่ายทุกเดือน ผมจึงต้องออกหาสมัครงานท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้และด้วยวัยที่เข้าสู่เลข 3 เริ่มกันเลยดีกว่า
- บริษัทแรกที่นัดไปสัมภาษณ์ประกาศรับ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่การตลาดออนไลน์ สถานที่ พุทธมณฑลสายสี่ ระยะทาง 33 กม.
- จากการคุยรายละเอียดงานทางโทรศัพท์ลักษณะงานเป็นงานที่เคยทำและเชี่ยวชาญพอสมควร ไม่น่ามีอะไรที่ผมทำไม่ได้
- งานที่ผมถนัด : ทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ เขียน Content ทำสื่อลงโซเชี่ยลต่างๆ เช่น Facebook, Youtube
- ส่วนเรทเงินเดือนที่เรียกไป ทางฝ่ายบุคคลแจ้งว่าไม่ติดปัญหาขอแค่ทำงานให้เค้าได้ ตอนนี้ต้องการคนด่วน
- ผมติดอยู่เรื่องเดียวคือระยะทางที่ค่อยข้างไกลจากบ้านมากๆ 33 กม. บ้านอยู่พระราม2
- เพื่อความชัวร์จึงแอดไลน์ไปถามเรื่องงานและความต้องการให้ชัดเจนอีกครั้งนึง ตามที่ระบุไว้ที่หน้าเว็บ
- คำตอบที่ได้คือ ต้องการเจ้าหน้าที่การตลาดออนไลน์ ทำงานเป็นทีม มีทั้งหมด 3 คน ต้องการคนด่วน
- รายละเอียดงานเชิงลึกต้องเข้าไปคุยกับผู้จัดการฝ่ายเท่านั้น ฝ่ายบุคคลตอบไม่ได้
- หลังจากนั้นผมแจ้งไปว่าเรื่องงานไม่มีปัญหา แต่ติดปัญหาเรื่องระยะทาง เพราะไกลจากบ้านผมมาก
- ฝ่ายบุคคลตอบ: ง่อววว / แสดงว่าไม่สะดวก / ส่งสติ๊กเกอร์เหมือนผิดหวังมาเป็นรูป “เป็ดนอนร้องไห้”
- แต่ดูเหมือนเค้าอยากให้เข้าไปคุยรายละเอียดดูก่อน จึงให้ผมเสนอเรทเงินเดือนเข้าไปใหม่
- หลังจากผมแจ้งไป ทางนั้นก็แจ้งว่าไม่น่าติดปัญหาอะไร เพราะเรทสูงสุดยังห่างไกลจากที่ผมแจ้ง ผมจึงตัดสินใจเข้าไป
- พอถึงวันสัมภาษณ์ คุยรอบแรกกับฝ่ายบุคคลที่ติดต่อไว้ก่อนหน้าดูเหมือนจะราบรื่นดี
- หลักๆ ที่คุยก็เป็นกฎระเบียบของบริษัท ทัศนคติกับองค์กรเดิม และประสบการณ์การทำงานที่ผ่านๆ มา
- พอคุยเสร็จนั่งรอประมาณ 15นาที ก็ได้คุยกับ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เป็นผู้ชายอายุไม่น่าจะห่างจากผมเท่าไหร่
- พอเข้ามาก็ให้แนะนำตัว ถามประวัติการทำงานของผม ให้ผมเล่าเกี่ยวกับการตลาดที่เคยทำให้ฟัง
- ต่อจากนั้นก็ยิงคำถามโดยใช้ศัพท์การตลาดรัวๆ ถามถึง SEO, SEM, KPI ซึ่งในตอนนั้นผมไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ใช้ความสามารถบวกประสบการณ์ที่ผ่านมาตอบคำถามไป และอะไรที่ไม่เข้าใจก็สอบถามกลับไป
อธิบายคำศัพท์
SEO คือการทำการตลาดแบบไม่เสียเงิน โดยการใช้ Keyword เล่นคำ เขียน Content เพื่อให้ Google เข้ามาจดจำ
SEM คือการทำการตลาดแบบเสียเงิน เช่นการซื้อโฆษณาผ่าน Facebook ซึ่งในตอนแรกผมไม่เข้าใจ จึงถามกลับไป
KPI คือการวัดผลจากการทำงาน เช่น การทำการตลาดวัดผลจาก ยอดไลค์จาก Facebook ยอดวิวจาก Youtube เป็นต้น
- จากนั้นก็โดนคำถามเกี่ยวกับการเขียน CODE JAVA, CODE WEBSITE ระบบหลังบ้าน ซึ่งเป็นงานที่เคยผ่านมือ แต่ไม่ถนัดเท่าไหร่ ผมจึงแจ้งไปว่า “ยินดีเรียนรู้และฝึกฝนไปพร้อมกับหน้าที่ที่รับผิดชอบ”
- คำถามต่อมา เคยซื้อ Ads ผ่าน Facebook ไหม? ผมจึงตอบไปว่า ที่ทำงานเดิมทำการตลาดแบบไม่เสียเงิน จึงไม่เห็นความจำเป็นในการเสียเงินซื้อ Ads เพราะเรามีวิธีอื่นที่ดีกว่าในการทำการตลาดออนไลน์ เช่นการเขียน Content หา Keyword เจ่งๆ มาให้ Google จดจำ
- แล้วผมก็เสริมไปว่า การทำการตลาดออนไลน์ที่ผมทำ เป็นการทำแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้นมันจะไม่เห็นผลทันที ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป แต่ก็สามารถวัดผลได้การที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาหรือยอดวิว ยอดไลค์ต่างๆ
- ทาง ผจก. จึงสวนกลับมาว่า ตอนนี้ธุรกิจของเค้าเป็นธุรกิจใหม่ ต้องการการเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องการอะไรที่ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ต้องการร่วมงานกับคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์มากกว่านี้!!!
- จนถึงบทสนทนาสุดท้าย ทาง ผจก. ถามผมว่า “มีอะไรอยากสอบถามเพิ่มไหม?”
- ผมจึงสอบถามไปว่า “นอกจากงานที่ผมทำได้ตามที่แจ้งไป ยังมีงานอะไรที่ผมต้องรับผิดชอบเพิ่มอีกไหมครับ?”
- คำตอบที่ได้คือ “งานการตลาดมีเยอะมาก เป็นงานที่หนักมากด้วย ถ้าให้เล่าวันนี้คงเล่าให้ฟังไม่หมด ยังไงก็ขอบคุณมากที่เข้ามาสัมภาษณ์งานนะครับ” แล้วก็เชิญผมกลับบ้านได้
- ผมเดินหน้าเหวอออกมาจากห้องประชุม พร้อมทั้งตั้งคำถามว่า “นี่กูมาทำอะไรที่ว่ะ”
สรุปแล้ว
- ฝ่ายบุคคลต้องการคนเข้ามาสัมภาษณ์งานเพื่อทำผลงานใช่ไหมครับ?
- ผจก. ฝ่ายการตลาดออนไลน์ ต้องการคนที่นั่งทางในแล้วรู้หมดทุกอย่าง เปิดโอกาสให้ถามได้ แต่ชั้นไม่ตอบค่ะ
เดี๋ยวมาต่อบริษัทที่ 2 นะครับ