[CR] Backpack เที่ยวพม่า (ตามประสาสาวโสด) @Day 2

Backpacker: Miss Lex and Miss Pam

(ต่อจากกระทู้แรกนะคะ http://ppantip.com/topic/34739594)

หลังจากที่เราเดินทางมาจากย่างกุ้งตอนหนึ่งทุ่ม และมาถึงพุกามตอนประมาณตีห้ากว่าๆ เกือบหกโมงเช้า เราตกลงกับแท๊กซี่เพื่อให้พาไปยังเจดีย์ชเวสันดอร์ ที่เป็นจุดที่เราจะปีนขึ้นไปดูและถ่ายรูปทะเลเจดีย์ เมื่อตกลงราคา(ที่แสนจะแพง แต่ก็เอาวะ คิดว่าคุ้ม)แล้ว ก่อนออกเดินทางเราไปหาซื้อตั๋วรถสำหรับเดินทางต่อไปยังเมืองมัณฑะเลย์ก่อน ปรากฏว่าเราจะต้องออกเดินทางจากพุกามตอน 12.00 น. นั่นแสดงว่าเรามีเวลาในการเที่ยวชมเมืองพุกามแค่ประมาณ 5-6 เท่านั้น!!

ออกเดินทางจาก บขส เมืองพุกาม ผ่านบ้านเรือน ผ่านตัวเมืองพุกาม ไปเรื่อยๆ เกือบ 30 นาที เราก็มาถึงเจดีย์ชเวสันดอร์(เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา) ที่สูงใหญ่มาก มีบันไดให้ไต่ขึ้นได้ 4 ทิศ ชันมากไต่ขึ้นไปถึงตรงกลางหันหลังกลับมามอง ขาสั่นเลยจ๊าา

เราคิดว่ากลุ่มเราเป็นกลุ่มแรกที่ไปถึง เพราะเช้ามาก แต่พอขึ้นไปถึงจุดสูงสุดก็พบว่ามีคนมาก่อนเราหลายคนเลยทีเดียวส่วนมากเป็นตากล้องมืออาชีพ ตอนนั้นยังมืดอยู่มองไม่เห็อะไร เห็แต่เจดีย์ที่เปิดไฟทำให้เห็นเป็เจดีย์สีทองอร่ามท่ามกลางความมือ สวยจริงๆค่ะ


กว่าอาทิตย์จะขึ้นก็ 6.45 น. คนมารอชมเยอะมากก และ...ภาพที่เราเห็นมันคือ "สวรรค์" ชัดๆ อากาศเย็นๆ(เข้าขั้นหนาว) แสงอาทิตย์อ่อนๆ บอลลูนลอยเด่นเบื้อล่างเป็นทะเลเจดีย์สุดลูกหูลูกตา มีหมอกบางๆลอยลอยแทรกอยู่ระหว่างเจดีย์มากมาย โอ้ววว มันยากที่จะหาคำบรรยาย ไว้มีเวลาลองไปสัมผัสกันเอาเองนะจ๊ะ






พอพระอาทิตย์เริ่มขึ้น บอลลูนก็เริ่มมาแต่แต้มท้องฟ้าให้งามหยดไปเลยค่ะ










อีกมุมค่ะ








ลงมาจากเจดีย์เจอเด็กน้อยน่ารักชาวพม่า ขอแชะภาพนิดนึงค่ะ



เราใช้เวลาอยู่ที่ชเวสันดอร์กันนานพอสมควร แล้วก็ออกเดินทางไปชมเจดีย์อื่นๆต่อไป
ที่แรกคือ เจดีย์อนันดาซึ่งชึ้นชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง






เจดีย์นี้มีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือ พระพุทธรูปองค์นี้ ที่เมื่อเรายืนใกล้ๆ เงยหน้ามอง พระพักตร์ท่านจะบึ้ง


และถ้าเราค่อยๆถอยออกมา พระพักตร์ท่าจะค่อยๆยิ้ม น่าทึ่งมากค่ะ


ต่อไปเป็น เจดีย์ชเวสิกอง (1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า)




เจดีย์ธรรมยางจี เป็นเจดีย์ที่ใหญ่โตมากโดดเด่นมากในบรรดาทะเลเจดีย์ แต่เป็นเจดีย์ที่สร้างไม่เสร็จ มีเรื่องเล่าขานกันมาว่าเป็นเจดีย์ที่กษัตริย์สั่งให้สร้างเผื่อไถ่โทษจากการฆ่าพ่อและพี่ชายเพื่อชิงบัลลังก์ แต่การสร้างนั้นทรงรับสั่งว่าอิฐแต่ละก่อนต้องแนบชิดกันห้ามมีช่องว่าง ถ้าสามารถเอาเข็มแทงลงไประหว่างกลางของอิฐ2ก้อนได้ คนสร้างนั้นจะต้องถูกตัดมือ แต่กษัตริย์องค์นี้ก็ครองราชได้แค่ 4 ปี เมื่อท่านสิ้นพระชนประชาชน(ไม่แน่ใจว่าถูกชิงบัลลังค์รึเปล่า) ก็ไม่สร้างเจดีย์ต่อและเจดีย์นี้ก็ไม่ค่อยมีคนมาทำบุญเลย (แต่ทุกวันนี้ก็เป็นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญนะ)







และอีกมากมายหลากหลายเจดีย์ที่เราจำชื่อไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ไม่ว่าจะเป็นเจดีย์น้อยใหญ่ จะถูกสร้างขึ้นด้วยความปราณีต ด้วยความศรัทธาจริงๆ และทุกเจดีย์ในประเทศพม่า เราจะต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าไปเสมอ และต่อไปนี้คือเจดีย์...ที่เราจะชื่อไม่ได้ 55






ระหว่างที่เราชมเจดีย์อยู่ก็มีชาวพม่ามาชวนทาทะนาคา แบบไม่เสียตังค์...แหม่ จะรออะไรหล่ะคะ ก็ทาสิ ทานะคาแท้ๆฝนจากแก่นไม้กันเลยทีเดียว  ผสมน้ำนิดหน่อย แล้วป้าแกก็ละเลงซะเต็มหน้าเลย ด้วยความซึ้งในความใจดีของป้า เลยอุดหนุนผ้าซิ่นกะเสื้อพม่าป้า หมดไป 800 บาท จ๊าาา น้ำตาจะไหล


หมดเวลาสนุกแล้ว เราจึงกลับไปที่ บขส เพื่อนั่งรถจากพุกามไปมัณฑะเลย์ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 6 ชม. รถเป็นรถแอร์ ถือว่าดี แต่ที่ดีกว่าคือ.."เพื่อนร่วมทาง"..คือนางเลอค่า นางเริ่ด นางหล่อ หล่อม๊ากกก หล่อช้างตาย ควายล้ม... ในขณะที่เราอยู่ในคราบไม่ได้อาบน้ำมาตั้งแต่เย็นวานแถมทานาคะเต็มหน้า 55 ตอนนี้เหลือแค่เคี้ยวหมากกับพูดภาษาพม่าก็จะเป็นสาวพม่าโดยสมบูรณ์แบบ แอบแช๊ะภาพด้านหลัง(เสื้อเขียว) มาด้วย ไม่เป็นไร แค่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน(บนรถ) แค่ 6 ชม ก็พอละ55


รถขับได้...เร้าใจมาก เขย่าลืมหลับตับโยกเลยทีเดียว จอดทุกป้าย บีบแตรทุกๆ 10 นาที!! OMG
ถึงเมืองมัณฑะเลย์ เราได้รับบริการอย่างประทับใจจากรถทัวร์เขย่าลืมหลับ นั่นแหละ ไปส่งที่เกสเฮาท์ Yoe Yoe Lay Guesthouse บริการประทับใจมาก บอกเลย ที่นี่เราจะได้อาบน้ำครั้งแรกตั้งแต่มาอยู่ที่ Myanmar และจะได้นอนแบบถูกสุขลักษณะ หัวกะขาเสมอกันเป็นครั้งแรกด้วย ห้องเราเป็นแบบ คือเราพักร่วมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ห้องที่เราได้พักเป็นแบบเตียง 2 ชั้น นอนได้ทั้งหมด 4 คน เรื่อนร่วมห้องของเราเป็นฝรั่ง Backpacker ทั้งคู่ ชาย 1 หญิงหนึ่ง ครั้งแรกที่เจอ ตาผู้ชายถามเราว่า เราเป็นคนพม่ารึ? 55 นางคงเห็นเราทาทะนาคามั้ง เราคิดว่างั้นนะ!!

อาบน้ำเสร็จก็ออกเดินเล่น หาของกินแถวๆ Guesthouse นั่นแหละ
เจอวัดเลยเข้าไปถ่ายรูปซะหน่อย หนุ่มสาวที่นี่ชอบเข้าวัด บ่อยครั้งที่เห็นไปจู๋จี๋กันด้วย


ตลาดยามเย็นที่มัณฑะเลย์


ร้านขายของชำ แอบเห็นพระอยู่ในร้านด้วย พระที่นี่ปฏิบัติค่อนข้างต่างจากไทย เพราะพระสามารถถูกเนื้อน้องตัวผู้หญิงได้ อยู่นอกวัดเวลาค่ำมืดได้


และเมนูแนะนำวันนี้คือ"อาหารร่วมสาบาน" เป็นรถเข็น มีหมูหั่นเป็นชิ้นเล็กๆเสียบไม้ ราคาไม้ละ 50 จ๊าดหรือประมาณ 1.50 บาท มีน้ำจิ้มที่ทุกคนจะจิ้มรวมกัน และมีถ้วยน้ำซุปเล็กๆ ที่ลุงพ่อค้าตักให้แต่ละคน อร่อยเด็ดเลยเมนูนี้!! วันนี้ชิมร้านลุงแค่ 4 ไม้ๆละ 50 จ๊าด(บาทกว่า) เพื่อเก็บท้องไปชิมอย่างอื่นต่อ ปล.แต่ก็ขึ้นอยู่กับร้านด้วยนะ ลองไปชิมร้านอื่นก็ไม่อร่อยเท่าร้านลุงหน้าปากซอยเข้าวัดเลย


เมนูถัดมามีลักษณะคล้ายผัดหมี่บ้านเราที่อุดมไปด้วยโมโนโซเดียม กลูตาเมต!! ขอผ่านเมนูนี้จ๊าา



อ่อนแรงมาทั้งวัน ถึงเวลาต้องพักผ่อนค่ะ

~มิงกาลาบา~ ไว้เจอกันวันที่ 3 นะคะ
ชื่อสินค้า:   พม่า Bagan,Mandalay, Myanmar, pagoda
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่