เลวานเบิ้ล! บาเยิร์นยำใหญ่ดอร์ทมุนด์ขาดลอยขยับรั้งที่สาม
"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ดุดันเกินคาดไล่ถล่มคู่อริศึกแดร์คลาสสิกเกอร์ "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ 4-0 นับเป็นการเก็บชัยนัดแรกในลีกของ ฮันส์ ดีเทอร์-ฟลิค ขยับอันดับรั้งอันดับสามสำเร็จ ในการแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน คืนวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน เกมบิ๊กแมตช์ศึกแดร์คลาสสิกเกอร์ คืนวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ของโค้ชป้ายแดง ฮันส์ ดีเทอร์-ฟลิค ประเดิมคุมเกมยุโรปชนะมาได้ นัดนี้เริ่มกุมบังเหียนเกมลีกครั้งแรก จัดผู้เล่นเต็มอัตราใส่ "เลวานดอฟสกี้-นาบรี้" ในแผงเกมบุก หากชนะจะขึ้นรั้งที่สาม ขณะที่ ลูเซียง ฟาฟร์ เทรนเนอร์ "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ กำลังมีหวังนำจ่าฝูงชั่วคราวก่อน ถ้าเก็บสามแต้มสำเร็จ ม้านั่งสำรองมี "รอยส์" ส่วนตัวจริง "ซานโซ่-บรันด์ท" เป็นตัวทำลายแนวรับคู่แข่งร่วมลีกเมืองเบียร์ โดยก่อนเริ่มเตะมีการยืนไว้อาลัยแด่ โรเบิร์ต เอ็งเค่ นายทวารผู้ล่วงลับด้วย
เริ่มครึ่งแรกบาเยิร์นทำสำเร็จนาทีที่ 17 เบนฌาแม็ง ปาวาร์ เติมเกมเจาะมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ดีดให้ คิงส์เล่ย์ โกมัน ครอสบอลเข้ากลางเขตโทษ นิโค่ ชูลซ์ สกัดออกมาเข้าทาง ปาวาร์ อีกหนก่อนแบ็กเลือดน้ำหอม โยนเร็วกลับเข้าไปอีกครั้งและเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โถมตัวมาสะบัดหัวโหม่งบอลเข้าไป
ผ่านมานาทีที่ 26 โธมัส มุลเลอร์ ได้บอลจากเพื่อน ก่อนเจ้าตัวเลี้ยงลากบอลเข้าเขตโทษ แต่กองหลังดอร์ทมุนด์ พยายามไล่บีบ จนหัวหอกทีมชาติเยอรมันเสียหลัก แต่ยังไหลคืนมาที่ คิงส์เล่ย์ โกมัน วางเท้าปั่นบอลจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานไป
เสือใต้ยังได้ลุ้นนาทีที่ 32 เบนฌาแม็ง ปาวาร์ จ่ายบอลออกข้างสนามฝั่งขวาให้ คิงส์เล่ย์ โกมัน ส่งเร็วให้ แซร์ช นาบรี้ เลี้ยงจี้ออกข้างก่อนปาดเข้ากลางปากประตูเพื่อให้เพื่อนร่วมทีมเข้าชาร์จแต่ โรมัน เบือร์กี้ นายด่านเสือเหลืองอ่านเกม โฉบออกมารับบอลตัดหน้าได้ก่อน
บาเยิร์นชวดนำห่างนาทีที่ 38 เลออน โกเร็ทซ์ก้า รับบอลจากแดนกลาง ไหลออกริมสนามฝั่งซ้ายให้ อัลฟอนโซ่ เดวิส เปิดบอลเรียดผ่านเกมรับทีมเยือนเข้ากลางเขตโทษ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงเร็วจังหวะเดียว บอลแฉลบ นิโค่ ชูลซ์ มาเข้าทาง แซร์ช นาบรี้ ซัดจ่อ ๆ เข้าไปแต่เจ้าตัวยืนล้ำหน้า กรรมการเป่าเป็นลูกออฟไซด์
เสือเหลืองสร้างโอกาสนาทีที่ 45 อาชราฟ ฮาคิมี่ ถูก ดาวิด อลาบา เตะข้อเท้า เชิ้ตดำให้ฟรีคิกด้านข้างกรอบเขตโทษทางขวา ราฟาแอล เกร์เรย์โร่ เปิดบอลโต้งมาที่เสาสอง อักเซล วิตเซล วิ่งมาไปเพื่อยิงแต่เจ้าตัวเข้าไม่ถึงบอล จบ 45 นาทีแรก เสือใต้นำ 1-0
เริ่มครึ่งหลังเจ้าบ้านทิ้งห่างนาทีที่ 47 โยชัว คิมมิช จ่ายบอลยาวจากแดนหลังขึ้นหน้าออกข้างให้ โธมัส มุลเลอร์ ที่ยืนรอโล่งคนเดียว ลากบอลเข้าทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนส่งเข้ากลางเขตโทษ บอลเลย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่พยายามเข้ามายิงแต่ยังดีมี แซร์ช นาบรี้ ซัดผ่านมือ โรมัน เบือร์กี้ นายทวารทีมเยือนเข้าไปตุงตาข่าย แต่กรรมการขอดูวีเออาร์ว่าล้ำหน้าหรือไม่ ก่อนตัดสินให้เป็นประตูของบาเยิร์น
เสือใต้เดินเกมต่อนาทีที่ 52 คิงส์เล่ย์ โกมัน กระชากมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ลัดเลาะฝ่าผู้เล่นดอร์ทมุนด์ ก่อนโยนมาที่เสาสอง บอลผ่านตัว นิโค่ ชูลซ์ ฟูลแบ็กทีมเยือนมาที่ แซร์ช นาบรี้ ทิ้งตัวยิงแต่บอลเบาแถมไม่ตรงกรอบออกหลังไป
เจ้าถิ่นเกือบได้เพิ่มนาทีที่ 59 คิงส์เล่ย์ โกมัน ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ไหลตรงต่อไปที่ตัว โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สร้างโอกาสปั่นบอลในเขตโทษ ทว่าบอลวิถีเลี้ยวไม่มากพอออกข้างเสาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
ดอร์ทมุนด์ตอบโต้นาทีที่ 69 อาชราฟ ฮาคิมี่ รับบอลจากเพือ่น หลุดมาทางริมเส้นด้านขวา ก่อนปาดมาหน้าปากประตู ฆาบี มาร์ตีเนซ ทิ้งตัวสกัดแต่บอลยังทะลักมาหา ปาโก้ อัลกาเซร์ หัวหอกสำรองของทีมเยือน แต่ว่าเจ้าตัวกลับยิงไม่ถนัดบอลเลยผ่านตัวไปอย่างน่าเหลือเชื่อ
เจ้าถิ่นเฮอีกนาทีที่ 76 มานูเอล นอยเออร์ เปิดบอลยาวจากหน้าประตู บอลลอยโด่งมาที่ อีวาน เปริซิซ โหม่งชงให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ลงมาล้วงบอลต่ำ เก็บบอลก่อนจ่ายออกให้ โธมัส มุลเลอร์ ทำชิ่งตบคืนให้ เลวานดอฟสกี้ ยิงเข้าไปเป็นลูกสองของตนเอง
เสือใต้ได้สกอร์เพิ่มนาทีที่ 80 โยชัว คิมมิช ส่งบอลออกข้างริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย อีวาน เปริซิซ รับบอลไม่รอช้าครอสเข้ากลางหวังให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ชาร์จบอล ทว่ากลายเป็น มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ สกัดผิดเหลี่ยม บอลกระดอนเข้าประตูไปอีกเม็ด จบเกม บาเยิร์น ถล่ม ดอร์ทมุนด์ 4-0 ขยับรั้งที่สามในการคุมเกมลีกนัดแรกของ ฮันส์ ดีเทอร์-ฟลิค
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม\
บาเยิร์น มิวนิค (4-3-3):มานูเอล นอยเออร์,เบนฌาแม็ง ปาวาร์,ฆาบี มาร์ตีเนซ,ดาวิด อลาบา,อัลฟอนโซ่ เดวิส,เลออน โกเร็ทซ์ก้า (ติอาโก้ อัลกันตาร่า น.72),โยชัว คิมมิช,โธมัส มุลเลอร์,แซร์ช นาบรี้ (ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ น.70),โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้,คิงส์เล่ย์ โกมัน (อีวาน เปริซิซ น.75)
ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1 ):โรมัน เบือร์กี้,อาชราฟ ฮาคิมี่,มานูเอล อคานจี,มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์,นิโค่ ชูลซ์,ยูเลี่ยน ไวเกิล (ปาโก้ อัลกาเซร์ น.61),อักเซล วิตเซล,จาดอน ซานโซ่ (ราฟาแอล เกร์เรย์โร่ น.36),ยูเลี่ยน บรันด์ท,ธอร์กกาน อาซาร์,มาริโอ เกิทเซ่ (มาร์โค รอยส์ น.61)
credit : www.siamsport.co.th
มีฝีมือ "ฟลิค" ยิ้มแก้มปริ หลังพา "บาเยิร์น" เฮสองนัดติด
ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค กุนซือขัดตาทัพของสโมสรบาเยิร์น มิวนิก ออกอาการแฮปปี้สุดๆ หลังพาทีมคว้าชัย 2 เกมรวด ในช่วงที่เข้ามาคุมทีมชั่วคราว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 10 พ.ย. ว่า ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค หรือที่รู้จักกันในชื่อ ฮันซี่ ฟลิค เฮดโค้ชชั่วคราวของทัพ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิก ที่กำลังอยู่ในช่วงมีความสุขแบบสุดๆ หลังพาทีมรักเก็บชัยชนะ 2 นัดรวด นับตั้งแต่เข้ามาคุมทัพแทน นิโก โควัช อดีตเฮดโค้ชของทีม
โดย ฮันซี่ ฟลิค ที่อดีตเคยเป็นผู้ช่วยของ โยอาคิม เลิฟ แม่ทัพใหญ่ของทีมชาติเยอรมนีชุดคว้าแชมป์โลกปี 2014 ซึ่งเจ้าตัวได้ประเดิมการคุมทีมเสือใต้ในฐานะกุนซือชั่วคราว ด้วยการพาทีมเอาชนะ โอลิมเปียกอส 2-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา และนัดล่าสุดในศึกบุสเดสลีกา เกมบิ๊กแมตช์ "แดร์ คลาสสิกเคอร์" กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ "ฟลิค" ก็ได้โชว์ฝีมือคุมทัพด้วยการถล่มเสือเหลืองไปด้วยสกอร์ 4-0
"ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องสัญญาของผมเขาจะว่ายังไง (คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก บิ๊กบอสของบาเยิร์น) แต่สำหรับผมยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งสองเกมที่ผ่านไปมันก็แค่หน้าที่ที่ผมควรทำ ซึ่งผมสนุกกับโอกาสดีๆแบบนี้ ผมรู้มาเสมอว่ามันสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากจบเกมวันนี้ ผมมีความสุขจริงๆ ที่เราคว้าชัยชนะได้ทั้งสองเกม" ฟลิค กล่าว.
credit :
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1701085
'เลวาน'ทำลายสถิติมุลเลอร์ที่อยู่มากว่า50ปี
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตัวเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค ทำลายสถิติของ แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานนักเตะของ บาเยิร์น มิวนิค ที่อยู่ยงคงกระพันมานานกว่า 50 ปีสำเร็จ
แข้งวัย 31 ปีกดคนเดียวสองประตูช่วยให้ "เสือใต้" เปิดบ้านถล่ม ดอร์ทมุนด์ 4-0 ในเกมบุนเดสลีกา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่าน ถือเป็นการยิงประตูที่ 15 และ 16 ในซีซั่นนี้ของตัวเองหลังจากผ่านไป 11 เกมแรกของฤดูกาล
จากผลงานการสอยตาข่ายนี้ทำให้สตาร์ทีมชาติโปแลนด์ทำลายสถิติของ แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานนักเตะของสโมสรที่เคยพังตาข่ายให้สโมสร 15 ประตูจาก 11 เกมแรก เมื่อฤดูกาล 1968/69 หรือกว่าเมื่อ 50 ปีที่แล้วสำเร็จ
เลวานดอฟสกี้ ทำประตูไปแล้วถึง 23 เกมลูกจาก 18 เกมทุกรายการในซีซั่นนี้ เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูได้ 11 เกมติดต่อกันในบุนเดสลีกา เยอรมันด้วย
https://www.thsport.com/news-71651.html
ฟาร์ฟแจงเหตุผลทำไมถอดซานโช่ตั้งแต่ไก่โห่
ลูเซียง ฟาร์ฟ เทรนเนอร์ โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ เผยเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนตัว เจดอน ซานโช่ ปีกตัวเก่งออกจากเกมตั้งแต่ครึ่งแรก ชี้เป็นเรื่องของแท็คติคไม่ได้เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด
ซานโช่ ถูกเปลี่ยนตัวออกจากเกมตั้งแต่นาทีที่ 36 ในช่วงที่ ดอร์ทมุนด์ ตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค 0-1 โดย ฟาร์ฟ เลือกส่ง ราฟาเอล เกร์เรโร ตัวริมเส้นทีมชาติโปรตุเกส ลงมาเล่นแทน ก่อนที่ เสือเหลือง จะเป็นฝ่ายพ่ายไป 0-4
ซึ่งหลังจาก ปีกทีมชาติอังกฤษ ถูกเปลี่ยนตัวออกนั้น ทำให้หลายคนเป็นกังวลว่า ซานโช่ เกิดอาการบาดเจ็บหรือไม่ หลังเมื่อเกมกลางสัปดาห์กับ อินเตอร์ มิลาน เจ้าตัวมีอาการเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้เอง เทรนเนอร์เสือเหลืองได้ออกมาชี้แจงเหตุผลที่ถอด ซานโช่ แล้วโดยบอกว่าลูกทีมรายนี้ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บแต่ที่ต้องเปลี่ยนเพราะเป็นเรื่องของแท็คติค "เขาไม่ได้บาดเจ็บ เขาลงซ้อมเมื่อวานนี้ ผมต้องทำอะไรในสิ่งที่ผมเห็นและบอกตามตรงว่ามันไม่ดีพอ"
credit : www.siamsport.co.th
แวร์เนอร์กดเบิ้ล! ไลป์ซิกรุกคมบุกถล่มแฮร์ธ่า ขยับขึ้นรองจ่าฝูง
ทิโม แวร์เนอร์ ฟอร์มฮอตเหลือเกินยิงสอง แถมจ่ายให้เพื่อนอีกหนึ่งก่อนพา ไลป์ซิก บุกไปถล่ม แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 4-2 เก็บสามแต้มพร้อมแซงขึ้นไปนั้งรองจ่าฝูงมี 21 คะแนนตาม กลัดบัค ที่แข่งน้อยกว่าแค่แต้มเดียวเท่านั้น ส่วน "หญิงชรา" รั้งอันดับ 13 มี 11 คะแนน ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา
สนาม : โอลิมเปียสตาดิโอน
แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ภายใต้การคุมทีมของ อันเต้ โควิช ฟอร์มแผ่วลงจนหล่นมาอยู่ครึ่งล่างของตาราง ข่าวดีคือได้ วลาดิเมียร์ ดาริด้า พ้นโทษแบนกลับคืนทีม แดนหน้าทิ้ง โดดี ลูเคบากิโอ เป็นหัวหอก
แอร์เบ ไลป์ซิก ยังให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ กับ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ทำเกมริมเส้น คู่กองหน้าส่ง ทิโม แวร์เนอร์ ล่าตาข่ายกับ ยุสซุฟ โพลเซ่น
เกมนี้เตะกันในวันครบรอบ 30 ปีทำลายกำแพงเบอร์ลินด้วย เจ้าบ้านมีการนำกำแพงจำลองมาพังโชว์ด้วยการผลักให้ล้มกันในสนามเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญนี้เมื่อปี 1989
เจ้าบ้านออกนำก่อนนาทีที่ 32 มักซิมิเลี่ยน มิทเทิ่ลชตัดท์ ได้บอลแล้วลากมาหาช่องยิงจากนอกกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่ายสุดสวย 1-0
ไลป์ซิกตามตีเสมอได้ไวในนาทีที่ 38 เท่านั้นจากจุดโทษจากการทำแฮนดบอลของ คาริม เรกิก และเป็น ทิโม แวร์เนอร์ สังหารไม่เหลือ 1-1 ในช่วงทดเจ็บครึงแรก ไลป์ซิกแซงนำ 2-1 ยุสซูฟ โพลเซ่น ได้บอลทะลุกระชากทำท่าจะเข้าเขตโทษแตเลือกตอกส้นคืนมาให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ยิงจากนอกเขตโทษบอลแฉลบนิดๆ กลายเป็นดีเพราะพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
ครึ่งหลัง แอร์เบ ไลป์ซิก ยังครองเกมไดหมด แต่มาสนุกเอาในช่วง 5 นาทีสุดท้าย
นาที 86 เควิน คัมเพิ่ล ตัวสำรองไดบอลหลุดทะลุมาทางซ้ายกระชากเดี่ยวๆ ตัดเข้าเขตโทษ ล็อกหักเข้ากลางแล้วกดด้วยขวาเสียบโคนเสาไกล 3-1
ช่วงทดเวลาเจ็บ นาที 90+1 ไลป์ซิกหนีห่าง 4-1 เมื่อได้จังหวะแทงททะลุหลุดเดี่ยวไปดวลกับ ยาร์ชไตน์ แล้วบรรจงยิงเข้าไปอย่างเลือดเย็น
กระนั้นอีกนาทีถัดมาเจ้าถิ่น แฮร์ธ่า ก็ทวงประตูไล่มาเป็น 2-4 จากจังหวะที่กองหลังไลป์ซิก สกัดกันไม่ขาดบอลทะลักมาหน้าเขตโทษ ดาวี่ เซลเค่อ วิ่งมายิงด้วยขวาเข้าไป
จากนันไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แอร์เบ ไลป์ซิก บุกมาชนะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 4-2 แซงขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แฮร์ธ่า เบอร์ลิน: รูเน่ ยาร์ชไตน์ - ลูคัส คลึนเทอร์, เดดริก โบยาต้า, คาริม เรกิก, นิคลาส ชตาร์ค, มักซิมิเลี่ยน มิทเทิ่ลชตัดท์ - มาริอุส
บาเยิร์นยำใหญ่ดอร์ทขาดลอยขยับรั้งที่3 & เลวานทำลายสถิติมุลเลอร์มากว่า50ปี & ไลป์ซิกรุกคมบุกถล่มแฮร์ธ่าขึ้นรองจ่าฝูง
"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ดุดันเกินคาดไล่ถล่มคู่อริศึกแดร์คลาสสิกเกอร์ "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ 4-0 นับเป็นการเก็บชัยนัดแรกในลีกของ ฮันส์ ดีเทอร์-ฟลิค ขยับอันดับรั้งอันดับสามสำเร็จ ในการแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน คืนวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน เกมบิ๊กแมตช์ศึกแดร์คลาสสิกเกอร์ คืนวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ของโค้ชป้ายแดง ฮันส์ ดีเทอร์-ฟลิค ประเดิมคุมเกมยุโรปชนะมาได้ นัดนี้เริ่มกุมบังเหียนเกมลีกครั้งแรก จัดผู้เล่นเต็มอัตราใส่ "เลวานดอฟสกี้-นาบรี้" ในแผงเกมบุก หากชนะจะขึ้นรั้งที่สาม ขณะที่ ลูเซียง ฟาฟร์ เทรนเนอร์ "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ กำลังมีหวังนำจ่าฝูงชั่วคราวก่อน ถ้าเก็บสามแต้มสำเร็จ ม้านั่งสำรองมี "รอยส์" ส่วนตัวจริง "ซานโซ่-บรันด์ท" เป็นตัวทำลายแนวรับคู่แข่งร่วมลีกเมืองเบียร์ โดยก่อนเริ่มเตะมีการยืนไว้อาลัยแด่ โรเบิร์ต เอ็งเค่ นายทวารผู้ล่วงลับด้วย
เริ่มครึ่งแรกบาเยิร์นทำสำเร็จนาทีที่ 17 เบนฌาแม็ง ปาวาร์ เติมเกมเจาะมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ดีดให้ คิงส์เล่ย์ โกมัน ครอสบอลเข้ากลางเขตโทษ นิโค่ ชูลซ์ สกัดออกมาเข้าทาง ปาวาร์ อีกหนก่อนแบ็กเลือดน้ำหอม โยนเร็วกลับเข้าไปอีกครั้งและเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โถมตัวมาสะบัดหัวโหม่งบอลเข้าไป
ผ่านมานาทีที่ 26 โธมัส มุลเลอร์ ได้บอลจากเพื่อน ก่อนเจ้าตัวเลี้ยงลากบอลเข้าเขตโทษ แต่กองหลังดอร์ทมุนด์ พยายามไล่บีบ จนหัวหอกทีมชาติเยอรมันเสียหลัก แต่ยังไหลคืนมาที่ คิงส์เล่ย์ โกมัน วางเท้าปั่นบอลจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานไป
เสือใต้ยังได้ลุ้นนาทีที่ 32 เบนฌาแม็ง ปาวาร์ จ่ายบอลออกข้างสนามฝั่งขวาให้ คิงส์เล่ย์ โกมัน ส่งเร็วให้ แซร์ช นาบรี้ เลี้ยงจี้ออกข้างก่อนปาดเข้ากลางปากประตูเพื่อให้เพื่อนร่วมทีมเข้าชาร์จแต่ โรมัน เบือร์กี้ นายด่านเสือเหลืองอ่านเกม โฉบออกมารับบอลตัดหน้าได้ก่อน
บาเยิร์นชวดนำห่างนาทีที่ 38 เลออน โกเร็ทซ์ก้า รับบอลจากแดนกลาง ไหลออกริมสนามฝั่งซ้ายให้ อัลฟอนโซ่ เดวิส เปิดบอลเรียดผ่านเกมรับทีมเยือนเข้ากลางเขตโทษ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงเร็วจังหวะเดียว บอลแฉลบ นิโค่ ชูลซ์ มาเข้าทาง แซร์ช นาบรี้ ซัดจ่อ ๆ เข้าไปแต่เจ้าตัวยืนล้ำหน้า กรรมการเป่าเป็นลูกออฟไซด์
เสือเหลืองสร้างโอกาสนาทีที่ 45 อาชราฟ ฮาคิมี่ ถูก ดาวิด อลาบา เตะข้อเท้า เชิ้ตดำให้ฟรีคิกด้านข้างกรอบเขตโทษทางขวา ราฟาแอล เกร์เรย์โร่ เปิดบอลโต้งมาที่เสาสอง อักเซล วิตเซล วิ่งมาไปเพื่อยิงแต่เจ้าตัวเข้าไม่ถึงบอล จบ 45 นาทีแรก เสือใต้นำ 1-0
เริ่มครึ่งหลังเจ้าบ้านทิ้งห่างนาทีที่ 47 โยชัว คิมมิช จ่ายบอลยาวจากแดนหลังขึ้นหน้าออกข้างให้ โธมัส มุลเลอร์ ที่ยืนรอโล่งคนเดียว ลากบอลเข้าทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนส่งเข้ากลางเขตโทษ บอลเลย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่พยายามเข้ามายิงแต่ยังดีมี แซร์ช นาบรี้ ซัดผ่านมือ โรมัน เบือร์กี้ นายทวารทีมเยือนเข้าไปตุงตาข่าย แต่กรรมการขอดูวีเออาร์ว่าล้ำหน้าหรือไม่ ก่อนตัดสินให้เป็นประตูของบาเยิร์น
เสือใต้เดินเกมต่อนาทีที่ 52 คิงส์เล่ย์ โกมัน กระชากมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ลัดเลาะฝ่าผู้เล่นดอร์ทมุนด์ ก่อนโยนมาที่เสาสอง บอลผ่านตัว นิโค่ ชูลซ์ ฟูลแบ็กทีมเยือนมาที่ แซร์ช นาบรี้ ทิ้งตัวยิงแต่บอลเบาแถมไม่ตรงกรอบออกหลังไป
เจ้าถิ่นเกือบได้เพิ่มนาทีที่ 59 คิงส์เล่ย์ โกมัน ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ไหลตรงต่อไปที่ตัว โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สร้างโอกาสปั่นบอลในเขตโทษ ทว่าบอลวิถีเลี้ยวไม่มากพอออกข้างเสาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
ดอร์ทมุนด์ตอบโต้นาทีที่ 69 อาชราฟ ฮาคิมี่ รับบอลจากเพือ่น หลุดมาทางริมเส้นด้านขวา ก่อนปาดมาหน้าปากประตู ฆาบี มาร์ตีเนซ ทิ้งตัวสกัดแต่บอลยังทะลักมาหา ปาโก้ อัลกาเซร์ หัวหอกสำรองของทีมเยือน แต่ว่าเจ้าตัวกลับยิงไม่ถนัดบอลเลยผ่านตัวไปอย่างน่าเหลือเชื่อ
เจ้าถิ่นเฮอีกนาทีที่ 76 มานูเอล นอยเออร์ เปิดบอลยาวจากหน้าประตู บอลลอยโด่งมาที่ อีวาน เปริซิซ โหม่งชงให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ลงมาล้วงบอลต่ำ เก็บบอลก่อนจ่ายออกให้ โธมัส มุลเลอร์ ทำชิ่งตบคืนให้ เลวานดอฟสกี้ ยิงเข้าไปเป็นลูกสองของตนเอง
เสือใต้ได้สกอร์เพิ่มนาทีที่ 80 โยชัว คิมมิช ส่งบอลออกข้างริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย อีวาน เปริซิซ รับบอลไม่รอช้าครอสเข้ากลางหวังให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ชาร์จบอล ทว่ากลายเป็น มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ สกัดผิดเหลี่ยม บอลกระดอนเข้าประตูไปอีกเม็ด จบเกม บาเยิร์น ถล่ม ดอร์ทมุนด์ 4-0 ขยับรั้งที่สามในการคุมเกมลีกนัดแรกของ ฮันส์ ดีเทอร์-ฟลิค
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม\
บาเยิร์น มิวนิค (4-3-3):มานูเอล นอยเออร์,เบนฌาแม็ง ปาวาร์,ฆาบี มาร์ตีเนซ,ดาวิด อลาบา,อัลฟอนโซ่ เดวิส,เลออน โกเร็ทซ์ก้า (ติอาโก้ อัลกันตาร่า น.72),โยชัว คิมมิช,โธมัส มุลเลอร์,แซร์ช นาบรี้ (ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ น.70),โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้,คิงส์เล่ย์ โกมัน (อีวาน เปริซิซ น.75)
ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1 ):โรมัน เบือร์กี้,อาชราฟ ฮาคิมี่,มานูเอล อคานจี,มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์,นิโค่ ชูลซ์,ยูเลี่ยน ไวเกิล (ปาโก้ อัลกาเซร์ น.61),อักเซล วิตเซล,จาดอน ซานโซ่ (ราฟาแอล เกร์เรย์โร่ น.36),ยูเลี่ยน บรันด์ท,ธอร์กกาน อาซาร์,มาริโอ เกิทเซ่ (มาร์โค รอยส์ น.61)
credit : www.siamsport.co.th
มีฝีมือ "ฟลิค" ยิ้มแก้มปริ หลังพา "บาเยิร์น" เฮสองนัดติด
ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค กุนซือขัดตาทัพของสโมสรบาเยิร์น มิวนิก ออกอาการแฮปปี้สุดๆ หลังพาทีมคว้าชัย 2 เกมรวด ในช่วงที่เข้ามาคุมทีมชั่วคราว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 10 พ.ย. ว่า ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค หรือที่รู้จักกันในชื่อ ฮันซี่ ฟลิค เฮดโค้ชชั่วคราวของทัพ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิก ที่กำลังอยู่ในช่วงมีความสุขแบบสุดๆ หลังพาทีมรักเก็บชัยชนะ 2 นัดรวด นับตั้งแต่เข้ามาคุมทัพแทน นิโก โควัช อดีตเฮดโค้ชของทีม
โดย ฮันซี่ ฟลิค ที่อดีตเคยเป็นผู้ช่วยของ โยอาคิม เลิฟ แม่ทัพใหญ่ของทีมชาติเยอรมนีชุดคว้าแชมป์โลกปี 2014 ซึ่งเจ้าตัวได้ประเดิมการคุมทีมเสือใต้ในฐานะกุนซือชั่วคราว ด้วยการพาทีมเอาชนะ โอลิมเปียกอส 2-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา และนัดล่าสุดในศึกบุสเดสลีกา เกมบิ๊กแมตช์ "แดร์ คลาสสิกเคอร์" กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ "ฟลิค" ก็ได้โชว์ฝีมือคุมทัพด้วยการถล่มเสือเหลืองไปด้วยสกอร์ 4-0
"ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องสัญญาของผมเขาจะว่ายังไง (คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก บิ๊กบอสของบาเยิร์น) แต่สำหรับผมยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งสองเกมที่ผ่านไปมันก็แค่หน้าที่ที่ผมควรทำ ซึ่งผมสนุกกับโอกาสดีๆแบบนี้ ผมรู้มาเสมอว่ามันสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากจบเกมวันนี้ ผมมีความสุขจริงๆ ที่เราคว้าชัยชนะได้ทั้งสองเกม" ฟลิค กล่าว.
credit : https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1701085
'เลวาน'ทำลายสถิติมุลเลอร์ที่อยู่มากว่า50ปี
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตัวเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค ทำลายสถิติของ แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานนักเตะของ บาเยิร์น มิวนิค ที่อยู่ยงคงกระพันมานานกว่า 50 ปีสำเร็จ
แข้งวัย 31 ปีกดคนเดียวสองประตูช่วยให้ "เสือใต้" เปิดบ้านถล่ม ดอร์ทมุนด์ 4-0 ในเกมบุนเดสลีกา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่าน ถือเป็นการยิงประตูที่ 15 และ 16 ในซีซั่นนี้ของตัวเองหลังจากผ่านไป 11 เกมแรกของฤดูกาล
จากผลงานการสอยตาข่ายนี้ทำให้สตาร์ทีมชาติโปแลนด์ทำลายสถิติของ แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานนักเตะของสโมสรที่เคยพังตาข่ายให้สโมสร 15 ประตูจาก 11 เกมแรก เมื่อฤดูกาล 1968/69 หรือกว่าเมื่อ 50 ปีที่แล้วสำเร็จ
เลวานดอฟสกี้ ทำประตูไปแล้วถึง 23 เกมลูกจาก 18 เกมทุกรายการในซีซั่นนี้ เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูได้ 11 เกมติดต่อกันในบุนเดสลีกา เยอรมันด้วย
https://www.thsport.com/news-71651.html
ฟาร์ฟแจงเหตุผลทำไมถอดซานโช่ตั้งแต่ไก่โห่
ลูเซียง ฟาร์ฟ เทรนเนอร์ โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ เผยเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนตัว เจดอน ซานโช่ ปีกตัวเก่งออกจากเกมตั้งแต่ครึ่งแรก ชี้เป็นเรื่องของแท็คติคไม่ได้เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด
ซานโช่ ถูกเปลี่ยนตัวออกจากเกมตั้งแต่นาทีที่ 36 ในช่วงที่ ดอร์ทมุนด์ ตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค 0-1 โดย ฟาร์ฟ เลือกส่ง ราฟาเอล เกร์เรโร ตัวริมเส้นทีมชาติโปรตุเกส ลงมาเล่นแทน ก่อนที่ เสือเหลือง จะเป็นฝ่ายพ่ายไป 0-4
ซึ่งหลังจาก ปีกทีมชาติอังกฤษ ถูกเปลี่ยนตัวออกนั้น ทำให้หลายคนเป็นกังวลว่า ซานโช่ เกิดอาการบาดเจ็บหรือไม่ หลังเมื่อเกมกลางสัปดาห์กับ อินเตอร์ มิลาน เจ้าตัวมีอาการเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้เอง เทรนเนอร์เสือเหลืองได้ออกมาชี้แจงเหตุผลที่ถอด ซานโช่ แล้วโดยบอกว่าลูกทีมรายนี้ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บแต่ที่ต้องเปลี่ยนเพราะเป็นเรื่องของแท็คติค "เขาไม่ได้บาดเจ็บ เขาลงซ้อมเมื่อวานนี้ ผมต้องทำอะไรในสิ่งที่ผมเห็นและบอกตามตรงว่ามันไม่ดีพอ"
credit : www.siamsport.co.th
แวร์เนอร์กดเบิ้ล! ไลป์ซิกรุกคมบุกถล่มแฮร์ธ่า ขยับขึ้นรองจ่าฝูง
ทิโม แวร์เนอร์ ฟอร์มฮอตเหลือเกินยิงสอง แถมจ่ายให้เพื่อนอีกหนึ่งก่อนพา ไลป์ซิก บุกไปถล่ม แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 4-2 เก็บสามแต้มพร้อมแซงขึ้นไปนั้งรองจ่าฝูงมี 21 คะแนนตาม กลัดบัค ที่แข่งน้อยกว่าแค่แต้มเดียวเท่านั้น ส่วน "หญิงชรา" รั้งอันดับ 13 มี 11 คะแนน ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา
สนาม : โอลิมเปียสตาดิโอน
แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ภายใต้การคุมทีมของ อันเต้ โควิช ฟอร์มแผ่วลงจนหล่นมาอยู่ครึ่งล่างของตาราง ข่าวดีคือได้ วลาดิเมียร์ ดาริด้า พ้นโทษแบนกลับคืนทีม แดนหน้าทิ้ง โดดี ลูเคบากิโอ เป็นหัวหอก
แอร์เบ ไลป์ซิก ยังให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ กับ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ทำเกมริมเส้น คู่กองหน้าส่ง ทิโม แวร์เนอร์ ล่าตาข่ายกับ ยุสซุฟ โพลเซ่น
เกมนี้เตะกันในวันครบรอบ 30 ปีทำลายกำแพงเบอร์ลินด้วย เจ้าบ้านมีการนำกำแพงจำลองมาพังโชว์ด้วยการผลักให้ล้มกันในสนามเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญนี้เมื่อปี 1989
เจ้าบ้านออกนำก่อนนาทีที่ 32 มักซิมิเลี่ยน มิทเทิ่ลชตัดท์ ได้บอลแล้วลากมาหาช่องยิงจากนอกกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่ายสุดสวย 1-0
ไลป์ซิกตามตีเสมอได้ไวในนาทีที่ 38 เท่านั้นจากจุดโทษจากการทำแฮนดบอลของ คาริม เรกิก และเป็น ทิโม แวร์เนอร์ สังหารไม่เหลือ 1-1 ในช่วงทดเจ็บครึงแรก ไลป์ซิกแซงนำ 2-1 ยุสซูฟ โพลเซ่น ได้บอลทะลุกระชากทำท่าจะเข้าเขตโทษแตเลือกตอกส้นคืนมาให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ยิงจากนอกเขตโทษบอลแฉลบนิดๆ กลายเป็นดีเพราะพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
ครึ่งหลัง แอร์เบ ไลป์ซิก ยังครองเกมไดหมด แต่มาสนุกเอาในช่วง 5 นาทีสุดท้าย
นาที 86 เควิน คัมเพิ่ล ตัวสำรองไดบอลหลุดทะลุมาทางซ้ายกระชากเดี่ยวๆ ตัดเข้าเขตโทษ ล็อกหักเข้ากลางแล้วกดด้วยขวาเสียบโคนเสาไกล 3-1
ช่วงทดเวลาเจ็บ นาที 90+1 ไลป์ซิกหนีห่าง 4-1 เมื่อได้จังหวะแทงททะลุหลุดเดี่ยวไปดวลกับ ยาร์ชไตน์ แล้วบรรจงยิงเข้าไปอย่างเลือดเย็น
กระนั้นอีกนาทีถัดมาเจ้าถิ่น แฮร์ธ่า ก็ทวงประตูไล่มาเป็น 2-4 จากจังหวะที่กองหลังไลป์ซิก สกัดกันไม่ขาดบอลทะลักมาหน้าเขตโทษ ดาวี่ เซลเค่อ วิ่งมายิงด้วยขวาเข้าไป
จากนันไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แอร์เบ ไลป์ซิก บุกมาชนะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 4-2 แซงขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แฮร์ธ่า เบอร์ลิน: รูเน่ ยาร์ชไตน์ - ลูคัส คลึนเทอร์, เดดริก โบยาต้า, คาริม เรกิก, นิคลาส ชตาร์ค, มักซิมิเลี่ยน มิทเทิ่ลชตัดท์ - มาริอุส