สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกสำหรับการรีวิวสถานที่เที่ยวสำหรับผม ผิดถูกยังไงต้องกราบขออภัยทุกท่านด้วยนะครับ

เรื่องมีอยู่ว่า ผมเคยสงสัยมานานมากแล้ว เกี่ยวกับเหตุการณ์ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

จนวันหนึ่งผมได้มีโอกาสได้ไปเหยียบที่นี่ด้วยตัวเองครั้งแรก ยอมรับครับว่ากลัวมาก ไม่กล้าเดินเพล่นพล่าน กลัวเดินอยู่ดีๆ โดนยิงจ่อหัวบ้าง กลัวขับรถอยู่ดีๆโดนประกบยิงบ้าง

ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงแค่ความกลัวที่คิดมากไปเท่านั้น ผิดคาดมาก 3 จังหวัดคือเมืองที่สะอาด น่าอยู่ ผู้คนเป็นมิตร อาหารอร่อย ไม่เชื่อลองแกล้งถามทางดูครับ ถ้าคนในพื้นที่เขารู้ว่าเรามาเที่ยวแล้วหลงทาง ส่วนมากเขาจะพาเราไปส่งให้ถึงที่เลย เพราะบางที่ก็ไม่มีรถโดยสาร เขากลัวเราลำบาก

ส่วนมากในหลายๆทริป ผมจะลงเครื่องที่หาดใหญ่ แล้วเช่ารถขับไปเองคนเดียว (เพราะชวนเพื่อนๆคนไหนๆก็ไม่มีใครกล้ามาด้วย) อีกเหตุผลคือ ที่สนามบินนราธิวาสนั้น ไม่มีรถเช่าใดๆ ระบบขนส่งสาธารณะเองก็มีไม่มาก ไปไหนมาไหนค่อนข้างลำบาก



เริ่มแรกเลย จากสนามบินหาดใหญ่ ผมแวะ CentralFestival Hatyai ก่อน เพื่อที่จะแวะซื้อขนมกรุบกริบ กาแฟ สเบียงอาหารไป เพราะเลยจากจุดนี้ไปจะไม่มีห้างอื่นอีกตลอดทาง (มีแค่ Tesco Lotus ที่อำเภอจะนะ และ Big C ปัตตานี เท่านั้น)


ขับรถไปเรื่อยๆ ระยะทางจริงๆประมาณ 120 กิโล หรือประมาณ 2 ชั่วโมงเพลินๆ ตลอดทางจะมีด่านตรวจของทหาร ดังนั้นเราสบายใจได้ แล้ววิวข้างทางก็ช่างสวยงดงาม เพราะเป็นถนนเลียบทะเลอ่าวไทยตลอดทาง เราสามารถแวะจอดจ่ายรูปตามชายหาด หรือแวะซื้ออาหารทะเลได้ในระหว่างทาง หาดที่ดังแถวนี้ก็หาดสะกอม อยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา นั่นเองครับ



ขับรถไปชั่วโมงกว่าๆ เราก็จะพบป้าย เย้ๆๆ ถึงแล้วๆๆ ปัตตานี 


เมืองปัตตานีนั้นก็มีเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มาก ร้านอาหารอร่อยๆก็เยอะมากเช่นกัน เริ่มจากศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ขับรถเพียงแค่ไม่กี่นาที่เท่านั้น จากตัวเมืองปัตตานี


ภายในศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวจะเปิดเวลา 8.00-17.00 ทุกวัน


ข้างๆกันนั้นก็มีพิพิธภัณฑ์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบจีน ด้านหน้าโดดเด่นไปด้วยประติมากรรม 18 อรหันต์จากเมืองจีนที่ช่างแกะสลักได้อย่างมีชีวิตชีวา แต่วันที่ไป เห็นปิดอยู่ทั้ง 2 วัน เลยอดเข้าไปเยี่ยมชมเลย

ขับรถไปอีกไม่ถึง 5 นาทีก็จะไปถึงมัสยิดกลาง จังหวัดปัตตานี ที่นี่คือไฮไลท์ของจังหวัดเลยก็ว่าได้ 


มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2497 ใช้เวลาก่อสร้างนาน 9 ปี เป็นมัสยิดที่สวยงาม ยิ่งใหญ่ และอลังการมาก ไปที่นี่ ถ่ายรูปกลางวันเสร็จ ก็ควรกลับมาถ่ายรูปตอนค่ำอีกรอบ จะได้รูปที่สวยไปอีกแบบ แต่แนะนำให้ไปก่อน 20.30 นะครับ เพราะมัสยิดจะเริ่มปิดไฟ


นอกจากที่นี่แล้วก็ยังมีมัสยิดกรือเซะ อีก 1 ที่ๆไม่ควรพลาด จากตรงนี้ไป ใช้เวลาขับรถประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้น


มัสยิดกรือเซะ หรือ มัสยิดสุลต่านมูซัฟฟาร์ชาห์ เป็นมัสยิดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปีในจังหวัดปัตตานี 

ข้างๆกันนั้นก็จะเป็นฮวงซุ้ยเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เรียกได้ว่าเดินไปเที่ยวถ่ายรูปมัสยิดเสร็จแล้วก็เดินมาถ่ายรูปฝั่งนี้กันต่อได้เลยฮะ


นอกจากที่นี่แล้ว จังหวัดปัตตานีเองยังมีที่เที่ยวธรรมชาติอย่างแหลมตาซี หรือแหลมโพธิ์ เป็นหาดทรายขาวยื่นต่อจากหาดตะโละกาโปร์ไปในทะเลอ่าวไทยทางทิศเหนือยาว 11 กม. เป็นป่าสนทะเล หาดทรายขาวสะอาด 



จากตัวเมืองปัตตานี ขับรถไปที่นี่ ใช้เวลาประมาณ 50-60 นาที ระยะทางประมาณ 45 กิโล เราสามารถขับรถมาได้เรื่อยๆจนสุดปลายแหลม ตลอดข้างทางบางช่วงจะมีรีสอร์ทของชาวบ้าน ร้านค้าประปราย และเรือหางยาวของชาวบ้านจอดอยู่ริมทะเล นับเป็นอีก 1 สถานที่ๆมีความเงียบสงบมาก ทรายก็ละเอียดมากเช่นกัน ส่วนสีฟ้าครามของน้ำทะเลนั้น ก็คงจะไปสู้ฝั่งทะเลอันดามันไม่ได้หรอกครับ

แล้วก็ยังมีน้ำตกทรายขาว อยู่ไม่ไกลเมืองปัตตานีมากนัก ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ที่นี่มีทั้งน้ำตก และบริเวณใกล้เคียงยังมีจุดชมวิว เขาหินช้างซึ่งมีก้อนหินสลักพระนามาภิไธยของสมเด็จย่าฯ และสมเด็จพระพินางเธอฯ มีพระพุทธรูปที่สร้างจากแก่นไม้ลั่นทม อายุกว่า 200 ปี จำนวน 2 องค์


มาถึงที่นี่แล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะขึ้นไปด้านบนเขาเพื่อชมวิวเมืองปัตตานีกันด้วยนะครับ วิวจากบนเขาอยากจะบอกว่าสวยมาก อากาศดีมาก มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งอยู่ด้านบนเขาด้วย


และจากที่นี่ไปไม่ไกลก็ยังมีสถานที่นึงที่น่าสนใจ คือ วัดช้างให้ (วัดราษฎร์บูรณะ)


มาถึงปัตตานีแล้วก็อย่าลืมแวะชิมโรตีชาชัก ที่โรงแรม CS ปัตตานีด้วยนะฮะ



ตอนนี้เองผมก็เพิ่งขับรถจากปัตตานี มาสนามบินหาดใหญ่ แล้วก็บินกลับกรุงเทพ เพลียมากๆ
 
เดี๋ยวคราวหน้าผมจะมาพาไปเที่ยวต่อที่ยะลา ขับรถจากปัตตานีไปไม่ถึงชั่วโมง เมืองนี้ไม่ติดทะเล แต่ก็มีที่เที่ยวธรรมชาติมากมาย อากาศที่นี่ดีเทียบเท่าภาคเหนือบ้านเราเลยนะ