[CR] มัณฑะเลย์แค่ชื่อก็เท่ห์แล้วปะ

สวัสดีค่ะทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งสำหรับรีวิวท่องเที่ยวกับเรา ทริปนี้เรากับแฟนตั้งใจจะไปตุรกี แต่เนื่องจากแฟนเจ้าของกระทู้มีประสบการณ์ไม่ดี เกี่ยวกับturbulenceเมื่อครั้งที่บินไปญี่ปุ่นเลยไม่อยากนั่งเครื่องไกล เราเลยลองหาข้อมูลว่ามีที่ไหนสามารถดูบอลลูนได้อีกนอกเหนือจากตุรกี ปรากฏว่ามีค่ะ แล้วอยู่ใกล้ๆบ้านเรานี้เอง นั้นคือประเทศพม่าค่ะ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของทริปปิดเทอมของเราทริปนี้  เราวางแผนท่องเที่ยวในทริปนี้เรามีเวลาแค่ 3 วันกับอีก 2 คืน ซึ่งจุดประสงค์หลักของเราคือบอลลูน จากที่ได้ศึกษาข้อมูลคือเราต้องนั่งเครื่องไปลงที่มัณฑะเลย์แล้วนั่งบัสไปต่อที่พุกาม จึงวางแผนท่องเที่ยวสองเมืองนี้ในเวลาที่เรามี ถ้าพร้อมแล้วทุกคนตามเรามาเลยค่ะ ต้อแงบอกก่อนนะคะว่าทริปนี้เราเดินทางกันเองไม่ได้มากับทัวร์ 

-เริ่มต้นวันแรก เราเดินทางจากบ้านมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ เราจองตั๋วเครื่องบิน BKK-MDL แบบไปกลับของสายการบิน Bangkok Airway บินแบบ full service ในราคาคนละประมาน 5,xxx บาทต่อคน ซึ่งเวลา boarding 11.45 แต่เรามาถึงสนามบิน 8.00 น ที่ต้องรีบเพราะเราต้องมาหาที่จอดรถอีก หลังจากเช็คอินรีบร้อยเราก็เดินเข้ามาเพื่อเดินเล่น 

เช็คอินเรียบร้อย ผ่าน ตม เข้ามาข้างใน เกทเรียบร้อย เราก็ตรงดิ่งไป เลาจน์ของบางกอกแอร์เวย์ทันที

ที่นั่งในเลาจน์มีเยอะพอสมควรแต่ผู้โดยสารก็เยอะด้วยเหมือนกัน เราเลยเลือจะชิมสิ่งที่บอกว่าเป็นตัวทีเด็ดของสายการบินคือข้าวต้มมัด ซึ่งรสชาติอร่อยสมคำร่ำลือจริงๆค่ะ สำหรับเลาจน์ของสายการบิน ถ้าจำไม่ผิดอยู่ตรงข้ามกับ เกท D9

หลังจากเทคออฟไปได้สักพัก แอร์ก็ทำการนำอาหารเที่ยงของเรามาเสิร์ฟ ก็จะมีบะหมี่หมูแดง และของหวานซึ่งเป็นอะไรก็ไม่รู้น่าจะเป็นวุ้น และก็เครื่องดื่มซึ่งเราสามารถเลือกได้

บินไปได้สักพัก เมืองมัณฑะเลย์ก็ออกมาต้อนรับเราแล้ว 

สนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์ เอาจริงๆแค่ชื่อก็เท่ห์แล้วปะ ความตื่นเต้นมาเยือนเราอีกแล้ว

ตอนนี้พม่าฟรีวีซ่านะคะ ถ้าเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งเราไม่ต้องกรอกใบ ตม. หรือใบศุลกากร ใดๆทั้งสิ้นเดินตัวเปล่าเข้าหา ตม ได้เลย ตม ก็ มองหน้า แล้วก็ปั้มๆ ไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ
-หลังจากที่เราผ่าน ตม แล้ว เราก็ทำการแลกเงินซึ่งการแลกเงินของเรา เราใช้วิธีและเงินไทยเป็นเงินดอลล่าแล้วนำดอลล่ามาแลกเป็นจ๊าดอีกทีแต่เงื่อนไขคือดอลล่าจะต้องเป็นแบงค์ใหม่ที่ไม่ยับไม่พับเท่านั้นนะคะ เราแลกเงินทั้งหมด 200 ดอลล่า จะไดเ้เป็นเงินจ๊าด 306,948 จ๊าดทั้งหมดนี้สำหรับ 2 คน เมื่อแลกเงินเสร็จเราก็มาซื้อซิมของค่าย Ooredoo ซึ่งเครือข่ายครอบคลุมมากๆ ความเร็วก็เร็ว หลังจากจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยเราก็เดินออกมาที่ด้านหน้าสนามบินเพื่อนั่งรถแท็กซี่เข้าเมืองเพื่อไปยังสถานีรถบัสวันนี้เราจะเดินทางต่อไปที่พุกามเลย เพื่อที่จะไปชมพระอาทิตย์ขึ้น

ระหว่างทางเข้าเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 -50 นาที

บรรยากาศระหว่างทาง เราสังเกตุได้ว่าคนที่นี้เวลาขับรถแล้วจะแซงจะบีบแตรเพื่อให้คนข้างหน้ารู้เพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจที่จะได้ยินเสียงแตรตลอดทาง

เดินทางมาได้สักพักคนขับก็พาเรามาส่งที่สถานีรถบัสของ OK express ที่เราทำการจองตั๋วล่วงหน้ามาก่อนแล้วในเว็บ https://www.myanmarbuses.com ราคาค่ารถจากมัณฑะเลย์ไปพุกามตกคนละประมาน 6 usd เราจองรถรอบเวลา 16.00 น. เราก็ทำการนั่งรอ จนถึงเวลารถก็ยังไม่มาสักทีเราเลยถามจากคนขายตั๋วว่ารถจะมาไหมเขาก็บอกรถมา 17.00 โอเคเราก็นั่งรอต่อไป พอนั่งรอต่อไปจนถึง 17.00 ปรากฏว่ารถก็ยังไม่มาเราก็ถามย้ำเขาอีกว่ารถจะมาไหม เขาก็บอก 18.00 ตอนนั้นคือใจเราแป้วมากเลยกลัวทุกอย่าง จะถูกหลอกไหมจะมีรถไปหรือเปล่าก็พากันนั่งกังวลอยู่กับแฟน คุยกับแฟนว่าถ้ารอบนี้ไม่มาคือไม่ไปแล้วเปลี่ยนแผนนอนที่มัณฑะเลย์เลยแล้วค่อยเดินทางพรุ่งนี้ เมื่อใกล้จะถึงเวลารถมาแล้วในที่สุดเราก็ได้ไปแล้ว พอขึ้นมาบนรถจากที่สังเกตุมีชาวท้องถิ่นเกือบเต็มคันรถมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ  คนและเรากับแฟนที่เป็นคนไทย 
 คนนอกนั้นคือชาวพม่าหมดเลย ระหว่างที่รถกำลังแล่นไปเราก็เปิด map ไปด้วยว่าไปถูกทางไหมเอาจริงๆคือกลัวโดนหลอก ก็ขับไปเรื่อยใช้เวลาเดินทางสักประมาน ชั่วโมงเราก็เดินทางมาถึงพุกาม หลังจากลงจากรถเราก็นั่งแท็กซี่ไปที่โรงแรม



คืนนี้เราพักที่ hotel yadanarbon bagan เราจองผ่าน booking ตกคืนละประมาน 48 usd รวมอาหารเช้า ซึ่งโรงแรมก็โอเคสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแค่ไฟดับบ่อยไปหน่อย หลังจากที่เราเช็คอินเราก็แจ้งกับทางโรงแรมว่าเราต้องการไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เขาก็ถามเราจะใช้บริการแบบไหนมีแท็กซี่ ตุ๊กๆ รถม้า หรือ e-bike เราเลยเลือก e-bike อยู่ที่ราคา 7000 จ๊าดสำหรับ 2 คน หลังจากตกลงกันเรียบร้อยเราก็พักผ่อนรอพรุ่งนี้เช้า
17 Oct 2019 
วันนี้เราตั้งใจจะตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ตี 4 แต่ ตี5.30 แล้วเราสองคนเพิ่งจะออกจากโรงแรม เราก็ขี่ e-bike ไปตาม map ที่เราตั้งไว้ ซึ่งสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นถ้าเป็นเมื่อก่อนจะสามารถปีนขึ้นไปบนเจดีย์เพื่อชมได้ แต่เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหม 2559 ทำให้ทุกเจดีย์ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไป พยายามหาข้อมูลต่างๆมากมายว่ามีที่ไหนที่ยังสามารถชมวิวได้ ก็มีเนินที่ทางพุกามได้สร้างขึ้นมาเพื่อให้สำหรับนักท่องเที่ยวแต่เราดูแล้วเหมือนมันยังสองไม่พอ หาไปหามาเลยไปเจอbagan viewing tower เป็นหอคอยที่น่าจะสูงที่สุดในพุกามแล้วตอนนี้และยังเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นได้อีกด้วย แต่ต้องเสีค่าใช้จ่ายคนละ 5usd 

จุดชมวิว
หลังจากที่เรารอไปสักพักสิ่งที่เรารอก็ปรากฎแก่สายตาเรา

พระอาทิตย์ก็ออกมาทักทายพวกเรา

หลังจากที่ดวงอาทิตย์ออกมาทักทายเรา เหล่าบอลลูนก็เตรียมตัวที่จะออกบิน สำหรับบอลลูนที่นี้ถ้าใครอยากขึ้นบอลลูนชมวิวสามารถให้ทางโรงแรมจองให้ได้หรือจองผ่านทางเว็ปได้เลย ราคาอยู่ที่ประมานคนละ 325  usd บินประมาน 45 นาทีแต่เจ้าของกระทู้ไม่ได้ขึ้นเพราะแฟนกลัวความสูง

บอลลูนเริ่มมาแล้ววววววววววว









ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆสำหรับเราเพราะเราตั้งใจมาชมวิวบอลลูนที่มีฉากหลังเป็นเจดีย์นับพันตอนนี้เราได้มาเห็นกับตาเราแล้วเลยอบากส่งผ่านความสุขให้ทุกท่านผ่านเลนส์ มันคุ้มจริงกับที่เขาว่า
"See Angkor Wat and die, See Bagan and live."
"...การได้เห็นนครวัดสักครั้งจะทำให้คุณตายตาหลับ
...แต่การได้เห็นพุกามจะทำให้คุณอยากมีชีวิตอยู่ เพื่อรอรุ่งอรุณของวันต่อไป"
>>>Arnold Toynbee นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษกล่าวไว้<<<
จริงที่เขาบอกว่าคุณอยากมีชีวิตต่อเพื่อที่จะได้มาเห็นความงามของมันอีกครั้ง

ตั้งใจมาก

ใช้กล้องโทรศัพท์ถ่ายยังสวย

วันที่เราไปเจอทัวร์จีนไปด้วยคนค่อนข้างเยอะพอสมควร

นี้คือพาหนะของเราสองคนในการเดินทางเที่ยวเมืองพุกามแห่งนี้ 

นี้คือทางที่ใช้สัญจร

หลังจากที่เราชมพระอาทิตย์และบอลลูนจนหนำใจแล้วเราก็กลับไปทานอาหารเช้าที่โรงแรมเพื่อที่จะออกไปเที่ยวรอบๆเมืองพุกามกันต่อ


รอบๆทางเต็มไปด้วยเจดีย์มากมาย


สถานที่แรกที่เราเดินทางไปคือ   วัดอนันดา เป็นวัดในเขตเมืองเก่าพุกามที่ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามมากทางด้านสถาปัตยกรรมและพุทธศิลป์มากที่สุด มีลักษณะเด่นคือตัวเจดีย์ที่เป็นสีขาว มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และมีซุ้มประตูยาวสี่ด้านขนาดเท่ากันเชื่อมไปสู่ตัววิหาร ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายกับไม้กางเขนในรูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก ภายในวิหารมีพระพุทธรูปยืนที่แกะสลักด้วยไม้สักโดยช่างศิลป์ชั้นสูงชาวพม่าประดิษฐานอยู่ทั้งสี่ทิศ


เราชอบการถ่ายภาพเก็บไว้ทุกๆที่ที่เราไปถ้ามีบริการถ่ายภาพเราจะใช้บริการทุกครั้ง
สถานที่ที่สองของเรา เจดีย์ธรรมยังจี พระเจ้านรถุโปรดให้สร้างเจดีย์องค์นี้ขึ้น โดยมีตำนานที่สัมพันธ์กับความโหดร้ายของพระองค์ เช่น ถ้าช่างคนใดสออิฐไม่สนิดจะถูกทำทา เป็นต้น ตำนานยังเล่าต่อว่าเจดีย์องค์นี้สร้างไม่สำเร็จก็เนื่องด้วยพระเจ้านรถุถูกปลงพระชนม์ก่อน


อันนี้ไม่แน่ใจว่าคือที่ไหน 


เจดีย์ชเวสันดอว์ shwesandaw pagoda เมื่อก่อนถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สำคัญแต่ปัจจุบันไม่เปิดให้ขึ้นไปแล้ว



ตามสถานที่ต่างๆก็จะมีรถม้าไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว 




ปิดท้ายพุกามด้วยหนุ่มน้อ
ชื่อสินค้า:   พุกาม (Bagan) มัณฑะเลย์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่