https://www.share2trade.com/?mod=talk&file=view&id=4199
กระแสสังคมกำลังเฝ้ามองกรณีเด็กหญิงวัย 15 ปีโดนตำรวจและผู้อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ลายการ์ตูนดังเรียกรับเงิน 50,000 บาท แลกกับการไม่เอาผิดฐานทำกระทงละเมิดลิขสิทธิ์ซึ่งผู้ดำเนินเรื่องจับกุมเป็นผู้สั่งทำลายการ์ตูนนี้เอง ซึ่งลายการ์ตูนเหล่านี้ดันไปเกี่ยวข้องกับ "หุ้นร้อนประจำปี" บมจ. ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC) โดยตรงในฐานะผู้ถือครองและดูแลในเรื่องลิขสิทธิ์ที่ได้รับมอบอำนาจโดยตรงจากประเทศญี่ปุ่น .....
จากคดีที่เกิดขึ้น TACC ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงอย่างรวดเร็ว สรุปใจความว่า "ไม่ได้มอบหมาย" ให้ผู้ใดก็ตามไปจับกุมลิขสิทธิ์ผิดกฎหมาย จึงให้ทนายความตรวจหาความจริงเพื่อทำให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้น
สำหรับคาแร็กเตอร์การ์ตูนที่ได้เซ็นสัญญาเป็นตัวแทนผู้ถือครองและดูแลลิขสิทธิ์ครอบคลุมในประเทศต่างๆ อาทิ ประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา พม่า ลาว และ เวียดนาม ได้แก่ 1.รีลัคคุมะ 2. すみっコぐらし/ Sumikko Gurashi 3. มาเมะโกมะ 4. Sentimental Circus 5. かものはしかも / Kamonohashikamo (คาโมโนฮาชิคาโมะ) หรือ น้องตุ่นปากเป็ด 6. 靴下にゃんこ/ Kutusita Nyanko (คุทซึชิตะ เนียนโกะ) 7. たれぱんだ/ Tarepanda (ทาเระแพนด้า) 8. モノクロブー / Monokuro Boo 9.アフロ犬 / Afro Ken 10. じんべえさん/ Jinbesan
อีกทั้ง TACC ยังเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ชื่อดังทางออนไลน์ของไทย “หมาจ๋า” ด้วย
สำหรับนักลงทุนขาประจำแล้ว น่าจะพอทราบว่า รายได้หลัก TACC มาจากการวางจำหน่ายสินค้าในร้าน 7-Eleven ทั้งในส่วนของเครื่องดื่มเย็นในโถกด และเครื่องดื่มชงสด ส่วนรายได้จากสินค้าคาแร็กเตอร์การ์ตูนถือเป็นขาหนึ่งในสายธุรกิจ B2C โดยสายธุรกิจนี้มีสัดส่วนรายได้ 11.30 % จากรายได้รวม (อ้างอิงงบประจำปี 2561)
ผู้บริหารระดับสูงได้วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปีนี้ 15-20% จากปี 2561 ที่มีรายได้รวม 1,295 ล้านบาท ขณะที่ลิขสิทธิ์การ์ตูนจะเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจหลัก ซึ่งนักวิเคราะห์คาดกันว่าปีนี้สายธุรกิจ B2C จะเติบโตกลายเป็นสัดส่วนรายได้เกือบ 15% และที่น่าสนใจคืออัตรากำไรสุทธิสูงราว 30% นับว่ามากกว่าค่าเฉลี่ยกำไรสุทธิรวมที่อยู่ 10% นี่จึงเท่ากับว่ายิ่งรายได้ B2C โตกำไรบรรทัดสุดท้ายจะเร่งตัวได้ทวีเท่า
นอกจากนี้การจัดงาน “Siam Paragon presents Rilakkuma World Happiness Town” ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม – 10 พฤศจิกายน 2562 จะเป็นตัวเร่งให้รายได้จากการขายลิขสิทธิ์เติบโตขึ้นอย่างมีนัยในช่วงปลายปี
สำหรับภาพรวมทิศทางธุรกิจ TACC น่าจะยังเป็นขาขึ้นต่อได้อีกจากทุกสายธุรกิจ
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปีนี้จะโตเด่นต่อเนื่องเป็น 39 ล้านบาท (บวก 77 % y-y แต่ ลดลง 9% q-q ตามฤดูกาลหน้าฝน ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4 คาดกำไรจะโตเด่นต่อจากฐานต่ำในช่วงเดียวกันปีก่อนเพราะไม่มีตั้งสำรองหนี้สูญเหมือนปีก่อนประกอบกับจะมีแรงหนุนจากรายได้ลิขสิทธิ์การ์ตูนและการขายสินค้าใหม่ๆ รวมถึง การขยายฐานลูกค้าไปนอกเหนือจากร้าน 7-Eleven
ราคาเป้าหมายพื้นฐาน TACC จากโบรกเกอร์
บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.90 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.80 บาท
รายงานพิเศษ : เปิดขุมทรัพย์ TACC เจ้าของลิขสิทธิ์การ์ตูน (ที่โดนอ้างไปล่อจับกระทง)
กระแสสังคมกำลังเฝ้ามองกรณีเด็กหญิงวัย 15 ปีโดนตำรวจและผู้อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ลายการ์ตูนดังเรียกรับเงิน 50,000 บาท แลกกับการไม่เอาผิดฐานทำกระทงละเมิดลิขสิทธิ์ซึ่งผู้ดำเนินเรื่องจับกุมเป็นผู้สั่งทำลายการ์ตูนนี้เอง ซึ่งลายการ์ตูนเหล่านี้ดันไปเกี่ยวข้องกับ "หุ้นร้อนประจำปี" บมจ. ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC) โดยตรงในฐานะผู้ถือครองและดูแลในเรื่องลิขสิทธิ์ที่ได้รับมอบอำนาจโดยตรงจากประเทศญี่ปุ่น .....
จากคดีที่เกิดขึ้น TACC ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงอย่างรวดเร็ว สรุปใจความว่า "ไม่ได้มอบหมาย" ให้ผู้ใดก็ตามไปจับกุมลิขสิทธิ์ผิดกฎหมาย จึงให้ทนายความตรวจหาความจริงเพื่อทำให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้น
สำหรับคาแร็กเตอร์การ์ตูนที่ได้เซ็นสัญญาเป็นตัวแทนผู้ถือครองและดูแลลิขสิทธิ์ครอบคลุมในประเทศต่างๆ อาทิ ประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา พม่า ลาว และ เวียดนาม ได้แก่ 1.รีลัคคุมะ 2. すみっコぐらし/ Sumikko Gurashi 3. มาเมะโกมะ 4. Sentimental Circus 5. かものはしかも / Kamonohashikamo (คาโมโนฮาชิคาโมะ) หรือ น้องตุ่นปากเป็ด 6. 靴下にゃんこ/ Kutusita Nyanko (คุทซึชิตะ เนียนโกะ) 7. たれぱんだ/ Tarepanda (ทาเระแพนด้า) 8. モノクロブー / Monokuro Boo 9.アフロ犬 / Afro Ken 10. じんべえさん/ Jinbesan
อีกทั้ง TACC ยังเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ชื่อดังทางออนไลน์ของไทย “หมาจ๋า” ด้วย
สำหรับนักลงทุนขาประจำแล้ว น่าจะพอทราบว่า รายได้หลัก TACC มาจากการวางจำหน่ายสินค้าในร้าน 7-Eleven ทั้งในส่วนของเครื่องดื่มเย็นในโถกด และเครื่องดื่มชงสด ส่วนรายได้จากสินค้าคาแร็กเตอร์การ์ตูนถือเป็นขาหนึ่งในสายธุรกิจ B2C โดยสายธุรกิจนี้มีสัดส่วนรายได้ 11.30 % จากรายได้รวม (อ้างอิงงบประจำปี 2561)
ผู้บริหารระดับสูงได้วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปีนี้ 15-20% จากปี 2561 ที่มีรายได้รวม 1,295 ล้านบาท ขณะที่ลิขสิทธิ์การ์ตูนจะเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจหลัก ซึ่งนักวิเคราะห์คาดกันว่าปีนี้สายธุรกิจ B2C จะเติบโตกลายเป็นสัดส่วนรายได้เกือบ 15% และที่น่าสนใจคืออัตรากำไรสุทธิสูงราว 30% นับว่ามากกว่าค่าเฉลี่ยกำไรสุทธิรวมที่อยู่ 10% นี่จึงเท่ากับว่ายิ่งรายได้ B2C โตกำไรบรรทัดสุดท้ายจะเร่งตัวได้ทวีเท่า
นอกจากนี้การจัดงาน “Siam Paragon presents Rilakkuma World Happiness Town” ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม – 10 พฤศจิกายน 2562 จะเป็นตัวเร่งให้รายได้จากการขายลิขสิทธิ์เติบโตขึ้นอย่างมีนัยในช่วงปลายปี
สำหรับภาพรวมทิศทางธุรกิจ TACC น่าจะยังเป็นขาขึ้นต่อได้อีกจากทุกสายธุรกิจ
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปีนี้จะโตเด่นต่อเนื่องเป็น 39 ล้านบาท (บวก 77 % y-y แต่ ลดลง 9% q-q ตามฤดูกาลหน้าฝน ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4 คาดกำไรจะโตเด่นต่อจากฐานต่ำในช่วงเดียวกันปีก่อนเพราะไม่มีตั้งสำรองหนี้สูญเหมือนปีก่อนประกอบกับจะมีแรงหนุนจากรายได้ลิขสิทธิ์การ์ตูนและการขายสินค้าใหม่ๆ รวมถึง การขยายฐานลูกค้าไปนอกเหนือจากร้าน 7-Eleven
ราคาเป้าหมายพื้นฐาน TACC จากโบรกเกอร์
บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.90 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.80 บาท