ตอนที่ 3 มาแล้วค่าาา
ขอฝากตอนที่ 1 เมืองโบราณเฟิ่งหวง ....
https://ppantip.com/topic/39289075 และตอนที่ 2 เทียนเมินซาน ....
https://ppantip.com/topic/39316468 ด้วยนะคะ
ต่อจากตอนที่ 2 คืนที่สาม เราพักกันที่ Zhangjiajie haolaiwu inn ซึ่งเป็นที่พักที่อยู่ใกล้ประตู Tianzi mountain เหตุผลที่พักด้านนี้เพราะหลีกเลี่ยงที่จะเจอคนจำนวนมากที่มักจะเข้าประตู wulingyuan แล้วขึ้นลิฟต์แก้ว ต่อด้วยเที่ยวโซน yuanjiajie จากที่อ่านรีวิวมาลิฟต์แก้วคนเยอะมากทำให้ไม่เห็นวิวอะไรเลย แล้วก็ใช้เวลาเสี่ยวนาที พวกเราเลยตัดลิฟต์แก้วออกไป นอกจากเหตุผลเรื่องจำนวนคนแล้ว พวกเราอยากไป Tianbo mansion อยู่ในโซน yangjiajie ซึ่งอยู่ใกล้ Tianzi mountain
วันที่ 4 อู่หลิงหยวน (Zhangjiajie National Forest Park) โซนบน
อู่หลิงหยวน หรืออุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ของจีน ซึ่ง 5A หมายถึงสวยงามที่สุด และยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย มีจุดท่องเที่ยวต่างๆมากมายอยู่ทั่วอุทยาน การเดินทางสะดวก มีทั้ง cable car รถบัส ลิฟต์แก้ว
เช้าวันที่ 4 พวกเรานัดกับเจ้าของที่พักไว้ว่าจะลงมาทานมื้อเช้าประมาณ 7 โมงเช้า นี่คือหน้าตาอาหารเช้าที่เจ้าของที่พักทำให้เรากิน มันคือข้าวผัดไข่ที่ใส่เต้าเจี้ยวลงไปด้วย อร่อยมาก เสริฟมาพร้อมแป้งคล้ายๆแป้งโรตีนุ่มๆๆ
เมื่ออิ่มท้องแล้ว เจ้าของที่พักก็วางแผนการเที่ยวอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยให้พวกเรา โดยเราบอกเค้าว่าเรามีเวลาเที่ยวที่อุทยาน 2 วัน โดยคืนที่ 4 เราจะไปพักที่โซนล่าง ใกล้ประตู wulingyuan (ด้านบนซ้ายของรูป)
โดยในวันแรก เค้าวางแผนให้เราเที่ยวโซน yuanjiajie ก่อน เนื่องจากถ้าไปถึงเร็วคนที่มาจากประตู wulingyuan แล้วขึ้นลิฟต์แก้วอาจจะมาถึงยังไม่เยอะ แล้วค่อยไปต่อโซน yangjiajie ซึ่งเป็นโซน hilight ที่พวกเราตั้งใจมาพักด้าน Tianzi mountain ก็เพื่อจะมาเที่ยวโซนนี้นี่แหละ และปิดท้ายด้วยโซน helong park แล้วนั่ง cable car ลงไปยังประตู wulingyuan เข้าที่พัก (วันแรกจะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมสีดำ)
และวันที่ 2 เข้าประตู wulingyuan เที่ยว ten mile gallery ต่อด้วย golden whip stream เดิน 7.5 กิโล แล้วไปจบที่ประตู forest park
ประมาณ 8 โมงเช้า เจ้าของที่พักขับรถมาส่งพวกเราที่ประตู Tianzi mountain ซึ่งห่างจากที่พักไม่ถึง 5 นาที คนน้อยตามคาดจริงๆๆ ซื้อตั๋วแบบไม่ต้องต่อแถวเลย ค่าตั๋วเข้าอุทยาน คนละ 228 หยวน (ประมาณ 1000 บาท) เที่ยวได้ 4 วัน คือถ้าใครจะเที่ยวครบทั้งอุทยานก็ถือว่าคุ้มมาก เพราะภายในอุทยานมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีมาก ทั้งรถบัสที่ดูใหม่ ไม่สกปรก มีรองรับนักท่องเที่ยวตลอด ขับรถปลอดภัย ห้องน้ำจำนวนมากในแต่ละจุด สะอาดใช้ได้ ของกินมีซุ้มจำหน่ายอยู่หลายจุด ราคาอาหารรับได้
บรรยากาศหน้าประตู Tianzi mountain
การเดินทางจาก Tianzi mountain ไปยัง yangjiajie เป็นดังนี้ ประตู tianzi mountain>>ขึ้นบัสไปลง san cha ken parking>>แล้วต่อบัสอีกคันไปยัง yangjiajie parking ตามรูป
ถึงจุดจอดรถ
yuanjiajie ประมาณ 9 โมง ที่จุดนี้มีซุ้มขายอาหาร มีห้องน้ำ มีร้านขายของที่ระลึก ไว้ให้บริการด้วย
จากจุดนี้เราจะเดินเป็นวงกลม แล้วมาจบที่จุดเดิม โดยจุดที่น่าสนใจก็มี สะพานใต้หล้าอันดับหนึ่ง (number one bridge in the world), Avatar mountain, ten-li painting scroll ในรูปอาจจะดูไม่มีคน แต่จริงๆแล้วนักท่องเที่ยวชาวจีนเยอะพอสมควร โชคดีที่เรามาถึงเร็ว ยังพอถ่ายรูปให้ไม่ติดคนได้
ใช้เวลาในโซนนี้ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง พวกเราก็มากินมื้อเที่ยงตอนสิบโมงกว่ากันที่ร้านค้าบริเวณจุดจอดรถ เมื่ออิ่มท้องก็นั่งรถบัสไปยัง yangjiajie parking เมื่อถึง yangjiajie ก็อดเสียดาย ไม่น่ากินมาก่อนเลย เพราะจุดนี้มีร้านขายอาหารเยอะกว่า หลากหลายกว่า และคนก็น้อยกว่า
การเดินทางมาโซน yangjiajie นอกจากจะเดินทางมาจากประตู tianzi mountain แล้ว ยังสามารถมาทางประตู yangjiajie แล้วนั่ง cable car มาก็ได้ ก็จะมาเจอที่จุดเดียวกัน
จุดหมายต่อไปที่เป็น hilight ของโซนนี้ก็คือ Tianbo mansion ซึ่งเพื่อนเราที่รีวิวมา บอกว่าสวยมาก แต่ๆๆ สิ่งที่พวกเราไม่รู้คือ เส้นทางที่เดินไปไม่ง่ายเลย
ช่วงแรกๆทางเดินดูดีอยู่ เดินขึ้น-ลงบันไดสลับกันไป
จุดนี้เป็นทางเดินทางเดียว แต่ก็มีบางคนเดินสวนมานะ ทั้งๆที่ป้ายก็เขียนไว้ชัดเจน
เดินมาเรื่อยๆ ก็เห็นซุ้มจุดชมวิวของ tainbo mansion อยู่ใกล้ๆละ กว่าจะถึงจุดนี้ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง
จากจุดนี้ไปถึงจุดชมวิวด้านบนทางเดินค่อยข้างลำบาก ทางเดินส่วนใหญ่สวนกันไม่ได้ ก็สลับกันเดินระหว่างคนที่จะขึ้นไปจุดชมวิว กับคนที่เดินลงมาจากจุดชมวิว มีจุดที่ต้องปีน ประมาณ 2 ช่วง สองมือเกาะให้แน่น ตกไปนี่กว่าเดินกลับออกไปได้ไม่ใช่ง่ายๆ เราไม่ได้ถ่ายรูปเลย มีแค่รูปนี้ที่เพื่อนถ่ายไว้
ถึงแล้ววววว Tianbo mansion เป็นจุดชมวิวที่แท่งหินเรียงกันคล้ายกำแพง มากกว่า 20 แท่ง ความสูงประมาณ 80-300 เมตร สวยจริงๆสมคำล่ำลือ ของจริงสวยกว่าในรูปมาก ใครที่มีโอกาสไปอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย แนะนำว่าควรจะต้องมา (แต่ต้องมาเองนะ ทัวร์ไม่พามาแน่ๆๆ)
ถ่ายรูป เก็บบรรยากาศกันเสร็จ ก็เดินกลับไปยัง yangjiajie parking เพื่อขึ้นรถบัสไปยัง Helong park พวกเราถึง helong park ประมาณ บ่ายสองโมงครึ่ง
บริเวณด้านหลังอนุสาวรีย์นายพลเฮอหลง จะมีบันไดเดินลงไปยังจุดชมวิว stone peak forest ทั้งหมด 4 จุด
จุดนี้จุดแรกเลย อยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์นายพล วิวสวยมาก แต่คนก็มากเช่นกัน
เมื่อเดินถึง แมคโดนัล เดินเลยไปอีกนิด จะมีจุดชมวิวอีกจุด ชื่อ the fairy maiden presenting flowers
จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถบัส บริเวณด้านหลังแมคโดนัล เพื่อขึ้น cable car ไปยังประตู wulingyuan แล้วเข้าที่พัก
ถึงจุดขึ้น cable car ประมาณ 4 โมงเย็น บรรยากาศที่ cable car คนน้อยมาก ได้นั่งกันแค่ 3 คน ค่าตั๋ว 72 หยวน ใช้เวลาบนนั้นประมาณ 15-20 นาที
วิวที่เห็นจากบนกระเช้า สวยไม่แพ้มองจากด้านบน
เมื่อถึงสถานีด้านล่างของ cable car ก็นั่งบัสอีก 1 ต่อ ไปยังประตู wulingyuan
จากประตู wulingyuan ก็เปิด google map เดินไปที่พัก จากประตูเดินตรงไปจะเจอวงเวียน เมื่อถึงวงเวียนให้เลี้ยวซ้าย ที่พักคืนที่ 4 ของพวกเราคืนนี้อยู่ใกล้กับ wulingyuan bus station เลย ห่างกันประมาณ 200 เมตร
ที่พักคืนสุดท้าย ชื่อว่า
Guihau road 106th hostel ราคาคืนละ 60 หยวนต่อคน พวกเราจองห้องพักสำหรับ 3 คนไว้
ลืมบอกไปว่า กระเป๋าเดินทาง เราให้เจ้าของที่พักที่ zhangjiajie haolaiwu inn ส่งมาที่ guihau road 106th hostel ค่าเสียหายใบละ 30 หยวน การมีบริการส่งกระเป๋าทำให้การเที่ยวของพวกเราสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องย้อนไปมา
เมื่อเก็บของกันเสร็จ เรามีแพลนไปกินมื้อเย็นที่ถนนคนเดิน ซีปูเจีย ถามเจ้าของที่พัก เค้าบอกว่าสามารถขึ้นรถเมล์สาย 2 ไปได้ ให้รอรถที่ป้ายรถเมล์หน้าสถานีขนส่งได้ เดินไปถึงป้าย รถเมล์สาย 2 ก็มาพอดี ค่ารถเมล์ 2 หยวน หยอดเงินที่ประตูหน้า (ไม่มีทอนนะ) สภาพรถเมล์ที่นี่ดีมากนะ ดีกว่าบ้านเราเยอะ นั่งไปสักพัก อ่าว รถมาจอดที่หน้าประตู wulingyuan อยู่เกือบ 15 นาที น่าจะเป็นท่ารถที่รอรับคน เมื่อรถออกจากท่า อ่าว อีกรอบ วนมาหน้าที่พักนิ เลยทำให้รู้ว่าการเดินทางจากประตู wulingyan ไปที่พักสามารถขึ้นรถเมล์สาย 2 ได้ และการไปถนนคนเดิน ซีปูเจีย จากที่พัก ต้องขึ้นรถเมล์ที่ฝั่งตรงข้ามกับที่พัก
นั่งรถเมล์มาแป้บเดียว คนขับรถก็บอกว่าถึง ซีปูเจียแล้ว ถนนคนเดินมีร้านอาหารจีนอยู่เต็มสองฝั่งถนน ใกล้ๆกับแม่น้ำจะมีร้านค้าขายของฝาก ขนมอยู่หลายร้านเลย พวกเราก็เดินเล่นซื้อของกันสักพัก ก็ถามร้านค้าที่เราซื้อของนั่นแหละว่ามีร้านอาหารแนะนำมั้ย เค้าแนะนำร้าน ร้านนึง แต่จำชื่อไม่ได้ อยู่ตรงหัวมุมเลย เป็นแนวๆอาหารไทย แต่คนเยอะมาก พนักงานน้อย เดินเข้าไปแล้วแหละ แล้วเดินกลับออกมา เพราะไม่รู้ว่าจะได้กินตอนกี่โมง
พวกเราเดินย้อนขึ้นมาจากทางแม่น้ำ เดินซุ่มๆมาเจอร้านนี้ เดินเข้าซอยมาอยู่ขวามือ
หน้าปากซอย ด้านซ้ายขายเป็ด ด้านขวาหน้าร้านมีตีกลองโชว์อยู่
เมนูอาหารที่สั่งยังคง concept เดิม เน้นหมู ไก่ และเมนูผัด ไม่สั่งแกง
อันนี้ไข่เจียว
อันนี้กระดูกหมู ผัดเค็มๆๆ
ผัดกระหล่ำปลี น้ำมันเยิ้มมาก
อาหารทั้งสามอย่างอร่อยถูกปากมาก ติดแค่มันมากไปหน่อย
กินเสร็จก็เดินหาของไว้กินกันมื้อเช้า พวกเราได้ขนมปังจากร้านเบเกอรี่ แล้วก็นมโยเกิร์ต อ่อ ที่นี่ไม่มีร้านสะดวกซื้อนะ มีแต่ร้านโชห่วย ซื้อขนมกันเสร็จก็เรียก taxi กลับที่พัก ค่า taxi คนละ 10 หยวน
[CR] จีนจ๋าพี่มาแล้ว ตอนที่ 3 อู่หลิงหยวน (Zhangjiajie National Forest Park)
ขอฝากตอนที่ 1 เมืองโบราณเฟิ่งหวง .... https://ppantip.com/topic/39289075 และตอนที่ 2 เทียนเมินซาน .... https://ppantip.com/topic/39316468 ด้วยนะคะ
ต่อจากตอนที่ 2 คืนที่สาม เราพักกันที่ Zhangjiajie haolaiwu inn ซึ่งเป็นที่พักที่อยู่ใกล้ประตู Tianzi mountain เหตุผลที่พักด้านนี้เพราะหลีกเลี่ยงที่จะเจอคนจำนวนมากที่มักจะเข้าประตู wulingyuan แล้วขึ้นลิฟต์แก้ว ต่อด้วยเที่ยวโซน yuanjiajie จากที่อ่านรีวิวมาลิฟต์แก้วคนเยอะมากทำให้ไม่เห็นวิวอะไรเลย แล้วก็ใช้เวลาเสี่ยวนาที พวกเราเลยตัดลิฟต์แก้วออกไป นอกจากเหตุผลเรื่องจำนวนคนแล้ว พวกเราอยากไป Tianbo mansion อยู่ในโซน yangjiajie ซึ่งอยู่ใกล้ Tianzi mountain
วันที่ 4 อู่หลิงหยวน (Zhangjiajie National Forest Park) โซนบน
อู่หลิงหยวน หรืออุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ของจีน ซึ่ง 5A หมายถึงสวยงามที่สุด และยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย มีจุดท่องเที่ยวต่างๆมากมายอยู่ทั่วอุทยาน การเดินทางสะดวก มีทั้ง cable car รถบัส ลิฟต์แก้ว
เช้าวันที่ 4 พวกเรานัดกับเจ้าของที่พักไว้ว่าจะลงมาทานมื้อเช้าประมาณ 7 โมงเช้า นี่คือหน้าตาอาหารเช้าที่เจ้าของที่พักทำให้เรากิน มันคือข้าวผัดไข่ที่ใส่เต้าเจี้ยวลงไปด้วย อร่อยมาก เสริฟมาพร้อมแป้งคล้ายๆแป้งโรตีนุ่มๆๆ
เมื่ออิ่มท้องแล้ว เจ้าของที่พักก็วางแผนการเที่ยวอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยให้พวกเรา โดยเราบอกเค้าว่าเรามีเวลาเที่ยวที่อุทยาน 2 วัน โดยคืนที่ 4 เราจะไปพักที่โซนล่าง ใกล้ประตู wulingyuan (ด้านบนซ้ายของรูป)
โดยในวันแรก เค้าวางแผนให้เราเที่ยวโซน yuanjiajie ก่อน เนื่องจากถ้าไปถึงเร็วคนที่มาจากประตู wulingyuan แล้วขึ้นลิฟต์แก้วอาจจะมาถึงยังไม่เยอะ แล้วค่อยไปต่อโซน yangjiajie ซึ่งเป็นโซน hilight ที่พวกเราตั้งใจมาพักด้าน Tianzi mountain ก็เพื่อจะมาเที่ยวโซนนี้นี่แหละ และปิดท้ายด้วยโซน helong park แล้วนั่ง cable car ลงไปยังประตู wulingyuan เข้าที่พัก (วันแรกจะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมสีดำ)
และวันที่ 2 เข้าประตู wulingyuan เที่ยว ten mile gallery ต่อด้วย golden whip stream เดิน 7.5 กิโล แล้วไปจบที่ประตู forest park
ประมาณ 8 โมงเช้า เจ้าของที่พักขับรถมาส่งพวกเราที่ประตู Tianzi mountain ซึ่งห่างจากที่พักไม่ถึง 5 นาที คนน้อยตามคาดจริงๆๆ ซื้อตั๋วแบบไม่ต้องต่อแถวเลย ค่าตั๋วเข้าอุทยาน คนละ 228 หยวน (ประมาณ 1000 บาท) เที่ยวได้ 4 วัน คือถ้าใครจะเที่ยวครบทั้งอุทยานก็ถือว่าคุ้มมาก เพราะภายในอุทยานมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีมาก ทั้งรถบัสที่ดูใหม่ ไม่สกปรก มีรองรับนักท่องเที่ยวตลอด ขับรถปลอดภัย ห้องน้ำจำนวนมากในแต่ละจุด สะอาดใช้ได้ ของกินมีซุ้มจำหน่ายอยู่หลายจุด ราคาอาหารรับได้
บรรยากาศหน้าประตู Tianzi mountain
การเดินทางจาก Tianzi mountain ไปยัง yangjiajie เป็นดังนี้ ประตู tianzi mountain>>ขึ้นบัสไปลง san cha ken parking>>แล้วต่อบัสอีกคันไปยัง yangjiajie parking ตามรูป
ถึงจุดจอดรถ yuanjiajie ประมาณ 9 โมง ที่จุดนี้มีซุ้มขายอาหาร มีห้องน้ำ มีร้านขายของที่ระลึก ไว้ให้บริการด้วย
จากจุดนี้เราจะเดินเป็นวงกลม แล้วมาจบที่จุดเดิม โดยจุดที่น่าสนใจก็มี สะพานใต้หล้าอันดับหนึ่ง (number one bridge in the world), Avatar mountain, ten-li painting scroll ในรูปอาจจะดูไม่มีคน แต่จริงๆแล้วนักท่องเที่ยวชาวจีนเยอะพอสมควร โชคดีที่เรามาถึงเร็ว ยังพอถ่ายรูปให้ไม่ติดคนได้
ใช้เวลาในโซนนี้ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง พวกเราก็มากินมื้อเที่ยงตอนสิบโมงกว่ากันที่ร้านค้าบริเวณจุดจอดรถ เมื่ออิ่มท้องก็นั่งรถบัสไปยัง yangjiajie parking เมื่อถึง yangjiajie ก็อดเสียดาย ไม่น่ากินมาก่อนเลย เพราะจุดนี้มีร้านขายอาหารเยอะกว่า หลากหลายกว่า และคนก็น้อยกว่า
การเดินทางมาโซน yangjiajie นอกจากจะเดินทางมาจากประตู tianzi mountain แล้ว ยังสามารถมาทางประตู yangjiajie แล้วนั่ง cable car มาก็ได้ ก็จะมาเจอที่จุดเดียวกัน
จุดหมายต่อไปที่เป็น hilight ของโซนนี้ก็คือ Tianbo mansion ซึ่งเพื่อนเราที่รีวิวมา บอกว่าสวยมาก แต่ๆๆ สิ่งที่พวกเราไม่รู้คือ เส้นทางที่เดินไปไม่ง่ายเลย
ช่วงแรกๆทางเดินดูดีอยู่ เดินขึ้น-ลงบันไดสลับกันไป
จุดนี้เป็นทางเดินทางเดียว แต่ก็มีบางคนเดินสวนมานะ ทั้งๆที่ป้ายก็เขียนไว้ชัดเจน
เดินมาเรื่อยๆ ก็เห็นซุ้มจุดชมวิวของ tainbo mansion อยู่ใกล้ๆละ กว่าจะถึงจุดนี้ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง
จากจุดนี้ไปถึงจุดชมวิวด้านบนทางเดินค่อยข้างลำบาก ทางเดินส่วนใหญ่สวนกันไม่ได้ ก็สลับกันเดินระหว่างคนที่จะขึ้นไปจุดชมวิว กับคนที่เดินลงมาจากจุดชมวิว มีจุดที่ต้องปีน ประมาณ 2 ช่วง สองมือเกาะให้แน่น ตกไปนี่กว่าเดินกลับออกไปได้ไม่ใช่ง่ายๆ เราไม่ได้ถ่ายรูปเลย มีแค่รูปนี้ที่เพื่อนถ่ายไว้
ถึงแล้ววววว Tianbo mansion เป็นจุดชมวิวที่แท่งหินเรียงกันคล้ายกำแพง มากกว่า 20 แท่ง ความสูงประมาณ 80-300 เมตร สวยจริงๆสมคำล่ำลือ ของจริงสวยกว่าในรูปมาก ใครที่มีโอกาสไปอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย แนะนำว่าควรจะต้องมา (แต่ต้องมาเองนะ ทัวร์ไม่พามาแน่ๆๆ)
ถ่ายรูป เก็บบรรยากาศกันเสร็จ ก็เดินกลับไปยัง yangjiajie parking เพื่อขึ้นรถบัสไปยัง Helong park พวกเราถึง helong park ประมาณ บ่ายสองโมงครึ่ง
บริเวณด้านหลังอนุสาวรีย์นายพลเฮอหลง จะมีบันไดเดินลงไปยังจุดชมวิว stone peak forest ทั้งหมด 4 จุด
จุดนี้จุดแรกเลย อยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์นายพล วิวสวยมาก แต่คนก็มากเช่นกัน
เมื่อเดินถึง แมคโดนัล เดินเลยไปอีกนิด จะมีจุดชมวิวอีกจุด ชื่อ the fairy maiden presenting flowers
จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถบัส บริเวณด้านหลังแมคโดนัล เพื่อขึ้น cable car ไปยังประตู wulingyuan แล้วเข้าที่พัก
ถึงจุดขึ้น cable car ประมาณ 4 โมงเย็น บรรยากาศที่ cable car คนน้อยมาก ได้นั่งกันแค่ 3 คน ค่าตั๋ว 72 หยวน ใช้เวลาบนนั้นประมาณ 15-20 นาที
วิวที่เห็นจากบนกระเช้า สวยไม่แพ้มองจากด้านบน
เมื่อถึงสถานีด้านล่างของ cable car ก็นั่งบัสอีก 1 ต่อ ไปยังประตู wulingyuan
จากประตู wulingyuan ก็เปิด google map เดินไปที่พัก จากประตูเดินตรงไปจะเจอวงเวียน เมื่อถึงวงเวียนให้เลี้ยวซ้าย ที่พักคืนที่ 4 ของพวกเราคืนนี้อยู่ใกล้กับ wulingyuan bus station เลย ห่างกันประมาณ 200 เมตร
ที่พักคืนสุดท้าย ชื่อว่า Guihau road 106th hostel ราคาคืนละ 60 หยวนต่อคน พวกเราจองห้องพักสำหรับ 3 คนไว้
ลืมบอกไปว่า กระเป๋าเดินทาง เราให้เจ้าของที่พักที่ zhangjiajie haolaiwu inn ส่งมาที่ guihau road 106th hostel ค่าเสียหายใบละ 30 หยวน การมีบริการส่งกระเป๋าทำให้การเที่ยวของพวกเราสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องย้อนไปมา
เมื่อเก็บของกันเสร็จ เรามีแพลนไปกินมื้อเย็นที่ถนนคนเดิน ซีปูเจีย ถามเจ้าของที่พัก เค้าบอกว่าสามารถขึ้นรถเมล์สาย 2 ไปได้ ให้รอรถที่ป้ายรถเมล์หน้าสถานีขนส่งได้ เดินไปถึงป้าย รถเมล์สาย 2 ก็มาพอดี ค่ารถเมล์ 2 หยวน หยอดเงินที่ประตูหน้า (ไม่มีทอนนะ) สภาพรถเมล์ที่นี่ดีมากนะ ดีกว่าบ้านเราเยอะ นั่งไปสักพัก อ่าว รถมาจอดที่หน้าประตู wulingyuan อยู่เกือบ 15 นาที น่าจะเป็นท่ารถที่รอรับคน เมื่อรถออกจากท่า อ่าว อีกรอบ วนมาหน้าที่พักนิ เลยทำให้รู้ว่าการเดินทางจากประตู wulingyan ไปที่พักสามารถขึ้นรถเมล์สาย 2 ได้ และการไปถนนคนเดิน ซีปูเจีย จากที่พัก ต้องขึ้นรถเมล์ที่ฝั่งตรงข้ามกับที่พัก
นั่งรถเมล์มาแป้บเดียว คนขับรถก็บอกว่าถึง ซีปูเจียแล้ว ถนนคนเดินมีร้านอาหารจีนอยู่เต็มสองฝั่งถนน ใกล้ๆกับแม่น้ำจะมีร้านค้าขายของฝาก ขนมอยู่หลายร้านเลย พวกเราก็เดินเล่นซื้อของกันสักพัก ก็ถามร้านค้าที่เราซื้อของนั่นแหละว่ามีร้านอาหารแนะนำมั้ย เค้าแนะนำร้าน ร้านนึง แต่จำชื่อไม่ได้ อยู่ตรงหัวมุมเลย เป็นแนวๆอาหารไทย แต่คนเยอะมาก พนักงานน้อย เดินเข้าไปแล้วแหละ แล้วเดินกลับออกมา เพราะไม่รู้ว่าจะได้กินตอนกี่โมง
พวกเราเดินย้อนขึ้นมาจากทางแม่น้ำ เดินซุ่มๆมาเจอร้านนี้ เดินเข้าซอยมาอยู่ขวามือ
หน้าปากซอย ด้านซ้ายขายเป็ด ด้านขวาหน้าร้านมีตีกลองโชว์อยู่
เมนูอาหารที่สั่งยังคง concept เดิม เน้นหมู ไก่ และเมนูผัด ไม่สั่งแกง
อันนี้ไข่เจียว
อันนี้กระดูกหมู ผัดเค็มๆๆ
ผัดกระหล่ำปลี น้ำมันเยิ้มมาก
อาหารทั้งสามอย่างอร่อยถูกปากมาก ติดแค่มันมากไปหน่อย
กินเสร็จก็เดินหาของไว้กินกันมื้อเช้า พวกเราได้ขนมปังจากร้านเบเกอรี่ แล้วก็นมโยเกิร์ต อ่อ ที่นี่ไม่มีร้านสะดวกซื้อนะ มีแต่ร้านโชห่วย ซื้อขนมกันเสร็จก็เรียก taxi กลับที่พัก ค่า taxi คนละ 10 หยวน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้