เนื่องด้วยผมได้ทำเพจ ชื่อเพจ สมรภูมิสตาลินกราด และแนวรบตะวันออก แต่ช่วงหลังๆมานี้ดูเฟสบุ๊คแปลกๆ ผมกลัวว่า สิ่งที่ผมค้นคว้านำมาเขียนลงเฟส หากวันหนึ่งเกิดอะไรขึ้นกับเพจ ถูกแฮ๊ก หรือ ถูกปิด ก็ยังคงมีเนื้อหาเหล่านี้อยู่ ผมขออนุญาตถ่ายโอนข้อมูลมาไว้ใน pantip ให้ชาว pantip ได้อ่าน และขอใช้เก็บเป็นความทรงจำและข้อมูลของผมนะครับ
Don't forget how the Soviet Union saved the world from Hitler.
อย่าลืมว่าสหภาพโซเวียตปกป้องโลกจากฮิตเลอร์อย่างไร
บทความข่าว โดยสำนักข่าว Washingtonpost ตีพิมพ์ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2015 วันรำลึกครบรอบ 70 ปี การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2
ความสำคัญในแนวรบตะวันออก และการพ่ายแพ้ของฮิตเลอร์
ผมขอเอาบทความบางส่วน ของสำนักข่าวของประเทศสหรัฐอเมริกา รายนี้ ที่ระบุเกี่ยวกับชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่2 นั้น ต้องยกเครดิตให้ทางโซเวียต พาดหัวเขียนข่าวว่า Don't forget how the Soviet Union saved the world from Hitler.
"อย่าลืมว่าสหภาพโซเวียตปกป้องโลกจากฮิตเลอร์อย่างไร"
บทความในข่าว
ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อกล่าวถึง สงครามโลกครั้งที่ 2 ประชาชนจะคิดว่า ทหารสหรัฐต่อสู้ที่หาดนอร์มังดี(ฝรั่งเศส) และที่เกาะอิโวจิม่า(ญี่ปุ่น) มุ่งหน้าต่อไปแและยึดซากเมืองของฝรั่งเศส และคิดว่าชัยชนะของพันธมิตร เกิดได้ความแข็งแกร่งของนายพล Dwight D. Eisenhower และ ความร่วมมือจากอังกฤษ รวมถึงการมีระเบิดนิวเคลียร์ในครอบครอง
แต่ถ้าเราได้ไปที่รัสเซีย จะเห็นได้ว่ามุมมองแนวความคิดเรื่องของชัยชนะในสงครามโลกที่2 นั้นไม่เหมือนกัน ทางรัสเซียจะเรียกสงครามโลกครั้งที่2 นี้ว่า The Great patriotic war. หรือมหาสงครามของผู้รักชาติ ซึ่งมีวันสำคัญคือวันที่ 9 พ.ค. ของทุกปีเป็นวันรำลึกถึงชัยชนะของรัสเซียเหนือเยอรมันนี มีการจัดเดินสวนสนาม และแสดงยุทโธปกรณ์มากมาย ในการเฉลิมฉลอง
แต่ในปัจจุบันด้วยปัญหาความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกเพิ่มมากขึ้นจึงทำให้การเฉลิมฉลองนี้ พันธมิตรเดิมจึงไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมพิธีนี้
โซเวียตมีส่วนสำคัญที่สุดในกลุ่มสัมพันธมิตร ที่ต้องต่อสู้กับกองทัพเยอรมัน โดยถ้าจะเทียบความสูญเสีย ในทุกๆทหารอเมริกัน1คนที่ตายในการรบในแนวรบตะวันตกกับทหารเยอรมัน ทหารโซเวียตจะตายในแนวรบตะวันออกถึง 80 คน พูดง่ายๆคือ อัตราการสูญเสียของโซเวียตมากกว่าสหรัฐ 80 เท่า
ถึงแม้ว่าช่วงแรกของสงครามเยอรมันนีและโซเวียต ทำสนธิสัญญาจะไม่รุกรานกัน แต่สุดท้ายฮิตเลอร์ก็ฉีกสัญญาและโจมตีโซเวียต
นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ Max Hastings เขียนหนังสือที่ชื่อว่า "Inferno: The World at War, 1939-1945." เขาได้กล่าวว่าประชากรโซเวียตที่ตายไปในสงครามโดยประมาณการคือ 26 ล้านคน ซึ่งเป็นทหาร 11 ล้านคน (15 ล้านคนเป็นพลเรือน)
ทางเยอรมันได้สูญเสีย กำลังพล ยุทโธปกรณ์ต่างๆไปกว่า 75%ในการทำสงครามกับโซเวียต
(อีก25% สูญเสียในการรบกับสหรัฐอังกฤษฝรั่งเศส)
ซึ่งเป็นโชคดีที่พันธมิตรในแนวรบตะวันตกไม่ได้สูญเสียมากมายแบบโซเวียต หากนับรวมความสูญเสียของสหรัฐ อังกฤษ และโซเวียต นั้น ความสูญเสียของฝ่ายสัมพันธมิตรทั้งหมดจาก 100% จะเป็นความสูญเสียของโซเวียต 95% Max Hastings ได้กล่าวไว้ครับ
ในแนวรบตะวันออกมีการรบยิ่งใหญ่หลายสมรภูมิ ไม่ว่าจะเป็นสมรภูมิสตาลินกราด(การรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สองและเป็นจุดเปลี่ยนของสงครามโลกครั้งที่2 ตามที่นักประวัติศาสตร์หลายคนเห็นตรงกัน) หรือสมรภูมิคูร์ส (ที่เป็นสมรภูมิรบ ระหว่างรถถังของเยอรมันและโซเวียต ถือว่าการรบที่คูร์สเป็นสมรภูมิการรบโดยรถถังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการผลิตรถถังขึ้นมาใช้ในโลกและหลังจากการรบที่เมืองนี้เยอรมันไม่สามารถทำการบุกโซเวียตได้อีก ทำได้เพียงแค่ตั้งรับและถอยเท่านั้น) ซึ่งเมื่อเทียบกับแนวรบฝั่งตะวันตกไม่ค่อยเจอศึกใหญ่ๆแบบนี้เนื่องจาก เยอรมันวางทหารและยุทโธปกรณ์น้อยกว่าฝั่งตะวันออกมาก
เพราะแนวคิดฮิตเลอร์นั้น พื้นที่ในดินแดนทิศตะวันออกของเยอรมันนี เป็นพื้นที่ที่ฮิตเลอร์ต้องการยึดครองเพื่อเป็นที่สำหรับชาวเยอรมันในการขยายดินแดนที่อยู่และไว้รองรับการขยายตัวของประชากรชาวเยอรมัน
นี้จึงเป็นต้นเหตุหนึ่งของความต้องการทำการที่จะลดประชากรดั้งเดิมในพื้นที่แถบตะวันออกของเยอรมันนี โดยใช้ระบบอันน่ากลัว เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว นอกจากนี้ฮิตเลอร์ยังต้องการทำลายล้างระบบการปกครองของโปแลนด์และโซเวียต รวมถึงได้สังหารหมู่ชาวสลาฟอีกด้วย (ชาวสลาฟ ก็คือชาวรัสเซีย ยูเครน เบลลารุส)
เขียนโดย Timothy Snyder ในหนังสือชื่อ "Bloodlands: Europe between Hitler and Stalin."
ในปี 1943 โซเวียตได้สูญเสียทหารกว่า 5 ล้านนาย และ สูญเสียสมรรถนะในด้านการผลิตยุทธปัจจัย ไปกว่า 2 ใน3 แต่ก็ยังหยุดยั้งการรุกของเยอรมันไม่ได้ นี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ทางโซเวียตต้องการหยุดยั้งเยอรมัน (เสียเท่าไหร่ก็ยอมขอให้รบชนะ)
แต่ความสูญเสียนั้นเป็นที่น่าตกตะลึง
ในบันทึกของ นายพล Eisenhower ผู้บัญชาการทหารสัมพันธมิตร ในแนวรบตะวันตก ขณะนั้งเครื่องบินเดินทางไปมอสโคว ในปี 1945
กล่าวว่า
ในระหว่างที่เรากำลังเดินทางไปกรุงมอสโควด้วยเครื่องบิน พื้นที่ระหว่างชายแดนฝั่งตะวันตกของโซเวียต ตลอดจนถึงพื้นที่รอบๆชานกรุงมอสโคว เมื่อเรามองลงมาจากเครื่องบินจะพบแต่บ้านที่เป็นซากปรักหักพังเท่านั้น ตลอดพื้นที่ที่ถูกเยอรมันบุกยึดครองและมีการสู้รบ
จอมพลซูคอฟได้เล่าให้ฟังภายหลังว่า มีเด็ก ผู้หญิง และคนแก่มากมาย ต้องเสียชีวิตจากการสู้รบซึ่งทางโซเวียตไม่อาจจะประมาณการจำนวนผู้เสียชีวิตได้
เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วน ก่อนหน้าที่จะเกิดสงครามระหว่างเยอรมันกับโซเวียต คนในแถบพื้นที่ตรงนี้ก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับระบบการปกครองของสตาลินมาก่อนหน้าอยู่แล้ว มีคนตายหลายล้านคนจากการถูกประหาร และความอดอยาก จากสตาลิน
ซ้ำร้ายหลังจากที่เกิดสงครามกับเยอรมันนี ทหารเยอรมันบางส่วนรวมถึงพวกนาซีมายึดครองพื้นที่แถบนี้ก็ทำไม่ต่างจากสตาลิน (ประชาชนรับเคราะห์กรรมซะมาก)
ใน 100 ครอบครัวของชาวโซเวียตในช่วงสงคราม จะมีอยู่ 60 ครอบครัวที่จะต้องสูญเสียญาติไปอย่างน้อย1 คนจากการสู้รบกับเยอรมันนี
ข้างต้นคือบทความที่ผมย่นย่อมาให้อ่านกันครับ เกี่ยวกับความสำคัญของแนวรบตะวันออกที่หลายๆคน ไม่คุ้นและไม่เคยได้รู้มาก่อน
ไม่ได้มีเจตนาดูแคลนความสูญเสียของทหารสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และชาติพันธมิตรอื่นๆนะครับ จะมากจะน้อยมันก็คือความสูญเสียที่น่ายกย่อง เพราะเขาเหล่านั้นได้ช่วยปกป้องคนอีกมากจากภัยจากนาซี
แต่ที่เอาเรื่องนี้มาโพสเพราะอยากจะให้รู้ลึกเข้าไปถึงแนวคิดของฮิตเลอร์และกองทัพเยอรมันว่า แนวรบที่มีความสำคัญและชี้เป็นชี้ตายให้กองทัพเยอรมัน นั้นคือแนวรบตะวันออกครับ เพราะเยอรมันทุ่มกำลังกว่า 75% ไปอยู่ในแนวรบนี้ เหลือกำลังเพียง 25% เอาไปยันแนวรบด้านตะวันตก และฮิตเลอร์ยังใช้เวลามากกว่า 800 วันในการบัญชาการรบที่ wolf's lair หรือรังหมาป่า (กองบัญชาการแนวรบตะวันออก) ก่อนที่จะต้องละทิ้งกองบัญชาการนี้เมื่อกองทัพแดงใกล้เข้ามา
นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไม สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ที่เป็นศัตรูของลัทธิคอมมิวนิสต์ จึงต้องช่วยโซเวียต เพราะหากโซเวียตต้านไม่ได้และต้องยอมแพ้หรือยอมสงบศึกกับเยอรมัน ทหารเยอรมันรถถังและอาวุธต่างๆจากแนวรบตะวันออกจำนวน 75 เปอร์เซ็น ของกองทัพเยอรมันทั้งหมด จะมาสบทบกับทหารในแนวรบตะวันตกและแอฟริกาเหนือ และทรัพยากรณ์ด้านอาหารและพลังงาน รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม และแรงงานของโซเวียต จะช่วยสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพเยอรมันเป็นทวีคูณ ถึงตอนนั้น สหรัฐและอังกฤษที่ต้องข้ามทะเลเพื่อมาบุกยุโรปคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
จะเห็นได้ชัดเจนในกรณีที่ สหรัฐอเมริกาต้องช่วยเหลือโซเวียตในเรื่องของ ยุทธปัจจัยต่างๆ ส่วนมากจะเป็นอาหารและยานยนต์ ในโครงการให้เช่ายืมอาวุธและยุทโธปกรณ์อย่างอื่น แต่ถึงกระนั้นโซเวียตก็ยังต้องเสียทหารของตนเองเพื่อต่อสู้กับทหารเยอรมันอยู่ดี ทั้งหมดที่เล่ามานี้จึงเป็นสาเหตุว่าทำไม แนวรบตะวันออกมีความสำคัญในการชี้ชะตายุโรปและชี้ชะตาของโลกใบนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ลิงค์เต็มๆ สามารถอ่านได้ครับ
https://www.washingtonpost.com/news/worldviews/wp/2015/05/08/dont-forget-how-the-soviet-union-saved-the-world-from-hitler/
แนวรบตะวันออกในสงครามโลก นั้นสำคัญอย่างไร
เนื่องด้วยผมได้ทำเพจ ชื่อเพจ สมรภูมิสตาลินกราด และแนวรบตะวันออก แต่ช่วงหลังๆมานี้ดูเฟสบุ๊คแปลกๆ ผมกลัวว่า สิ่งที่ผมค้นคว้านำมาเขียนลงเฟส หากวันหนึ่งเกิดอะไรขึ้นกับเพจ ถูกแฮ๊ก หรือ ถูกปิด ก็ยังคงมีเนื้อหาเหล่านี้อยู่ ผมขออนุญาตถ่ายโอนข้อมูลมาไว้ใน pantip ให้ชาว pantip ได้อ่าน และขอใช้เก็บเป็นความทรงจำและข้อมูลของผมนะครับ
Don't forget how the Soviet Union saved the world from Hitler.
อย่าลืมว่าสหภาพโซเวียตปกป้องโลกจากฮิตเลอร์อย่างไร
บทความข่าว โดยสำนักข่าว Washingtonpost ตีพิมพ์ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2015 วันรำลึกครบรอบ 70 ปี การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2
ความสำคัญในแนวรบตะวันออก และการพ่ายแพ้ของฮิตเลอร์
ผมขอเอาบทความบางส่วน ของสำนักข่าวของประเทศสหรัฐอเมริกา รายนี้ ที่ระบุเกี่ยวกับชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่2 นั้น ต้องยกเครดิตให้ทางโซเวียต พาดหัวเขียนข่าวว่า Don't forget how the Soviet Union saved the world from Hitler.
"อย่าลืมว่าสหภาพโซเวียตปกป้องโลกจากฮิตเลอร์อย่างไร"
บทความในข่าว
ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อกล่าวถึง สงครามโลกครั้งที่ 2 ประชาชนจะคิดว่า ทหารสหรัฐต่อสู้ที่หาดนอร์มังดี(ฝรั่งเศส) และที่เกาะอิโวจิม่า(ญี่ปุ่น) มุ่งหน้าต่อไปแและยึดซากเมืองของฝรั่งเศส และคิดว่าชัยชนะของพันธมิตร เกิดได้ความแข็งแกร่งของนายพล Dwight D. Eisenhower และ ความร่วมมือจากอังกฤษ รวมถึงการมีระเบิดนิวเคลียร์ในครอบครอง
แต่ถ้าเราได้ไปที่รัสเซีย จะเห็นได้ว่ามุมมองแนวความคิดเรื่องของชัยชนะในสงครามโลกที่2 นั้นไม่เหมือนกัน ทางรัสเซียจะเรียกสงครามโลกครั้งที่2 นี้ว่า The Great patriotic war. หรือมหาสงครามของผู้รักชาติ ซึ่งมีวันสำคัญคือวันที่ 9 พ.ค. ของทุกปีเป็นวันรำลึกถึงชัยชนะของรัสเซียเหนือเยอรมันนี มีการจัดเดินสวนสนาม และแสดงยุทโธปกรณ์มากมาย ในการเฉลิมฉลอง
แต่ในปัจจุบันด้วยปัญหาความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกเพิ่มมากขึ้นจึงทำให้การเฉลิมฉลองนี้ พันธมิตรเดิมจึงไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมพิธีนี้
โซเวียตมีส่วนสำคัญที่สุดในกลุ่มสัมพันธมิตร ที่ต้องต่อสู้กับกองทัพเยอรมัน โดยถ้าจะเทียบความสูญเสีย ในทุกๆทหารอเมริกัน1คนที่ตายในการรบในแนวรบตะวันตกกับทหารเยอรมัน ทหารโซเวียตจะตายในแนวรบตะวันออกถึง 80 คน พูดง่ายๆคือ อัตราการสูญเสียของโซเวียตมากกว่าสหรัฐ 80 เท่า
ถึงแม้ว่าช่วงแรกของสงครามเยอรมันนีและโซเวียต ทำสนธิสัญญาจะไม่รุกรานกัน แต่สุดท้ายฮิตเลอร์ก็ฉีกสัญญาและโจมตีโซเวียต
นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ Max Hastings เขียนหนังสือที่ชื่อว่า "Inferno: The World at War, 1939-1945." เขาได้กล่าวว่าประชากรโซเวียตที่ตายไปในสงครามโดยประมาณการคือ 26 ล้านคน ซึ่งเป็นทหาร 11 ล้านคน (15 ล้านคนเป็นพลเรือน)
ทางเยอรมันได้สูญเสีย กำลังพล ยุทโธปกรณ์ต่างๆไปกว่า 75%ในการทำสงครามกับโซเวียต
(อีก25% สูญเสียในการรบกับสหรัฐอังกฤษฝรั่งเศส)
ซึ่งเป็นโชคดีที่พันธมิตรในแนวรบตะวันตกไม่ได้สูญเสียมากมายแบบโซเวียต หากนับรวมความสูญเสียของสหรัฐ อังกฤษ และโซเวียต นั้น ความสูญเสียของฝ่ายสัมพันธมิตรทั้งหมดจาก 100% จะเป็นความสูญเสียของโซเวียต 95% Max Hastings ได้กล่าวไว้ครับ
ในแนวรบตะวันออกมีการรบยิ่งใหญ่หลายสมรภูมิ ไม่ว่าจะเป็นสมรภูมิสตาลินกราด(การรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สองและเป็นจุดเปลี่ยนของสงครามโลกครั้งที่2 ตามที่นักประวัติศาสตร์หลายคนเห็นตรงกัน) หรือสมรภูมิคูร์ส (ที่เป็นสมรภูมิรบ ระหว่างรถถังของเยอรมันและโซเวียต ถือว่าการรบที่คูร์สเป็นสมรภูมิการรบโดยรถถังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการผลิตรถถังขึ้นมาใช้ในโลกและหลังจากการรบที่เมืองนี้เยอรมันไม่สามารถทำการบุกโซเวียตได้อีก ทำได้เพียงแค่ตั้งรับและถอยเท่านั้น) ซึ่งเมื่อเทียบกับแนวรบฝั่งตะวันตกไม่ค่อยเจอศึกใหญ่ๆแบบนี้เนื่องจาก เยอรมันวางทหารและยุทโธปกรณ์น้อยกว่าฝั่งตะวันออกมาก
เพราะแนวคิดฮิตเลอร์นั้น พื้นที่ในดินแดนทิศตะวันออกของเยอรมันนี เป็นพื้นที่ที่ฮิตเลอร์ต้องการยึดครองเพื่อเป็นที่สำหรับชาวเยอรมันในการขยายดินแดนที่อยู่และไว้รองรับการขยายตัวของประชากรชาวเยอรมัน
นี้จึงเป็นต้นเหตุหนึ่งของความต้องการทำการที่จะลดประชากรดั้งเดิมในพื้นที่แถบตะวันออกของเยอรมันนี โดยใช้ระบบอันน่ากลัว เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว นอกจากนี้ฮิตเลอร์ยังต้องการทำลายล้างระบบการปกครองของโปแลนด์และโซเวียต รวมถึงได้สังหารหมู่ชาวสลาฟอีกด้วย (ชาวสลาฟ ก็คือชาวรัสเซีย ยูเครน เบลลารุส)
เขียนโดย Timothy Snyder ในหนังสือชื่อ "Bloodlands: Europe between Hitler and Stalin."
ในปี 1943 โซเวียตได้สูญเสียทหารกว่า 5 ล้านนาย และ สูญเสียสมรรถนะในด้านการผลิตยุทธปัจจัย ไปกว่า 2 ใน3 แต่ก็ยังหยุดยั้งการรุกของเยอรมันไม่ได้ นี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ทางโซเวียตต้องการหยุดยั้งเยอรมัน (เสียเท่าไหร่ก็ยอมขอให้รบชนะ)
แต่ความสูญเสียนั้นเป็นที่น่าตกตะลึง
ในบันทึกของ นายพล Eisenhower ผู้บัญชาการทหารสัมพันธมิตร ในแนวรบตะวันตก ขณะนั้งเครื่องบินเดินทางไปมอสโคว ในปี 1945
กล่าวว่า
ในระหว่างที่เรากำลังเดินทางไปกรุงมอสโควด้วยเครื่องบิน พื้นที่ระหว่างชายแดนฝั่งตะวันตกของโซเวียต ตลอดจนถึงพื้นที่รอบๆชานกรุงมอสโคว เมื่อเรามองลงมาจากเครื่องบินจะพบแต่บ้านที่เป็นซากปรักหักพังเท่านั้น ตลอดพื้นที่ที่ถูกเยอรมันบุกยึดครองและมีการสู้รบ
จอมพลซูคอฟได้เล่าให้ฟังภายหลังว่า มีเด็ก ผู้หญิง และคนแก่มากมาย ต้องเสียชีวิตจากการสู้รบซึ่งทางโซเวียตไม่อาจจะประมาณการจำนวนผู้เสียชีวิตได้
เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วน ก่อนหน้าที่จะเกิดสงครามระหว่างเยอรมันกับโซเวียต คนในแถบพื้นที่ตรงนี้ก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับระบบการปกครองของสตาลินมาก่อนหน้าอยู่แล้ว มีคนตายหลายล้านคนจากการถูกประหาร และความอดอยาก จากสตาลิน
ซ้ำร้ายหลังจากที่เกิดสงครามกับเยอรมันนี ทหารเยอรมันบางส่วนรวมถึงพวกนาซีมายึดครองพื้นที่แถบนี้ก็ทำไม่ต่างจากสตาลิน (ประชาชนรับเคราะห์กรรมซะมาก)
ใน 100 ครอบครัวของชาวโซเวียตในช่วงสงคราม จะมีอยู่ 60 ครอบครัวที่จะต้องสูญเสียญาติไปอย่างน้อย1 คนจากการสู้รบกับเยอรมันนี
ข้างต้นคือบทความที่ผมย่นย่อมาให้อ่านกันครับ เกี่ยวกับความสำคัญของแนวรบตะวันออกที่หลายๆคน ไม่คุ้นและไม่เคยได้รู้มาก่อน
ไม่ได้มีเจตนาดูแคลนความสูญเสียของทหารสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และชาติพันธมิตรอื่นๆนะครับ จะมากจะน้อยมันก็คือความสูญเสียที่น่ายกย่อง เพราะเขาเหล่านั้นได้ช่วยปกป้องคนอีกมากจากภัยจากนาซี
แต่ที่เอาเรื่องนี้มาโพสเพราะอยากจะให้รู้ลึกเข้าไปถึงแนวคิดของฮิตเลอร์และกองทัพเยอรมันว่า แนวรบที่มีความสำคัญและชี้เป็นชี้ตายให้กองทัพเยอรมัน นั้นคือแนวรบตะวันออกครับ เพราะเยอรมันทุ่มกำลังกว่า 75% ไปอยู่ในแนวรบนี้ เหลือกำลังเพียง 25% เอาไปยันแนวรบด้านตะวันตก และฮิตเลอร์ยังใช้เวลามากกว่า 800 วันในการบัญชาการรบที่ wolf's lair หรือรังหมาป่า (กองบัญชาการแนวรบตะวันออก) ก่อนที่จะต้องละทิ้งกองบัญชาการนี้เมื่อกองทัพแดงใกล้เข้ามา
นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไม สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ที่เป็นศัตรูของลัทธิคอมมิวนิสต์ จึงต้องช่วยโซเวียต เพราะหากโซเวียตต้านไม่ได้และต้องยอมแพ้หรือยอมสงบศึกกับเยอรมัน ทหารเยอรมันรถถังและอาวุธต่างๆจากแนวรบตะวันออกจำนวน 75 เปอร์เซ็น ของกองทัพเยอรมันทั้งหมด จะมาสบทบกับทหารในแนวรบตะวันตกและแอฟริกาเหนือ และทรัพยากรณ์ด้านอาหารและพลังงาน รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม และแรงงานของโซเวียต จะช่วยสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพเยอรมันเป็นทวีคูณ ถึงตอนนั้น สหรัฐและอังกฤษที่ต้องข้ามทะเลเพื่อมาบุกยุโรปคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
จะเห็นได้ชัดเจนในกรณีที่ สหรัฐอเมริกาต้องช่วยเหลือโซเวียตในเรื่องของ ยุทธปัจจัยต่างๆ ส่วนมากจะเป็นอาหารและยานยนต์ ในโครงการให้เช่ายืมอาวุธและยุทโธปกรณ์อย่างอื่น แต่ถึงกระนั้นโซเวียตก็ยังต้องเสียทหารของตนเองเพื่อต่อสู้กับทหารเยอรมันอยู่ดี ทั้งหมดที่เล่ามานี้จึงเป็นสาเหตุว่าทำไม แนวรบตะวันออกมีความสำคัญในการชี้ชะตายุโรปและชี้ชะตาของโลกใบนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ลิงค์เต็มๆ สามารถอ่านได้ครับ
https://www.washingtonpost.com/news/worldviews/wp/2015/05/08/dont-forget-how-the-soviet-union-saved-the-world-from-hitler/