คือเรื่องมีอยู่ว่าเราเพิ่งย้ายโรงเรียนจากที่เก่ามาที่ใหม่ซึ่งก็คือที่ปัจจุบันที่กำลังจะพูดถึงกันเราย้ายมาแรกๆก็ดีค่ะมีความสุขรู้สึกคิดถูกที่ย้ายมาเพราะที่เก่าเราไม่มีเพื่อนโดนแกล้งประมาณนั้นอ่ะค่ะ
พอมาที่นี่เราเลยมีความสุขและมันทำให้เราอยากตื่นไปโรงเรียนทุกวันเลยก็ว่าได้แต่พอมาวันนึงขอบอกก่อนว่าห้องเรียนของเราจะมีแก๊งเด็กเกเรอยู่แก๊งนึงแต่ทั้งโรงเรียนส่วนใหญ่จะเรียกแก๊งเด็กนรก55
คือว่าพวกนั้นมันมาล้อเราว่าแบบเป็นโรคห่าอะไรโรคเรียกร้องความสนใจหรอวะแล้วก็ขำกันค่ะ(คือยอมรับตรงนี้เลยว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าค่ะปัจจุบันกำลังรักษาที่โรงพยาบาลรามาค่ะ)
หลังจากพวกเขาขำกันด้วยความที่เรากำลังนั่งวาดรูปและบวกกับใส่หูฟังเราเลยแกล้งทำหูทวนลมไม่สนใจค่ะแต่ข้างในนี่จุกมาก! คือน้ำตามันไหลออกมาตอนที่พวกเขาพูดว่าโรคเรียกร้องความสนใจหรอวะ? เท่านั่นแหละน้ำตาคลอเลยแต่เรากลั้นไว้ไม่อยากให้พวกเขารู้ว่าเราร้อง
เพราะถ้าเขารู้จะยิ่งโดนล้อมากกว่าเดิมแน่ ได้แต่กำดินสอวาดรูปในมือแน่นแบบแน่นมากจนดินสอมีรอยร้าวเลยค่ะอันนี้จริงๆไม่ได้ล้อเล่นนะคะแล้วต่อจากนั้น หัวหน้าแก๊งเขาอ่ะค่ะอยากได้หูฟังสั่งให้ลูกน้องไปบังคับเอาของคนที่มีมาแล้วดันเป็นเราคนเดียวค่ะที่ใส่อยู่พวกนั้นมันก็ตะโกนขึ้นบอกว่าให้เราถอดหูฟังไปให้หัวหน้าเขาอ่ะค่ะแต่เราไม่ชอบให้ใครใช้หูฟังร่วมแล้วเราก็กำลังฟังเพลงโปรดอยู่ด้วยเลยตอบกลับไปว่าไม่ให้
แล้วเรื่องก็เกิดค่ะพวกนั้นเข้ามาด่าเราว่าแค่นี้ก็ไม่ให้ยืมในห้องนี้เชื่อป่ะ
ไม่มีใครชอบหรอกพวกนั้นพูดจบก็เดินหายไปค่ะบอกตรงๆตอนนั้นอยากตายมากๆจะว่าเราว่าอ่อนแอก็ได้นะคะแต่เราในตอนนั้นคือไม่ไหวเลยกับคำพูดที่มาพูดทำร้ายจิตใจกันแบบนี้
เราเลยคุยกับแม่ว่าเทอม2จะลาออกได้ไหมแม่เราก็ไม่อยากให้ออกตอนแรกแต่สุดท้ายก็ตกลงกันได้ค่ะ เราก็ต้องทนสอบเทอม1ที่ใกล้จะสอบแล้วให้จบแล้วค่อยลาออกได้.
.
.
.
สมมุติว่าผ่านมาเทอม2แล้ว5555 คืองี้ก่อนหน้าที่จะเปิดเทอม2อ่ะค่ะหมอนัดเราไปพอดีเลยได้คุยกันนานพอสมควรแต่โดยรวมมหมออยากให้เรากลับไปเรียนอยากให้เราลองสู้กับสังคมเล็กนี้ให้ได้เพราะโตไปเข้ามหาลัยสังคมก็ใหญ่กว่านี้มากเราจะได้เข้มแข็งมากกว่าเดิม
เราก็กลับบ้านมาคิดนะคะว่าจะเอาไงคำพูดหมอมันทำให้เราไขว้เขวไปนิดนึงเลยค่ะแถมพอพูดแบบนั้นแม่เราที่ไม่อยากให้เราออกอยู่แล้วก็พยายามเกลี้ยกล่อมเราให้กลับไปคุณครูก็เสียดายไม่อยากให้ออกครูเขาบอกว่าเราสอบได้ที่1ของห้องไม่ติดศูนย์ซ่อมเลยสักตัวแล้วบวกกับเป็นนักเรียนตัวอย่างที่ครูต้องการตัวไว้ที่ร.รเพื่อเป็นหน้าเป็นตาคอยสร้างผลงานดีๆเวลาใครมาที่โรงเรียนจะได้เห็นว่าโรงเรียนนี้มีเด็กเก่งอะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ
แต่ความคิดเรานะคะเราไม่อยากเป็นนักเรียนตัวอย่างกลัวคนอื่นจะหมั่นไส้เราแล้วไม่ชอบเลยค่ะ แต่ว่าครูเขาก็ไม่ได้ยอมให้เราออกซะทีเดียวเลยนะคะเขาเหมือนพยายามยื้อไว้โดยการที่ว่าเขาจะยังไม่ทำไปจบให้เราแต่ให้เรากลับไปคิดมาก่อนว่าจะเอาไว้ให้เวลาคิด2วันแล้วครูจะโทรไปถามใหม่ว่าจะเปลี่ยนใจไหม
เราก็ตอบตกลงไปตามมารยาทแต่จริงๆในใจเราอยากให้เอาใบจบแล้วออกเลยดีกว่า
.
.
.
.
จนในที่สุดมีน้องคนนึงในโรงเรียนเราอ่ะค่ะน้องเขาชอบเรามาสักพักแล้วตั้งแต่เทอม1แล้ว คือน้องเขาก็ฟังเราเล่าเรื่องที่โดนแกล้งแล้วตามประสาเด็กอ่ะเนอะน้องก็พูดว่าใครอย่ามาทำเจ้ผมนะ(คือน้องจะเรียกเราว่าเจ้ค่ะ)
คำพูดนั้นทำเราสะอึกเลยค่ะรู้สึกดีใจที่เหมือนมีคนรักเราด้วยหรอดีใจที่มีคนอยากปกป้องเราเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเราเลยด้วยความที่น้องมันเด็กเราเลยเอ็นดูคำพูดแล้วก็ไขว้เขวอีกแล้วค่าว่าจะกลับไปเรียนไหมแถมในห้องถ้าเราออกโต๊ะเราก็ว่างครูเขาเลยสั่งให้หัวหน้าแก๊งนั่นอ่ะค่ะมานั่งข้างเพื่อนสนิทเรา
เลยทำให้คิดว่าจะกลับไปดีไหมเพื่อนเราไม่อยากนั่งแน่ๆต้องทนนั่งไปเทอมนึงเลยแต่ถ้าเรากลับไปเพื่อนเราก็จะได้นั่งกับเราเหมือนเดิมเราแค่อยากช่วยเพื่อนแต่ถ้าจะช่วยก็ต้องกลับไปใช่ไหมล่ะไขว้เขวอีกแล้วค่ะ
น้องคนที่เรียกเราว่าเจ้ก็บอกว่าอยากให้เราไปดูน้องมันแข่งบาสหน่อยแต่เราไม่กล้าพูดออกไปว่าจะลาออกแต่อีกใจนึงถ้าลาออกก็ไม่ได้ไปดู. น้องมันก็อยากให้ไปจะเสียน้ำใจไม่ได้สับสนแล้วค่ะตอนนี้
ตอนเย็นๆน้องมันก็งอแงบอกว่าเสียใจไม่อยากให้ไปไอ้เราก็คิดหนักเลยถ้าตัดสินใจอยู่ต่อมันจะดีจริงๆใช่ไหมหรือว่าลาออกอ่ะดีแล้วจะเลือกทางไหนให้มันแบบไม่รู้สึกเสียใจทีหลังหรือรู้สึกคิดผิดที่เลือกนั้นทางนี้เราไม่รู้จะทำไงแล้วค่ะทุกคนช่วยเราด้วยแงๆๆอยู่ต่อหรือออกอ่ะคะแต่ถ้าออกเราก็ย้ายไปเรียนที่ใหม่แต่ก็ยังลังเลอยู่ดี ทำไงดีคะช่วยด้วยค่าาาากราบละค่ะพลีสสส
เราควรตัดสินใจแบบไหนแล้วไม่ต้องมาเสียใจทีหลังคะ?
คือว่าพวกนั้นมันมาล้อเราว่าแบบเป็นโรคห่าอะไรโรคเรียกร้องความสนใจหรอวะแล้วก็ขำกันค่ะ(คือยอมรับตรงนี้เลยว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าค่ะปัจจุบันกำลังรักษาที่โรงพยาบาลรามาค่ะ)
หลังจากพวกเขาขำกันด้วยความที่เรากำลังนั่งวาดรูปและบวกกับใส่หูฟังเราเลยแกล้งทำหูทวนลมไม่สนใจค่ะแต่ข้างในนี่จุกมาก! คือน้ำตามันไหลออกมาตอนที่พวกเขาพูดว่าโรคเรียกร้องความสนใจหรอวะ? เท่านั่นแหละน้ำตาคลอเลยแต่เรากลั้นไว้ไม่อยากให้พวกเขารู้ว่าเราร้อง
เพราะถ้าเขารู้จะยิ่งโดนล้อมากกว่าเดิมแน่ ได้แต่กำดินสอวาดรูปในมือแน่นแบบแน่นมากจนดินสอมีรอยร้าวเลยค่ะอันนี้จริงๆไม่ได้ล้อเล่นนะคะแล้วต่อจากนั้น หัวหน้าแก๊งเขาอ่ะค่ะอยากได้หูฟังสั่งให้ลูกน้องไปบังคับเอาของคนที่มีมาแล้วดันเป็นเราคนเดียวค่ะที่ใส่อยู่พวกนั้นมันก็ตะโกนขึ้นบอกว่าให้เราถอดหูฟังไปให้หัวหน้าเขาอ่ะค่ะแต่เราไม่ชอบให้ใครใช้หูฟังร่วมแล้วเราก็กำลังฟังเพลงโปรดอยู่ด้วยเลยตอบกลับไปว่าไม่ให้
แล้วเรื่องก็เกิดค่ะพวกนั้นเข้ามาด่าเราว่าแค่นี้ก็ไม่ให้ยืมในห้องนี้เชื่อป่ะไม่มีใครชอบหรอกพวกนั้นพูดจบก็เดินหายไปค่ะบอกตรงๆตอนนั้นอยากตายมากๆจะว่าเราว่าอ่อนแอก็ได้นะคะแต่เราในตอนนั้นคือไม่ไหวเลยกับคำพูดที่มาพูดทำร้ายจิตใจกันแบบนี้
เราเลยคุยกับแม่ว่าเทอม2จะลาออกได้ไหมแม่เราก็ไม่อยากให้ออกตอนแรกแต่สุดท้ายก็ตกลงกันได้ค่ะ เราก็ต้องทนสอบเทอม1ที่ใกล้จะสอบแล้วให้จบแล้วค่อยลาออกได้.
.
.
.
สมมุติว่าผ่านมาเทอม2แล้ว5555 คืองี้ก่อนหน้าที่จะเปิดเทอม2อ่ะค่ะหมอนัดเราไปพอดีเลยได้คุยกันนานพอสมควรแต่โดยรวมมหมออยากให้เรากลับไปเรียนอยากให้เราลองสู้กับสังคมเล็กนี้ให้ได้เพราะโตไปเข้ามหาลัยสังคมก็ใหญ่กว่านี้มากเราจะได้เข้มแข็งมากกว่าเดิม
เราก็กลับบ้านมาคิดนะคะว่าจะเอาไงคำพูดหมอมันทำให้เราไขว้เขวไปนิดนึงเลยค่ะแถมพอพูดแบบนั้นแม่เราที่ไม่อยากให้เราออกอยู่แล้วก็พยายามเกลี้ยกล่อมเราให้กลับไปคุณครูก็เสียดายไม่อยากให้ออกครูเขาบอกว่าเราสอบได้ที่1ของห้องไม่ติดศูนย์ซ่อมเลยสักตัวแล้วบวกกับเป็นนักเรียนตัวอย่างที่ครูต้องการตัวไว้ที่ร.รเพื่อเป็นหน้าเป็นตาคอยสร้างผลงานดีๆเวลาใครมาที่โรงเรียนจะได้เห็นว่าโรงเรียนนี้มีเด็กเก่งอะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ
แต่ความคิดเรานะคะเราไม่อยากเป็นนักเรียนตัวอย่างกลัวคนอื่นจะหมั่นไส้เราแล้วไม่ชอบเลยค่ะ แต่ว่าครูเขาก็ไม่ได้ยอมให้เราออกซะทีเดียวเลยนะคะเขาเหมือนพยายามยื้อไว้โดยการที่ว่าเขาจะยังไม่ทำไปจบให้เราแต่ให้เรากลับไปคิดมาก่อนว่าจะเอาไว้ให้เวลาคิด2วันแล้วครูจะโทรไปถามใหม่ว่าจะเปลี่ยนใจไหม
เราก็ตอบตกลงไปตามมารยาทแต่จริงๆในใจเราอยากให้เอาใบจบแล้วออกเลยดีกว่า
.
.
.
.
จนในที่สุดมีน้องคนนึงในโรงเรียนเราอ่ะค่ะน้องเขาชอบเรามาสักพักแล้วตั้งแต่เทอม1แล้ว คือน้องเขาก็ฟังเราเล่าเรื่องที่โดนแกล้งแล้วตามประสาเด็กอ่ะเนอะน้องก็พูดว่าใครอย่ามาทำเจ้ผมนะ(คือน้องจะเรียกเราว่าเจ้ค่ะ)
คำพูดนั้นทำเราสะอึกเลยค่ะรู้สึกดีใจที่เหมือนมีคนรักเราด้วยหรอดีใจที่มีคนอยากปกป้องเราเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเราเลยด้วยความที่น้องมันเด็กเราเลยเอ็นดูคำพูดแล้วก็ไขว้เขวอีกแล้วค่าว่าจะกลับไปเรียนไหมแถมในห้องถ้าเราออกโต๊ะเราก็ว่างครูเขาเลยสั่งให้หัวหน้าแก๊งนั่นอ่ะค่ะมานั่งข้างเพื่อนสนิทเรา
เลยทำให้คิดว่าจะกลับไปดีไหมเพื่อนเราไม่อยากนั่งแน่ๆต้องทนนั่งไปเทอมนึงเลยแต่ถ้าเรากลับไปเพื่อนเราก็จะได้นั่งกับเราเหมือนเดิมเราแค่อยากช่วยเพื่อนแต่ถ้าจะช่วยก็ต้องกลับไปใช่ไหมล่ะไขว้เขวอีกแล้วค่ะ
น้องคนที่เรียกเราว่าเจ้ก็บอกว่าอยากให้เราไปดูน้องมันแข่งบาสหน่อยแต่เราไม่กล้าพูดออกไปว่าจะลาออกแต่อีกใจนึงถ้าลาออกก็ไม่ได้ไปดู. น้องมันก็อยากให้ไปจะเสียน้ำใจไม่ได้สับสนแล้วค่ะตอนนี้
ตอนเย็นๆน้องมันก็งอแงบอกว่าเสียใจไม่อยากให้ไปไอ้เราก็คิดหนักเลยถ้าตัดสินใจอยู่ต่อมันจะดีจริงๆใช่ไหมหรือว่าลาออกอ่ะดีแล้วจะเลือกทางไหนให้มันแบบไม่รู้สึกเสียใจทีหลังหรือรู้สึกคิดผิดที่เลือกนั้นทางนี้เราไม่รู้จะทำไงแล้วค่ะทุกคนช่วยเราด้วยแงๆๆอยู่ต่อหรือออกอ่ะคะแต่ถ้าออกเราก็ย้ายไปเรียนที่ใหม่แต่ก็ยังลังเลอยู่ดี ทำไงดีคะช่วยด้วยค่าาาากราบละค่ะพลีสสส