เกมเยือนเมืองเบอร์มิงแฮม ณ สนามที่ลิเวอร์พูลสามารถเก็บแต้มนอกบ้านได้มากที่สุดในการเล่นเป็นทีมเยือน ตั้งแต่มีพรีเมียร์ลีค จบไปพร้อมกับความมันส์ + ดราม่า เมื่อจ่าฝูงสามารถขโมย 3 คะแนนสำคัญกลับบ้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ และยังเป็นการรักษาโมเมนตัมก่อนเกมสำคัญที่ต้องพบกับแชมป์เก่าในสัปดาห์หน้า
ลูกโหม่งระดับโลกจากจังหวะที่แสนยาก เป็นประตูชัยที่ทำให้โมเมนตัมในลีคยังอยู่ทางฝั่งหงส์แดง
วิลล่าทำได้ดีเยี่ยมถึง 87 นาที ก่อนจะพ่ายแพ้ต่อความยอดเยี่ยมกว่าหงส์แดงในช่วงนาทีที่ 90+4
ลิเวอร์พูลกลายเป็นทีมที่พร้อมยิงประตูตลอดเวลา ดูแค่จาก 4 เกมที่ผ่านมารวมเกมนี้ด้วย พวกเค้าคัมแบ็คจากการเป็นผู้ตามกลับมาชนะในเวลาได้ 2 เกม เสมอ 1 เกมเลยทีเดียว และก่อนหน้านั้นก็มีอีกมากมายหลายเกมที่พวกเค้าทำตัวเยี่ยงซาตานที่ สามารถล้อเล่นกับความตาย โดยไม่สนว่าแฟนบอลจะช็อคตายไปแทนพวกเค้า 🤣😂🤣
สำหรับเกมนี้จัดว่าเป็นเกมระดับ 5 ดาวของฝั่งลิเวอร์พูล ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจมากมายโดยล้วนแล้วแต่มีผลกับเกมแทบทั้งสิ้น มาดูกันครับว่ามีอะไรที่น่าโฟกัสกันบ้าง
1. VAR จังหวะฟีร์มิโน่ - อาจจะดูปวดใจสำหรับแฟนหงส์ แต่จุดนี้ผมยอมรับการตัดสินจากเทคโนโลยี เพราะถึงจะดูก้ำกึ่ง แต่เชื่อว่าวิธีชี้วัดคงชัดเจนแล้วว่าล้ำหน้าล่ะ ถึงจะล้ำแค่ขนจักแร้ก็ตาม อย่างไรก็ตามวิธีสื่อออกมาของทีม VAR ต้องจัดว่าโง่และด้อยปัญญามาก เพราะการทำเส้น Graphic ครั้งแรก ฟีร์โน่ไม่ล้ำหน้า แต่การลากอีกครั้งกลับกลายเป็นล้ำหน้าเฉย ซึ่งจริงๆแล้วมันคงล้ำจริงๆล่ะครับ แต่การแสดง 2 standard ผ่านหน้าจอโทรทัศน์มันเป็นการกระทำที่ควายเหลือคณา และย่อมทำให้มีข้อกังขามากมายกับคณะกรรมการ VAR
2. Handball แต่ไม่ VAR - จังหวะที่อ๊อกเหลตยิงไปติดแขนของผู้เล่นวิลล่านั้น ตามกติกาใหม่มันคือจุดโทษล้านเปอร์เซนต์ เพราะแขนไม่ได้แนบกับร่างกาย ซึ่งจังหวะนี้ไม่รู้ต้องโทษผู้ตัดสินหรือทีมงาน VAR ที่ไม่เลือกที่จะดูภาพช้า และทำให้หงส์แดงชวดการได้จุดโทษไปอย่างน่าเสียดาย
จังหวะแฮนด์บอลซึ่งเป็นจุดโทษแน่นอน เพียงแค่กรรมการในสนาม หรือคณะ VAR เอาสมองน้อยๆสะกิดคิดรีเพลย์อีกซักนิด
3. Class of Alisson - วันนี้พี่หมีแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า การเป็นผู้รักษาประตูสมัยใหม่นั้นเค้าต้องเล่นกันยังไง จังหวะสำคัญในครึ่งหลังที่เค้าอ่านเกมและวิ่งเข้ามาตัดบอลก่อนที่นักเตะวิลล่า 3 คนจะวิ่งเข้าหาบอล มันคืออีกจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม ที่ทำให้ลิเวอร์พูลยังคงอยู่ในเกมก่อนจะบดชนะไปได้
4. ฟานไดจ์ปิดจังหวะตาย - การยืดเท้าสกัดก่อนที่นักเตะวิลล่าจะได้แปโล่งๆ ในจังหวะที่พี่หมีไม่มีโอกาสป้องกันไปแล้วนั้น ถือเป็น Save of the day เลยครับ นอกจากความสามารถในตัวเองเหลือล้นแล้ว ลักษณะทางกายภาพก็มีส่วนที่ทำให้ฟานไดจ์กลายเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกในนาทีนี้ ... เป็นการรอดตายที่หวุดหวิดจริงๆ
ฟานไดจ์มีจังหวะเทพให้เห็นอีกครั้งในเกมนี้ ขายาวๆมันช่างดีจริงๆ
5. วิลล่าโดนบังคับให้รับจนพัง - ในครึ่งเวลาหลังแทบจะเป็นเกม one way ของทีมเยือน โดยเฉพาะหลังจากที่มีการเปลี่ยนอ๊อกเหลตลงมาในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย มันยิ่งทำให้ลิเวอร์พูลมีอาวุธหนักในการยิงประตูเพิ่มเข้าไปอีก และรอเพียงแค่เวลาที่จะได้ประตูเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายแล้วทำนบของเจ้าบ้านก็แหลกสลายในช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา นั่นก็ยิ่งตอกย้ำว่าการเล่นเกมรับกับลิเวอร์พูลต้องยอดเยี่ยมทุกวินาทีถึงจะมีโอกาสรอด
6. จะเชือดหงส์ต้องเอาให้ตาย - เป็นอีกหนึ่งเกมที่เกมรับลิเวอร์พูลมีช่องว่างให้เล่นงานอย่างมากมาย แต่ที่ผ่านมารวมถึงในเกมนี้ ทีมคู่ต่อสู้กลับไม่สามารถฉวยโอกาสนี้เอาไว้ได้ นั่นจึงทำให้ท้ายที่สุดแล้วพวกเค้าจึงต้องแบ่งแต้ม หรือเสียแต้มทั้งหมดให้กับทีมของ JK ไป
เยี่ยมยอดมา 87 นาที แต่เพราะการปิดเกมไม่ลงทำให้เจ้าบ้านต้องน้ำตาตกแบบช็อคไปพอสมควร
7. จิตวิญญาณแห่งนักสู้ - ลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้กลายเป็นทีมที่ลงเล่นเพื่อคว้าชัยชนะในทุกๆเกมอย่างแท้จริง ตราบใดที่ยังมีเวลาในสนามพวกเค้าจะบุกทะลวงเพื่อหาทางล่าตาข่ายคู่ต่อสู้ให้ได้ พลังใจที่เข้มแข็งบวกกับความสามารถของนักเตะที่มีมันเลยสร้างพลังบวกทำให้พวกเค้าทำเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลาจนแทบเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามการเจอกับแชมป์เก่าในเกมถัดไปมันจะเป็นบทพิสูจน์สำคัญในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี รอดูกันครับ
8. มาเน่ No.1 แห่งเกมรุก - ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วมาจนบัดนี้ ดาวเตะเซเนกัลพิสูจน์ตัวเองได้แล้วว่าเค้าคือผู้เล่นที่สำคัญที่สุดในแนวรุกของหงส์แดง ทั้งทักษะ ความแข็งแกร่ง และผลงานส่วนตัวที่ทุกๆ คนได้เห็นในสนาม ถึงแบบนั้นก็เหอะ ลิเวอร์พูลจะลดความน่ากลัวลงไปมากทีเดียวถ้าขาดอีก 2 สตาร์อย่างซาลาห์และฟีร์มิโน่ลงเล่นเคียงข้างกัน การที่ทั้ง 3 คนได้ลงเล่นพร้อมกันแทบตลอดเวลาถือเป็นโชคดีอีกอย่างหนึ่งของหงส์แดงที่ทำให้สยายปีกมาได้ไกลขนาดนี้
จังหวะนี้พี่เน่ก็พุ่งสวยเกินไปหน่อย ถึงจะโดนสัมผัสก็เหอะ 🤪😅
9. Origi The Lucky man - การลงสนามในฐานะตัวสำรองของเค้ามักจะสร้างความแตกต่างให้กับลิเวอร์พูลอยู่เสมอ ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอะไรก็ไม่รู้ดังเช่นเกมนี้
10. เรือใบเซ็ง - ณ นาทีที่ 87 สาวกเรือใบน่าจะยิ้มแก้มปริเมื่อพวกเค้าได้ประตูขึ้นนำนักบุญและมีโอกาสลดช่องว่างคะแนนลงเหลือแค่ 3 แต้ม แต่อีกไม่กี่อึดใจต่อมากลายเป็นว่า ช่องว่างดันมาอยู่ที่ 6 แต้มเท่าเดิมซะงั้น นั่นคงทำให้เหล่านักเตะและแฟนๆ วิลล่าซิตี้ คงแอบเซ็งนิดๆ เหมือนกัน แต่ยังไงก็ตามความรู้สึกนี้มันยังห่างชั้นมากมายกับตอนที่กุนยิงประตูชัยช่วงทดเจ็บและพาเรือใบแซงแมนยูเป็นแชมป์ไปแบบช็อคโลกเมื่อหลายปีก่อน และนั่นทำให้เกมต่อไปพวกเค้าต้องลงเล่นด้วยแรงกดดันอยู่พอสมควร เพราะถึงแม้นี่จะเป็นแค่ต้นฤดูกาลและช่องว่างของคะแนนที่ 6 แต้มก็ยังเป็นตัวเลขที่ไม่ได้มากมายอะไร แต่การเจอกับคู่แข่งอันดับ 1 ที่ดูจะมีพัฒนาการทางด้านพลังใจขึ้นมาอีกระดับหนึ่งนั้น มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ และถ้าพวกเค้าพลาดท่าขึ้นมา มันย่อมส่งผลเสียต่อโมเมนตัมและผลงานในระยะยาวอย่างแน่นอน
สำหรับสถานการณ์ลุ้นแชมป์ในตอนนี้ หงส์แดงดูจะได้เปรียบเรือใบอยู่พอสมควร เพราะเค้าผ่านทีมใหญ่ๆ อย่าง ผีแดง ปืนโต สิงห์น้ำเงิน น้องไก่ และจิ้งจอกสยามมาแล้ว โดยโกยได้ถึง 13 คะแนน เลยทีเดียว ขณะที่เรือใบสีฟ้าเพิ่งจะชนกับแค่น้องไก่มาแค่เกมเดียว และเก็บได้ 1 แต้มในบ้าน ซึ่งนั่นมันก็ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าที่ผ่านมางานของเรือใบมันเบากว่าฝั่งของหงส์แดงพอสมควร แต่เค้าก็ยังตามอยู่ถึง 6 แต้ม ดังนั้นฤดูกาลนี้การที่แมนซิตี้จะกลับมาป้องกันแชมป์ได้ นอกจากจะต้องแสดงผลงานในเกมที่เหลือให้สุดฝีเท้าแล้ว ยังต้องหวังว่าหงส์แดงจะหลุดฟอร์มและทำผิดพลาดบ้าง โดยเริ่มจากเกมหน้านี้ล่ะ
ยังไงก็ตามสิ่งที่น่ากังวลสำหรับสาวกเรือใบสีฟ้า นอกจากเกมการแข่งขันที่หนักหน่วงแล้ว ปัญหาเรื่องนักเตะเกมรับก็เป็นประเด็นสำคัญเช่นกัน เพราะเมื่อไรก็ตามที่แดนกลางเรือใบไม่สามารถกดเกมรับของทีมคู่แข่งได้ พวกเค้าก็พร้อมจะพลาดในเกมรับและโดนทะลวงประตูอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งปัญหานี้ต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะถ้ามัยแต่จะรอให้ลาปอร์ตหายเจ็บ และเรียกความฟิตกลับมาเล่นได้ ในเวลานั้นโอกาสลุ้นแชมป์ของพวกเค้าก็อาจจะมีไม่มากพอแล้วก็ได้
สุดท้ายนี้ขอบคุณบรรดานักเตะลิเวอร์พูลและทีมงานที่สร้างเกมที่แสนจะสนุกตื่นเต้นให้แฟนบอลอย่างผมได้มีโอกาสชมเป็นบุญตา ถือเป็นเกมที่สนุกและลุ้นมันส์ที่สุดในฤดูกาลนี้แล้ว เพราะมันเป็นการได้ลุ้นเพื่อชัยชนะอย่างจริงจังที่สุดจนถึงนาทีสุดท้ายอย่างแท้จริงครับ
Focus Point: 10 ประเด็นเด็ดหงส์แดงโกงความตาย!
ลูกโหม่งระดับโลกจากจังหวะที่แสนยาก เป็นประตูชัยที่ทำให้โมเมนตัมในลีคยังอยู่ทางฝั่งหงส์แดง
วิลล่าทำได้ดีเยี่ยมถึง 87 นาที ก่อนจะพ่ายแพ้ต่อความยอดเยี่ยมกว่าหงส์แดงในช่วงนาทีที่ 90+4
ลิเวอร์พูลกลายเป็นทีมที่พร้อมยิงประตูตลอดเวลา ดูแค่จาก 4 เกมที่ผ่านมารวมเกมนี้ด้วย พวกเค้าคัมแบ็คจากการเป็นผู้ตามกลับมาชนะในเวลาได้ 2 เกม เสมอ 1 เกมเลยทีเดียว และก่อนหน้านั้นก็มีอีกมากมายหลายเกมที่พวกเค้าทำตัวเยี่ยงซาตานที่ สามารถล้อเล่นกับความตาย โดยไม่สนว่าแฟนบอลจะช็อคตายไปแทนพวกเค้า 🤣😂🤣
สำหรับเกมนี้จัดว่าเป็นเกมระดับ 5 ดาวของฝั่งลิเวอร์พูล ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจมากมายโดยล้วนแล้วแต่มีผลกับเกมแทบทั้งสิ้น มาดูกันครับว่ามีอะไรที่น่าโฟกัสกันบ้าง
1. VAR จังหวะฟีร์มิโน่ - อาจจะดูปวดใจสำหรับแฟนหงส์ แต่จุดนี้ผมยอมรับการตัดสินจากเทคโนโลยี เพราะถึงจะดูก้ำกึ่ง แต่เชื่อว่าวิธีชี้วัดคงชัดเจนแล้วว่าล้ำหน้าล่ะ ถึงจะล้ำแค่ขนจักแร้ก็ตาม อย่างไรก็ตามวิธีสื่อออกมาของทีม VAR ต้องจัดว่าโง่และด้อยปัญญามาก เพราะการทำเส้น Graphic ครั้งแรก ฟีร์โน่ไม่ล้ำหน้า แต่การลากอีกครั้งกลับกลายเป็นล้ำหน้าเฉย ซึ่งจริงๆแล้วมันคงล้ำจริงๆล่ะครับ แต่การแสดง 2 standard ผ่านหน้าจอโทรทัศน์มันเป็นการกระทำที่ควายเหลือคณา และย่อมทำให้มีข้อกังขามากมายกับคณะกรรมการ VAR
2. Handball แต่ไม่ VAR - จังหวะที่อ๊อกเหลตยิงไปติดแขนของผู้เล่นวิลล่านั้น ตามกติกาใหม่มันคือจุดโทษล้านเปอร์เซนต์ เพราะแขนไม่ได้แนบกับร่างกาย ซึ่งจังหวะนี้ไม่รู้ต้องโทษผู้ตัดสินหรือทีมงาน VAR ที่ไม่เลือกที่จะดูภาพช้า และทำให้หงส์แดงชวดการได้จุดโทษไปอย่างน่าเสียดาย
จังหวะแฮนด์บอลซึ่งเป็นจุดโทษแน่นอน เพียงแค่กรรมการในสนาม หรือคณะ VAR เอาสมองน้อยๆสะกิดคิดรีเพลย์อีกซักนิด
3. Class of Alisson - วันนี้พี่หมีแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า การเป็นผู้รักษาประตูสมัยใหม่นั้นเค้าต้องเล่นกันยังไง จังหวะสำคัญในครึ่งหลังที่เค้าอ่านเกมและวิ่งเข้ามาตัดบอลก่อนที่นักเตะวิลล่า 3 คนจะวิ่งเข้าหาบอล มันคืออีกจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม ที่ทำให้ลิเวอร์พูลยังคงอยู่ในเกมก่อนจะบดชนะไปได้
4. ฟานไดจ์ปิดจังหวะตาย - การยืดเท้าสกัดก่อนที่นักเตะวิลล่าจะได้แปโล่งๆ ในจังหวะที่พี่หมีไม่มีโอกาสป้องกันไปแล้วนั้น ถือเป็น Save of the day เลยครับ นอกจากความสามารถในตัวเองเหลือล้นแล้ว ลักษณะทางกายภาพก็มีส่วนที่ทำให้ฟานไดจ์กลายเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกในนาทีนี้ ... เป็นการรอดตายที่หวุดหวิดจริงๆ
ฟานไดจ์มีจังหวะเทพให้เห็นอีกครั้งในเกมนี้ ขายาวๆมันช่างดีจริงๆ
5. วิลล่าโดนบังคับให้รับจนพัง - ในครึ่งเวลาหลังแทบจะเป็นเกม one way ของทีมเยือน โดยเฉพาะหลังจากที่มีการเปลี่ยนอ๊อกเหลตลงมาในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย มันยิ่งทำให้ลิเวอร์พูลมีอาวุธหนักในการยิงประตูเพิ่มเข้าไปอีก และรอเพียงแค่เวลาที่จะได้ประตูเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายแล้วทำนบของเจ้าบ้านก็แหลกสลายในช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา นั่นก็ยิ่งตอกย้ำว่าการเล่นเกมรับกับลิเวอร์พูลต้องยอดเยี่ยมทุกวินาทีถึงจะมีโอกาสรอด
6. จะเชือดหงส์ต้องเอาให้ตาย - เป็นอีกหนึ่งเกมที่เกมรับลิเวอร์พูลมีช่องว่างให้เล่นงานอย่างมากมาย แต่ที่ผ่านมารวมถึงในเกมนี้ ทีมคู่ต่อสู้กลับไม่สามารถฉวยโอกาสนี้เอาไว้ได้ นั่นจึงทำให้ท้ายที่สุดแล้วพวกเค้าจึงต้องแบ่งแต้ม หรือเสียแต้มทั้งหมดให้กับทีมของ JK ไป
เยี่ยมยอดมา 87 นาที แต่เพราะการปิดเกมไม่ลงทำให้เจ้าบ้านต้องน้ำตาตกแบบช็อคไปพอสมควร
7. จิตวิญญาณแห่งนักสู้ - ลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้กลายเป็นทีมที่ลงเล่นเพื่อคว้าชัยชนะในทุกๆเกมอย่างแท้จริง ตราบใดที่ยังมีเวลาในสนามพวกเค้าจะบุกทะลวงเพื่อหาทางล่าตาข่ายคู่ต่อสู้ให้ได้ พลังใจที่เข้มแข็งบวกกับความสามารถของนักเตะที่มีมันเลยสร้างพลังบวกทำให้พวกเค้าทำเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลาจนแทบเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามการเจอกับแชมป์เก่าในเกมถัดไปมันจะเป็นบทพิสูจน์สำคัญในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี รอดูกันครับ
8. มาเน่ No.1 แห่งเกมรุก - ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วมาจนบัดนี้ ดาวเตะเซเนกัลพิสูจน์ตัวเองได้แล้วว่าเค้าคือผู้เล่นที่สำคัญที่สุดในแนวรุกของหงส์แดง ทั้งทักษะ ความแข็งแกร่ง และผลงานส่วนตัวที่ทุกๆ คนได้เห็นในสนาม ถึงแบบนั้นก็เหอะ ลิเวอร์พูลจะลดความน่ากลัวลงไปมากทีเดียวถ้าขาดอีก 2 สตาร์อย่างซาลาห์และฟีร์มิโน่ลงเล่นเคียงข้างกัน การที่ทั้ง 3 คนได้ลงเล่นพร้อมกันแทบตลอดเวลาถือเป็นโชคดีอีกอย่างหนึ่งของหงส์แดงที่ทำให้สยายปีกมาได้ไกลขนาดนี้
จังหวะนี้พี่เน่ก็พุ่งสวยเกินไปหน่อย ถึงจะโดนสัมผัสก็เหอะ 🤪😅
9. Origi The Lucky man - การลงสนามในฐานะตัวสำรองของเค้ามักจะสร้างความแตกต่างให้กับลิเวอร์พูลอยู่เสมอ ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอะไรก็ไม่รู้ดังเช่นเกมนี้
10. เรือใบเซ็ง - ณ นาทีที่ 87 สาวกเรือใบน่าจะยิ้มแก้มปริเมื่อพวกเค้าได้ประตูขึ้นนำนักบุญและมีโอกาสลดช่องว่างคะแนนลงเหลือแค่ 3 แต้ม แต่อีกไม่กี่อึดใจต่อมากลายเป็นว่า ช่องว่างดันมาอยู่ที่ 6 แต้มเท่าเดิมซะงั้น นั่นคงทำให้เหล่านักเตะและแฟนๆ วิลล่าซิตี้ คงแอบเซ็งนิดๆ เหมือนกัน แต่ยังไงก็ตามความรู้สึกนี้มันยังห่างชั้นมากมายกับตอนที่กุนยิงประตูชัยช่วงทดเจ็บและพาเรือใบแซงแมนยูเป็นแชมป์ไปแบบช็อคโลกเมื่อหลายปีก่อน และนั่นทำให้เกมต่อไปพวกเค้าต้องลงเล่นด้วยแรงกดดันอยู่พอสมควร เพราะถึงแม้นี่จะเป็นแค่ต้นฤดูกาลและช่องว่างของคะแนนที่ 6 แต้มก็ยังเป็นตัวเลขที่ไม่ได้มากมายอะไร แต่การเจอกับคู่แข่งอันดับ 1 ที่ดูจะมีพัฒนาการทางด้านพลังใจขึ้นมาอีกระดับหนึ่งนั้น มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ และถ้าพวกเค้าพลาดท่าขึ้นมา มันย่อมส่งผลเสียต่อโมเมนตัมและผลงานในระยะยาวอย่างแน่นอน
สำหรับสถานการณ์ลุ้นแชมป์ในตอนนี้ หงส์แดงดูจะได้เปรียบเรือใบอยู่พอสมควร เพราะเค้าผ่านทีมใหญ่ๆ อย่าง ผีแดง ปืนโต สิงห์น้ำเงิน น้องไก่ และจิ้งจอกสยามมาแล้ว โดยโกยได้ถึง 13 คะแนน เลยทีเดียว ขณะที่เรือใบสีฟ้าเพิ่งจะชนกับแค่น้องไก่มาแค่เกมเดียว และเก็บได้ 1 แต้มในบ้าน ซึ่งนั่นมันก็ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าที่ผ่านมางานของเรือใบมันเบากว่าฝั่งของหงส์แดงพอสมควร แต่เค้าก็ยังตามอยู่ถึง 6 แต้ม ดังนั้นฤดูกาลนี้การที่แมนซิตี้จะกลับมาป้องกันแชมป์ได้ นอกจากจะต้องแสดงผลงานในเกมที่เหลือให้สุดฝีเท้าแล้ว ยังต้องหวังว่าหงส์แดงจะหลุดฟอร์มและทำผิดพลาดบ้าง โดยเริ่มจากเกมหน้านี้ล่ะ
ยังไงก็ตามสิ่งที่น่ากังวลสำหรับสาวกเรือใบสีฟ้า นอกจากเกมการแข่งขันที่หนักหน่วงแล้ว ปัญหาเรื่องนักเตะเกมรับก็เป็นประเด็นสำคัญเช่นกัน เพราะเมื่อไรก็ตามที่แดนกลางเรือใบไม่สามารถกดเกมรับของทีมคู่แข่งได้ พวกเค้าก็พร้อมจะพลาดในเกมรับและโดนทะลวงประตูอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งปัญหานี้ต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะถ้ามัยแต่จะรอให้ลาปอร์ตหายเจ็บ และเรียกความฟิตกลับมาเล่นได้ ในเวลานั้นโอกาสลุ้นแชมป์ของพวกเค้าก็อาจจะมีไม่มากพอแล้วก็ได้
สุดท้ายนี้ขอบคุณบรรดานักเตะลิเวอร์พูลและทีมงานที่สร้างเกมที่แสนจะสนุกตื่นเต้นให้แฟนบอลอย่างผมได้มีโอกาสชมเป็นบุญตา ถือเป็นเกมที่สนุกและลุ้นมันส์ที่สุดในฤดูกาลนี้แล้ว เพราะมันเป็นการได้ลุ้นเพื่อชัยชนะอย่างจริงจังที่สุดจนถึงนาทีสุดท้ายอย่างแท้จริงครับ