สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
โลกมันต่างกันนะ ถ้าถามว่าใครอดทนกว่ากัน เราตอบได้เลยว่า คนสมัยก่อน เพราะโลกสมัยก่อนมันหมุนช้ามาก ทุกอย่างต้องรอเวลา
จะส่งจดหมายหาคนรักที รอไปรษณีย์เป็นเดือน ก็รอได้ คนสมัยนี้สั่งของในเน็ต 7 วันส่งยังรู้สึกว่านานเกินไป สั่งวันนี้ต้องได้พรุ่งนี้นะ
คนสมัยก่อนจะโทรศัพท์ต้องไปตู้โทรศัพท์สาธารณะ ยืนรอคิวก็นาน กว่าจะได้คุย นานมาก คนสมัยนี่แค่ส่งข้อความไลน์ไปไม่อ่าน อารมณ์เสียแล้ว
สมัยก่อนจะดูหนังทีวีเครื่องเดียวกัน ทีวีเครื่องเดียวดูได้ทั้งหมู่บ้าน สมัยนี้คนๆหนึ่งมีทีวีในบ้านไม่รู้กี่เครื่อง ไม่พอดูต่อในมือถืออีก
โลกทุกวันนี้มันสะดวกสบาย จนคนสมัยนี้รออะไรไม่เป็น ใจเย็นไม่ได้ อดทนไม่พอ ทุกอย่างต้องเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ ทันที
แล้วความเจริญสมัยก่อนไม่มี การเดินทางลำบาก การใช้ชีวิตลำบาก ยิ่งต่างจังหวัดไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า อย่าถามว่าความสะดวกสบายคืออะไร
เพราะคนสมัยก่อนยากจนจริงๆ เขาไม่มีอะไรเลย แต่คนจนสมัยนี้ มีทุกอย่าง บ้าน โทรศัพท์ มอไซด์ รวมถึงหนี้สินที่ท่วมหัว
คนสมัยก่อนจึง ลำบากกาย และ อดทน มากกว่าคนสมัยนี้
คนสมัยนี้ อยู่อยาก เพราะ การแข่งขันสูง และ ด้วยความที่มันเจริญมีทุกอย่างที่เท่ากิเลสมนุษย์อยากมี จึงทำให้คนเราโลภ และอยากมีเหมือนคนอื่น
เห็นเขามีบ้าน ฉันก็อยากมีบ้าน เห็นเขามีรถ ฉันก็อยากมีรถ เขาซื้อโทรศัพท์ใหม่ ฉันก็อยากมีโทรศัพท์ใหม่ เพราะความที่ต้องมีทุกอย่างเหมือนคนอื่น
ทำให้คนสมัยนี้อยู่ยาก ไม่มีก็ไม่ได้ อายคนอื่น ไม่ทันคนอื่น ล้าสมัย เชย ตามโลกไม่ทัน อยู่ไม่ได้อีก คือทุกอย่างมันเยอะเกินไปไง
คนสมัยก่อน มีสบู่ก้อนเดียว ก็อาบน้ำสระผมได้แล้ว แต่คนสมัยนี้ไม่ได้ ต้องมีโฟมล้างหน้า มีสบู่ถูตัว สบู่เฉพาะที่ ยาสระผม ครีมนวดผม ออยบำรุงผม
แทนที่จะจ่าย 10 บาท ก็อาบน้ำเสร็จแล้ว กลายเป็น จะอาบน้ำที ต้องจ่ายเกือบ 500 บาท เพื่อที่จะได้อาบทุกส่วน มันทำให้ชีวิตยุ่งยากมาก
และทำให้คนสมัยนี้เก็บเงินไม่ได้ เพราะค่าใช้จ่ายมันแยกย่อยสูงไปหมด รายละเอียดในชีวิตมันมากเกินไป จนคนสมัยนี้บางคนก็รับไม่ได้
คนสมัยนี้ต้องใช้ความจำเยอะมาก มันก็เลยเหนื่อยจำ เหนื่อยใจกว่าคนสมัยก่อน จะกินมื้อหนึ่ง คนสมัยก่อนก็ไม่คิดอะไรมาก
หาปลาหาข้าวมาได้เท่าไหร่ ก็กินเท่านั้น คนสมัยนี้จะกินอะไรที เดินทั้งตลาดก็ยังนึกไม่ออก เข้าแอปหาร้านดัง พลิกหน้าไปเรื่อยชั่วโมงก็นึกไม่ได้
มันมีตัวเลือกเยอะเกินไป จนเลือกไม่ถูก ยิ่งมีตัวเลือกมาก การใช้เวลาในการเลือกหาก็ยิ่งมาก เสียเวลากับการแค่คิดว่าจะกินอะไรดี
การทำงานคนสมัยก่อน ต้องคิด ต้องคำนวนเองทุกอย่าง ต้องใช้สมองตัวเองทำงานทุกอย่าง แต่คนสมัยนี้ มีคอมพิวเตอร์ช่วยคิดช่วยจำ
การทำงานคนสมัยนี้มันจึงง่ายด้วยเทคโนโลยี ที่สะดวกสบาย ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น แต่ความปราณีละเอียดอ่อน เราว่าคนสมัยก่อนมีมากกว่า
คนสมัยก่อน จิตนาการเก่ง เพราะ การวาดรูป ดีไซน์ ความสามารถยังมีขีดจำกัด ไม่สมจริงเท่าไหร่ เป็น 1 มิติ 2 มิติ ทำให้คนที่เสพงานศิลป์
ต้องใช้จิตนาการตนเองช่วยเสริมให้งานศิลปะอยู่ในใจที่สมจริงมากขึ้น แต่สมัยนี้ งานศิลปะทุกอย่าง ทำออกมาสมจริง เหนือจริง เกินจินตนาการ
ทำให้คนสมัยนี้ บางทีก็แยกไม่ออก ระหว่างโลกความจริง กับโลกจิตนาการ เพราะมันปนกันไปหมด บางทีก็จิตนาการเองไม่เป็น ต้องดูภาพก่อน
คนสมัยก่อน เหนื่อยกายกว่า แต่คนสมัยนี้เหนื่อยใจกว่า
จะส่งจดหมายหาคนรักที รอไปรษณีย์เป็นเดือน ก็รอได้ คนสมัยนี้สั่งของในเน็ต 7 วันส่งยังรู้สึกว่านานเกินไป สั่งวันนี้ต้องได้พรุ่งนี้นะ
คนสมัยก่อนจะโทรศัพท์ต้องไปตู้โทรศัพท์สาธารณะ ยืนรอคิวก็นาน กว่าจะได้คุย นานมาก คนสมัยนี่แค่ส่งข้อความไลน์ไปไม่อ่าน อารมณ์เสียแล้ว
สมัยก่อนจะดูหนังทีวีเครื่องเดียวกัน ทีวีเครื่องเดียวดูได้ทั้งหมู่บ้าน สมัยนี้คนๆหนึ่งมีทีวีในบ้านไม่รู้กี่เครื่อง ไม่พอดูต่อในมือถืออีก
โลกทุกวันนี้มันสะดวกสบาย จนคนสมัยนี้รออะไรไม่เป็น ใจเย็นไม่ได้ อดทนไม่พอ ทุกอย่างต้องเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ ทันที
แล้วความเจริญสมัยก่อนไม่มี การเดินทางลำบาก การใช้ชีวิตลำบาก ยิ่งต่างจังหวัดไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า อย่าถามว่าความสะดวกสบายคืออะไร
เพราะคนสมัยก่อนยากจนจริงๆ เขาไม่มีอะไรเลย แต่คนจนสมัยนี้ มีทุกอย่าง บ้าน โทรศัพท์ มอไซด์ รวมถึงหนี้สินที่ท่วมหัว
คนสมัยก่อนจึง ลำบากกาย และ อดทน มากกว่าคนสมัยนี้
คนสมัยนี้ อยู่อยาก เพราะ การแข่งขันสูง และ ด้วยความที่มันเจริญมีทุกอย่างที่เท่ากิเลสมนุษย์อยากมี จึงทำให้คนเราโลภ และอยากมีเหมือนคนอื่น
เห็นเขามีบ้าน ฉันก็อยากมีบ้าน เห็นเขามีรถ ฉันก็อยากมีรถ เขาซื้อโทรศัพท์ใหม่ ฉันก็อยากมีโทรศัพท์ใหม่ เพราะความที่ต้องมีทุกอย่างเหมือนคนอื่น
ทำให้คนสมัยนี้อยู่ยาก ไม่มีก็ไม่ได้ อายคนอื่น ไม่ทันคนอื่น ล้าสมัย เชย ตามโลกไม่ทัน อยู่ไม่ได้อีก คือทุกอย่างมันเยอะเกินไปไง
คนสมัยก่อน มีสบู่ก้อนเดียว ก็อาบน้ำสระผมได้แล้ว แต่คนสมัยนี้ไม่ได้ ต้องมีโฟมล้างหน้า มีสบู่ถูตัว สบู่เฉพาะที่ ยาสระผม ครีมนวดผม ออยบำรุงผม
แทนที่จะจ่าย 10 บาท ก็อาบน้ำเสร็จแล้ว กลายเป็น จะอาบน้ำที ต้องจ่ายเกือบ 500 บาท เพื่อที่จะได้อาบทุกส่วน มันทำให้ชีวิตยุ่งยากมาก
และทำให้คนสมัยนี้เก็บเงินไม่ได้ เพราะค่าใช้จ่ายมันแยกย่อยสูงไปหมด รายละเอียดในชีวิตมันมากเกินไป จนคนสมัยนี้บางคนก็รับไม่ได้
คนสมัยนี้ต้องใช้ความจำเยอะมาก มันก็เลยเหนื่อยจำ เหนื่อยใจกว่าคนสมัยก่อน จะกินมื้อหนึ่ง คนสมัยก่อนก็ไม่คิดอะไรมาก
หาปลาหาข้าวมาได้เท่าไหร่ ก็กินเท่านั้น คนสมัยนี้จะกินอะไรที เดินทั้งตลาดก็ยังนึกไม่ออก เข้าแอปหาร้านดัง พลิกหน้าไปเรื่อยชั่วโมงก็นึกไม่ได้
มันมีตัวเลือกเยอะเกินไป จนเลือกไม่ถูก ยิ่งมีตัวเลือกมาก การใช้เวลาในการเลือกหาก็ยิ่งมาก เสียเวลากับการแค่คิดว่าจะกินอะไรดี
การทำงานคนสมัยก่อน ต้องคิด ต้องคำนวนเองทุกอย่าง ต้องใช้สมองตัวเองทำงานทุกอย่าง แต่คนสมัยนี้ มีคอมพิวเตอร์ช่วยคิดช่วยจำ
การทำงานคนสมัยนี้มันจึงง่ายด้วยเทคโนโลยี ที่สะดวกสบาย ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น แต่ความปราณีละเอียดอ่อน เราว่าคนสมัยก่อนมีมากกว่า
คนสมัยก่อน จิตนาการเก่ง เพราะ การวาดรูป ดีไซน์ ความสามารถยังมีขีดจำกัด ไม่สมจริงเท่าไหร่ เป็น 1 มิติ 2 มิติ ทำให้คนที่เสพงานศิลป์
ต้องใช้จิตนาการตนเองช่วยเสริมให้งานศิลปะอยู่ในใจที่สมจริงมากขึ้น แต่สมัยนี้ งานศิลปะทุกอย่าง ทำออกมาสมจริง เหนือจริง เกินจินตนาการ
ทำให้คนสมัยนี้ บางทีก็แยกไม่ออก ระหว่างโลกความจริง กับโลกจิตนาการ เพราะมันปนกันไปหมด บางทีก็จิตนาการเองไม่เป็น ต้องดูภาพก่อน
คนสมัยก่อน เหนื่อยกายกว่า แต่คนสมัยนี้เหนื่อยใจกว่า
แสดงความคิดเห็น
คนสมัยก่อน กับ คนสมัยใหม่ ใครเหนื่อยกว่ากัน
เท่าที่ฟังความเห็นคนใกล้ตัวจขกท.
คนสมัยก่อนจะบอกว่า:
ตัวเองทำงานหนักความอดทนสูงด่าคนสมัยใหม่ว่าความอดทนตํ่าทำงานแป๊บๆก็เลิกขี้เกียจเอาแต่รักสบายโดนว่านิดหน่อยก็ร้องไห้บอบช้ำง่ายเลยมีแต่ข่าวฆ่าตัวตายเยอะแยะ
แล้วก็เอางานของคนสมัยใหม่มาเปรียบเทียบกับของตัวเองซึ่งงานของคนสมัยใหม่ส่วนใหญ่ก็เป็นงานเอกสารงานคอมพิวเตอร์คนสมัยก่อนมองว่าเป็นงานไม่หนักเลิกงานแล้วก็ควรกลับมาทำงานหารายได้อย่างอื่นเพิ่มอีกงานมันสบายไม่เหมือนของตนที่ใช้แรงงานเยอะอดหลับอดนอนเดินทางไปทำงานไกลคนสมัยใหม่ชินกับสิ่งอำนวยความสะดวกแค่นั่งรถไปทำงานก็บ่นว่าเหนื่อยแล้วเป็นพวกหนักไม่เอาเบาไม่สู้ฯ
ส่วนคนสมัยใหม่ก็บอกว่า:
สมัยนี้การแข่งขันสูงคนสมัยก่อนแค่เรียนจบป.4 ก็ทำงานได้ตำแหน่งดีๆแล้วถ้าจบปริญญาตรีนี่สมัยก่อนได้ตำแหน่งใหญ่โตขณะที่คนสมัยนี้จบปริญญาโทยังหางานยากเลยคนตกงานกันเป็นแสนๆ
คนสมัยก่อนขอโทษไม่เป็นถือว่าคนเกิดทีหลังต้องทำตามคนเกิดก่อนคนเกิดก่อนก็อาศัยเวลาจนตอนนี้ทำงานได้เป็นตำแหน่งสูงๆเป็นหัวหน้าคนสมัยใหม่มีอำนาจก็บังคับให้คนสมัยใหม่เชื่อตามตนทั้งที่บางทีมันก็ผิดคนสมัยก่อนดูถูกและศักยภาพของคนสมัยใหม่ถือว่าตัวเองมีประสบการณ์อาบน้ำร้อนมาก่อนปัจจุบันระบบเคารพนับถือผู้ใหญ่เรียงตามอายุงานมีมากกว่าการวัดความรู้ความสามารถของคน
แท้จริงแล้วคนสมัยใหม่จะมีนิสัยอย่างไรก็เป็นเพราะคนสมัยก่อนเพราะคนสมัยก่อนคือสิ่งแวดล้อมที่ทำให้คนสมัยใหม่เจริญเติบโตคนสมัยก่อนคาดหวังกับคนสมัยใหม่เยอะงานบางอาชีพเช่นขายของตามตลาดนัดขายของออนไลน์ฯลฯหากคนสมัยใหม่ทำจะโดนคนสมัยก่อนดูถูกมีค่านิยมต้องทำงานออฟฟิศถึงดูดีทำให้คนสมัยใหม่กดดันในการเลือกอาชีพเพราะอัตราการแย่งงานกันก็สูงอยู่แล้วไม่สามารถเลือกอาชีพได้