คิลิมันจาโรคือภูเขาลูกที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา คิลิมันจาโรเป็นภูเขาไฟลูกเดี่ยวที่ไม่ได้อยู่ในเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในประเทศแทนซาเนีย เป็น 1 ใน 7 summit ของโลก และเป็น 1 ในจุดหมายสำคัญของนักปีนเขา ในแต่ละปีมีนักปีนเขาประมาณ 3 หมื่นคนพยายามปีนภูเขาลูกนี้ แต่เหมือนในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีคนไปเท่าไหร่ หาข้อมูลตอนไปไม่ค่อยมี เลยขออนุญาตแบ่งปันประสบการณ์การปีนภูเขาลูกนี้นะครับ
การเดินทาง ผมเดินทางด้วย Ethiopian Airlines ลงที่ Addis Ababa แล้วต่อเครื่องอีก 2 ชั่วโมงก็ถึง Kilimanjaro ไม่ยาก สายการบินก็ดี ที่สำคัญถูก ถ้าจองล่วงหน้านานๆได้ business class ไม่ถึง 6 หมื่นบาท
การเตรียมตัว ในส่วนของอุปกรณ์ ก็ใช้อุปกรณ์เดียวกับการ trekking ขึ้นเขาสูงทั่วไป มีหลายๆกระทู้แนะนำไปแล้ว แต่ที่อยากเพิ่มเติมคืออากาศที่เขานี้แปรปรวนมาก ตอนผมไปในช่วงตุลาที่ผ่านมาที่ควรจะแห้งก็มีฝนตกหนักทุกวัน รวมถึงวันขึ้น summit หิมะตกแรงมาก แนะนำว่าทุกอย่างควรกันน้ำได้ และควรมีถุงพลาสติกใบใหญ่ใส่ไว้ในเป้ก่อนใส่ของอีกชั้นนึงเพื่อกันน้ำ ส่วนเสื้อผ้าควรเอาไปให้พอทั้งกันเปียกและกันหนาว รวมทั้งที่นี่ไม่มีห้องน้ำดีๆ ไม่มีน้ำนอกจากน้ำดื่ม ดังนั้นพกทิชชู่และทิชชู่เปียกกับแอลกอฮลล์เช็ดมือไปให้เยอะๆนะครับ
คิลิมันจาโรไม่สามารถปีนเองได้ต้องใช้ทัวร์เท่านั้น ดังนั้นต้องติดต่อทัวร์ล่วงหน้า ผมหาจาก trip advisor เลือกที่ได้คะแนนสูงๆมีรีวิวมากๆ ลองติดต่อไปเค้าถามตอบดีเลยเลือกอันนั้น อีกอย่างผมไปคนเดียว ไม่ได้ไป join tour ดังนั้นเลยเลือกไม่แพงมาก บริการดีแต่อุปกรณ์ไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าอยากไปรวมกลุ่มให้ใหญ่พอซัก 4 คน หรือเลือกแบบ join tour จ่ายเท่าที่ผมจ่าย จะได้บริษัทและอุปกรณ์ดีกว่าครับ
หลังจากเลือกบริษัททัวร์ได้แล้วก็ต้องเลือกเส้นทางเดิน คิลิมันจาโรมีเส้นทางให้เลือกปีนได้หลายเส้นทางมาก ยากง่ายความสบายและระยะเวลาในการปีนต่างกัน เนื่องจากผมไปคนเดียวและคิดว่าคงไม่ไปอีกแล้วเลยของเลือกทางที่เป็น signature ของที่นี่รวมทั้งมีเพื่อนร่วมทางกับ success rate สูงสุดคือ machame route โดยเลือกแบบ 6 วันครับ จะเลือกนานกว่านี้ก็เดินสบายขึ้นแต่ค่าใช้จ่ายก็จะแพงขึ้นแล้วก็เสียวันลามากขึ้น แบบ 6 วันเลยโอเคกับผมที่สุด
แล้วสาเหตุที่คิลิมันจาโรแม้จะไม่มี facility อะไรเลยบนเขาแต่ราคาในการปีนแพงมากก็ด้วย 2 สาเหตุ คือค่า permit แพง รวมทั้งที่นี่ไม่เหมือนเนปาลที่ลูกหาบแบกได้หนักมาก ที่นี่บังคับถ้าจำไม่ผิดจะไม่เกิน 20 kg ต่อคน รวมถึงการบังคับว่าต้องมีไกด์ประกบนักท่องเที่ยวไม่เกิน 4 คน (ไม่แน่ใจตัวเลข แต่กลุ่มใหญ่สุดที่มีไกด์คนเดียวที่เห็นคือ 4 คน) ดังนั้นจำนวน staff ต่อนักท่องเที่ยวจึงเยอะมาก ของผมคือ ไกด์ 1 คน พ่อครัว 1 คน ลูกหาบอีก 7 คนรวมเป็น 9 คน อีกทั้งค่าทัวร์ที่จ่ายไปเป็นค่าแรงพวกนี้แค่น้อยนิด จบทริปยังต้องจ่ายทิปที่เหมือนเป็นภาคบังคับให้ทุกคนอีก ค่าใช้จ่ายเลยสูงมาก การเลือกทัวร์ที่เหมาะสม เส้นทางการเดินและเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญ
2 เรื่องสุดท้ายในการเตรียมตัวคือ การ transit ผ่านเอธิโอเปียต้องฉีดวันซีนไข้เหลืองด้วย ต.ม. ที่คิลิมันจาโรถามหาสมุดเล่มเหลือง ผมไปฉีดมาที่สถานเสาวภา ถูกและบริการดีมากครับ อีกเรื่องคือวีซ่า แทนซาเนียต้องใช้วีซ่า เมื่อก่อนเป็น visa on arrival ตอนนี้สามารถขอ online visa ได้แล้ว ขอได้จาก link นี้
https://eservices.immigration.go.tz/visa/ ง่ายๆ กรอกตามขั้นตอนไม่กี่ขั้นก็จ่ายเงิน รอไม่กี่วันก็ได้ email visa มาครับ
ตะลุยเดี่ยวปีนคิลิมันจาโร หลังคาทวีปแอฟริกา Kilimanjaro the roof of Africa
การเดินทาง ผมเดินทางด้วย Ethiopian Airlines ลงที่ Addis Ababa แล้วต่อเครื่องอีก 2 ชั่วโมงก็ถึง Kilimanjaro ไม่ยาก สายการบินก็ดี ที่สำคัญถูก ถ้าจองล่วงหน้านานๆได้ business class ไม่ถึง 6 หมื่นบาท
การเตรียมตัว ในส่วนของอุปกรณ์ ก็ใช้อุปกรณ์เดียวกับการ trekking ขึ้นเขาสูงทั่วไป มีหลายๆกระทู้แนะนำไปแล้ว แต่ที่อยากเพิ่มเติมคืออากาศที่เขานี้แปรปรวนมาก ตอนผมไปในช่วงตุลาที่ผ่านมาที่ควรจะแห้งก็มีฝนตกหนักทุกวัน รวมถึงวันขึ้น summit หิมะตกแรงมาก แนะนำว่าทุกอย่างควรกันน้ำได้ และควรมีถุงพลาสติกใบใหญ่ใส่ไว้ในเป้ก่อนใส่ของอีกชั้นนึงเพื่อกันน้ำ ส่วนเสื้อผ้าควรเอาไปให้พอทั้งกันเปียกและกันหนาว รวมทั้งที่นี่ไม่มีห้องน้ำดีๆ ไม่มีน้ำนอกจากน้ำดื่ม ดังนั้นพกทิชชู่และทิชชู่เปียกกับแอลกอฮลล์เช็ดมือไปให้เยอะๆนะครับ
คิลิมันจาโรไม่สามารถปีนเองได้ต้องใช้ทัวร์เท่านั้น ดังนั้นต้องติดต่อทัวร์ล่วงหน้า ผมหาจาก trip advisor เลือกที่ได้คะแนนสูงๆมีรีวิวมากๆ ลองติดต่อไปเค้าถามตอบดีเลยเลือกอันนั้น อีกอย่างผมไปคนเดียว ไม่ได้ไป join tour ดังนั้นเลยเลือกไม่แพงมาก บริการดีแต่อุปกรณ์ไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าอยากไปรวมกลุ่มให้ใหญ่พอซัก 4 คน หรือเลือกแบบ join tour จ่ายเท่าที่ผมจ่าย จะได้บริษัทและอุปกรณ์ดีกว่าครับ
หลังจากเลือกบริษัททัวร์ได้แล้วก็ต้องเลือกเส้นทางเดิน คิลิมันจาโรมีเส้นทางให้เลือกปีนได้หลายเส้นทางมาก ยากง่ายความสบายและระยะเวลาในการปีนต่างกัน เนื่องจากผมไปคนเดียวและคิดว่าคงไม่ไปอีกแล้วเลยของเลือกทางที่เป็น signature ของที่นี่รวมทั้งมีเพื่อนร่วมทางกับ success rate สูงสุดคือ machame route โดยเลือกแบบ 6 วันครับ จะเลือกนานกว่านี้ก็เดินสบายขึ้นแต่ค่าใช้จ่ายก็จะแพงขึ้นแล้วก็เสียวันลามากขึ้น แบบ 6 วันเลยโอเคกับผมที่สุด
แล้วสาเหตุที่คิลิมันจาโรแม้จะไม่มี facility อะไรเลยบนเขาแต่ราคาในการปีนแพงมากก็ด้วย 2 สาเหตุ คือค่า permit แพง รวมทั้งที่นี่ไม่เหมือนเนปาลที่ลูกหาบแบกได้หนักมาก ที่นี่บังคับถ้าจำไม่ผิดจะไม่เกิน 20 kg ต่อคน รวมถึงการบังคับว่าต้องมีไกด์ประกบนักท่องเที่ยวไม่เกิน 4 คน (ไม่แน่ใจตัวเลข แต่กลุ่มใหญ่สุดที่มีไกด์คนเดียวที่เห็นคือ 4 คน) ดังนั้นจำนวน staff ต่อนักท่องเที่ยวจึงเยอะมาก ของผมคือ ไกด์ 1 คน พ่อครัว 1 คน ลูกหาบอีก 7 คนรวมเป็น 9 คน อีกทั้งค่าทัวร์ที่จ่ายไปเป็นค่าแรงพวกนี้แค่น้อยนิด จบทริปยังต้องจ่ายทิปที่เหมือนเป็นภาคบังคับให้ทุกคนอีก ค่าใช้จ่ายเลยสูงมาก การเลือกทัวร์ที่เหมาะสม เส้นทางการเดินและเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญ
2 เรื่องสุดท้ายในการเตรียมตัวคือ การ transit ผ่านเอธิโอเปียต้องฉีดวันซีนไข้เหลืองด้วย ต.ม. ที่คิลิมันจาโรถามหาสมุดเล่มเหลือง ผมไปฉีดมาที่สถานเสาวภา ถูกและบริการดีมากครับ อีกเรื่องคือวีซ่า แทนซาเนียต้องใช้วีซ่า เมื่อก่อนเป็น visa on arrival ตอนนี้สามารถขอ online visa ได้แล้ว ขอได้จาก link นี้ https://eservices.immigration.go.tz/visa/ ง่ายๆ กรอกตามขั้นตอนไม่กี่ขั้นก็จ่ายเงิน รอไม่กี่วันก็ได้ email visa มาครับ