มาแล้วจร้าา สำหรับรีวิวในแบบของ RESdev แบบบ้าน ๆ ตรงจุดแน่นอน โดยวันนี้ก็มาพร้อมกับ Redmi Note 8 ที่เป็นรุ่นน้องของ Redmi Note 8 Pro นั่นเอง ซึ่งตัวนี้ก็มีข้อดีข้อสังเกตที่เพื่อน ๆ ต้องรู้ก่อนซื้อด้วยนะ เดี๋ยวไปอ่านกันเลยจร้า

ด้านหน้าของตัวเครื่องก็เป็นจอสีดำ ขอบล่างสุดมีสกรีนคำว่า Redmi สวยงาม ด้านบนก็เป็นกล้องหน้าที่เป็นติ่งลงมา ซึ่งแถว ๆ กล้องก็จะซ่อน Sensor ต่าง ๆ ไว้ด้วย และรูลำโพงสนทนา มีเท่านี้เลยด้านหน้า

ด้านหลังก็จะเป็นกล้อง 4 ตัว ไฟแฟลช และตัวสแกนลานนิ้วมือ เนื่องจากว่าตัวนี้ราคาเบา ๆ จึงยังไม่ได้ใส่สแกนลานนิ้วมือใต้จอมาให้ แต่ข้างหลังก็สะดวกดี ชินมือด้วยเนาะ

ด้านซ้ายก็จะเป็นช่องใส่ซิมการ์ด โดยจะมีสามช่องให้ใส่นั่นก็คือ Nano SIM จำนวน 2 ช่อง และ Micro SD Card อีก 1 ช่อง จัดเต็มไม่ต้องกว่าพื้นที่เต็มแล้วเนาะคนหลายเบอร์ ฮ่า ๆ

ด้านขวาก็จะมีปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และปุ่มเปิดปิดหน้าจอและเครื่อง

ด้านด้านบนก็จะมีไมค์ตัวที่สอง และ IR(มันคืออินฟราเรดใช้แทนรีโมทนั่นเอง โดยใช้ควบคู่กับแอพ Mi remote ที่ติดมากับ MIUI นั่นเอง)

ด้านล่างก็จะเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5mm(บอกเลยนะตระกูล Redmi ยังไม่ทิ้ง 3.5mm และไม่ควรทิ้งมันจริง ๆ) ถัดมาก็จะเป็นรูไมค์ ช่องสายชาร์จ Type-C และปิดท้ายด้วยลำโพงนั่นเอง

คะแนนความแรงอยู่ที่ 164633 ใน Antutu app version 8.0.1 เนื่องด้วยในวีดีโอเป็นความผิดพลาดของ Antutu app เวอร์ชั่นเก่าจึงทำให้คะแนนสูงกว่าปกติ

สำหรับ Redmi Note 8 ผมได้ทดสอบการเล่นเกมจำนวน 2 เกม นั่นคือ ROV และ PUBG ถามว่ามันดีไหม ก็ต้องตอบเลยว่าการเล่นเกมนั้นสบาย ๆ เลยจร้า ตัว CPU และ GPU เอาอยู่จริง ๆ เรื่องการสัมผัสทัชสกรีนผมไม่เจอปัญหาใด ๆ มี Game Speed boots ช่วยทำให้การเล่นเกมดีขึ้น เฟรมเรทนิ่ง ๆ เลยสำหรับ ROV แต่ PUBG ปรับความละเอียดระดับกลางแล้วปรับเฟรมเรทสูงสุดได้แค่ กลาง เท่านั้นจร้า เครื่องไม่ร้อนเท่าตัว 660 แน่นอน แบตเยอะด้วย แนะนำสำหรับเกมเมอร์เลย
(ตัวอย่างคลิปเล่นเกมกาก ๆ หน่อย ฮ่า ๆ)

สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 13 MP F2.0 ถือว่าดีเลยทีเดียว และหากใครติดตามผมมาขอแนะนำว่าซื้อเครื่องมาควรปิดโหมด Beauty หรือปรับเป็น 1 พอนะครับ ไม่งั้นหน้าคุณ ๆ จะฟุ้งงง นวลแบบไร้ธรรมชาติสิ้นดี และ AI ถ้าอยากลองก็เปิด แต่เราก็แนะนำให้ปิดนะส่วนของกล้องหน้า

เดี๋ยวผมจะมีภาพถ่ายตัวอย่างให้ดูนะครับ

ความละเอียด 48MP f/1.8 + 8MP f/2.2 + 2MP f/2.4 + 2MP f/2.4 ประกอบไปด้วยเลนส์ wide เลนส์ Ultra wide เลนส์ Super macro และเลนส์ Telephoto ซึ่งการมี 4 เลนส์ก็ทำให้เรา ๆ ได้มีของเล่นเยอะขึ้น ซึ่งแต่ละเลนส์ก็ทำหน้าที่อย่างอิสระต่อกัน ให้ความละเอียดดีมากในเลนส์ wide ธรรมดาดูภาพมีมิติซูมไม่เสียรายละเอียดทั้งในแสงน้อยและแสงปกติ แบบเบลอก็ทำได้ดีตัดขอบโอเคร  ส่วน Ultra wide ก็โออยู่แต่ติดเบลอไปหน่อย อีก 2เลนส์ก็เป็นเลนส์ใช้สนุก ๆ อ่าแหละ 

- คือเครื่องที่ผมได้รีวิวเป็นเครื่อง Demo เลยไม่รู้ว่าเครื่องอื่นเป็นไหม นั่นคือ

- เวลาเปิด AI ถ่ายคนทำงานช้า เราอาจจะพลาดช็อตสำคัญ ๆ ไปได้ ช่วงแรก ๆ นี้แนะนให้ปิด AI ไปก่อนก็น่าจะช่วยได้นิดนึง
- โหมด 48MP ความละเอียดไม่หนีกับธรรมดามาก ก็แนะนำให้เปิดธรรมดาถ่ายก็เพียงพอ
- ภาพ Panorama ยังไม่เนียนเท่าไหร่ น่าจะเป็นที่ Software

1.การถ่ายวีดีโอกล้องหน้า ถ่ายได้ความละเอียดสูงสุดที่ 1080P 30FPS โดยที่ผมได้ลองทดสอบถ่ายทั้งกลางวันและกลางคืน กลางวันถือว่าโครเลย ภาพละมุนดี กลางคืนถ้ามีแสงก็จะโอเคร แต่ผมทดสอบข้างถนนก็จะมืด ๆ หน่อยแต่ก็เห็นอยู่ โดยระบบกันสั่นไม่ทำงานที่กล้องหน้านะ การเก็บเสียงได้อยู่

2.การถ่ายดีโอกล้องหลัง ถ่ายได้ความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30FPS ต่ำสุดที่ 720P 30FPS แต่ผมแนะนำตัวกลางคือ 1080P 30FPS โดยกันสั่นจะทำงานในทุกความละเอียด ให้ความละเอียดภาพที่ดี ในเวลาที่แสงน้อยระบบกันสั่นยังทำงานได้ดีกว่ารุ่นก่อน ๆ ข้อติคือไม่มี 60FPS มาให้เลย แง่ ๆ

มือถือตัวนี้มี Sensor มาให้ครบ มีเข็มทิศพร้อม GPS เป็นแบบตัวเดียว(ซึ่งตอนผมลองมันจะโดดอยู่บ้าง รออัพเดท) ส่วน Sensor อื่น ๆ ก็ตอบสนองได้ดี รู้สึกว่า Proximity Sensor (หรือปิดจอตอนคุยโทรศัพท์แนบหูนั่นแหละ) ตอบสนองได้ดี และ Light Sensor (วัดแสงเพื่อปรับแสงหน้าจออัตโนมัติ) ถือว่าตัวนี้ทำได้ดี โดยพวกเซ็นเซอร์วัดแสงต่าง ๆ ที่เคยอยู่แถว ๆ กล้องหน้านั่นเอง

สแกนนิ้ว

Redmi Note 8 ตัวนี้ราคาก็ไม่ได้สูงมาก ทำให้ไม่ได้สแกนนิ้วใต้จอตามสมัยนิยม แต่ก็ต้องบอกเลยนะครับว่าการมีสแกนนิ้วไว้ด้านหลังมันก็เป็นความเคยชินของผู้ใช้อยู่แล้ว แถมด้วยตัวนี้สแกนนิ้วมือเร็วมาก แตะปั๊บติด ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับส่วนนี้จร้า

สำหรับสาย Facebook IG หรือ Social media อื่น ๆ คุณนำไปใช้ได้เลยครับ ลื่น ๆ คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเร็วของ Internet ของเพื่อน ๆ แล้วหล่ะครับ ว่าเร็วดีประมาณไหนก็ถือว่ามีหลายปัจจัยนะจ๊ะ อิอิ

การแบ่งครึ่งจอ

สำหรับคนที่ชอบใช้งาน 2แอพ ภายในเวลาเดียวกัน ก็มั่นใจได้เลยว่า Snapdragon 665 นั้นจะทำให้เพื่อน ๆ ได้รับความสุขกับสิ่งนี้แน่นอน เรียกได้ว่า 665 กับแรม 4GB เอาอยู่ครับ ชิว ๆ

ใครที่ชอบดูหนังจากแอพอย่างพวก Netflix Iflix แล้วละก็ เราอยากบอกว่าเราได้ทดสอบกับแอพ DRM info แล้วพบว่า Redmi Note 8 ตัวนี้มี Security Level เป็น L1 (Widevine DRM L1)ความหมายของมันก็คือรองรับการดูแบบความคมชัดสูง ๆ ได้เลยสบาย ๆ แต่ก็ไม่รองรับภาพแบบ HDR และ Wide color gamut นะจ๊ะ

Youtube

การดู Youtube ถือว่าโอเครในระดับจอ FHD ก็ดูได้สูงสุดที่ 1080P 60FPS ตัวนี้จะไม่สามารถดูในรูปแบบ HDR เนื่องด้วยอุปกรณ์ไม่รองรับ สีดำก็ดำดีดูสนุก ก็มีเพียงเจ้าติ่งน้อยที่แอบมาบดบังเราเราถ่างนิ้วขยายขนาดวีดีโอให้เต็มจอนั่นเอง 5555

เสียง

ลำโพงตัวนี้ก็ถือว่าดีแต่ความดังยังดังไม่มากเท่าไหร่(มีตัวที่เสียงดังได้มากกว่านี้) แต่เสียงตอนเล่นเกมดี อาจจะเป็นเพราะตัว Game speed boots ช่วยดันด้วย ส่วนหูฟัง 3.5mm เนื่องจากว่าผมหูไม่ได้เทพมาก ผมว่ามันก็ดีแล้วครับ อีกอย่างเสียงผ่านรู้ 3.5mm ยังไงก็ดีกว่า Bluetooth อยู่แล้วเนาะ แหะ ๆ

Redmi Note 8 ให้แบตมาถึง 4000 mAh และได้มาร่วมกับ Snapdragon 665 ผมรู้สึกว่าตัว CPU มันกินแบตไม่เยอะ เลยทำให้ใช้ปกติได้ยาว ๆ และใช้เล่นเกมได้เพลิน ๆ เหมาะกับสายดูหนัง เล่นเกม เล่น Social มาก ๆ (คือเกือบทุกคนเลย 5555) เลยจร้าาา

- มี FM มาให้ด้วยจร้า
- Clone app ได้ด้วยนร้า