** โปรดอ่าน! **
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยเพราะคนเขียนไม่ได้มีความรู้เรื่องของเพลงแม้แต่นิดเดียว
-
[K-POP REVIEW]
DAY6 ‒ The Book of Us : The Demon
Release : 2020/05/11
Genre : alternative pop rock
▶️ จากรีวิวอัลบั้มที่แล้วของ ‘DAY6(เดย์ซิก)’ กับความรักทุกระดับประทับใจที่สร้างแนวทางดนตรีของตัวเองอย่างชัดเจนและเลื่อนไหลไปได้หลายรูปแบบที่มีทั้งป็อบ ดิสโก้ ฮิปฮอปแถมอัพเกรดพรรธนาการของตัวเองให้ไปอยู่ในจุดของคำว่าอินดี้ขึ้นกว่าเดิม ความไม่พลาดสำหรับ era สั้นๆในอีพีใหม่คงไม่พ้นอยู่ดีสำหรับวงดนตรีที่เทิร์นสายตัวเองไปงานอัลเทอร์ป็อบร็อคในค่ายแมสที่ปัจจุบันก็คงได้ใช้คำว่า‘แมส’อย่างจริงจังแล้วแหละสำหรับชื่อเสียงของวง
▶️ การกลับมาในอีพีใหม่ ‘The Demon’ ห่างหายช่วงการปล่อยซีรี่ย์หนังสือไปได้ 7 เดือน ทฤษฎีความรักในครั้งนี้เริ่มกลายเป็นความไม่สมดุลในความรู้สึกที่อยากจะรักใครสักคน เริ่มเห็นพลังงานด้านชาจนกลายเป็นคนที่ไร้หัวใจ อย่างเช่นซิงเกิ้ลโปรโมท emotional อย่าง Zombie แนวบัลลาดร็อคที่ความหมายก็ตรงตามคอนเซ็ปแบบพอดับพอดี เปรียบดั่งซอมบี้ที่มันไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับความรักสักนิดเดียวแค่มีชีวิตอยู่ไปวันๆอย่างไร้จุดหมายโดยไม่มีใครแถมมีเซอร์วิสแฟนเพลงต่างชาติด้วยการเพิ่มแทร็คเป็น English Ver. เพื่อความเข้าใจมากขึ้นอีกด้วยนะ
1. จะขอเริ่มต้นด้วยซาวน์ดคงความเป็นร็อคแบบ 80s อย่าง Day and Night เหมือนถูกเล่นกับความรู้สึกที่เริ่มจะหวั่นไหวแต่สุดท้ายกลับคลาดกันราวกับว่าเหมือนพระจันทร์กับพระอาทิตย์ที่คอยสลับเวลาตลอด ประทับใจท่อนบริจด์ที่อัพความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ มันเจ๋งดี
2. Tick Tock โซลโมเดิร์นร็อค 70s นี่คือจุดจบของความสัมพันธ์ที่ต่างคนต่างไม่ใยดีกันแล้ว ปล่อยให้เสียงนาฬิกามันเดินหน้าจนกว่าจะหมดวันไป ช่วง intro ค่อนข้างสวิงกับอารมณ์แฮะ จัดว่า deep ใช้ได้
3. Love me or Leave me ชื่อแทร็คบอกความหมายอย่างสุดโต่งและมันคือแทร็คที่โคตรจะสุดเอามากๆในเรื่องของการ deep ซาวน์ดให้สนุกแต่ยังเจ็บปวดแบบสุดพลังแถมยังมีจังหวะฮิปฮอปพอหอมปากหอมคอซะด้วย เดย์ซิกพี่หาทำไปได้นะเว้ยเฮ้ย!
4. เข้าสู่โหมดร็อคแบบจัดจ้านเพื่อหยุดความสัมพันธ์อย่างจริงๆจังๆ STOP ซาวน์ดเมทัลยุค 90s ค่อนข้างจะทับซ่อนกับ Deep in Love ไปหน่อย ไม่รู้สึกเซอร์ไพร์สเท่าที่ควรแต่ความไพเราะยังคงมีเหมือนเดิม
5. 1 to 10 จากหนึ่งถึงสิบก็ไม่มีใครที่จะรู้ใจผมได้เท่าคุณอีกแล้วนะที่รัก จังหวะ shuffle-bass งาน 80s ความหมายดูหลุดธีมแต่ซาวน์ดยังคงเจ๋งแจ๋วไม่ผิดเพี้ยนไปมากมาย
6. Afraid ความกลัวที่ไม่สามารถปล่อยคุณให้ไปมีความสุขได้ ร็อคบัลลาด emotional ดำดิ่งความเศร้าของตัวเองปิดแทร็คลิสต์สูตรเดิมของเดย์ซิกเฉกเช่นเคย
▶️ เดย์ซิกก็ยังคงเป็นเดย์ซิกอยู่เหมือนเดิมแทบไม่มีอะไรจะให้พูดและสาธยายไปมากกว่านี้อีกแล้วแหละ ซาวน์ดร็อคเก่าๆบวกกับการผสมผสานหยิบยืมแนวอื่นมาช่วยบรรเลงให้ภาคดนตรีดูมีชีวิตชีวาขึ้น จะว่ามันเป็นการย่ำสูตรจาก Entropy ก็ไม่เชิง ในบางเพลงเรายังพอได้เห็นลูกเล่นแบบใหม่มานำเสนอเพื่อไม่ให้มันเกิดความซ้ำซากจำเจแต่ความแปลกใหม่ก็ไม่ได้มีเยอะจนรู้ต้องว้าวไปกับมัน ฉะนั้นแล้วอีพีชุดนี้ก็คงทนมาตรฐานตัวเองอยู่เหมือนเดิมไม่ได้ลดหรือเพิ่มแต่ใดทั้งสิ้น ในสภาพจิตใจของเมมเบอร์ทุกคน ณ ตอนนี้พูดตรงๆทำได้ขั้นนี้ว่าโคตรเก่งแล้วเพราะถ้าเป็นคนอื่นอาจจะหายจากการทำเพลงไปในระยะยาวเลยก็ว่าได้.. ทางเพจเราขอให้เดย์ซิกทุกคนกลับมามีสุขภาพจิตใจที่แข็งแรงขึ้นเหมือนเดิมไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ตาม
.
.
“ หลังจากนี้คงจะไม่ได้ฟังเพลงใหม่พวกเขาอีกยาวนาน ”
(7/10)
Best Tracks: Tick Tock, Love me or Leave me, 1 to 10
Recommend Track: Love me or Leave me
thank u for reading 🙏
ถ้ามีคำหรือประโยคไหนที่ใส่มาเพื่อความอรรถรสแล้วไม่ถูกใจผู้อ่านทุกท่าน
ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยจ้า
[CR] [#ฉันจะมารีวิว] DAY6 ‒ ‘The Book of Us : The Demon’ 🌻 K-POP REVIEW
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยเพราะคนเขียนไม่ได้มีความรู้เรื่องของเพลงแม้แต่นิดเดียว
-
[K-POP REVIEW]
DAY6 ‒ The Book of Us : The Demon
Release : 2020/05/11
Genre : alternative pop rock
▶️ การกลับมาในอีพีใหม่ ‘The Demon’ ห่างหายช่วงการปล่อยซีรี่ย์หนังสือไปได้ 7 เดือน ทฤษฎีความรักในครั้งนี้เริ่มกลายเป็นความไม่สมดุลในความรู้สึกที่อยากจะรักใครสักคน เริ่มเห็นพลังงานด้านชาจนกลายเป็นคนที่ไร้หัวใจ อย่างเช่นซิงเกิ้ลโปรโมท emotional อย่าง Zombie แนวบัลลาดร็อคที่ความหมายก็ตรงตามคอนเซ็ปแบบพอดับพอดี เปรียบดั่งซอมบี้ที่มันไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับความรักสักนิดเดียวแค่มีชีวิตอยู่ไปวันๆอย่างไร้จุดหมายโดยไม่มีใครแถมมีเซอร์วิสแฟนเพลงต่างชาติด้วยการเพิ่มแทร็คเป็น English Ver. เพื่อความเข้าใจมากขึ้นอีกด้วยนะ
2. Tick Tock โซลโมเดิร์นร็อค 70s นี่คือจุดจบของความสัมพันธ์ที่ต่างคนต่างไม่ใยดีกันแล้ว ปล่อยให้เสียงนาฬิกามันเดินหน้าจนกว่าจะหมดวันไป ช่วง intro ค่อนข้างสวิงกับอารมณ์แฮะ จัดว่า deep ใช้ได้
3. Love me or Leave me ชื่อแทร็คบอกความหมายอย่างสุดโต่งและมันคือแทร็คที่โคตรจะสุดเอามากๆในเรื่องของการ deep ซาวน์ดให้สนุกแต่ยังเจ็บปวดแบบสุดพลังแถมยังมีจังหวะฮิปฮอปพอหอมปากหอมคอซะด้วย เดย์ซิกพี่หาทำไปได้นะเว้ยเฮ้ย!
4. เข้าสู่โหมดร็อคแบบจัดจ้านเพื่อหยุดความสัมพันธ์อย่างจริงๆจังๆ STOP ซาวน์ดเมทัลยุค 90s ค่อนข้างจะทับซ่อนกับ Deep in Love ไปหน่อย ไม่รู้สึกเซอร์ไพร์สเท่าที่ควรแต่ความไพเราะยังคงมีเหมือนเดิม
5. 1 to 10 จากหนึ่งถึงสิบก็ไม่มีใครที่จะรู้ใจผมได้เท่าคุณอีกแล้วนะที่รัก จังหวะ shuffle-bass งาน 80s ความหมายดูหลุดธีมแต่ซาวน์ดยังคงเจ๋งแจ๋วไม่ผิดเพี้ยนไปมากมาย
6. Afraid ความกลัวที่ไม่สามารถปล่อยคุณให้ไปมีความสุขได้ ร็อคบัลลาด emotional ดำดิ่งความเศร้าของตัวเองปิดแทร็คลิสต์สูตรเดิมของเดย์ซิกเฉกเช่นเคย
(7/10)
Best Tracks: Tick Tock, Love me or Leave me, 1 to 10
Recommend Track: Love me or Leave me
https://www.facebook.com/chanjamareview
ถ้ามีคำหรือประโยคไหนที่ใส่มาเพื่อความอรรถรสแล้วไม่ถูกใจผู้อ่านทุกท่าน
ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยจ้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้