ออกตัวมาในช่วงที่มือถือราคาในกลุ่ม 1 หมื่นบาทต้นๆ เรียงหน้าให้เลือกกันเพียบ ทั้ง Samsung Galaxy A50, OPPO F11Pro, Huawei P30 Lite ไล่ดูสเปค ตอนนี้มือถือระดับราคา 1 หมื่นบาท ถ่ายเลนส์ Wide ได้ แข่งกล้องหน้ากันสุดฤทธิ์ เรามาดูกันว่า Vivo V15 น่าซื้อไหม
Pain Point หลักๆ เลยเวลาทำหน้าจอให้เป็น
FullView Display เนี่ย
ยังไงก็ต้องมีกล้องหน้า หน้าจอก็เลยต้องมี
Notch หรือติ่งบนหน้าจอ เพื่อหลบไว้ให้ใส่กล้องหน้านั่นเอง แม้จะปิดติ่งได้ก็เหอะ แต่บางคนก็มองว่า มันก็ดูรกสายตาอยู่ดี แม้จะปิดติ่งก็เสียพื้นที่หน้าจอไป แถมบางรุ่นบางแบรนด์ แม้จะแสดงผลเต็มจอดูวีดีโอปิดติ่งได้แบบไร้ติ่งกวนใจ ก็ดันเป็นการขยายวีดีโอซะ Subtitle ตกขอบซะงั้น
Vivo V15 มี 2 สีคือ Topaz Blue (สีน้ำเงิน) และ Glamour Red (สีแดง) ซึ่งก็คือสีที่อยู่ในมือผมนั่นเอง
Vivo V15 Series เปิดตัวมาพร้อม
กล้อง Pop-Up ยืดหดได้ ทำให้ไม่ต้องมีติ่ง (Notch) แล้ว ยิ่งสร้างความแปลกใหม่และน่าสนใจให้รุ่นนี้มากยิ่งขึ้น ครั้นการย้ายกล้องหน้าไปซ่อน ผลุบๆ โผล่ๆได้ ก็ทำให้หน้าจอไม่ต้องมีติ่ง เลยเป็น
Ultra FullView Display ของจริง ส่วนใครที่สงสัยว่า แล้ว Light Sensor มันไปอยู่ตรงไหนล่ะ ทาง Vivo เค้าบอกว่าก็ฝังมันไว้บนจอซะเลย
เอาตรงๆ Vivo V15 เนี่ย ต่างจาก Vivo V15 Pro เรื่อง
สแกนนิ้วด้านหลัง (V15 Pro สแกนนิ้วบนหน้าจอ)
หน้าจอ Vivo V15 ใหญ่กว่า แบตเยอะกว่า แต่นั่น แต่เรื่องแค่นี้ ทำให้คุณมอง Vivo V15 เป็นตัวเลือกในกลุ่มมือถือระดับ 1 หมื่นบาทหรือเปล่า
ถ้ามองเทียบกับเพื่อนแบรนด์อื่นๆ เลนส์มุมกว้างดูจะเป็นเรื่องปกติที่มือถือระดับนี้ต้องแข่งกันมี แต่ถ้าเอาจุดเด่นชัดๆ ในกลุ่มราคา 1 หมื่นบาทก็คงจะเป็นเรื่องของกล้องที่ Pop-Up ขึ้นมาได้ เรื่องกล้องยืดหดได้นี่ไม่ต้องห่วงเลยว่าจะพังง่าย เพราะทนอยู่แหล่ะ ถ้ามันจะหล่นหรือกระแทกอะไรมันก็หดกล้องหลบได้ ทำให้ปลอดภัยและมันก็รู้วิธีเอาตัวรอดอยู่เหมือนกัน ผมลองเอามือดันกล้องแรงๆ จำลองการกระแทก กล้องมันก็หุบลงไป ไม่ต้องกังวลเลยว่าถ้าหล่นหรือกระแทกแล้วกล้องมันจะหัก เจ้ากล้องที่ Pop-Up เนี่ยเป็นโลหะด้วยนะ แข็งแรงพอดู ทาง Vivo เคลมไว้ว่ายืดหดได้ 300,000 ครั้ง ก็ประมาณ 8 ปี ถ้าใช้กล้องหน้าวันละ 100 ครั้ง ถึงตอนนั้นคุณก็คงเปลี่ยนมือถือใหม่แล้วล่ะ
พอเราเข้าโหมดกล้องหน้าปุ๊บ กล้องก็จะยืดออกมา พอเราสลับไปกล้องหลัง หรือกลับเข้าหน้า Home กล้องก็จะหดลงไป
แต่บอกตรงๆ เลยว่า ยังไงควรมีผ้าเช็ดเลนส์ เอาไว้เช็ดฝุ่นบนกล้องหน้า Pop-Up ด้วยเช่นกัน ในเมื่อมันยืดหดได้ โอกาสไปเจอฝุ่นมันก็มี
จากประสบการณ์ใช้งาน
Vivo V15 มา 2 สัปดาห์ ชอบในกล้อง Pop-Up ถือไปที่ไหนก็อวด นี่ไงๆ
กล้อง Pop-Up คือมันว้าวจริงแหล่ะ แต่รุ่นต่อๆ คงเฉยๆ ละ คือความว้าวเนี่ย มันมาตอนแรกไง ครั้งแรกมันว้าวดี เอ่อ ดีแฮะ เท่ดี แต่อีกความฟรุ้งฟริ้งคือ Vivo จัดการเรื่องการถ่ายรูปได้ดี จัดการแสงได้ดี คือได้มือถือราคาหมื่นของ Vivo มาทดสอบทีไรก็ไม่ผิดหวัง บอกได้เลยว่า รุ่นไม่โปร นี่ก็โอเคอยู่นะ
ต้องบอกว่าพอเปิดตัว V15 Series เนี่ย หลายๆ คนก็พุ่งไปที่ Vivo V15 Pro แต่เราว่า V15 ก็โอเคอยู่ กับราคาที่ต่างกัน 4,000 บาท ดังนั้น การเทียบกับคู่แข่งทั้ง Huawei P30 Lite, Samsung Galaxy A50 และ OPPO F11 Pro ก็เลยทำให้มีหลายฟีเจอร์ที่นำมาพิจารณาเลือกซื้อ เราอยากใช้อะไร ชอบฟีเจอร์ไหน ก็เลือกรุ่นนั้นไป
เรื่องการใช้งาน การสแกนนิ้วด้านหลังนี่ไวอยู่เหมือนกันนะ อันนี้ชอบนะ สะดวกดี ส่วนหน้าจอ 6.53 นิ้ว 19.5:9 ผมชอบตรงที่มันใหญ่ และมองสบายตา แม้จะหน้าจะไม่เหมือนกับ V15 Pro แต่ในระดับราคา 1 หมื่นบาทผมว่าโอเคมากๆ
สำหรับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ อันนี้จะเอาไปเทียบกับค่ายอื่นก็ได้นะ ไม่ว่าจะเป็น Clone App หรือการมี Facebook, LINE, Instagram 2 บัญชีในเครื่องเดียวกัน ทำให้ใช้บัญชีงานและส่วนตัวแยกกันได้
หรือถ้าอยากจะใช้ 2 แอปในหน้าจอเดียวกันก็ทำได้ เช่นเปิด YouTube พร้อมเข้าเว็บ Browser (เฉพาะแอปที่รองรับ)
จุดเด่นหลักคือกล้องหน้า Pop-Up ภาพแรกที่ผมลองก็คือ เซลฟี่ลูกสาวครับ ซึ่งให้ภาพที่สวย (สถานการณ์คือนั่งในรถแท็กซี่ ตอนเที่ยงกว่าๆ) จากภาพ Vivo V15 จัดการแสงได้ดีมากๆ ครับ แสงสวย สว่างมาก
ส่วนภาพนี้ ไม่แน่ใจว่าใช้ AI Face Beauty ด้วยหรือเปล่า แต่ถ่ายมาได้แบบหน้าใสมาก โดยโหมด AI Face Beauty ปรับแต่งภาพให้เหมาะกับเพศ เรียกได้ว่า ไม่ทำให้หน้าเนียนหญิงเกินไปสำหรับผู้ชาย
ส่วนการ Selfie ภาพนี้ รู้สึกว่าตัวอักษรด้านหลังจะเบลอไป
อีกจุดเด่นคือเลนส์ Wide 120 องศา ทำให้เรายืนหน้าร้านแล้วถ่ายเห็นทั้งตู้ขายอาหารเลย และนี่คือสีสันของกล้องหลังแบบไม่ปรับแต่งใดๆ
การถ่ายภาพย้อนแสง หรือที่มีแสงสว่างด้านหลังฉากมาก ทำได้ดี ได้ภาพสวย แม้จะเห็นมี Noise บ้างก็ตาม
ข้อดีของเลนส์ Wide ทำให้เราเก็บภาพเตียงนอนในที่แคบๆ อย่างโรงแรมในตึก New Lucky ฮ่องกงได้
ในขณะที่การถ่ายภาพทั่วไป ถ่ายภาพอาหาร ก็สามารถทำได้ดี แต่ขึ้นอยู่กับสภาพแสงด้วย
ส่วนภาพนี้ ให้ดูการเบลอหลังของกล้อง เสื้อด้านหลังจะเบลอ
ภาพนี้ได้มาตอนรอรถไฟฟ้า โหมดปกติ ซึ่งไม่มีเวลาคิดอะไรมาก สาวน้อยให้ความร่วมมือดี ภาพออกมาสวย
ถ่ายเสร็จแล้วสามารถปรับขาให้สูงได้
แต่ถ้าจะถ่ายด้วยโหมด AI Body Shaping ทำให้ผอมเพรียว จะต้องเริ่มต้นถ่ายด้วยโหมด AI Face Beauty พอเลือกกล้องหลัง จะมีตัวเลือก AI Body Shaping มาให้เลือก
การถ่ายภาพทั่วไป และเลนส์ Wide
การถ่ายภาพทั่วไป ทำได้ดี กล้องมี AI มาช่วย
เทียบการถ่ายภาพ เลนส์ปกติ และมุมกว้าง จะเห็นว่า เรายืนที่เดิมไม่ได้ถอยหลังออกไป ก็จะได้ภาพที่น่าสนใจ แปลกตามากขึ้น
นอกจากนี้ กล้องมี AR Selfie ให้ถ่ายรูปเติมความน่ารักอีกด้วย
สำหรับเรื่องชาร์จแบตนั้น Vivo V15 ชาร์จไว้ แบต 4,000mAh ก็ใช้ได้นานแบบไม่ต้องกลัวแบตหมด ตอนไปฮ่องกง ผมใช้ซิมแล้วปล่อย Hotspot ให้มือถือเครื่องอื่นใช้ได้แบบไม่ต้องกลัวแบตหมด
ในงบ 10,999 บาท ผมชอบนะสำหรับกล้องหน้า Pop-Up และกล้องหลังที่ถ่ายเลนส์ Wide ได้ ส่วนการใช้งานทั่วไปสามารถใช้งานได้ดี ข้อดีของ Vivo คือมี iTheme มีธีมให้เปลี่ยนได้ สนุกดี กับการปัดล่างขึ้นบนเพื่อเรียกเมนูลัด
แถมท้ายด้วย 15 ฟีเจอร์เด่นบน Vivo V15 ครับ
ซื้อดีไหม?
ถ้าคุณอยากได้กล้อง Pop-Up แน่นอนว่าเป็นสายเซลฟี่ อยากได้ AI Body Shaping อยากให้ลองพิจารณาดูครับ ส่วนถ่ายมุมกว้าง และชาร์จไว แบรนด์อื่นๆ ก็มีให้เลือก ลองเทียบกันดูครับ แล้วตั้งคำถามว่า Vivo V15 เหมาะกับคุณหรือเปล่า
รายละเอียดและสเปค
https://www.vivo.com/th/products/param/v15
#ซื้อดีมั้ย Vivo V15 ราคา 10,999 บาท กล้องหน้า Pop-Up 32MP 3 กล้องหลัง เก็บมุมกว้างได้
Pain Point หลักๆ เลยเวลาทำหน้าจอให้เป็น FullView Display เนี่ย ยังไงก็ต้องมีกล้องหน้า หน้าจอก็เลยต้องมี Notch หรือติ่งบนหน้าจอ เพื่อหลบไว้ให้ใส่กล้องหน้านั่นเอง แม้จะปิดติ่งได้ก็เหอะ แต่บางคนก็มองว่า มันก็ดูรกสายตาอยู่ดี แม้จะปิดติ่งก็เสียพื้นที่หน้าจอไป แถมบางรุ่นบางแบรนด์ แม้จะแสดงผลเต็มจอดูวีดีโอปิดติ่งได้แบบไร้ติ่งกวนใจ ก็ดันเป็นการขยายวีดีโอซะ Subtitle ตกขอบซะงั้น
Vivo V15 มี 2 สีคือ Topaz Blue (สีน้ำเงิน) และ Glamour Red (สีแดง) ซึ่งก็คือสีที่อยู่ในมือผมนั่นเอง
เอาตรงๆ Vivo V15 เนี่ย ต่างจาก Vivo V15 Pro เรื่องสแกนนิ้วด้านหลัง (V15 Pro สแกนนิ้วบนหน้าจอ) หน้าจอ Vivo V15 ใหญ่กว่า แบตเยอะกว่า แต่นั่น แต่เรื่องแค่นี้ ทำให้คุณมอง Vivo V15 เป็นตัวเลือกในกลุ่มมือถือระดับ 1 หมื่นบาทหรือเปล่า
ถ้ามองเทียบกับเพื่อนแบรนด์อื่นๆ เลนส์มุมกว้างดูจะเป็นเรื่องปกติที่มือถือระดับนี้ต้องแข่งกันมี แต่ถ้าเอาจุดเด่นชัดๆ ในกลุ่มราคา 1 หมื่นบาทก็คงจะเป็นเรื่องของกล้องที่ Pop-Up ขึ้นมาได้ เรื่องกล้องยืดหดได้นี่ไม่ต้องห่วงเลยว่าจะพังง่าย เพราะทนอยู่แหล่ะ ถ้ามันจะหล่นหรือกระแทกอะไรมันก็หดกล้องหลบได้ ทำให้ปลอดภัยและมันก็รู้วิธีเอาตัวรอดอยู่เหมือนกัน ผมลองเอามือดันกล้องแรงๆ จำลองการกระแทก กล้องมันก็หุบลงไป ไม่ต้องกังวลเลยว่าถ้าหล่นหรือกระแทกแล้วกล้องมันจะหัก เจ้ากล้องที่ Pop-Up เนี่ยเป็นโลหะด้วยนะ แข็งแรงพอดู ทาง Vivo เคลมไว้ว่ายืดหดได้ 300,000 ครั้ง ก็ประมาณ 8 ปี ถ้าใช้กล้องหน้าวันละ 100 ครั้ง ถึงตอนนั้นคุณก็คงเปลี่ยนมือถือใหม่แล้วล่ะ
พอเราเข้าโหมดกล้องหน้าปุ๊บ กล้องก็จะยืดออกมา พอเราสลับไปกล้องหลัง หรือกลับเข้าหน้า Home กล้องก็จะหดลงไป
แต่บอกตรงๆ เลยว่า ยังไงควรมีผ้าเช็ดเลนส์ เอาไว้เช็ดฝุ่นบนกล้องหน้า Pop-Up ด้วยเช่นกัน ในเมื่อมันยืดหดได้ โอกาสไปเจอฝุ่นมันก็มี
จากประสบการณ์ใช้งาน Vivo V15 มา 2 สัปดาห์ ชอบในกล้อง Pop-Up ถือไปที่ไหนก็อวด นี่ไงๆ กล้อง Pop-Up คือมันว้าวจริงแหล่ะ แต่รุ่นต่อๆ คงเฉยๆ ละ คือความว้าวเนี่ย มันมาตอนแรกไง ครั้งแรกมันว้าวดี เอ่อ ดีแฮะ เท่ดี แต่อีกความฟรุ้งฟริ้งคือ Vivo จัดการเรื่องการถ่ายรูปได้ดี จัดการแสงได้ดี คือได้มือถือราคาหมื่นของ Vivo มาทดสอบทีไรก็ไม่ผิดหวัง บอกได้เลยว่า รุ่นไม่โปร นี่ก็โอเคอยู่นะ
ต้องบอกว่าพอเปิดตัว V15 Series เนี่ย หลายๆ คนก็พุ่งไปที่ Vivo V15 Pro แต่เราว่า V15 ก็โอเคอยู่ กับราคาที่ต่างกัน 4,000 บาท ดังนั้น การเทียบกับคู่แข่งทั้ง Huawei P30 Lite, Samsung Galaxy A50 และ OPPO F11 Pro ก็เลยทำให้มีหลายฟีเจอร์ที่นำมาพิจารณาเลือกซื้อ เราอยากใช้อะไร ชอบฟีเจอร์ไหน ก็เลือกรุ่นนั้นไป
เรื่องการใช้งาน การสแกนนิ้วด้านหลังนี่ไวอยู่เหมือนกันนะ อันนี้ชอบนะ สะดวกดี ส่วนหน้าจอ 6.53 นิ้ว 19.5:9 ผมชอบตรงที่มันใหญ่ และมองสบายตา แม้จะหน้าจะไม่เหมือนกับ V15 Pro แต่ในระดับราคา 1 หมื่นบาทผมว่าโอเคมากๆ
สำหรับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ อันนี้จะเอาไปเทียบกับค่ายอื่นก็ได้นะ ไม่ว่าจะเป็น Clone App หรือการมี Facebook, LINE, Instagram 2 บัญชีในเครื่องเดียวกัน ทำให้ใช้บัญชีงานและส่วนตัวแยกกันได้
หรือถ้าอยากจะใช้ 2 แอปในหน้าจอเดียวกันก็ทำได้ เช่นเปิด YouTube พร้อมเข้าเว็บ Browser (เฉพาะแอปที่รองรับ)
จุดเด่นหลักคือกล้องหน้า Pop-Up ภาพแรกที่ผมลองก็คือ เซลฟี่ลูกสาวครับ ซึ่งให้ภาพที่สวย (สถานการณ์คือนั่งในรถแท็กซี่ ตอนเที่ยงกว่าๆ) จากภาพ Vivo V15 จัดการแสงได้ดีมากๆ ครับ แสงสวย สว่างมาก
ส่วนภาพนี้ ไม่แน่ใจว่าใช้ AI Face Beauty ด้วยหรือเปล่า แต่ถ่ายมาได้แบบหน้าใสมาก โดยโหมด AI Face Beauty ปรับแต่งภาพให้เหมาะกับเพศ เรียกได้ว่า ไม่ทำให้หน้าเนียนหญิงเกินไปสำหรับผู้ชาย
ส่วนการ Selfie ภาพนี้ รู้สึกว่าตัวอักษรด้านหลังจะเบลอไป
อีกจุดเด่นคือเลนส์ Wide 120 องศา ทำให้เรายืนหน้าร้านแล้วถ่ายเห็นทั้งตู้ขายอาหารเลย และนี่คือสีสันของกล้องหลังแบบไม่ปรับแต่งใดๆ
การถ่ายภาพย้อนแสง หรือที่มีแสงสว่างด้านหลังฉากมาก ทำได้ดี ได้ภาพสวย แม้จะเห็นมี Noise บ้างก็ตาม
ข้อดีของเลนส์ Wide ทำให้เราเก็บภาพเตียงนอนในที่แคบๆ อย่างโรงแรมในตึก New Lucky ฮ่องกงได้
ในขณะที่การถ่ายภาพทั่วไป ถ่ายภาพอาหาร ก็สามารถทำได้ดี แต่ขึ้นอยู่กับสภาพแสงด้วย
ส่วนภาพนี้ ให้ดูการเบลอหลังของกล้อง เสื้อด้านหลังจะเบลอ
สำหรับเรื่องชาร์จแบตนั้น Vivo V15 ชาร์จไว้ แบต 4,000mAh ก็ใช้ได้นานแบบไม่ต้องกลัวแบตหมด ตอนไปฮ่องกง ผมใช้ซิมแล้วปล่อย Hotspot ให้มือถือเครื่องอื่นใช้ได้แบบไม่ต้องกลัวแบตหมด
ในงบ 10,999 บาท ผมชอบนะสำหรับกล้องหน้า Pop-Up และกล้องหลังที่ถ่ายเลนส์ Wide ได้ ส่วนการใช้งานทั่วไปสามารถใช้งานได้ดี ข้อดีของ Vivo คือมี iTheme มีธีมให้เปลี่ยนได้ สนุกดี กับการปัดล่างขึ้นบนเพื่อเรียกเมนูลัด
แถมท้ายด้วย 15 ฟีเจอร์เด่นบน Vivo V15 ครับ
ถ้าคุณอยากได้กล้อง Pop-Up แน่นอนว่าเป็นสายเซลฟี่ อยากได้ AI Body Shaping อยากให้ลองพิจารณาดูครับ ส่วนถ่ายมุมกว้าง และชาร์จไว แบรนด์อื่นๆ ก็มีให้เลือก ลองเทียบกันดูครับ แล้วตั้งคำถามว่า Vivo V15 เหมาะกับคุณหรือเปล่า
รายละเอียดและสเปค https://www.vivo.com/th/products/param/v15