Day 3
ถึงเวลาต้องบอกลาฉางซา แล้วมุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไป นั่นคือ
เมืองอู่หลิงหยวน ...
เช้านี้ พวกเรารีบออกไปขึ้นรถบัส ที่สถานี West Bus Station
ตามเวลาตั๋วที่ซื้อไว้เมื่อวาน ...
ถึงแล้วก็หาของกินง่ายๆ ที่สถานี เป็นอาหารเช้า
ซึ่งรสชาติก็พอกินได้ น้องชายผมบอกว่า ไส้กรอกที่ซื้อมา ไม่ใช่เนื้อหมู
แต่เป็นแป้งที่มีกลิ่นหมู (ฮา)
ผมก็เลยลองกินดู ใช่แล้ว ... มันคือใส้กรอกแป้ง ...
เดี๋ยวไปกินขนมปังดีกว่า
4-5 ปีก่อน สถานี West Bus Station แห่งนี้ ได้ถูกปรับเป็นฮับขนส่งขนาดใหญ่
ซึ่งรวมเที่ยวรถหลายๆ สายไว้ที่นี่ …
ตอนนี้เราเข้ามาในบริเวณที่พักผู้โดยสารแล้ว
ในบริเวณนี้จะมีชานชลาต่างๆ ต้องดูที่ตั๋วของเราว่าเป็นหมายเลขอะไร
ซึ่งจะขึ้นด้วยตัว X แล้วก็มาดูในบริเวณช่องเข้าชานชาลาที่ตั๋วบอก
เช่น 03, 04, หรือ 05 แล้วเราก็ไปรอ ...
เช่น ของเราจะไปอู่หลิงหยวน เที่ยว 9:30 น.
เราก็ไปขึ้นที่ชานชาลาที่ 3
ถ้ามีสัญญาณป้ายขึ้น ก็ค่อยมาเข้าคิวตรงช่อง
แล้วก็เตรียมตัวออกเดินทางไปอู่หลิงหยวนกันได้
ประตูทางออก (Gate) ขึ้นรถจะเปิดก่อนประมาณ 20 นาที ถ้าเขาเปิดปุ๊ป เราก็ขึ้นมาได้เลย
กระเป๋าเดินทางใหญ่ๆ ก็เก็บไว้ใต้ท้องรถ
ส่วนในตั๋ว ถึงแม้ว่าจะมีระบุหมายเลขที่นั่งอยู่ แต่พอขึ้นมาบนรถ หมายเลขของเราก็มีคนนั่งแล้ว
พวกเราก็เลยหาที่นั่งใหม่ เห็นที่ว่างตรงไหน ก็นั่งนั้นเลย
ระหว่างรถค่อยๆ แล่นออกไป มองไปนอกหน้าต่าว เห็นผู้คนเดินทางมากมาย
คงมาจากหลายๆ ที่ หลายๆ เมือง
คงมีทั้งเข้ามาทำงาน และกลับออกไป
ซึ่งก็เป็นไปตามจุดหมายของแต่ละคน
ฉางซาเป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่มีประชากรราว 7 ล้านคน
มากที่สุดของมณฑลหูหนาน ...
รถบัสพาพวกเราออกจากเมืองฉางซา
มุ่งหน้าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือสู่เขตอู่หลิงหยวน ในเมืองจางเจียเจี้ย ...
"ยาแก้เมาหรอ?" เมื่อเห็นน้องชายหยิบซองยาออกมา
"ใช่ ต้องเมาแน่เลย เพราะเป็นคนเมารถ" น้องตอบ
ผมคิดว่า กันไว้ก่อนก็ดี ...
แต่ผมไม่เมารถ ... ยิ่งถ้ามีกาแฟ หรือขนมนิดๆ หน่อยๆ ก็สบายแล้ว
นั่งไปแบบนี้ 4 ชั่วโมง เบื่อๆ ก็หยิบขนม ลูกอม มากินเล่น แล้วมองวิวไป ก็โอเคละ
บนรถบัสที่จีน ไม่มีห้องน้ำครับ มีแต่ถังขยะที่ใส่ถุงดำไว้ ให้ทิ้งขยะ
(และไว้สำหรับขาก
ซึ่งได้ยินจนชินหูเลย เวลามาเที่ยวจีน)
รถวิ่งไปได้ น่าจะประมาณครึ่งทาง ก็มาจอดพักให้เข้าห้องน้ำ
ผมลังเลอยู่แป๊บนึง กลัวเข้าไปเจอสภาพโหดๆ
แต่แฟนผมวิ่งไปเข้ามาแล้วบอกว่าผ่าน ผมเลยรีบไปเข้าบ้าง
เป็นห้องน้ำชั่วคราว ที่สะอาดพอสมควร
ตึกข้างหลังที่กำลังต่อเติมปรับปรุง อาจเป็นร้านขายของและมีห้องน้ำรองรับ
ซึ่งก็ดูสะดวกสบายดี สำหรับคนเดินทางด้วยรถบัสข้ามเมือง
กับระยะทาง 270 กิโลเมตร หรือประมาณ 4-5 ชั่วโมง
รถบัสก็มาส่งพวกเราที่อำเภออู่หลิงหยวนตามเวลา ...
เกรซ หนึ่งใน host ของพวกเรา มารับและช่วยลากกระเป๋า
จากสถานีรถบัสไปเข้าที่พัก
พวกเราจองที่พัก 4 คืน ในเมืองอู่หลิงหยวน ผ่านแอพ Airbnb
เพราะอยากลองพักแบบกลมกลืนกับคนท้องถิ่นดู ...
และที่สำคัญราคาถูกมาก ! กับอพาร์ตเมนต์ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก
มีทั้งเครื่องซักผ้า / แอร์ ฮีทเตอร์ ทุกห้อง และเครื่องกรองน้ำดื่ม
ตกคืนละ 900 กว่าบาท ถูกและดีขนาดนี้ จนต้องขอไปนั่งคุยกับโฮสต์กันเลย
เดี๋ยวลงไปนั่งคุยกับเขาหน่อยดีกว่า...
เราได้นั่งคุยกับ เอพริล หนึ่งในเจ้าของ A&G Apartment ที่พักของพวกเราในอู่หลิงหยวน
(เอพริล พูดภาษาอังกฤษได้ดีมากๆ เลย)
เอพริล กับ เกรซ (คนที่ไปรับพวกเราที่สถานีรถบัส) ช่วยกันดูแลจัดการที่พักแห่งนี้
ผมถามเอพริลว่า ระะหว่างการพักที่โรงแรมกับ ที่พักสไตล์ Bed and Breakfast (B&B)
อะไรคือสิ่งที่แตกต่างกัน?
ซึ่งเอพริลบอกว่า ปัจจุบันนี้ ที่พักแบบ B&B หรือที่คนจีนเรียกว่า หมินซู่
ได้รับความนิยมในประเทศจีน
โดยสิ่งที่ต่างกันคือ ความใกล้ชิดกับเจ้าของที่พัก
เพราะที่พักในแบบผู้เข้าพักจะได้รับการดูแลที่มาจากเจ้าของโดยตรง
ดังนั้น โฮสต์จึงสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้าพักได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้น ผู้เข้าพักไม่ได้เป็นเพียงแขกที่มาเข้าพัก แต่ยังเป็นเหมือนเพื่อนอีกด้วย
และ เอพริล ยังฝากบอกมาด้วยว่า ที่พัก A&G Apartment ยินดีต้อนรับทุกคนจากทั่วโลก
ที่มาเยี่ยมชมภูเขาอวาตาร ในเขตอู่หลิงหยวน จางเจียเจี้ยตลอดเวลาเลย
และถ้าคุณมีแผนจะไปเที่ยวอู่หลิงหยวน จางเจียเจี้ย
ผมก็ขอร่วมแนะนำ A&G Apartment อีกเสียงครับ
(ไม่มีค่าโฆษณานะครับ มีแต่ความประทับใจ ^^)
หลังจากเช็คอิน เก็บของเรียบร้อย ก็ถึงเวลาออกสำรวจเมืองกันละ ...
อู่หลิงหยวนนเป็นเมืองเล็กๆ ที่สงบ และเดินเล่นได้อย่างสบายๆ
เปรียบเทียบกับฉางซาที่เป็นเมืองใหญ่ มีผู้คนเยอะ ซึ่งดูวุ่นวายกว่ามาก
... ได้ยินมาว่าในอู่หลิงหยวนมี ถนนคนเดินโบราณซีปู้
ลองเดินไปดูหน่อยดีกว่า เผื่อเจอร้านอร่อยๆ เป็นอาหารเย็นคืนนี้ ...
ถนนซีปู้ เป็นตรอกค้าขายมาแต่โบราณ ซึ่งในตอนนี้ ก็มีร้านรวงที่ตกแต่งย้อนยุคแบบโบราณ
ตั้งขายของกิน ของที่ระลึก แต่ตอนที่เรามา ร้านส่วนใหญ่ยังไม่เปิดมากนัก
พวกเราเลยเดินอยู่ไม่นาน ก็เปลี่ยนใจ อยากกลับไปหาของกินกัน ที่ใกล้ๆ อพาร์ตเมนต์ดีกว่า
เวลาเดินกลับจะได้ไม่ไกลมาก
เดินเข้าร้านโน่น ร้านนี้ ไปสองสามร้าน ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง
และทุกร้านไม่มีรูปภาพอาหาร หรือราคาอะไรบอกเราเลย
พวกเราเลยต้องเดินหาต่อไป จนมาเจอร้านหนึ่ง มีรูปอาหารติดเต็มผนังร้าน
ก็เลยเดินเข้าไป ร้านนี้น่านั่งดี อยู่ไม่ไกลที่พัก แถมคนขายอัธยาศัยดี คุยง่าย
โดยใช้แอพ Google Translate สื่อสารกัน ก็พอรู้เรื่อง
บวกกับที่พวกเราเตรียมรูปภาพอาหารที่อยากกินมาด้วย
มื้อนี้ รอดแล้ว อิ่มอร่อย กลับเข้าไปนอนสบายแล้ว คืนนี้
ถ้าอยากชมบันทึกการเดินทางแบบวีดีโอ สามารถชมได้ทางช่องยูทูป CrossCutting Journey ในลิ้งค์ข้างล่างนี้เลยครับ
แล้วถ้าชอบ อย่าลืมกดติดตามช่อง กดไลค์ กดแชร์ พิมพ์คอมเมนต์ทักทายมาเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ^^ ขอบคุณครับ
สำหรับ Day 4 ไปต่อ ในคอมเมนต์ข้างล่างนะครับ ^ ^
CrossCutting Journey #ในที่ซึ่งรู้สึกดี
เที่ยวจีนฤดูใบไม้ร่วง 14 วัน ตอนที่ 2: มุ่งหน้าสู่อู่หลิงหยวน จางเจียเจี้ย Wulingyuan, Hunan, China
Day 3
ถึงเวลาต้องบอกลาฉางซา แล้วมุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไป นั่นคือ
เมืองอู่หลิงหยวน ...
เช้านี้ พวกเรารีบออกไปขึ้นรถบัส ที่สถานี West Bus Station
ตามเวลาตั๋วที่ซื้อไว้เมื่อวาน ...
ถึงแล้วก็หาของกินง่ายๆ ที่สถานี เป็นอาหารเช้า
ซึ่งรสชาติก็พอกินได้ น้องชายผมบอกว่า ไส้กรอกที่ซื้อมา ไม่ใช่เนื้อหมู
แต่เป็นแป้งที่มีกลิ่นหมู (ฮา)
ผมก็เลยลองกินดู ใช่แล้ว ... มันคือใส้กรอกแป้ง ...
เดี๋ยวไปกินขนมปังดีกว่า
4-5 ปีก่อน สถานี West Bus Station แห่งนี้ ได้ถูกปรับเป็นฮับขนส่งขนาดใหญ่
ซึ่งรวมเที่ยวรถหลายๆ สายไว้ที่นี่ …
ตอนนี้เราเข้ามาในบริเวณที่พักผู้โดยสารแล้ว
ในบริเวณนี้จะมีชานชลาต่างๆ ต้องดูที่ตั๋วของเราว่าเป็นหมายเลขอะไร
ซึ่งจะขึ้นด้วยตัว X แล้วก็มาดูในบริเวณช่องเข้าชานชาลาที่ตั๋วบอก
เช่น 03, 04, หรือ 05 แล้วเราก็ไปรอ ...
เช่น ของเราจะไปอู่หลิงหยวน เที่ยว 9:30 น.
เราก็ไปขึ้นที่ชานชาลาที่ 3
ถ้ามีสัญญาณป้ายขึ้น ก็ค่อยมาเข้าคิวตรงช่อง
แล้วก็เตรียมตัวออกเดินทางไปอู่หลิงหยวนกันได้
ประตูทางออก (Gate) ขึ้นรถจะเปิดก่อนประมาณ 20 นาที ถ้าเขาเปิดปุ๊ป เราก็ขึ้นมาได้เลย
กระเป๋าเดินทางใหญ่ๆ ก็เก็บไว้ใต้ท้องรถ
ส่วนในตั๋ว ถึงแม้ว่าจะมีระบุหมายเลขที่นั่งอยู่ แต่พอขึ้นมาบนรถ หมายเลขของเราก็มีคนนั่งแล้ว
พวกเราก็เลยหาที่นั่งใหม่ เห็นที่ว่างตรงไหน ก็นั่งนั้นเลย
ระหว่างรถค่อยๆ แล่นออกไป มองไปนอกหน้าต่าว เห็นผู้คนเดินทางมากมาย
คงมาจากหลายๆ ที่ หลายๆ เมือง
คงมีทั้งเข้ามาทำงาน และกลับออกไป
ซึ่งก็เป็นไปตามจุดหมายของแต่ละคน
ฉางซาเป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่มีประชากรราว 7 ล้านคน
มากที่สุดของมณฑลหูหนาน ...
รถบัสพาพวกเราออกจากเมืองฉางซา
มุ่งหน้าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือสู่เขตอู่หลิงหยวน ในเมืองจางเจียเจี้ย ...
"ยาแก้เมาหรอ?" เมื่อเห็นน้องชายหยิบซองยาออกมา
"ใช่ ต้องเมาแน่เลย เพราะเป็นคนเมารถ" น้องตอบ
ผมคิดว่า กันไว้ก่อนก็ดี ...
แต่ผมไม่เมารถ ... ยิ่งถ้ามีกาแฟ หรือขนมนิดๆ หน่อยๆ ก็สบายแล้ว
นั่งไปแบบนี้ 4 ชั่วโมง เบื่อๆ ก็หยิบขนม ลูกอม มากินเล่น แล้วมองวิวไป ก็โอเคละ
บนรถบัสที่จีน ไม่มีห้องน้ำครับ มีแต่ถังขยะที่ใส่ถุงดำไว้ ให้ทิ้งขยะ
(และไว้สำหรับขาก ซึ่งได้ยินจนชินหูเลย เวลามาเที่ยวจีน)
รถวิ่งไปได้ น่าจะประมาณครึ่งทาง ก็มาจอดพักให้เข้าห้องน้ำ
ผมลังเลอยู่แป๊บนึง กลัวเข้าไปเจอสภาพโหดๆ
แต่แฟนผมวิ่งไปเข้ามาแล้วบอกว่าผ่าน ผมเลยรีบไปเข้าบ้าง
เป็นห้องน้ำชั่วคราว ที่สะอาดพอสมควร
ตึกข้างหลังที่กำลังต่อเติมปรับปรุง อาจเป็นร้านขายของและมีห้องน้ำรองรับ
ซึ่งก็ดูสะดวกสบายดี สำหรับคนเดินทางด้วยรถบัสข้ามเมือง
กับระยะทาง 270 กิโลเมตร หรือประมาณ 4-5 ชั่วโมง
รถบัสก็มาส่งพวกเราที่อำเภออู่หลิงหยวนตามเวลา ...
เกรซ หนึ่งใน host ของพวกเรา มารับและช่วยลากกระเป๋า
จากสถานีรถบัสไปเข้าที่พัก
พวกเราจองที่พัก 4 คืน ในเมืองอู่หลิงหยวน ผ่านแอพ Airbnb
เพราะอยากลองพักแบบกลมกลืนกับคนท้องถิ่นดู ...
และที่สำคัญราคาถูกมาก ! กับอพาร์ตเมนต์ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก
มีทั้งเครื่องซักผ้า / แอร์ ฮีทเตอร์ ทุกห้อง และเครื่องกรองน้ำดื่ม
ตกคืนละ 900 กว่าบาท ถูกและดีขนาดนี้ จนต้องขอไปนั่งคุยกับโฮสต์กันเลย
เดี๋ยวลงไปนั่งคุยกับเขาหน่อยดีกว่า...
เราได้นั่งคุยกับ เอพริล หนึ่งในเจ้าของ A&G Apartment ที่พักของพวกเราในอู่หลิงหยวน
(เอพริล พูดภาษาอังกฤษได้ดีมากๆ เลย)
เอพริล กับ เกรซ (คนที่ไปรับพวกเราที่สถานีรถบัส) ช่วยกันดูแลจัดการที่พักแห่งนี้
ผมถามเอพริลว่า ระะหว่างการพักที่โรงแรมกับ ที่พักสไตล์ Bed and Breakfast (B&B)
อะไรคือสิ่งที่แตกต่างกัน?
ซึ่งเอพริลบอกว่า ปัจจุบันนี้ ที่พักแบบ B&B หรือที่คนจีนเรียกว่า หมินซู่
ได้รับความนิยมในประเทศจีน
โดยสิ่งที่ต่างกันคือ ความใกล้ชิดกับเจ้าของที่พัก
เพราะที่พักในแบบผู้เข้าพักจะได้รับการดูแลที่มาจากเจ้าของโดยตรง
ดังนั้น โฮสต์จึงสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้าพักได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้น ผู้เข้าพักไม่ได้เป็นเพียงแขกที่มาเข้าพัก แต่ยังเป็นเหมือนเพื่อนอีกด้วย
และ เอพริล ยังฝากบอกมาด้วยว่า ที่พัก A&G Apartment ยินดีต้อนรับทุกคนจากทั่วโลก
ที่มาเยี่ยมชมภูเขาอวาตาร ในเขตอู่หลิงหยวน จางเจียเจี้ยตลอดเวลาเลย
และถ้าคุณมีแผนจะไปเที่ยวอู่หลิงหยวน จางเจียเจี้ย
ผมก็ขอร่วมแนะนำ A&G Apartment อีกเสียงครับ
(ไม่มีค่าโฆษณานะครับ มีแต่ความประทับใจ ^^)
หลังจากเช็คอิน เก็บของเรียบร้อย ก็ถึงเวลาออกสำรวจเมืองกันละ ...
อู่หลิงหยวนนเป็นเมืองเล็กๆ ที่สงบ และเดินเล่นได้อย่างสบายๆ
เปรียบเทียบกับฉางซาที่เป็นเมืองใหญ่ มีผู้คนเยอะ ซึ่งดูวุ่นวายกว่ามาก
... ได้ยินมาว่าในอู่หลิงหยวนมี ถนนคนเดินโบราณซีปู้
ลองเดินไปดูหน่อยดีกว่า เผื่อเจอร้านอร่อยๆ เป็นอาหารเย็นคืนนี้ ...
ถนนซีปู้ เป็นตรอกค้าขายมาแต่โบราณ ซึ่งในตอนนี้ ก็มีร้านรวงที่ตกแต่งย้อนยุคแบบโบราณ
ตั้งขายของกิน ของที่ระลึก แต่ตอนที่เรามา ร้านส่วนใหญ่ยังไม่เปิดมากนัก
พวกเราเลยเดินอยู่ไม่นาน ก็เปลี่ยนใจ อยากกลับไปหาของกินกัน ที่ใกล้ๆ อพาร์ตเมนต์ดีกว่า
เวลาเดินกลับจะได้ไม่ไกลมาก
เดินเข้าร้านโน่น ร้านนี้ ไปสองสามร้าน ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง
และทุกร้านไม่มีรูปภาพอาหาร หรือราคาอะไรบอกเราเลย
พวกเราเลยต้องเดินหาต่อไป จนมาเจอร้านหนึ่ง มีรูปอาหารติดเต็มผนังร้าน
ก็เลยเดินเข้าไป ร้านนี้น่านั่งดี อยู่ไม่ไกลที่พัก แถมคนขายอัธยาศัยดี คุยง่าย
โดยใช้แอพ Google Translate สื่อสารกัน ก็พอรู้เรื่อง
บวกกับที่พวกเราเตรียมรูปภาพอาหารที่อยากกินมาด้วย
มื้อนี้ รอดแล้ว อิ่มอร่อย กลับเข้าไปนอนสบายแล้ว คืนนี้
ถ้าอยากชมบันทึกการเดินทางแบบวีดีโอ สามารถชมได้ทางช่องยูทูป CrossCutting Journey ในลิ้งค์ข้างล่างนี้เลยครับ
แล้วถ้าชอบ อย่าลืมกดติดตามช่อง กดไลค์ กดแชร์ พิมพ์คอมเมนต์ทักทายมาเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ^^ ขอบคุณครับ
สำหรับ Day 4 ไปต่อ ในคอมเมนต์ข้างล่างนะครับ ^ ^
CrossCutting Journey #ในที่ซึ่งรู้สึกดี