หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] แลพุกาม-มัณฑเลย์กับตะละแม่แห่งแดนสยาม ตอนที่ 1
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
มัณฑะเลย์
ทริปนี้เริ่มจากผู้เขียนตั้งใจอยากไปเที่ยวมัณฑเลย์และพุกามบ้าง หลังจากลุยเดี่ยวเที่ยวย่างกุ้งอยู่10กว่าทริปในเวลา 1 ปี จองและดองตั๋วทริปนี้ไว้ประมาณ 10 เดือนเห็นจะได้เพราะอยากได้ช่วงอากาศไม่ร้อนมาก แต่ก็ไม่ใช่ช่วงพีคของนักท่องเที่ยวซะทีเดียว จึงได้ช่วง 11-15 กุมภาพันธ์ หนี...ไปฉลองวาเลนไทน์กับทุ่งเจดีย์ และพระอาทิตย์ทั้งขึ้นและตกดิน อินเลิฟกับตัวเอง แลบุญนำพาได้เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และเพื่อนของเพื่อนสมัยมัธยมซึ่งไม่เคยรู้จักหน้าคาดตากันมาก่อนตามร่วมทริปในเวลาต่อมา รวมเป็นสี่อ๊านตี้ขยี้ใจในทริปนี้
เริ่มทริปโดยนัดเจอหน้าประชาสัมพันธ์ ประตู 4 ขาออก และแล้วเสียงไลน์ก็ดังขึ้นจากเพื่อนมหาวิทยลัยพร้อมข้อความว่าอยู่ไหนทำไมไม่เห็นที่ประตู 4 จึงดึงสติว่าอาคารหนึ่งเที่ยวบินต่างประเทศนาจา พร้อมกับถ่ายรูปสวยด้วยแอพ ส่งไปมีทแอนด์กรี๊ด..นางนึกว่ามัณฑเลย์บินภายในประเทศ หุหุ..ได้เวลาสนุกแล้วสิเรา..
โปรแกรมที่เราจะไป 3 คืน 4 วันนี้ เริ่มจากมัณฑเลย์ พุ่งไปนอนค้าง 1 คืนที่พุกาม แล้วลัดเลาะกลับบมัณฑเลย์อีก 2 คืน เพื่อเก็บที่ท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุดตามเวลาและสังขารจะอำนวย
ข้ามไปถึงสนามบินมัณฑเลย์รับกระเป๋าเรียบร้อยเราก็ออกมาพบคนขับรถและพาเที่ยวคนเดียวกัน คือ Myo Min ที่อุตส่าห์ขับรถจากย่างกุ้งเพื่อมาดูแลเหล่าอ๊านตี้ รู้จักพี่มิวจากทางpantipนี่แหละ ติดต่อใช้บริการกันตั้งแต่ทริปแรกเดือนพฤศจิกายน 2558
จากสนามบินมัณฑเลย์ไปพุกามใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เห็นสมควรกันว่าเราควรหาอะไรรองท้องกันก่อนเดินทาง พี่มิวเลยพาแวะร้านอาหารที่
ปั้มริมไฮเวย์ชื่อ Kain Kyi ต้อนรับด้วยอาหารพม่าแบบข้าวแกงเพื่อความรวดเร็ว ข้าวราดกับข้าว 2 อย่าง 1800 จ๊าดต่อจาน อิ่มแบบนั่งไหล่ตั้งหลังตรง
จากนั้นก็มุ่งสู่อาณาจักรพุกามเพื่อไปชมเมืองแห่งเจดีย์น้อยใหญ่ซึ่งกล่าวกันว่าเคยมีถึงสี่พันกว่าองค์ ปัจจุบันเหลืออยู่สองพันกว่าองค์ พี่มิวพยายามพาเราไปให้ถึงทันชมพระอาทิตย์ตกดิน แต่ก็พบว่าที่ เจดีย์ชเวสันดอร์ (Shwesandaw Pagoda) ที่เป็นจุดไฮไลท์ของการชมนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เกรงว่าเหล่าอ๊านตี้จะ ปีนไม่ไหว และโดนเบียดเสียดตกเจดีย์ จึงวนไปหาเจดีย์ที่ไม่ชันมากเดินขึ้นไม่ยากและคนไม่ล้นจนเราได้ชม ดื่มด่ำภาพอาทิตย์อัสดงที่เจดีย์ Pya That Gyi แบบน้ำตาคลอกับภาพ silhouette สวยๆของเหล่าตะละแม่
พอพระอาทิตย์กลับเราก็หาที่หลับบ้าง ตรงไปเช็คอินเข้าโรงแรม Hotel Umbra Bagan เพื่อนที่ย่างกุ้งที่แนะนำมา ไม่ผิดหวัง โรงแรมสวย สะอาด อาหารเช้าดี มีสระน้ำสวยๆแต่เราไม่ได้เตรียมทูพีซมา ขออภัยไม่ทันถ่ายรูปภายในห้องมาให้ชมเพราะหิวและเหนื่อย
ใกล้ๆกันมี ร้านอาหารหลายร้านให้เลือก มื้อค่ำมื้อแรกหลังจากเดินสำรวจแล้ว เนื่องจากเป็นเวลาอาหาร ร้านส่วนใหญ่มีลูกค้าจับจองที่นั่งกันอยู่หลายโต๊ะ แต่เราไม่มีเห็นมีอาหารวางสักสักโต๊ะเราเลยเดินเรื่อยๆออกมาเจอร้านHarmony BBQ กว้างขวาง ลูกค้าเยอะ แต่พนักงานก็เยอะพอที่จะบริการลูกค้าที่หิวโซได้อย่างว่องไว เมนูวันนี้คือ ข้าวผัดร้อนๆ ผัดผักรวม ต้มยำ ยำไข่เยี่ยวม้า และตบด้วยเบียร์เมียนมาร์และบาบีคิวหมูเกือบ 10 ไม้(เล็ก) หลับสบาย
เช้าวันที่ 2 กับอาณาจักรพุกาม พี่ Myo จะมารับตีห้าครึ่ง เพื่อพาเราไปเจดีย์ Shwesandaw เพื่อต้อนรับพระทินกร ด้วยเหล่าอานตี้เป็นคนที่แต่งตัวเบาๆ ง่ายๆ เลยนัดกันใส่ซิ่นเพื่อให้เกียรติ และเข้ากับบรรยากาศเจดีย์ที่มีมนต์ขลังของพุกาม เหล่าตาละแม่พากันตื่นตีสี่ ไม่อาบน้ำ แต่แต่งองค์ทรงเครื่องสนิมพริ้มเพรา..รอพี่Myoมารับ อากาศข้างนอกเย็นพอควรเลยทีเดียว ขับไปไม่นานก็ไปถึงเจดีย์สูงตระหง่าน แหงนหน้ามองยอด ใจสู้ถกซิ่นปีนเจดีย์สูงและชันมากๆไปบนยอด ฟรืดๆ steep steep ลมหายใจใครหนอมาอยู่ที่ต้นคอป้า ปีหน้าถ้าได้มาอีกจะปีนขึ้นได้ไม๊ ถามใจเธอดู..
ถึงบริเวณที่ชมแล้ว... ว้าวว ..อากาศสดชื่น บรรยากาศเยี่ยม หนุ่มๆแบคแพคหัวทองงานดีเต็มไปหมดเลย แหะๆ แต่ไม่ใช้เป้าหมาย เรามารอชมพระอาทิตย์ขึ้น มีนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศมากมายจริงๆ มีทั้งกล้องแบบมือโปร กล้องคอมแพค และกล้องจากโทรศัพท์แบบที่ป้าๆมี และทุกคนใจจดจ่อกับยอดเจดีย์ที่จะมีพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมา รอแล้วรอเล่าจนฟ้าสว่างก็ไม่เห็น เพราะมีหมอกเยอะเลยถอดใจเปลี่ยนมุมไปดูเค้าปล่อยบอลลูนขึ้นฟ้า ทันใดนั้นก็มีแสงสีแดงโผล่ขึ้นที่ยอดเจดีย์ พร้อมกับบอลลูนทะยอยกันลอยขึ้นฟ้า...น้ำตาจะไหล (อีกแล้ว) ภาพนี้อยู่ตรงหน้าเราจริงๆ พี่Myoบอกว่าตอนนี้ค่าขึ้นบอลลูนคนละ 350 เหรียญและต้องจองล่วงหน้าเพราะเต็มตลอด เอาเถอะๆ ป้าขอถกซิ่นปีนเจดีย์ชม แบบไปกับเราเนวิเกเตอร์อย่างนี้แหละ
เค้าแหละ พี่มิวใจดี
รวมดาวสาวสยาม
เสร็จภาระกิจชมพระอาทิตย์ขึ้น ก็กลับโรงแรมเพื่อรับอาหารอาหารเช้า (ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารเช้าอีกแล้ว) น้ำไม่อาบ เติมแป้ง และเตรียมเช็คเอ้าท์มุ่งหน้าสู่มัณฑเลย์ ระหว่างรอพี่มิวไปล้างรถเพราะลุยทุ่งเจดีย์ฝุ่นตลบมา เหล่าเราก็ชักภาพโรงแรมไว้เป็นที่ระลึก เลยได้ภาพโรงแรมมาฝากนิดหน่อย เบาๆ
หลังจากเช็คเอ้าท์ การผจญภัยได้เริ่มขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ มุ่งหน้าสู่ตลาด Nyaung Oo ซึ่งเป็นตลาดสด ตอนแรกคิดว่าแค่จะมาชมวิถีชิวิตและบรรยากาศตลาดสดธรรมดาๆคงไม่ได้ซื้อพืชผักผลไม้แต่อย่างใด เราผู้เป็นหัวหน้าทัวร์เลยแจกเงินกองกลางไปคนละ 10000 จ๊าด หรือประมาณ 250 บาทเผื่อมีใครเอาช้างมาขายให้ หรือไปเตะกาละมังกะปิเข้าให้ ลงรถได้ก็เข้าห้องน้ำ ถ่ายรูปคู่กับกับหม้อดิน แล้วอ๊านตี้ก็ชมตลาดอย่างเพลิดเพลินเกินเวลา สรุปได้ช้างหยกกลับมาจริงๆ ผลอโวคาโดโตๆ 6 ผล 4000 จ๊าดตกลูกละ 17 บาทและท่อนไม้ทานาคา พร้อมหินชุดเล็กชุดละ 3000จ๊าดเป็นของฝาก อีกคนละชุดสองชุด ท่าทางป้าๆจะไม่หยุด ช้อปไปถ่ายรูปไปจะครึ่งวันแล้ว พี่ Myo เริ่มเดินจ้ำอ้าวๆ นำเรากลับรถเพื่อเดินทางต่อไปยังสถานีต่อไป
เจดีย์ชเวซิกอง กราบหนึ่งในห้ามหาสถานศักดิ์สิทธิ์ของพม่า เจดีย์ทองแห่งชัยชนะบนผืนทรายแห่งเมืองพุกาม สวยงามอลังการทีเดียว รูปทรงของเจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำแบบมอญ เป็นที่บรรจุพระธาตุสำคัญ ๓ ส่วน คือ พระเขี้ยวแก้ว ที่กษัตริย์แห่งศรีลังกาได้นำมาถวาย พระธาตุกระดูกไหล่ ที่นำมาจากเมืองศรีเกษตร (ใกล้เมืองแปร) และ พระธาตุพระนลาฏ (หน้าผาก) เสียดายช่วงที่เราไปเจดีย์มีการซ่อมแซมมีผืนเสื่อคลุมไว้ (ชอบวัสดุหลายๆอย่างของเค้าที่ยังคงทำมาจากธรรมชาติ บ้านเราคงพลาสติกคลุมไว้) พี่ Myo บอกอีก 2 เดือนน่าจะเสร็จ ถึงแดดจะร้อนแต่เราเดินทัศนารอบๆเจดีย์และมีนักท่องเที่ยวพอสมควร
เขาเล่าว่าเมื่อตีกลองใบใหญ่จากด้านหนึ่งของพระเจดีย์ จะไม่สามารถได้ยินเสียงกลองจากด้านตรงข้าม..แต่ไม่ได้ลองตีนะคะ
ต่อกันที่ Bupaya Pagoda ทรงคล้ายน้ำเต้าทอง แต่เดิมถ้าล่องเรือมาตามแม่น้ำอิระวดีแล้วเห็นน้ำเต้าทองแสดงว่าถึงอาณาจักรพุกามแล้ว ช่วงที่เราไปแม่น้ำแห้งพอควร และไม่ได้นั่งเรือล่องแม่น้ำเพราะเวลามีจำกัด แวะเพื่อถ่ายรูปเป็นหลักฐานพอสังเขปแล้วไปต่อค่ะ
มาถึงที่ Ananda Phaya เก่าแก่มา 927 ปีแล้ว ว่ากันว่าเป็นที่สุดของเพชรเม็ดงามแห่งสถาปัตย์พุกาม ซึ่งเป็นศิลปะมอญผสมอินเดีย ภายในมีพระพุทธรูปไม้สักขนาดใหญ่ปิดทองอร่ามประดิษฐานอยู่ทั้ง 4 ทิศ ด้วยความสวยงามที่หาที่เปรียบไม่ได้เมื่อสร้างเสร็จ พระเจ้าญาณสิทธากลัวว่าจะมีใครสร้างซ้ำ จึงสั่งประหารนายช่างทั้งหมดตามพิธีกรรมของพราหมณ์ เศร้าเลย...
ป้ามอญร่าเริงก็เก็บภาพประกอบความอาร์ทของประตูวัดเบาๆซึ่งเป็นประตูโค้ง (arch) ที่มักพบเห็นในสถาปัตยกรรมตะวันตกมากกว่าตะวันออกนี่นา
อ้าววว ต้องไปต่อภาค 2 กันซะแล้ว เรียนเชิญค่ะ
https://ppantip.com/topic/36239994
ชื่อสินค้า:
แลพุกาม-มัณฑเลย์ กับตะละแม่แห่งแดนสยาม
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
แลพุกาม-มัณฑเลย์ กับตะละแม่แห่งแดนสยาม ตอนที่ 2
ต่อกันที่ Dhammayangyi Pagoda เป็นอีกวัดสำคัญ และมีทางเดินข้างในได้รอบทั้ง 4 ทิศที่มีองค์พระประดิษฐานให้บูชา ซึ่งด้านนอกมีขายหุ่นเชิดสไตล์เมียนมาร์โดยนำมาห้อยแขวงไว้ที่ต้นไม้ แลดูแปลกตาและสีสันดึงดูดค
สมาชิกหมายเลข 3298683
แบกเป้เที่ยวเมียนมาร์ 7 วัน 5 เมือง ด้วยงบไม่ถึงหมื่น ตอนที่ 2 ผจญภัยในอาณาจักรแห่งทะเลเจดีย์
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงเมืองพุกาม เวลา 4.00 น. รถที่นั่งมาจอดให้เราลงสถานีขนส่งเขตณองอู (Nyaung-U Bus station) เดินลงรถมาฟ้ามืดสนิท มีแสงไฟจากอาคารรอบๆ อากาศเย็นสบาย ไม่นานก็มีกองทัพแท็กซี่มามะรุมมะ
สมาชิกหมายเลข 1290953
Backpack เที่ยวพม่า (ตามประสาสาวโสด) @Day 2
Backpacker: Miss Lex and Miss Pam (ต่อจากกระทู้แรกนะคะ http://ppantip.com/topic/34739594) หลังจากที่เราเดินทางมาจากย่างกุ้งตอนหนึ่งทุ่ม และมาถึงพุกามตอนประมาณตีห้ากว่าๆ เกือบหกโมงเช้า เราตกลงกับแท๊กซ
Dec-LekLek
รบกวนปรึกษาทริปเที่ยวพม่าค่ะ
สวัสดีค่ะ รบกวนปรึกษาทริปพม่าค่ะ ไป 6 วัน 6-11 ธ.ค. ไปกันสามคนค่ะ พกคุณแม่ไปด้วยซึ่งท่านจะเดินไม่ได้เยอะ (เคยพาคุณแม่ไปเสียมราฐและหลวงพระบาง แม่ก็เดินเท่าที่ได้ ถ้าไม่ไหวก็นั่งรอในรถ เพราะเหมารถเที่ยว
พุดชมพู
การเดินทางของมนุษย์เงินเดือน: จากพุกามถึงมัณฑะเลย์ ตอนที่5 ทะเลหมอกเหนือเจดีย์
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปล่ะครับ วันนี้เราจะไปชมตัวเมืองมัณฑะเลย์กันจากมุมสูง โดยถ้ามาในจังหวะดีๆ เราจะเห็นหมอกลอยตัวอยู่เหนือตัวเมืองอีกด้วย บอกได้เลยว่าสวยงามมากๆ แต่กว่าจะได้ชมวิวสวยๆ เราก้อต้องอ
Mr.V
ปักหมุดวัดสวยเชียงราย "วัดมิ่งเมือง" วัดจ๊างมูบ
"วัดมิ่งเมือง" วัดจ๊างมูบ วัดสวยเชียงราย >> สวัสดีครับ ก็มาพบกับ "หยุดแล้วเที่ยวได้" กันอีกแล้วนะครับ ทริปนี้เราก็อยู่กันที่วัดสวยเชียงรายกันอีกแล้วนะคร
หยุดแล้วเที่ยวได้
รีวิว *พม่า(ย่างกุ้ง) ไปกับทัวร์ ฉบับสั้นกระชับ *
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้รีวิวแรก เนื่องจากเจ้าของกระทู้เพิ่งกลับจากพม่า เลยอยากมารีวิว แบบสั้นๆเท่าที่จำได้นะคะ **ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า ไปพม่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก และไปกับทัวร์เนื่องจากพาคุณพ่อคุณแ
สมาชิกหมายเลข 950757
สวัสดีคนแปลกหน้า l กำเงินสี่พัน เที่ยวสี่วัน...ที่มัณฑะเลย์-พุกาม EP.2 (จบ) สถานที่เที่ยวแน่น ข้อมูลแน่น อ่านเลย!!
>> ติดตามเรื่องราวการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ Facebook เพจสวัสดีคนแปลกหน้า https://www.facebook.com/hellostrangerpage/ . กำเงินสี่พัน เที่ยวสี่วัน...ที่มัณฑะเลย์-พุกาม EP.2 (จบ) ทริปเมียนมา
สวัสดีคนแปลกหน้า
สอบถามเพื่อนๆที่เคยเดินทางไปเที่ยวพม่าค่ะ
สวัสดีค่ะ ขอรบกวนสอบถามผู้รู้ที่เดินทางไปเที่ยวพม่ามาแล้ว พอดี จขกท มีแพลนเดินทางไปพม่า วันที่ 4 - 8 กพ.59 ขาไปลงที่ย่างกุ้ง ตอนเที่ยง ขากลับขึ้นที่มัณฑะเลย์ เนื่องจากเดินทางคนเดียว มีแพลนและข้อสงสัยต
ปลากระป๋องพาสเทล
เพื่อนสาวพาเที่ยว ตอน "เติมแต้มบุญที่มัณฑะเลย์ พุกาม และย่างกุ้ง 1-6 Jan 2020" [Part 2]
มากันต่อใน Part ที่ 2 จ้า Part ก่อนหน้านี้เราพาทุกท่านไปผจญภัยใน "มัณฑะเลย์" กันแล้ว ส่วน Part นี้เรามาเที่ยว "พุกาม"&nb
เพื่อนสาวพาเที่ยว
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
มัณฑะเลย์
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] แลพุกาม-มัณฑเลย์กับตะละแม่แห่งแดนสยาม ตอนที่ 1
ทริปนี้เริ่มจากผู้เขียนตั้งใจอยากไปเที่ยวมัณฑเลย์และพุกามบ้าง หลังจากลุยเดี่ยวเที่ยวย่างกุ้งอยู่10กว่าทริปในเวลา 1 ปี จองและดองตั๋วทริปนี้ไว้ประมาณ 10 เดือนเห็นจะได้เพราะอยากได้ช่วงอากาศไม่ร้อนมาก แต่ก็ไม่ใช่ช่วงพีคของนักท่องเที่ยวซะทีเดียว จึงได้ช่วง 11-15 กุมภาพันธ์ หนี...ไปฉลองวาเลนไทน์กับทุ่งเจดีย์ และพระอาทิตย์ทั้งขึ้นและตกดิน อินเลิฟกับตัวเอง แลบุญนำพาได้เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และเพื่อนของเพื่อนสมัยมัธยมซึ่งไม่เคยรู้จักหน้าคาดตากันมาก่อนตามร่วมทริปในเวลาต่อมา รวมเป็นสี่อ๊านตี้ขยี้ใจในทริปนี้
เริ่มทริปโดยนัดเจอหน้าประชาสัมพันธ์ ประตู 4 ขาออก และแล้วเสียงไลน์ก็ดังขึ้นจากเพื่อนมหาวิทยลัยพร้อมข้อความว่าอยู่ไหนทำไมไม่เห็นที่ประตู 4 จึงดึงสติว่าอาคารหนึ่งเที่ยวบินต่างประเทศนาจา พร้อมกับถ่ายรูปสวยด้วยแอพ ส่งไปมีทแอนด์กรี๊ด..นางนึกว่ามัณฑเลย์บินภายในประเทศ หุหุ..ได้เวลาสนุกแล้วสิเรา..
โปรแกรมที่เราจะไป 3 คืน 4 วันนี้ เริ่มจากมัณฑเลย์ พุ่งไปนอนค้าง 1 คืนที่พุกาม แล้วลัดเลาะกลับบมัณฑเลย์อีก 2 คืน เพื่อเก็บที่ท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุดตามเวลาและสังขารจะอำนวย
ข้ามไปถึงสนามบินมัณฑเลย์รับกระเป๋าเรียบร้อยเราก็ออกมาพบคนขับรถและพาเที่ยวคนเดียวกัน คือ Myo Min ที่อุตส่าห์ขับรถจากย่างกุ้งเพื่อมาดูแลเหล่าอ๊านตี้ รู้จักพี่มิวจากทางpantipนี่แหละ ติดต่อใช้บริการกันตั้งแต่ทริปแรกเดือนพฤศจิกายน 2558
จากสนามบินมัณฑเลย์ไปพุกามใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เห็นสมควรกันว่าเราควรหาอะไรรองท้องกันก่อนเดินทาง พี่มิวเลยพาแวะร้านอาหารที่
ปั้มริมไฮเวย์ชื่อ Kain Kyi ต้อนรับด้วยอาหารพม่าแบบข้าวแกงเพื่อความรวดเร็ว ข้าวราดกับข้าว 2 อย่าง 1800 จ๊าดต่อจาน อิ่มแบบนั่งไหล่ตั้งหลังตรง
จากนั้นก็มุ่งสู่อาณาจักรพุกามเพื่อไปชมเมืองแห่งเจดีย์น้อยใหญ่ซึ่งกล่าวกันว่าเคยมีถึงสี่พันกว่าองค์ ปัจจุบันเหลืออยู่สองพันกว่าองค์ พี่มิวพยายามพาเราไปให้ถึงทันชมพระอาทิตย์ตกดิน แต่ก็พบว่าที่ เจดีย์ชเวสันดอร์ (Shwesandaw Pagoda) ที่เป็นจุดไฮไลท์ของการชมนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เกรงว่าเหล่าอ๊านตี้จะ ปีนไม่ไหว และโดนเบียดเสียดตกเจดีย์ จึงวนไปหาเจดีย์ที่ไม่ชันมากเดินขึ้นไม่ยากและคนไม่ล้นจนเราได้ชม ดื่มด่ำภาพอาทิตย์อัสดงที่เจดีย์ Pya That Gyi แบบน้ำตาคลอกับภาพ silhouette สวยๆของเหล่าตะละแม่
พอพระอาทิตย์กลับเราก็หาที่หลับบ้าง ตรงไปเช็คอินเข้าโรงแรม Hotel Umbra Bagan เพื่อนที่ย่างกุ้งที่แนะนำมา ไม่ผิดหวัง โรงแรมสวย สะอาด อาหารเช้าดี มีสระน้ำสวยๆแต่เราไม่ได้เตรียมทูพีซมา ขออภัยไม่ทันถ่ายรูปภายในห้องมาให้ชมเพราะหิวและเหนื่อย
ใกล้ๆกันมี ร้านอาหารหลายร้านให้เลือก มื้อค่ำมื้อแรกหลังจากเดินสำรวจแล้ว เนื่องจากเป็นเวลาอาหาร ร้านส่วนใหญ่มีลูกค้าจับจองที่นั่งกันอยู่หลายโต๊ะ แต่เราไม่มีเห็นมีอาหารวางสักสักโต๊ะเราเลยเดินเรื่อยๆออกมาเจอร้านHarmony BBQ กว้างขวาง ลูกค้าเยอะ แต่พนักงานก็เยอะพอที่จะบริการลูกค้าที่หิวโซได้อย่างว่องไว เมนูวันนี้คือ ข้าวผัดร้อนๆ ผัดผักรวม ต้มยำ ยำไข่เยี่ยวม้า และตบด้วยเบียร์เมียนมาร์และบาบีคิวหมูเกือบ 10 ไม้(เล็ก) หลับสบาย
เช้าวันที่ 2 กับอาณาจักรพุกาม พี่ Myo จะมารับตีห้าครึ่ง เพื่อพาเราไปเจดีย์ Shwesandaw เพื่อต้อนรับพระทินกร ด้วยเหล่าอานตี้เป็นคนที่แต่งตัวเบาๆ ง่ายๆ เลยนัดกันใส่ซิ่นเพื่อให้เกียรติ และเข้ากับบรรยากาศเจดีย์ที่มีมนต์ขลังของพุกาม เหล่าตาละแม่พากันตื่นตีสี่ ไม่อาบน้ำ แต่แต่งองค์ทรงเครื่องสนิมพริ้มเพรา..รอพี่Myoมารับ อากาศข้างนอกเย็นพอควรเลยทีเดียว ขับไปไม่นานก็ไปถึงเจดีย์สูงตระหง่าน แหงนหน้ามองยอด ใจสู้ถกซิ่นปีนเจดีย์สูงและชันมากๆไปบนยอด ฟรืดๆ steep steep ลมหายใจใครหนอมาอยู่ที่ต้นคอป้า ปีหน้าถ้าได้มาอีกจะปีนขึ้นได้ไม๊ ถามใจเธอดู..
ถึงบริเวณที่ชมแล้ว... ว้าวว ..อากาศสดชื่น บรรยากาศเยี่ยม หนุ่มๆแบคแพคหัวทองงานดีเต็มไปหมดเลย แหะๆ แต่ไม่ใช้เป้าหมาย เรามารอชมพระอาทิตย์ขึ้น มีนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศมากมายจริงๆ มีทั้งกล้องแบบมือโปร กล้องคอมแพค และกล้องจากโทรศัพท์แบบที่ป้าๆมี และทุกคนใจจดจ่อกับยอดเจดีย์ที่จะมีพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมา รอแล้วรอเล่าจนฟ้าสว่างก็ไม่เห็น เพราะมีหมอกเยอะเลยถอดใจเปลี่ยนมุมไปดูเค้าปล่อยบอลลูนขึ้นฟ้า ทันใดนั้นก็มีแสงสีแดงโผล่ขึ้นที่ยอดเจดีย์ พร้อมกับบอลลูนทะยอยกันลอยขึ้นฟ้า...น้ำตาจะไหล (อีกแล้ว) ภาพนี้อยู่ตรงหน้าเราจริงๆ พี่Myoบอกว่าตอนนี้ค่าขึ้นบอลลูนคนละ 350 เหรียญและต้องจองล่วงหน้าเพราะเต็มตลอด เอาเถอะๆ ป้าขอถกซิ่นปีนเจดีย์ชม แบบไปกับเราเนวิเกเตอร์อย่างนี้แหละ
เค้าแหละ พี่มิวใจดี
รวมดาวสาวสยาม
เสร็จภาระกิจชมพระอาทิตย์ขึ้น ก็กลับโรงแรมเพื่อรับอาหารอาหารเช้า (ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารเช้าอีกแล้ว) น้ำไม่อาบ เติมแป้ง และเตรียมเช็คเอ้าท์มุ่งหน้าสู่มัณฑเลย์ ระหว่างรอพี่มิวไปล้างรถเพราะลุยทุ่งเจดีย์ฝุ่นตลบมา เหล่าเราก็ชักภาพโรงแรมไว้เป็นที่ระลึก เลยได้ภาพโรงแรมมาฝากนิดหน่อย เบาๆ
หลังจากเช็คเอ้าท์ การผจญภัยได้เริ่มขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ มุ่งหน้าสู่ตลาด Nyaung Oo ซึ่งเป็นตลาดสด ตอนแรกคิดว่าแค่จะมาชมวิถีชิวิตและบรรยากาศตลาดสดธรรมดาๆคงไม่ได้ซื้อพืชผักผลไม้แต่อย่างใด เราผู้เป็นหัวหน้าทัวร์เลยแจกเงินกองกลางไปคนละ 10000 จ๊าด หรือประมาณ 250 บาทเผื่อมีใครเอาช้างมาขายให้ หรือไปเตะกาละมังกะปิเข้าให้ ลงรถได้ก็เข้าห้องน้ำ ถ่ายรูปคู่กับกับหม้อดิน แล้วอ๊านตี้ก็ชมตลาดอย่างเพลิดเพลินเกินเวลา สรุปได้ช้างหยกกลับมาจริงๆ ผลอโวคาโดโตๆ 6 ผล 4000 จ๊าดตกลูกละ 17 บาทและท่อนไม้ทานาคา พร้อมหินชุดเล็กชุดละ 3000จ๊าดเป็นของฝาก อีกคนละชุดสองชุด ท่าทางป้าๆจะไม่หยุด ช้อปไปถ่ายรูปไปจะครึ่งวันแล้ว พี่ Myo เริ่มเดินจ้ำอ้าวๆ นำเรากลับรถเพื่อเดินทางต่อไปยังสถานีต่อไป
เจดีย์ชเวซิกอง กราบหนึ่งในห้ามหาสถานศักดิ์สิทธิ์ของพม่า เจดีย์ทองแห่งชัยชนะบนผืนทรายแห่งเมืองพุกาม สวยงามอลังการทีเดียว รูปทรงของเจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำแบบมอญ เป็นที่บรรจุพระธาตุสำคัญ ๓ ส่วน คือ พระเขี้ยวแก้ว ที่กษัตริย์แห่งศรีลังกาได้นำมาถวาย พระธาตุกระดูกไหล่ ที่นำมาจากเมืองศรีเกษตร (ใกล้เมืองแปร) และ พระธาตุพระนลาฏ (หน้าผาก) เสียดายช่วงที่เราไปเจดีย์มีการซ่อมแซมมีผืนเสื่อคลุมไว้ (ชอบวัสดุหลายๆอย่างของเค้าที่ยังคงทำมาจากธรรมชาติ บ้านเราคงพลาสติกคลุมไว้) พี่ Myo บอกอีก 2 เดือนน่าจะเสร็จ ถึงแดดจะร้อนแต่เราเดินทัศนารอบๆเจดีย์และมีนักท่องเที่ยวพอสมควร
เขาเล่าว่าเมื่อตีกลองใบใหญ่จากด้านหนึ่งของพระเจดีย์ จะไม่สามารถได้ยินเสียงกลองจากด้านตรงข้าม..แต่ไม่ได้ลองตีนะคะ
ต่อกันที่ Bupaya Pagoda ทรงคล้ายน้ำเต้าทอง แต่เดิมถ้าล่องเรือมาตามแม่น้ำอิระวดีแล้วเห็นน้ำเต้าทองแสดงว่าถึงอาณาจักรพุกามแล้ว ช่วงที่เราไปแม่น้ำแห้งพอควร และไม่ได้นั่งเรือล่องแม่น้ำเพราะเวลามีจำกัด แวะเพื่อถ่ายรูปเป็นหลักฐานพอสังเขปแล้วไปต่อค่ะ
มาถึงที่ Ananda Phaya เก่าแก่มา 927 ปีแล้ว ว่ากันว่าเป็นที่สุดของเพชรเม็ดงามแห่งสถาปัตย์พุกาม ซึ่งเป็นศิลปะมอญผสมอินเดีย ภายในมีพระพุทธรูปไม้สักขนาดใหญ่ปิดทองอร่ามประดิษฐานอยู่ทั้ง 4 ทิศ ด้วยความสวยงามที่หาที่เปรียบไม่ได้เมื่อสร้างเสร็จ พระเจ้าญาณสิทธากลัวว่าจะมีใครสร้างซ้ำ จึงสั่งประหารนายช่างทั้งหมดตามพิธีกรรมของพราหมณ์ เศร้าเลย...
ป้ามอญร่าเริงก็เก็บภาพประกอบความอาร์ทของประตูวัดเบาๆซึ่งเป็นประตูโค้ง (arch) ที่มักพบเห็นในสถาปัตยกรรมตะวันตกมากกว่าตะวันออกนี่นา
อ้าววว ต้องไปต่อภาค 2 กันซะแล้ว เรียนเชิญค่ะ https://ppantip.com/topic/36239994