เฟคนิวส์ (Fake news) ถ้าจะว่าไปแล้วเขาเล่นกันมาตั้งแต่ต้นยุคกรุงศรีอยุธยาเลยนู่นเลยทีเดียว แม้ยุคนั้นจะไม่มีอินเตอร์เน็ตก็จะอาศัยการทิ้งหรือทอด "บัตรสนเทห์" ไว้ตามที่สาธารณะ เช่นแขวงไว้กิ่งไม้ข้างถนนที่คนพลุกพล่าน หรือเอาไปวางไว้หน้าพระหนักพระเจ้าแผ่นดิน ในแผ่นดินของสมเด็จพระรามาธิบดีที่๒ พระราชพงศาวดารบันทึกไว้ว่ามีการ "ทอดบัตรสนเทห์" เยอะแยะ เป็นเหตุให้พระเจ้าแผ่นดินสั่งประหารขุนนางจำนวนมาก
.
.
เฟคนิวส์หรือ "บัตรสนเทห์" ที่โด่งดังและเกรียวกราวซึ่งมีการบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจนเห็นจะไม่เกินเหตุการณ์ "อีกาคาบข่าว" ในยุคต้นรัตนโกสินทร์นี่เอง หลังจากที่ร.๑ เสด็จสวรรคตและร.๒ เสด็จขึ้นครองราชย์ได้ไม่ถึง ๗ วัน ก็มีคนไปพบ "บัตรสนเทห์" ที่มีข้อความกล่าวหาเจ้าฟ้ากรมขุนกระษัตรานุชิต(เจ้าฟ้าเหม็น)ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าตากสินว่ากำลังซ่องสุมกำลังคบคิดกบฏ ที่มาที่ไปของบัตรสนเทห์นั้นไม่มีใครรู้ชัด รู้เพียงแต่ว่า "อีกา" คาบเอามาทิ้งไว้ในเขตพระราชฐาน ผลที่ตามาก็คือสั่งการตัดสินประหารชีวิตเจ้าฟ้าเหม็นและขุนนางอีกจำนวนหนึ่ง
.
.
ในรัชสมัยต่อมา บัตรสนเทห์ก็ถูกยกระดับขึ้นมา คือเปลี่ยนจากข้อเขียนต่อว่าขุนนางด้วยสำนวนธรรมดาๆ มาเป็นบทกลอนคือ "เพลงยาวบัตรสนเทห์" มีเนื้อหาต่อว่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่และเป็นที่โปรดปรานคนหนึ่งที่มีบรรดาศักดิ์เป็น "พระยา" ผมขออนุญาตคัดบางส่วนมาให้อ่านแล้วให้หลับตานึกภาพดูว่า "พระยา" ท่านนี้เหมือนข้าราชการ หรือรัฐมนตรีท่านใดนะครับ
......
จะเข้าวังตั้งโห่เสียสามหน
ตรวจพลอึกทึกกึกก้อง
ห่อผ้ากาน้ำมีพานรอง
สมุดชุดกล้องร่มค้างคาว
.......
ถนนกว้างสี่วามาไม่ได้
กีดหัวไหล่ไกวแขนให้ขัดข้อง
พวกหัวไม้เห็นกลัวหนังหัวพอง
ยกสองมือกราบออกราบดิน
ด้วยอำนาจราชศักดิ์นั้นหนักหนา
ถ้าเข้าคาแล้วแต่ล้วนเป็นสัตย์สิ้น
มีทหารชาญชัยใจทมิฬ
ดังจะกินเนื้อมนุษย์สุดภิภพ
จาก "บัตรสนเท่ห์" ยุคอยุธยา สู่ "เฟคนิวส์" ยุคโลกาวิภัตน์...../วัชรานนท์
.
.
เฟคนิวส์หรือ "บัตรสนเทห์" ที่โด่งดังและเกรียวกราวซึ่งมีการบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจนเห็นจะไม่เกินเหตุการณ์ "อีกาคาบข่าว" ในยุคต้นรัตนโกสินทร์นี่เอง หลังจากที่ร.๑ เสด็จสวรรคตและร.๒ เสด็จขึ้นครองราชย์ได้ไม่ถึง ๗ วัน ก็มีคนไปพบ "บัตรสนเทห์" ที่มีข้อความกล่าวหาเจ้าฟ้ากรมขุนกระษัตรานุชิต(เจ้าฟ้าเหม็น)ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าตากสินว่ากำลังซ่องสุมกำลังคบคิดกบฏ ที่มาที่ไปของบัตรสนเทห์นั้นไม่มีใครรู้ชัด รู้เพียงแต่ว่า "อีกา" คาบเอามาทิ้งไว้ในเขตพระราชฐาน ผลที่ตามาก็คือสั่งการตัดสินประหารชีวิตเจ้าฟ้าเหม็นและขุนนางอีกจำนวนหนึ่ง
.
.
ในรัชสมัยต่อมา บัตรสนเทห์ก็ถูกยกระดับขึ้นมา คือเปลี่ยนจากข้อเขียนต่อว่าขุนนางด้วยสำนวนธรรมดาๆ มาเป็นบทกลอนคือ "เพลงยาวบัตรสนเทห์" มีเนื้อหาต่อว่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่และเป็นที่โปรดปรานคนหนึ่งที่มีบรรดาศักดิ์เป็น "พระยา" ผมขออนุญาตคัดบางส่วนมาให้อ่านแล้วให้หลับตานึกภาพดูว่า "พระยา" ท่านนี้เหมือนข้าราชการ หรือรัฐมนตรีท่านใดนะครับ
......
จะเข้าวังตั้งโห่เสียสามหน
ตรวจพลอึกทึกกึกก้อง
ห่อผ้ากาน้ำมีพานรอง
สมุดชุดกล้องร่มค้างคาว
.......
ถนนกว้างสี่วามาไม่ได้
กีดหัวไหล่ไกวแขนให้ขัดข้อง
พวกหัวไม้เห็นกลัวหนังหัวพอง
ยกสองมือกราบออกราบดิน
ด้วยอำนาจราชศักดิ์นั้นหนักหนา
ถ้าเข้าคาแล้วแต่ล้วนเป็นสัตย์สิ้น
มีทหารชาญชัยใจทมิฬ
ดังจะกินเนื้อมนุษย์สุดภิภพ