[K-POP REVIEW]
DAY6 - The Book of Us : Entropy

** โปรดอ่าน! **
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยเพราะคนเขียนไม่ได้มีความรู้เรื่องของเพลงแม้แต่นิดเดียว

" ความรักทุกระดับ "

- มีความรู้สึกว่ายังหายใจไม่ทั่วท้องสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ไม่เพียงพอ ห่างจากคัมแบ็คซีรี่ย์แรกไปได้เพียง 4 เดือนการกลับมาในรูปแบบสตูดิโออัลบั้มชุดที่สาม 'Entropy' จากห้าหนุ่มอัลเทอร์ร็อค DAY6 เป็นการสานต่อภาคซีรี่ย์หนังสือจากบทแรก Gravity แรงดึงดูดของความรักและเรื่องราวในการให้กำลังใจต่างๆ

- Entropy ในเชิงความหมายของวิทยาศาสตร์มันคือการกลับหลังหันหรือหลบหนีแต่ในเชิงของเดย์ซิกนั้นคำๆนี้มันคือสิ่งที่ไม่แน่นอนในเรื่องความรักและการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่รู้ว่าจะต้องเดินไปทางไหนกันแน่ อัลบั้มชุดที่แล้วคือการเริ่มต้นที่ยั่งยืนงั้นผลงานตัวนี้คงเป็นการเล่าเรื่องราวที่ค่อนสับสนและซับซ้อนมากกว่าไหนๆ หรือไม่ก็อาจจะเป็นการเล่าเนื้อหาความรักแบบเต็มสูตรทั้งงานไปเลยก็ได้

1. Deep in Love  สไตล์ป็อบเมทัลแอลเอ 80s ความรักของเราสองคนมันยังลงไปลึกได้มากกว่านี้ การเปิดแทร็คในความหมายที่ชัดเจนในเรื่องของความรักถือว่าเป็นการต่อบทแรกได้อย่างดี first impression โคตรชอบเพลงนี้เลยหว่ะ เป็นซาวน์ดร็อคที่เก่าแต่มันไม่น่าเบื่อ โวคอลในท่อนฮุคดูมีพลังที่ทำให้เชื่อว่าความรักของเราสองคนมันลงลึกจริงๆ เปิดมาดีเลยแหละ

2. Sweet Chaos  เมื่อคุณเริ่มเข้ามาในชีวิตของผม ทุกอย่างกลับตาลปัดไปซะทุกอย่างแต่มันก็เป็นความตาลปัดวุ่ยวายที่แสนหอมหวาน ผมกลัลชอบมันซะด้วยสิ ไตเติ้ลแทร็คแนว swing punk rock เข้าสู่เนื้อหาที่ตรงธีมคอนเซ็ปชื่ออัลบั้ม เดย์ซิกก็คือเดย์ซิกยังวันยังค่ำ การดำเนินไตเติ้ลแบบร็อคจัดจ้านเป็นซิกเนเจอร์ของวงไปโดยปริยาย

3. EMERGENCY เพราะคุณแท้ๆทำให้หัวใจของผมทำงานผิดปกติเต้นไม่เป็นจังหวะ จังหวะดิสโก้ที่โคตรชวนโยกสั--สๆ เป็นแทร็คที่ยกนิ้วให้เลย วาไรตี้เฉียบขาด ภาคดนตรีเน้นความสนุกแบบเต็มเปี่ยมกราบหว่ะพี่

4. Recuse Me  ร็อคเมทัลเข้มข้นและจัดจ้าน การร้องขอความช่วยเหลือจากคุณ ได้โปรดพาผมไปที่ไหนก็ได้ขอแค่ให้มีคุณอยู่ที่นั่น

5. 365247  จังหวะ Latin pop ชวนโยกเบาๆ ผมจะใช้เวลาทั้งหมดเพื่ออยู่กับคุณ พร้อมรึยังสำกรับค่ำคืนที่ร้อนแรง โอ้วไม่รู้คิดไปเองมั้ยแต่เนื้อหามีความเรทผู้ใหญ่เบาๆอยู่นะแล้วเพลงเป็นละตินด้วยก็... //ปิดตา

6. About Now  electro synth guitar ชิลๆง่ายๆ เริ่มเป็นกังวลว่าคุณจะหลับฝันดีมั้ย อาหารในเงลาค่ำจะยังอร่อยอยู่รึเปล่าเมื่อไม่มีผมคอยอยู่ด้วยมันเหมือนเป็นรักที่ดูกังวลทั่วไปนะแต่พอลองไปมองเนื้อหาแทร็คข้างบนทำไมมันสานต่อแปลกๆ เอ๊ะหรือว่า... //ปิดหู

7. OUCH  ไอโน่นก็ไม่ดีไอนี่ก็ไม่ดี ผมมันไม่เคยอยู่ดีในสายตาคุณเลยสินะ..ขอโทษแล้วกันที่ผมไม่ดีเอง แนว hip hop ผสมกีต้าร์แบบ bossa nova กับการร้องแบบสไตล์ละติน อารมณ์โคตรจะพ่อแง่ที่งอนแฟนแบบน่ารักๆ ชอบท่อน 'aya ya ya' เด็กน้อยขี้งอนโคตร

8. Not Fine  ความรู้สึกเย็นของคนรีกทั้งสองมันเริ่มที่จะทำให้ความสัมพันธ์สั่นคลอน ถ้ามันจะจบจริงๆโคตรไม่โอเคเลยหว่ะถึงจะฝืนยิ้มแค่ไหนแต่ข้างในมันไม่โอเคเว้ย

9. Stop Talking reggae guitar ท่อนฮุคที่เต็มเปี่ยมไปด้วยร็อคฟาดๆ เนื้อหาก็ตรงกับชื่อเพลงชัดเจน คุณเลิกพูดเถอะเพราะยังไงเรื่องของเราแม่--งก็จบกันไปแล้ว ท่อนบริจด์ขยี้เนื้อหาได้สะใจข้าพเจ้าดีนัก

10. Not Mine  ซาวน์ดที่ให้อารมณ์ classical มาผสมกับแนวร็อคแสดงความตัดพ้อ เวลาทั้งหมดที่ผมให้คุณทำไมมันถึงไม่เป็นเหมือนที่คิดไว้หล่ะคุณเบือกที่จะเดินทางตรงข้ามกับความรู้สึกของผมโดยที่ไม่สนใจใยดีในตัวผมเลย ตัดพ้อมากมั้ยหล่ะ ฟังครั้งแรกแบบโหเลยนะเพราะไม่คิดเดย์ซิกจะหยิบแนวนี้มาเป็นส่วนผสมของตัวเอง เซอร์ไพร์สไม่น้อย

11. Like a flowing wind  rock ballad ซึ้งๆ ในเมื่อรั้งให้คุณอยู่ไม่ได้ก็คงต้องปล่อยคุณไปเปรียบดั่งสายลมพัดมาแล้วก็ผ่านไป เนื้อหาที่บาดคมแสดงความอกหักปิดฉากอัลบั้มได้อย่างชัดเจน

- 11 แทร็คกับเรื่องราวความรักเต็มรูปแบบที่มาในเรื่องของความรักที่มีทุกระดับเริ่มจากการตกหลุมรัก การได้เริ่มรัก การเข้าใจในแง่ของเชิงลึก การตัดพ้อน้อยใจจนไปถึงการจากลา พูดตรฃๆจากใจหลังจากได้เริ่มเปิดใจฟังเพลงของเดย์ซิก เนื้อเพลงโคตรจะมีความเป็นบทกวีตัวพ่อผู้เชี่ยวชาญผ่านประสบการณ์ในด้านความรักมาแล้วทุกรูปแบบ ยองเคค่อนข้างเขียนเนื้อเพลงออกมาได้ตรงไปตรงมาไหนจะพรรคพวกในทีมที่สกิลการเขียนเนื้อที่ไม่ธรรมดาอีกด้วยเพราะฉะนั้นงานเพลงชุดนี้มันไม่ใช่การสับสบในเรื่องของความรักหรอก มันเป็นการเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบของ love story ที่มีทุกรูปแบบบนโลกใบนี้แบบเบสิคๆที่สามารถเชื่อมโยงให้คนฟังเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย

- Entropy ในความหมายของซีรี่ย์หนังสือเล่มนี้จึงไม่ใช่ความสับสนอะไรอย่างที่บอกไปในด้านของเนื้อหาเพลง อ้างอิงจากหลักวิทยาศาสตร์ที่มันแปลว่า 'การหันหลัง หลบหนี'... genres ในอัลบั้มชุดมันเป็นหันหลังให้กับแนวเพลงสไตล์เดิมของตัวเองที่ย่ำอยู่จุดเดิม รีวิวเดย์ซิกพาร์ทแรกที่เคยบอกไว้ว่าตัววงเริ่มเข้าสู่ความเป็น alternative มากขึ้น ผลงานสตูดิโอตัวนี้จึงเป็นคำตอบที่ชัดเจนเลยแหละว่าเดย์ซิกเป็นวงสาย 'alternative band' อย่างเต็มตัว ในเรื่องความหลากหลายของซาวน์ดที่มีตั้งแต่ 80s ยันฮิปฮอปที่ไม่คิดว่าแม่--งจะเข้ามาอยู่ในสาระบบสูตรสำเร็จของวงได้แต่เดย์ซิกกลับสามารถเอามันมาผสมผสานให้เข้ากับสไตล์ดั้งเดิมของตัวเองผลที่ได้แม่ฃออกมาดีอย่างหน้าตาเฉย เป็นความแปลกใหม่หลุดกรอบไปไกลโผมากกว่าวงร็อคอินดี้แถวหน้าอย่าง hyukoh หรือม้ามืด jannabi ซะอีก

- พึงพอใจกับอัลบั้มชุดนี้เป็นอย่างมากนะ สร้างมาตรฐานตัวเองสูงขึ้นไปเรื่อยๆ พัฒนาความสามารถที่ไม่ย่ำอยู่กับที่ถึงแม้ว่าจะยังคงไม่ลืมลายเซ็นกำพืดเดิมของตัวเอง ถือว่าเป็นการผสมผสานแนวต่างๆปรับเอยปรับใจให้มันเข้ากับสไตล์ของวงให้มากที่สุด