วิธีศึกษาธรรมะยังไงจะให้ "หลุดพ้น" โดยเร็ว

วิธีศึกษาธรรมะยังไงจะให้ "หลุดพ้น" โดยเร็ว

  เราจะต้องศึกษาธรรมอะไร จึงจะหลุดพ้นได้โดยเร็ว จะต้องศึกษาแบบใด?

  ตอบ ดูจิตที่ปรุงอะไร ดับจิตที่นั้น ก็จบ สมมติว่า ตื่นขึ้นมาเราอยากจะหอมแก้มสาว แล้วไม่หอม ก็จบ

  จิตปรุงเพราะมี "เหตุ" มาปรุงแต่ง ฉะนั้น ดับที่ "เหตุ" แล้วที่ไหนจะมี... ก็ไม่มีแล้ว ดับที่อริยสัจ

  ถามว่า ความคิดเราปรุงแต่ง เราจะหยุด หยุดยังไง? เราหยุดการคิดปรุงแต่งไม่ได้หรอกใช่ไหม?

  เหตุที่เราปรุงแต่งเพราะอวิชชา มีอวิชชาเพราะเราปรุงแต่ง เราก็ต้องมาดูที่เหตุว่า "เหตุ" อะไรทำให้เราปรุง แต่ง เพราะมันเป็นอวิชชา แต่ถ้าเรามีวิชชามันก็หยุด

  ถ้าเราจะให้ปรุงแต่งฝ่ายที่ไม่ดี (มิจฉา ได้อย่างไร?

  เราก็ต้องมีวิชชา พอเรามีวิชชาเราก็จะตัดสินได้ว่า ดีหรือไม่ดี แล้วเราค่อยไปปรุง


  อธิบายเพิ่มเติมจาก ธีรทาส.  "บทที่ ๙ เล่มที่ ๒" ศิษย์โง่ไปเรียนเซ็น (ฉบับเซียนท้ออายุยืน) รวมเล่มพิเศษ ๑-๒-๓-๔.  พิมพ์ครั้งที่ ๔.  กรุงเทพฯ : สุขภาพใจ, ๑๖-๑๗.

  อีกครั้งหนึ่ง มีคณาจารย์ลัทธิเต๋า "เล้าเต๋าเต็ก"  ทราบถึงเกียรติคุณของท่านภิกษุดอกบัวพ้นน้ำ ผู้เชี่ยวชาญในการเผยแผ่ชี้แนะทางให้รู้ธรรมะ จึงได้เดินทางมานมัสการ เพื่อสนทนาธรรมในข้อข้องใจที่มีมานานแล้ว ได้กราบเรียนถามขึ้นว่า

เล้าเต๋าเต็ก     ถาม จะต้องศึกษาธรรมอะไรจึงจะหลุดพ้นได้โดยเร็ว?

ภิกษุดอกบัวพ้นน้ำ   ตอบ มีธรรมะฉับพลัน ประตูเดียวเท่านั้น จึงจะหลุดพ้นได้โดยเร็ว

เล้าเต๋าเต็ก     ถาม ฉับพลันนั้น คืออะไร

ภิกษุดอกบัวพ้นน้ำ   ตอบ ฉับ แปลว่า "เร็วไว" คือ เร็วไวต่อการทำลาย ความคิดปรุงแต่งทั้งหมด ส่วนพลันนั้นแปลว่า "ด่วน" คือด่วนไม่รู้ว่มีประที่จะต้องลุถึง (นี่คือ ฉับ-พลัน)

เล้าเต๋าเต็ก     ถาม จะปฏิบัติธรรมะนั้นอย่างไรดี?

ภิกษุดอกบัวพ้นน้ำ   ตอบ ปฏิบัติไปโดย "ธรรมชาติแห่งพุทธะ"

เล้าเต๋าเต็ก     ถาม ปฏิบัติไปโดย "ธรรมชาติแห่งพุทธะ" นั้น จะทำอย่างไร?

ภิกษุดอกบัวพ้นน้ำ   ตอบ จิต คือ พุทธะ

เล้าเต๋าเต็ก     ถาม เราจะรู้ได้อย่างไรว่า "จิต คือ พุทธะ"

ภิกษุดอกบัวพ้นน้ำ   ตอบ ในคัมภีร์ลังการวตารสูตร ได้กล่าวไว้ว่า "จิตเกิดสภาวะธรรมทั้งหลายก็เกิด จิตดับ สภาวุะธรรมทั้งหลายก็ดับ"

  และในคัมภีร์วิมลเกียรตินิทเทศสูตร ก็ได้กล่าวไว้ว่า "จะไปเกิดในดินแดนบริสุทธิ์นั้น จิตจะต้องบริสุทธิ์ด้วย ถ้าผู้ใหญ่จิตบริสุทธิ์ พุทธเกษตรก็บริสุทธิ์"

  และยังมีโศลกของพระบรมครูได้กล่าวไว้อีกว่า "คนฉลาดเขาหาจิต ไม่หาพระพุทธรูป คนโง่หาแต่พระพุทธรูป ไม่แสวงหาจิต ผู้มีปัญญาเขาคอยระวังจิต ไม่จำเป็นต้องระวังกาย คนโง่เขลาคอยระวังแต่กาย ไม่ระวังจิต ส่วนโศลกในคัมภีร์เซ็น (สุญญตา) ต่างๆ ได้บันทึกไว้ว่า

    "บาปเกิดขึ้นที่จิต 
    จะดับก็ต้องดับที่จิต 
    บาปบุญมาจากจิต 
    ฉะนั้น จิตคือพุทธะ

^_^  ..._/\_...  ^_^ 
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา

อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่