เลือกซ่อมนครปฐมทำเอาดุลการเมืองพลิกไปพอควรอนาคตใหม่ที่กำลัง เริงร่าหวั่นไหวไปไม่น้อย จับตาดูประชาธิปัตย์กำลังมาเงียบๆรอเวลาฟื้นตัว เรียกคะแนนจากเกษตรกรไปก่อนเพื่อน
ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ การเมือง ในสถานการณ์ที่เป็นจริง ณ วันนี้ไม่ต่างไปจากสุภาษิตที่ว่า “หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว”
แกล้งทำให้กระทบผู้อื่น แต่ฝ่ายตนกลับเสียประโยชน์
ความหมายน่าจะออกมาอย่างนั้น...
ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 นครปฐมที่ “เผดิมชัย สะสมทรัพย์” จากพรรคชาติไทยพัฒนา แก้ตัวสำเร็จเอาชนะคู่แข่งสำคัญ “ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร” จากพรรคอนาคตใหม่
ไม่ใช่เรื่อง “พลิกล็อก” แต่เป็น “ล็อกถล่ม” มากกว่า
เหตุแห่งเหตุนั้นมีหลายปัจจัยเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยการที่พลังประชารัฐไม่ส่งผู้สมัครทำให้คะแนนในมือของพรรคที่เคยได้เมื่อคราวเลือกตั้งที่ผ่านมา
ไม่ต้องถามว่า “เท” ไปให้ใคร? พรรคไหน?
นี่เป็นความจริงที่มีส่วนให้ชาติไทยพัฒนาชนะเลือกตั้งเติมเสียงสนับสนุนให้รัฐบาลมาอีก 1 เสียง เพิ่มความมั่นใจได้อีกระดับหนึ่ง
ว่าไปแล้วพลังประชารัฐนั้นน่าจะมองการเมืองออก อ่านสถานการณ์ทะลุ การ ตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครแถมได้กำไรมากขึ้น 3 ประการ
1. มีมารยาททางการเมืองในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล
2. มั่นใจว่าผู้ชนะการเลือกตั้งมีศักยภาพที่จะฝ่าด่านไปได้
3. ประชาธิปัตย์แม้จะมาอันดับ 2 จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมายังไงก็ชนะยากและแพ้อนาคตใหม่ด้วยซํ้าไป
ลึกๆคงมองไปถึงว่าไม่อยากให้ประชาธิปัตย์ฟื้นตัวเร็วเกินไป
ยิ่งเวลานี้ต้องยอมรับว่าสถานภาพของพรรคประชาธิปัตย์นั้นกำลังดีวันดีคืน ภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคคนใหม่
“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯ และรัฐมนตรีพาณิชย์
ที่ใช้แนวปฏิบัติผลงานมาก่อนการเมือง ด้วยการสร้างผลงานในด้านการเกษตรและการค้าโชว์ฟอร์มเด็ดๆมาหลายเรื่อง
นโยบายประกันราคาข้าว ราคาปาล์ม สำเร็จไปแล้ว อีกไม่นานการประกันราคายางก็จะเรียบร้อยตามมา
ได้ใจเกษตรกรไปจมหู
ที่แน่ๆ “คนใต้” แฮปปี้เรียกคะแนนคืนมาได้ไม่ยาก
ความพ่ายแพ้การเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ ที่ผ่านมาประจักษ์ความจริงอย่างหนึ่งคือการเลือกข้างอย่างชัดเจน 4 ประเด็น
1. ไม่ให้ “ทักษิณ” ชนะเลือกตั้งกลับมามีอำนาจอีก
2. ต้องหนุน “ลุงตู่” ให้กลับมาเป็นนายกฯต่อไป
3. การตัดสินใจไม่เอา “ทหาร” ของอดีตหัวหน้าพรรค “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”
4. การรุกพื้นที่ภาคใต้ของภูมิใจไทยและพลังประชารัฐ
ว่ากันว่าด้วยเหตุและปัจจัยเหล่านี้จึงต้องเลือกว่าจะใคร พรรคไหน แม้กระทั่งต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับราคาพืชผลสำคัญ
ที่ราคาตกต่ำกระเป๋าฉีกก็ตาม
การตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ที่คนในพรรคส่วนใหญ่มีความต้องการเพื่อหวังว่าจะแก้ปัญหาของพรรคได้
อีกทั้ง “ชวน หลีกภัย” ในฐานะประธานสภาผู้แทนฯ ก็เรียกคะแนนให้พรรคไม่น้อย
ก็ต้องรอชมกันต่อไปว่าประชาธิปัตย์จะ “ตั้งลำ” ได้เมื่อใดเท่านั้น!!!
“ลิขิต จงสกุล”
https://www.thairath.co.th/news/politic/1690573
เลือกซ่อมนครปฐมทำเอาดุลการเมืองพลิกไปพอควรอนาคตใหม่ที่กำลัง เริงร่าหวั่นไหวไปไม่น้อย
เลือกซ่อมนครปฐมทำเอาดุลการเมืองพลิกไปพอควรอนาคตใหม่ที่กำลัง เริงร่าหวั่นไหวไปไม่น้อย จับตาดูประชาธิปัตย์กำลังมาเงียบๆรอเวลาฟื้นตัว เรียกคะแนนจากเกษตรกรไปก่อนเพื่อน
ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ การเมือง ในสถานการณ์ที่เป็นจริง ณ วันนี้ไม่ต่างไปจากสุภาษิตที่ว่า “หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว”
แกล้งทำให้กระทบผู้อื่น แต่ฝ่ายตนกลับเสียประโยชน์
ความหมายน่าจะออกมาอย่างนั้น...
ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 นครปฐมที่ “เผดิมชัย สะสมทรัพย์” จากพรรคชาติไทยพัฒนา แก้ตัวสำเร็จเอาชนะคู่แข่งสำคัญ “ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร” จากพรรคอนาคตใหม่
ไม่ใช่เรื่อง “พลิกล็อก” แต่เป็น “ล็อกถล่ม” มากกว่า
เหตุแห่งเหตุนั้นมีหลายปัจจัยเป็นองค์ประกอบอย่างน้อยการที่พลังประชารัฐไม่ส่งผู้สมัครทำให้คะแนนในมือของพรรคที่เคยได้เมื่อคราวเลือกตั้งที่ผ่านมา
ไม่ต้องถามว่า “เท” ไปให้ใคร? พรรคไหน?
นี่เป็นความจริงที่มีส่วนให้ชาติไทยพัฒนาชนะเลือกตั้งเติมเสียงสนับสนุนให้รัฐบาลมาอีก 1 เสียง เพิ่มความมั่นใจได้อีกระดับหนึ่ง
ว่าไปแล้วพลังประชารัฐนั้นน่าจะมองการเมืองออก อ่านสถานการณ์ทะลุ การ ตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครแถมได้กำไรมากขึ้น 3 ประการ
1. มีมารยาททางการเมืองในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล
2. มั่นใจว่าผู้ชนะการเลือกตั้งมีศักยภาพที่จะฝ่าด่านไปได้
3. ประชาธิปัตย์แม้จะมาอันดับ 2 จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมายังไงก็ชนะยากและแพ้อนาคตใหม่ด้วยซํ้าไป
ลึกๆคงมองไปถึงว่าไม่อยากให้ประชาธิปัตย์ฟื้นตัวเร็วเกินไป
ยิ่งเวลานี้ต้องยอมรับว่าสถานภาพของพรรคประชาธิปัตย์นั้นกำลังดีวันดีคืน ภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคคนใหม่
“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯ และรัฐมนตรีพาณิชย์
ที่ใช้แนวปฏิบัติผลงานมาก่อนการเมือง ด้วยการสร้างผลงานในด้านการเกษตรและการค้าโชว์ฟอร์มเด็ดๆมาหลายเรื่อง
นโยบายประกันราคาข้าว ราคาปาล์ม สำเร็จไปแล้ว อีกไม่นานการประกันราคายางก็จะเรียบร้อยตามมา
ได้ใจเกษตรกรไปจมหู
ที่แน่ๆ “คนใต้” แฮปปี้เรียกคะแนนคืนมาได้ไม่ยาก
ความพ่ายแพ้การเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ ที่ผ่านมาประจักษ์ความจริงอย่างหนึ่งคือการเลือกข้างอย่างชัดเจน 4 ประเด็น
1. ไม่ให้ “ทักษิณ” ชนะเลือกตั้งกลับมามีอำนาจอีก
2. ต้องหนุน “ลุงตู่” ให้กลับมาเป็นนายกฯต่อไป
3. การตัดสินใจไม่เอา “ทหาร” ของอดีตหัวหน้าพรรค “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”
4. การรุกพื้นที่ภาคใต้ของภูมิใจไทยและพลังประชารัฐ
ว่ากันว่าด้วยเหตุและปัจจัยเหล่านี้จึงต้องเลือกว่าจะใคร พรรคไหน แม้กระทั่งต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับราคาพืชผลสำคัญ
ที่ราคาตกต่ำกระเป๋าฉีกก็ตาม
การตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ที่คนในพรรคส่วนใหญ่มีความต้องการเพื่อหวังว่าจะแก้ปัญหาของพรรคได้
อีกทั้ง “ชวน หลีกภัย” ในฐานะประธานสภาผู้แทนฯ ก็เรียกคะแนนให้พรรคไม่น้อย
ก็ต้องรอชมกันต่อไปว่าประชาธิปัตย์จะ “ตั้งลำ” ได้เมื่อใดเท่านั้น!!!
“ลิขิต จงสกุล”
https://www.thairath.co.th/news/politic/1690573