READY รู้จัก ‘เรดดี้แพลนเน็ต’ ผู้นำด้านแพลตฟอร์ม Marketing Technology ที่กำลังจะเข้า IPO ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้



HIGHLIGHTS

- บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ ‘READY’ ซึ่งเป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม Marketing Technology กำลังเดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO 35 ล้านหุ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้

- เป้าหมายของการระดมทุนในครั้งนี้คือ ใช้เป็นทุนในการพัฒนาแพลตฟอร์ม ‘Readyplanet All-in-One Platform’ ขยายขีดความสามารถของเทคโนโลยีด้านการตลาดและการขาย ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ โตรับเทรนด์การตลาดดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

- จุดแข็งของ READY นอกจากอยู่ในธุรกิจที่เป็นเทรนด์ของโลกยุคใหม่ ยังมีความแข็งแกร่งด้วยทีมผู้บริหาร และ ‘ทรงยศ คันธมานนท์’ ที่มีประสบการณ์และ

------------------------------------

ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อีคอมเมิร์ซ และการตลาดดิจิทัลมากว่า 22 ปี

บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ ‘READY’ เป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม Marketing Technology กำลังเดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO 35 ล้านหุ้น โดยมีเป้าหมายในการนำแพลตฟอร์ม ‘Readyplanet All-in-One Platform’ ขยายขีดความสามารถของเทคโนโลยีด้านการตลาดและการขาย โตรับเทรนด์การตลาดดิจิทัล
 
โดย READY คือผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัลแบบรวมเป็นหนึ่งเดียว ที่ครอบคลุมด้านเว็บไซต์ (Website), โฆษณาออนไลน์ (Online Advertising), ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และระบบจองโรงแรมโดยตรง (Hotel Direct Booking) โดยให้บริการผ่านแพลตฟอร์มที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาขึ้นเอง พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษา ซึ่งนับเป็นแพลตฟอร์มของคนไทยที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งในปัจจุบัน
 
ซึ่งล่าสุด READY กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจ (Sector) เทคโนโลยี (Technology) ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้
 
ทำไม ‘READY’ ถึงเป็นหุ้นน้องใหม่ที่น่าจับตา เราจะมาอธิบายให้ฟังในบทความนี้กัน



โอกาสของ ‘READY’ อยู่ในตลาดธุรกิจบริการดิจิทัลและซอฟต์แวร์ที่โตไม่หยุด

อย่างที่บอกไปว่า READY เป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการ Marketing Technology ดังนั้นการเติบโตของธุรกิจจึงมาจากอุตสาหกรรมอย่าง ‘ธุรกิจบริการดิจิทัลและซอฟต์แวร์’ ซึ่งได้เพิ่มขึ้นตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี
 
ผลสำรวจข้อมูลสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ประจำปี 2564 ใน 3 อุตสาหกรรม ประกอบด้วย อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ และอุตสาหกรรมบริการดิจิทัลจาก ดีป้า ร่วมกับ สถาบันไอเอ็มซี พบว่า มีมูลค่ารวม 8.98 แสนล้านบาท ขยายตัว 25% จากปี 2563
 
และหากนับรวมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ที่สำรวจโดยดีป้า และอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม ปี 2564 จากการสำรวจโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) จะมีมูลค่ารวมที่ 1.58 ล้านล้านบาท ขยายตัว 14.33% สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการเติบโตอย่างมากในทุกภาคส่วนอุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมที่ขยายตัวสูงที่สุดคือ อุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล
 
การเติบโตดังกล่าวมาจากการที่สังคมไทยกำลังเข้าสู่บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ผู้คนใช้งานแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ (E-Retail) รับชมสื่อออนไลน์ และใช้บริการขนส่ง (E-Logistics) มากขึ้น ซึ่งตลาดที่เติบโตชัดเจนคือ E-Logistics เช่น บริการสั่งอาหาร ถือเป็นตลาดที่มีการขยายตัวมากกว่า 57% เช่นเดียวกับ E-Retail ที่เติบโต 44%
 
ขณะเดียวกันธุรกิจของ READY ยังเติบโตไปตามอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล ซึ่งน่าสนใจว่าในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมโฆษณาของประเทศไทยมีเม็ดเงินลงทุนผ่านสื่อดิจิทัลโดยรวมเพิ่มขึ้นสะสมในอัตราเติบโต 27.5%
 
การประเมินโดยสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ร่วมกับ คันทาร์ (ประเทศไทย) คาดการณ์ว่าเม็ดเงินลงทุนผ่านสื่อดิจิทัลจะเพิ่มมากขึ้นประมาณ 9% ในปี 2565 เป็น 27,040 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตนั้นนอกจากพฤติกรรมการใช้สื่อของผู้บริโภคที่เข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้นแล้ว 
 
ทางด้านของแบรนด์เองมีการโยกเม็ดเงินโฆษณาจากสื่อดั้งเดิมไปสู่สื่อดิจิทัล เราเห็นว่าแบรนด์ต่างๆ ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือดิจิทัลที่หลากหลายขึ้น สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างและเอ็นเกจได้ดีขึ้น แบรนด์เห็นประโยชน์จากสื่อดิจิทัล ทั้งการสร้าง Awareness และ Conversion อีกทั้งยังสามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
 
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นโอกาสสำหรับ ‘READY’ ทั้งสิ้น

จุดแข็งด้วยประสบการณ์กว่า 22 ปี 

ทุกคนต่างรู้ว่า ‘ดิจิทัล’ จะเป็นอนาคตที่สำคัญและมองข้ามไม่ได้ แต่สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจสามารถไปต่อได้ คือความแตกต่างและความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้
 
ซึ่ง READY นอกจากอยู่ในธุรกิจที่เป็นเทรนด์ของโลกยุคใหม่ มีความแข็งแกร่งด้วยทีมผู้บริหาร และ ‘ทรงยศ คันธมานนท์’ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อีคอมเมิร์ซ และการตลาดดิจิทัลมากว่า 22 ปี ได้รับการยอมรับจากพันธมิตรซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับโลก เช่น Google, YouTube, Facebook และ TikTok เป็นต้น 



ขณะที่ทีมงานมีการพัฒนา Readyplanet All-in-One Platform เพื่อตอบโจทย์ด้านการขายและการตลาดดิจิทัลแบบรวมเป็นหนึ่งเดียว (All-in-One Platform) เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นมาเอง ทำให้บริษัทไม่มีความเสี่ยงในเรื่องการพึ่งพิงแพลตฟอร์ม หรือซอฟต์แวร์ของผู้พัฒนาจากต่างประเทศ  
 
สำหรับ Readyplanet All-in-One Platform ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นแพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัลระดับโลกภายใต้ค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่า และเป็น Future ของ READY ประกอบไปด้วยโปรแกรมต่างๆ ที่พัฒนาสำหรับงานด้านการขายและการตลาดดิจิทัล ซึ่งครอบคลุม 3 ด้าน คือ 
 
- การสร้างและบริหารจัดการเว็บไซต์ (Website)
- การทำโฆษณาออนไลน์ (Online Advertising)
- การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM)
 

แข็งแกร่งด้วย ‘Readyplanet All-in-One Platform’

ที่น่าสนใจคือ READY เน้นการทำตลาดแพลตฟอร์ม Readyplanet All-in-One Platform เข้าสู่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีผู้ใช้จำนวนมาก ซึ่งประกอบไปด้วยธุรกิจไทยขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มีสินค้าหรือบริการที่ชัดเจนแล้ว มีการดำเนินธุรกิจมาแล้วอย่างมั่นคงในระดับหนึ่ง (Established Businesses) และมีความต้องการที่จะขยายธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยีอย่างจริงจัง
 
กลยุทธ์นี้เองทำให้ได้รายได้ประจำใหม่ (NEW MRR-New Monthly Recurring Revenue) และรายได้เฉลี่ยต่อลูกค้าใหม่สูงขึ้น (NEW ARPA-New Average Return Per Account) กลยุทธ์การทำการตลาด Readyplanet All-in-One Platform นี้ ทำให้แม้ในช่วงโควิดที่ยังไม่จางหาย READY ยังสามารถมีกำไรกลับมา Turnaround และยุคหลังโควิดมองว่าจะเติบโตยิ่งขึ้น
 
ด้านผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง มั่นคง รายได้ลักษณะ Recurring จากบริการที่เป็นรูปแบบเช่าใช้ 95% ผ่านการให้บริการเป็นรายเดือนหรือรายปี และต้องชำระค่าใช้บริการล่วงหน้า และมีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมากในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้ไม่เกิดการพึ่งพิงลูกค้ารายใดรายหนึ่งอย่างมีนัยสำคัญ



เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่

สำหรับวัตถุประสงค์การใช้เงินในการเข้าระดมทุนในครั้งนี้ประกอบไปด้วย 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 
 
- ใช้สำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Readyplanet All-in-One Platform) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและคุณสมบัติในการทำงาน (Functions & Features) ให้สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ 
 
- ใช้สำหรับขยายทีมขายและทีมการตลาดในการหาลูกค้าใหม่ (New Customer Acquisition) เพื่อขยายฐานลูกค้า และนำเสนอบริการเพิ่มจากฐานลูกค้าปัจจุบัน (Up-Selling & Cross-Selling) 
 
- ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท
 
โดย READY มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ



ทั้งหมดทั้งมวลเมื่อมองจากอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต ตลอดจนธุรกิจที่แข็งแกร่งและจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ READY คือหุ้นน้องใหม่ที่ทำให้เราไม่สามารถพลาดได้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่