https://www.share2trade.com/index.php?mod=talk&file=view&id=4384
บมจ.เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) นับเป็นอีก 1 หุ้นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในสัปดาห์อันผันผวนที่ผ่านมา จึงไม่แปลกที่ราคาหุ้นจะหวือหวา (เฉกเช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวไอพีโออีก 3 ตัวที่เรียงเข้าเทรดในรอบสัปดาห์ก่อน) และสุดท้ายวันทำการโดนแรงเทขายจนปิดลบไปกว่า 10% แต่นี่กลับทำให้หุ้นเล็กโตเร็วตัวนี้มีอัพไซด์น่าสนใจกว่าเดิม
หุ้น TPS กำหนดราคาขายไอพีโอที่ 2.50 บาท/หุ้น ทว่าวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. 2562 อันเป็นวันแรกที่เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์กระดาน mai เปิดบวกที่ 2.86 บาท ครั้นท้ายวันราคาลงมาจบที่ 2.24 บาท ลดลงเทียบจากราคาไอพีโอ 10.40%
ราคาหุ้นอาจเปลี่ยน แต่พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน กำไรก็ยังเป็นไปตามเดิม ดังนั้นที่ระดับราคาปิดวันทำการล่าสุดจึงทำให้ค่า P/E ปรับลงมาเหลือ 10.82 เท่า ต่ำกว่าข้อมูลที่เคบแจ้งก่อนเข้าตลาดหุ้นว่าค่า P/E เฉลี่ยของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีการประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกัน โดย P/E เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 15.6 เท่า และเมื่อเปรียบเทียบกับ P/E ของกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศเทรดอยู่ที่ 20.68 เท่า
ใครที่รอซื้ออยู่ นี่นับว่าเป็นราคาที่เรียกได้เต็มปากว่าไม่แพง ส่วนซื้อแล้วหุ้นจะไปขึ้นตอนไหน ย่อมขึ้นอยู่กับภาวะตลาดและทิศทางกำไรในอนาคตประกอบด้วย
ขณะที่งบงวด 9 เดือนปีนี้ TPS มีรายได้จากการขายและบริการเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2561 เติบโตกว่า 28.76% ในขณะที่กำไรสุทธิเติบโตกว่า 100.11 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และทิศทางผลประกอบการต่อจากนี้หลังเป็นบริษัทจดทะเบียนน่าจะดีขึ้นได้อีกไม่ยาก จากฐานทุนที่แน่นยิ่งขึ้น รวมไปถึงความเชื่อมั่นยอมรับจากลูกค้าเพราะเป็นบริษัทจดทะเบียน
ผู้บริหารยังคงให้ความมั่นใจว่า "คาดว่ารายได้ปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่ทำได้ 539 ล้านบาท เนื่องจากในช่วง 9 เดือนปี 62 สามารถทำได้ 463 ล้านบาท และยังมีงานในมืออีก (Backlog) 370 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ภายในสิ้นปี 62 เกิน 50% ส่วนที่เหลือจะรับรู้รายได้ภายในปี 63 อีกทั้งมีแผนจะขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มเติม รวมทั้งมองหาโอกาสเข้ารับงานภาครัฐมากขึ้น โดยในอนาคตได้ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากงานภาครัฐมากขึ้นหรือเฉลี่ยอยู่ 50% จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ลูกค้าภาครัฐ 30-40% และเอกชน 60-70%" นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ
และแน่นอนว่า TPS มีโอกาสรับงานขนาดใหญ่ขึ้นมากขึ้น โดยแนวโน้มอุตสาหกรรมไอทีจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกับนโยบายภาครัฐบาลในยุค 4.0 ที่ให้ความสำคัญกับก้าวเข้าสู่ 5G ของระบบสื่อสารทั้งประเทศ
สุดท้ายไม่ว่าราคาหุ้นในระยะสั้นของ TPS จะผันผวนเพราะผลพวงแพนิคภาวะตลาด หรือจะด้วยปัจจัยอื่นใดก็ตาม แต่หากไม่ใช่เพราะพื้นฐานที่เปลี่ยนไปในทางลบ หุ้นตัวนี้ก็จะยังน่าสนใจต่อไปเพราะตามทฤษฎีแล้ว ราคาหุ้นจะสะท้อนพื้นฐานที่แท้จริงได้เอง และนี่อาจเป็นโอกาสดีๆ สำหรับคนที่สนใจเก็บของถูกก็เป็นได้
รายงานพิเศษ : TPS หุ้นเล็กโตเร็ว ราคายังมีอัพไซด์เพียบ
บมจ.เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) นับเป็นอีก 1 หุ้นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในสัปดาห์อันผันผวนที่ผ่านมา จึงไม่แปลกที่ราคาหุ้นจะหวือหวา (เฉกเช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวไอพีโออีก 3 ตัวที่เรียงเข้าเทรดในรอบสัปดาห์ก่อน) และสุดท้ายวันทำการโดนแรงเทขายจนปิดลบไปกว่า 10% แต่นี่กลับทำให้หุ้นเล็กโตเร็วตัวนี้มีอัพไซด์น่าสนใจกว่าเดิม
หุ้น TPS กำหนดราคาขายไอพีโอที่ 2.50 บาท/หุ้น ทว่าวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. 2562 อันเป็นวันแรกที่เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์กระดาน mai เปิดบวกที่ 2.86 บาท ครั้นท้ายวันราคาลงมาจบที่ 2.24 บาท ลดลงเทียบจากราคาไอพีโอ 10.40%
ราคาหุ้นอาจเปลี่ยน แต่พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน กำไรก็ยังเป็นไปตามเดิม ดังนั้นที่ระดับราคาปิดวันทำการล่าสุดจึงทำให้ค่า P/E ปรับลงมาเหลือ 10.82 เท่า ต่ำกว่าข้อมูลที่เคบแจ้งก่อนเข้าตลาดหุ้นว่าค่า P/E เฉลี่ยของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีการประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกัน โดย P/E เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 15.6 เท่า และเมื่อเปรียบเทียบกับ P/E ของกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศเทรดอยู่ที่ 20.68 เท่า
ใครที่รอซื้ออยู่ นี่นับว่าเป็นราคาที่เรียกได้เต็มปากว่าไม่แพง ส่วนซื้อแล้วหุ้นจะไปขึ้นตอนไหน ย่อมขึ้นอยู่กับภาวะตลาดและทิศทางกำไรในอนาคตประกอบด้วย
ขณะที่งบงวด 9 เดือนปีนี้ TPS มีรายได้จากการขายและบริการเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2561 เติบโตกว่า 28.76% ในขณะที่กำไรสุทธิเติบโตกว่า 100.11 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และทิศทางผลประกอบการต่อจากนี้หลังเป็นบริษัทจดทะเบียนน่าจะดีขึ้นได้อีกไม่ยาก จากฐานทุนที่แน่นยิ่งขึ้น รวมไปถึงความเชื่อมั่นยอมรับจากลูกค้าเพราะเป็นบริษัทจดทะเบียน
ผู้บริหารยังคงให้ความมั่นใจว่า "คาดว่ารายได้ปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่ทำได้ 539 ล้านบาท เนื่องจากในช่วง 9 เดือนปี 62 สามารถทำได้ 463 ล้านบาท และยังมีงานในมืออีก (Backlog) 370 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ภายในสิ้นปี 62 เกิน 50% ส่วนที่เหลือจะรับรู้รายได้ภายในปี 63 อีกทั้งมีแผนจะขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มเติม รวมทั้งมองหาโอกาสเข้ารับงานภาครัฐมากขึ้น โดยในอนาคตได้ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากงานภาครัฐมากขึ้นหรือเฉลี่ยอยู่ 50% จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ลูกค้าภาครัฐ 30-40% และเอกชน 60-70%" นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ
และแน่นอนว่า TPS มีโอกาสรับงานขนาดใหญ่ขึ้นมากขึ้น โดยแนวโน้มอุตสาหกรรมไอทีจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกับนโยบายภาครัฐบาลในยุค 4.0 ที่ให้ความสำคัญกับก้าวเข้าสู่ 5G ของระบบสื่อสารทั้งประเทศ
สุดท้ายไม่ว่าราคาหุ้นในระยะสั้นของ TPS จะผันผวนเพราะผลพวงแพนิคภาวะตลาด หรือจะด้วยปัจจัยอื่นใดก็ตาม แต่หากไม่ใช่เพราะพื้นฐานที่เปลี่ยนไปในทางลบ หุ้นตัวนี้ก็จะยังน่าสนใจต่อไปเพราะตามทฤษฎีแล้ว ราคาหุ้นจะสะท้อนพื้นฐานที่แท้จริงได้เอง และนี่อาจเป็นโอกาสดีๆ สำหรับคนที่สนใจเก็บของถูกก็เป็นได้