สวัสดีค่ะ lookchin เองจ้าา กระทู้นี้จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวเมืองจีนกัน
ก่อนอื่นขอฝากกระทู้แรกที่เราเคยเขียนไว้ เกี่ยวกับการไปเที่ยวแอฟริกา
https://ppantip.com/topic/38846352 ฝากติดตามกันด้วยน้าาา
สำหรับกระทู้นี้ เมืองที่เราเลือกไปคือ จางเจียเจี้ย ค่ะ เป็นเมืองที่อยู่ในมณฑลหูหนาน ออกเดินทาง 19-23 กันยายน 2562 แบ่งเป็น
วันที่ 19 จางเจียเจี้ย - เฟิ่งหวง
วันที่ 20 เฟิ่งหวง - จางเจียเจี้ย
วันที่ 21 เที่ยวเทียนเหมินซาน
วันที่ 22 เที่ยวอู่หลิงหยวน (Zhangjiajie National Forest Park) โซนบน
วันที่ 23 เที่ยวอู่หลิงหยวน (Zhangjiajie National Forest Park) โซนล่าง - จางเจียเจี้ย
ทำไมถึงต้องจางเจียเจี้ย
เหตุผลแรกเลยคือ อยากไปจีน แล้วอยากไปเที่ยวแนวธรรมชาติ ให้งบไม่เกิน 2 หมื่นบาท กับวันลาที่มีอยู่แค่ 5 วัน ก็เลยมาลงที่จางเจียเจี้ย
จากนั้นก็มาดูว่า เราจะไปทัวร์ หรือว่าไปกันเอง (เรามีเพื่อนไปด้วยอีก 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นคนวางแผน และหาที่พักทั้งหมด) ไปทัวร์ก็ไม่อยากไปร้านค้ารัฐบาลที่ถูกบังคับให้ไป แต่ทัวร์ที่ไม่ต้องไปร้านค้ารัฐบาลก็มีนะ แต่ราคาจะสูงกว่า ซึ่งแน่นอนแพงกว่า 2 หมื่นที่เราตั้งงบไว้นิดหน่อย พอหาข้อมูลก็คิดว่าถ้าไปเองก็น่าจะคุมงบได้ไม่เกิน 2 หมื่น
เตรียมตัว
- ภาษาจีน เราเองเคยเรียนภาษาจีนมานิดหน่อยเมื่อ 4-5 ปีก่อน เลยได้รับหน้าที่เตรียมชื่อภาษาจีนของสถานที่ที่จะไป เราเตรียมทั้งตัวเขียน ตัวพินอิน แล้วก็รูปสถานที่
- sim เลือกใช้ sim true travel ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาเลย แม้แต่ตอนอยู่กลางป่า สัญญาณดีมาก เล่นได้ทุก app ทั้ง line, facebook, IG, google
สายการบิน
เราเลือกสายการบิน china southern airlines เพราะมีบินตรงไปที่สนามบิน Hehua เมืองจางเจียเจี้ยเลย ค่าตั๋วที่จองผ่านเอเจนซี่ ราคา 9,3xx บาท ที่เลือกบินตรง เพราะอยากให้เวลากับการเที่ยวที่จางเจียเจี้ยอย่างเต็มที่ เพราะถ้าบินไปลงฉางซา จะต้องเสียเวลาเดินทางไป-กลับ จางเจียเจี้ยอีก แล้วเวลาบินโอเคเลย BKK to Hehua 04.40 - 09.05 , Hehua to BKK 22.10 - 00.30 วันไปถึงและวันกลับสามารถเที่ยวได้เต็มวัน
เครื่องบิน เป็นรุ่น airbus A320 ที่นั่ง 3-3 เหมือนเครื่อง low cost บินในประเทศของไทย ที่นั่งกว้างนั่งสบาย
ผู้โดยสารบนเครื่อง ส่วนใหญ่เป็นลูกทัวร์ มีทั้งคนไทยบินไปเที่ยว และคนจีนที่มาเที่ยวไทยแล้วบินกลับบ้านเกิด ที่นั่งบนเครื่องแบ่งโซนกันชัดเจน ขาไปโชคดีหน่อย ที่ที่นั่งของเราอยู่ในโซนคนไทย แต่ขากลับนี่สิได้ที่นั่งที่ถูกล้อมรอบด้วยคนจีน เสียงดังวุ่นวายดี เงียบกันตอนไหนไม่รู้ เพราะเรากินยา แล้วหลับไปก่อน
ตม.จีน
ด้วยความที่ทั้งลำ เป็นกรุ๊ปทัวร์ เราสามคนก็เลยอาจจะเป็นที่จับตามองเป็นพิเศษ มีเจ้าหน้าที่มาประกบตอนเขียนใบเข้าเมืองเลยจ้าาา ถามก่อนเลยว่าพูดจีนได้ไหม เราก็ตอบไปว่าไม่ได้ เค้าเลยถามเป็นภาษาอังกฤษว่าในจางเจียเจี้ยพักที่ไหน ขอดูแพลนเที่ยวหน่อย คือแพลนไม่มีปริ้นไป เพื่อนเราเมมไว้ในหัวอย่างเดียว 555 มีปริ้นแค่แผนที่ที่พัก แล้วก็ชื่อสถานที่ภาษาจีนที่พวกเราจะไปกัน เลยยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้เจ้าหน้าที่ตม.ดู สักพักนางก็เดินหายไป และกลับมาพร้อมโทรศัพท์ไร้สาย โทรติดต่อไปที่ที่พักเลยจ้าาา ว่ามีไท้กั๋ว จองที่พักไว้มั้ย พอคุยกับปลายสายว่ามีมาพักจริงๆ ก็เลยรอดมาได้ (ถ้ามีเอกสารรับรองการทำงานมา ก็น่าจะง่ายกว่านี้ แต่ไม่มีใครเตรียมมาเลย) พอเดินออกมาด้านนอกก็ไม่เจอใครแล้ว สนามบินเงียบมาก กรุ๊ปทัวร์คงขึ้นบัสออกไปกันหมดแล้ว
วันแรก จางเจียเจี้ย - เมืองโบราณเฟิ่งหวง
จากสนามบิน ก็นั่ง taxi ไป bus station ของเมืองจางเจียเจี้ย ราคา 20 หยวน taxi สามารถเรียกได้ที่จุดจอดหน้าสนามบินเลยค่ะ แต่ต้องระวังพวกรถรับจ้างนะ เค้าจะเข้ามาหาไวมาก เรียกราคาสูง เสนอให้เช่ารถของเค้า เค้าจะเป็นไกด์พาไปเฟิ่งหวงเลย
ถึง bus station ประมาณ 10.30น. ก็เข้าไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ก่อน จุดนี้พนักงานจะขอ passport ด้วยนะ ราคาตั๋วไปเฟิ่งหวงอยู่ที่ 80 หยวน รอบรถที่เราได้เป็นรอบถัดไปคือ 12.30น. ระหว่างรอรอบรถเลยหามื้อเที่ยงกินที่ชั้นบนของซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ติดกับ bus station วิธีสั่งอาหารของเราคือ ถ่ายรูปเมนูด้านบน แล้วเอาให้พนักงานดู ใครที่ต้องการขนมก็สามารถซื้อได้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้ได้เลย
สำหรับใครที่ไม่อยากกินอาหารจีน ชั้นล่างก็มีแมคโดนัลให้รองท้องอยู่ ที่ร้านแมคโดนัล มีเมนูภาษาอังกฤษให้เลือกด้วย พนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษพอได้ ส่วนเราแวะเข้าไปกินที่แมคตอนขากลับ
เมื่ออิ่มท้องก็ไปนั่งรอรถ บริเวณที่นั่งรอกลิ่นบุหรี่เยอะมาก
รถบัสที่นั่งไปเฟิ่งหวง เป็นบัสขนาดใหญ่ สามารถเก็บกระเป๋าเดินทางได้ที่ใต้ท้องรถ สำหรับเรื่องที่นั่งก็นั่งตามเลขที่ระบุไว้บนตั๋วได้เลย จากจางเจียเจี้ยใช้เวลาเดินทางถึงเฟิ่งหวงประมาณ สามชั่วโมงครึ่ง พออยู่บนรถเราจะเริ่มเห็นพฤติกรรม ขาก
ของคนจีนทั้งคนหนุ่มสาว ผู้สูงอายุแบบเปิดเผย แต่ไม่ต้องกังวลว่าเค้าจะ
น้ำลายเลอะเทอะนะ บนรถจะมีถังขยะวางไว้ข้างๆที่นั่งเลย นั่งรถมาได้ครึ่งทางก็ถึงจุดแวะเข้าห้องน้ำ ความสะอาดถือว่าโอเคเลย ห้องน้ำมีหลายห้องมาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั่งยอง แต่ก็มีชักโครกด้วย สังเกตได้จากป้ายสัญลักษณ์ที่ติดอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ
เมื่อมาถึง bus station ของเมืองเฟิ่งหวง รถบัสจะจอดด้านบนตรงจุดที่เป็นป้ายภาษาจีนตัวแดงๆ เพื่อนๆสามารถเรียก taxi จากทางเข้าของรถบัสด้านบนได้เลย มี taxi จอดรออยู่ หรือจะเดินลงมาตรงทางเดินที่ติดกับต้นไม้ในรูปก็ได้ เพราะด้านล่าง (จุดที่เราถ่ายรูป) จะเป็นอาคารจำหน่ายตั๋วรถ ซึ่งขากลับไปจางเจียเจี้ยจะต้องมาที่อาคารนี้ ด้านหน้าอาคารจะมี taxi ที่มาส่งผู้โดยสาร ก็สามารถเรียก taxi ต่อได้ แต่ถ้าไม่สะดวกยกกระเป๋าเดินทางลงบันได ก็แนะนำวิธีแรกจะดีกว่า
รูปด้านล่างเราถ่ายไว้ตอนขากลับนะ
รูปด้านล่างนี้ เป็นทางเข้าของรถบัส เดินย้อนออกมาจากที่รถจอด ก็เรียก taxi ได้เลย (วิธีแรก)
เมื่อเรียก taxi ได้ ก็ยื่นที่อยู่ของที่พักให้กับคนขับดู เราเตรียมที่อยู่ที่เป็นภาษาจีนมา คนขับคิดค่ารถ 20 หยวน ตอนแรกคิดว่าจะคนขับจะพาไปถูก วิ่งมาได้สักพัก เค้าก็กดโทรศัพท์โทรไปที่เบอร์ของที่พัก แต่ดูเหมือนจะผิดเบอร์ เราเลยบอกเค้าว่าที่พักอยู่ใกล้สะพาน hongqiao เค้าเลยพาเรามาส่งตรงสะพาน hongqiao จากนั้นก็เดินหาเอง เรา save รูปหน้าที่พักมาจาก booking ด้วย เดินหาอยู่สักพักก็ยังไม่เจอ จนเดินเข้าไปถามคุณป้าคนนึง ชี้ให้เค้าดูรูปที่เรา save มานั่นแหละ เค้าพาเดินไปถึงหน้าที่พักเลย ใจดีมาก
ที่พักที่เราจองไว้ชื่อ Fenghuang Poshan inn เราจองห้องที่นอนได้ 3 คน ราคาคืนละ 176 หยวนต่อคน
ห้องพักสะอาดดีมาก ห้องน้ำเป็นชักโครก ใครไม่ชอบนั่งยอง แนะนำที่นี่เลย
เราแพลนไว้ว่า ช่วงเย็นวันนี้เราจะไปเดินทางด้านที่มีเจดีย์ wanming แล้วเดินกลับมาที่สะพาน rainbow แล้วกลับที่พัก
ส่วนพรุ่งนี้เช้าอีกครึ่งวัน จะเดินไปเที่ยวสะพาน xueqiao ที่มีสะพานไม้ กับสะพานหิน (Jumping rock)
แผนที่เอามาจากเวปนี้ค่ะ
http://www.chinatouradvisors.com/maps/Fenghuang-Tourist-Map-183.html
เจดีย์ด้านขวา คือ เจดีย์ wanming
สะพาน Fengqiao ค่ะ อยู่ถัดจากเจดีย์ wanming
บริเวณริมน้ำจะมีร้านอาหารเรียงรายอยู่เยอะเลยค่ะ ด้านหน้าร้านก็จะมีกรงขังสัตว์ต่างๆวางไว้ แน่นอนพวกเราไม่เลือกเข้าร้านพวกนั้น มันกินไม่ลงจริงๆๆ
สะพาน fengqiao ตอนกลางคืน
สะพาน rainbow
สำหรับอาหารเย็นนั้น ตั้งใจจะไปทานร้านพิชซ่า ที่มีคนเคยรีวิวไว้ แต่หาไม่เจอ เลยเดินเข้าไปในถนนด้านหลังที่ไม่ติดกับแม่น้ำ เจอร้านอาหารร้านนึง ไม่มีกรงสัตว์อยู่หน้าร้าน ก็เลยเลือกร้านนี้เป็นมื้อเย็น เมนูมีแต่ภาษาจีนล้วนๆ เพื่อความปลอดภัยเลยบอกถามเค้าว่าเมนูไหนที่เป็นไก่ กับหมู ก็ได้มา 2 อย่างตามนี้
จานแรกมันคือไก่ ในน้ำซุปอะไรสักอย่าง ความคาดหวังตอนแรก คิดว่าคงมีมาแต่เนื้อไก่แบบเมืองไทย ที่ไหนได้ไก่ทั้งตัวถูกสับลงไปในหม้อนี้ ทั้งปากไก่ ตีนไก่ เครื่องใน มาครบ ใครชอบกินก็ดีไป ส่วนเราเป็นคนไม่ชอบกินเครื่องใน ก็เลือกกินชันที่มีเนื้อติดๆอยู่เอา หม้อนี้ 88 หยวน
จานที่สองเป็นเมนูหมู หน้าตาดี รสชาติดี
มื้อนี้ค่าอาหาร 130 หยวน
ร้านอาหารส่วนใหญ่จะเป็นแบบในรูปเลย มีกรงสัตว์วางอยู่หน้าร้านเลย
วันที่ 2 เฟิ่งหวง - จางเจียเจี้ย
วันนี้เราจะเที่ยวที่เฟิ่งหวงครึ่งวัน และเดินทางกลับไปจางเจียเจี้ย
เราลองสอบถามกับเจ้าของที่พักว่าสามารถจองตั๋วรถบัสกลับจางเจียเจี้ยให้ได้ไหม กว่าจะคุยกันรู้เรื่องคุยผ่านแอพแปลภาษากันนานมาก (คนจีนเค้าจะมีแอพแปลภาษาอยู่ แต่ควรให้เค้าแปล จีนเป็นอังกฤษนะ เพราะความหมายจะถูกต้องกว่าแปลเป็นไทย) สรุปสุดท้ายได้ความว่า เจ้าของที่พักจะออกไปจองตั๋วรถบัสให้ เราให้เค้าจองรอบ 12.30น. ซึ่งเค้าจะให้เป็นตั๋วจองเรามาพร้อมบอกเลขที่นั่ง พอไปถึงที่จุดขายตั๋วจะต้องเอาใบจองไปขึ้นตั๋วจริงที่หน้าเคาน์เตอร์อีกที
อาหารเช้าของที่พัก
หลังจากคุยเรื่องตั๋วรถบัสเรียบร้อย พวกเราก็ออกไปเที่ยวกันต่อ เช้าวันนี้ตั้งใจจะไปถ่ายรูปตรง Jumping rock กัน
เราออกจากที่พักมาตอน ประมาณ 8.30น. คนเยอะมากซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทัวร์คนจีน แต่พอสายๆสัก 10 โมง ทัวร์ไปกันหมด คนก็เริ่มน้อยแล้ว
รูปนี้ถ่ายจากบนสะพาน rainbow น่าจะเป็นมุมมหาชน คนถ่ายกันเยอะมาก เราเลยเข้าไปถ่ายบ้าง
จากสะพาน rainbow เราก็เดินมาเรื่อยๆ จนถึงสะพานไม้ และ jumping rock จากสะพาน rainbow มาถึงบริเวณนี้จะผ่านจุดที่เรียกว่ากำแพงเมือง แต่ตอนนั้นคนเยอะมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปทัวร์ เราเลยเดินเลี่ยงจุดนั้นเดินรอบนอกกำแพงเมืองแทน คนน้อยกว่ากันเยอะ
ตรงสะพานไม้นี้ใครอยากนั่งเรือชมเมืองสามารถขึ้นเรือได้ที่บริเวณนี้ แล้วใครอยากแต่งตัวพื้นเมืองแบบในรูปก็มีชุดให้เช่าเหมือนกัน และใครที่อยากได้รูปสวยๆ จะมีตากล้องคอยแอบถ่ายรูปแล้วมาเสนอขายรูปเช่นกัน
เราเดินมาถึงจุดนี้ก็เดินวกกลับไปที่สะพาน rainbow โดยเลือกเดินถนนด้านหลังที่ไม่ได้ติดกับแม่น้ำ มีร้านขายของเยอะพอสมควร ของที่ขายเราว่าราคาค่อนข้างสูงเพราะอาจจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ต่อราคาได้นะ ส่วนใหญ่เค้าจะลดราคาให้
[CR] จีนจ๋าพี่มาแล้ว ตอนที่ 1 เมืองโบราณเฟิ่งหวง
ก่อนอื่นขอฝากกระทู้แรกที่เราเคยเขียนไว้ เกี่ยวกับการไปเที่ยวแอฟริกา https://ppantip.com/topic/38846352 ฝากติดตามกันด้วยน้าาา
สำหรับกระทู้นี้ เมืองที่เราเลือกไปคือ จางเจียเจี้ย ค่ะ เป็นเมืองที่อยู่ในมณฑลหูหนาน ออกเดินทาง 19-23 กันยายน 2562 แบ่งเป็น
วันที่ 19 จางเจียเจี้ย - เฟิ่งหวง
วันที่ 20 เฟิ่งหวง - จางเจียเจี้ย
วันที่ 21 เที่ยวเทียนเหมินซาน
วันที่ 22 เที่ยวอู่หลิงหยวน (Zhangjiajie National Forest Park) โซนบน
วันที่ 23 เที่ยวอู่หลิงหยวน (Zhangjiajie National Forest Park) โซนล่าง - จางเจียเจี้ย
ทำไมถึงต้องจางเจียเจี้ย
เหตุผลแรกเลยคือ อยากไปจีน แล้วอยากไปเที่ยวแนวธรรมชาติ ให้งบไม่เกิน 2 หมื่นบาท กับวันลาที่มีอยู่แค่ 5 วัน ก็เลยมาลงที่จางเจียเจี้ย
จากนั้นก็มาดูว่า เราจะไปทัวร์ หรือว่าไปกันเอง (เรามีเพื่อนไปด้วยอีก 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นคนวางแผน และหาที่พักทั้งหมด) ไปทัวร์ก็ไม่อยากไปร้านค้ารัฐบาลที่ถูกบังคับให้ไป แต่ทัวร์ที่ไม่ต้องไปร้านค้ารัฐบาลก็มีนะ แต่ราคาจะสูงกว่า ซึ่งแน่นอนแพงกว่า 2 หมื่นที่เราตั้งงบไว้นิดหน่อย พอหาข้อมูลก็คิดว่าถ้าไปเองก็น่าจะคุมงบได้ไม่เกิน 2 หมื่น
เตรียมตัว
- ภาษาจีน เราเองเคยเรียนภาษาจีนมานิดหน่อยเมื่อ 4-5 ปีก่อน เลยได้รับหน้าที่เตรียมชื่อภาษาจีนของสถานที่ที่จะไป เราเตรียมทั้งตัวเขียน ตัวพินอิน แล้วก็รูปสถานที่
- sim เลือกใช้ sim true travel ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาเลย แม้แต่ตอนอยู่กลางป่า สัญญาณดีมาก เล่นได้ทุก app ทั้ง line, facebook, IG, google
สายการบิน
เราเลือกสายการบิน china southern airlines เพราะมีบินตรงไปที่สนามบิน Hehua เมืองจางเจียเจี้ยเลย ค่าตั๋วที่จองผ่านเอเจนซี่ ราคา 9,3xx บาท ที่เลือกบินตรง เพราะอยากให้เวลากับการเที่ยวที่จางเจียเจี้ยอย่างเต็มที่ เพราะถ้าบินไปลงฉางซา จะต้องเสียเวลาเดินทางไป-กลับ จางเจียเจี้ยอีก แล้วเวลาบินโอเคเลย BKK to Hehua 04.40 - 09.05 , Hehua to BKK 22.10 - 00.30 วันไปถึงและวันกลับสามารถเที่ยวได้เต็มวัน
เครื่องบิน เป็นรุ่น airbus A320 ที่นั่ง 3-3 เหมือนเครื่อง low cost บินในประเทศของไทย ที่นั่งกว้างนั่งสบาย
ผู้โดยสารบนเครื่อง ส่วนใหญ่เป็นลูกทัวร์ มีทั้งคนไทยบินไปเที่ยว และคนจีนที่มาเที่ยวไทยแล้วบินกลับบ้านเกิด ที่นั่งบนเครื่องแบ่งโซนกันชัดเจน ขาไปโชคดีหน่อย ที่ที่นั่งของเราอยู่ในโซนคนไทย แต่ขากลับนี่สิได้ที่นั่งที่ถูกล้อมรอบด้วยคนจีน เสียงดังวุ่นวายดี เงียบกันตอนไหนไม่รู้ เพราะเรากินยา แล้วหลับไปก่อน
ตม.จีน
ด้วยความที่ทั้งลำ เป็นกรุ๊ปทัวร์ เราสามคนก็เลยอาจจะเป็นที่จับตามองเป็นพิเศษ มีเจ้าหน้าที่มาประกบตอนเขียนใบเข้าเมืองเลยจ้าาา ถามก่อนเลยว่าพูดจีนได้ไหม เราก็ตอบไปว่าไม่ได้ เค้าเลยถามเป็นภาษาอังกฤษว่าในจางเจียเจี้ยพักที่ไหน ขอดูแพลนเที่ยวหน่อย คือแพลนไม่มีปริ้นไป เพื่อนเราเมมไว้ในหัวอย่างเดียว 555 มีปริ้นแค่แผนที่ที่พัก แล้วก็ชื่อสถานที่ภาษาจีนที่พวกเราจะไปกัน เลยยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้เจ้าหน้าที่ตม.ดู สักพักนางก็เดินหายไป และกลับมาพร้อมโทรศัพท์ไร้สาย โทรติดต่อไปที่ที่พักเลยจ้าาา ว่ามีไท้กั๋ว จองที่พักไว้มั้ย พอคุยกับปลายสายว่ามีมาพักจริงๆ ก็เลยรอดมาได้ (ถ้ามีเอกสารรับรองการทำงานมา ก็น่าจะง่ายกว่านี้ แต่ไม่มีใครเตรียมมาเลย) พอเดินออกมาด้านนอกก็ไม่เจอใครแล้ว สนามบินเงียบมาก กรุ๊ปทัวร์คงขึ้นบัสออกไปกันหมดแล้ว
วันแรก จางเจียเจี้ย - เมืองโบราณเฟิ่งหวง
จากสนามบิน ก็นั่ง taxi ไป bus station ของเมืองจางเจียเจี้ย ราคา 20 หยวน taxi สามารถเรียกได้ที่จุดจอดหน้าสนามบินเลยค่ะ แต่ต้องระวังพวกรถรับจ้างนะ เค้าจะเข้ามาหาไวมาก เรียกราคาสูง เสนอให้เช่ารถของเค้า เค้าจะเป็นไกด์พาไปเฟิ่งหวงเลย
ถึง bus station ประมาณ 10.30น. ก็เข้าไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ก่อน จุดนี้พนักงานจะขอ passport ด้วยนะ ราคาตั๋วไปเฟิ่งหวงอยู่ที่ 80 หยวน รอบรถที่เราได้เป็นรอบถัดไปคือ 12.30น. ระหว่างรอรอบรถเลยหามื้อเที่ยงกินที่ชั้นบนของซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ติดกับ bus station วิธีสั่งอาหารของเราคือ ถ่ายรูปเมนูด้านบน แล้วเอาให้พนักงานดู ใครที่ต้องการขนมก็สามารถซื้อได้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้ได้เลย
สำหรับใครที่ไม่อยากกินอาหารจีน ชั้นล่างก็มีแมคโดนัลให้รองท้องอยู่ ที่ร้านแมคโดนัล มีเมนูภาษาอังกฤษให้เลือกด้วย พนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษพอได้ ส่วนเราแวะเข้าไปกินที่แมคตอนขากลับ
เมื่ออิ่มท้องก็ไปนั่งรอรถ บริเวณที่นั่งรอกลิ่นบุหรี่เยอะมาก
รถบัสที่นั่งไปเฟิ่งหวง เป็นบัสขนาดใหญ่ สามารถเก็บกระเป๋าเดินทางได้ที่ใต้ท้องรถ สำหรับเรื่องที่นั่งก็นั่งตามเลขที่ระบุไว้บนตั๋วได้เลย จากจางเจียเจี้ยใช้เวลาเดินทางถึงเฟิ่งหวงประมาณ สามชั่วโมงครึ่ง พออยู่บนรถเราจะเริ่มเห็นพฤติกรรม ขาก ของคนจีนทั้งคนหนุ่มสาว ผู้สูงอายุแบบเปิดเผย แต่ไม่ต้องกังวลว่าเค้าจะน้ำลายเลอะเทอะนะ บนรถจะมีถังขยะวางไว้ข้างๆที่นั่งเลย นั่งรถมาได้ครึ่งทางก็ถึงจุดแวะเข้าห้องน้ำ ความสะอาดถือว่าโอเคเลย ห้องน้ำมีหลายห้องมาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั่งยอง แต่ก็มีชักโครกด้วย สังเกตได้จากป้ายสัญลักษณ์ที่ติดอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ
เมื่อมาถึง bus station ของเมืองเฟิ่งหวง รถบัสจะจอดด้านบนตรงจุดที่เป็นป้ายภาษาจีนตัวแดงๆ เพื่อนๆสามารถเรียก taxi จากทางเข้าของรถบัสด้านบนได้เลย มี taxi จอดรออยู่ หรือจะเดินลงมาตรงทางเดินที่ติดกับต้นไม้ในรูปก็ได้ เพราะด้านล่าง (จุดที่เราถ่ายรูป) จะเป็นอาคารจำหน่ายตั๋วรถ ซึ่งขากลับไปจางเจียเจี้ยจะต้องมาที่อาคารนี้ ด้านหน้าอาคารจะมี taxi ที่มาส่งผู้โดยสาร ก็สามารถเรียก taxi ต่อได้ แต่ถ้าไม่สะดวกยกกระเป๋าเดินทางลงบันได ก็แนะนำวิธีแรกจะดีกว่า
รูปด้านล่างเราถ่ายไว้ตอนขากลับนะ
รูปด้านล่างนี้ เป็นทางเข้าของรถบัส เดินย้อนออกมาจากที่รถจอด ก็เรียก taxi ได้เลย (วิธีแรก)
เมื่อเรียก taxi ได้ ก็ยื่นที่อยู่ของที่พักให้กับคนขับดู เราเตรียมที่อยู่ที่เป็นภาษาจีนมา คนขับคิดค่ารถ 20 หยวน ตอนแรกคิดว่าจะคนขับจะพาไปถูก วิ่งมาได้สักพัก เค้าก็กดโทรศัพท์โทรไปที่เบอร์ของที่พัก แต่ดูเหมือนจะผิดเบอร์ เราเลยบอกเค้าว่าที่พักอยู่ใกล้สะพาน hongqiao เค้าเลยพาเรามาส่งตรงสะพาน hongqiao จากนั้นก็เดินหาเอง เรา save รูปหน้าที่พักมาจาก booking ด้วย เดินหาอยู่สักพักก็ยังไม่เจอ จนเดินเข้าไปถามคุณป้าคนนึง ชี้ให้เค้าดูรูปที่เรา save มานั่นแหละ เค้าพาเดินไปถึงหน้าที่พักเลย ใจดีมาก
ที่พักที่เราจองไว้ชื่อ Fenghuang Poshan inn เราจองห้องที่นอนได้ 3 คน ราคาคืนละ 176 หยวนต่อคน
ห้องพักสะอาดดีมาก ห้องน้ำเป็นชักโครก ใครไม่ชอบนั่งยอง แนะนำที่นี่เลย
เราแพลนไว้ว่า ช่วงเย็นวันนี้เราจะไปเดินทางด้านที่มีเจดีย์ wanming แล้วเดินกลับมาที่สะพาน rainbow แล้วกลับที่พัก
ส่วนพรุ่งนี้เช้าอีกครึ่งวัน จะเดินไปเที่ยวสะพาน xueqiao ที่มีสะพานไม้ กับสะพานหิน (Jumping rock)
แผนที่เอามาจากเวปนี้ค่ะ http://www.chinatouradvisors.com/maps/Fenghuang-Tourist-Map-183.html
เจดีย์ด้านขวา คือ เจดีย์ wanming
สะพาน Fengqiao ค่ะ อยู่ถัดจากเจดีย์ wanming
บริเวณริมน้ำจะมีร้านอาหารเรียงรายอยู่เยอะเลยค่ะ ด้านหน้าร้านก็จะมีกรงขังสัตว์ต่างๆวางไว้ แน่นอนพวกเราไม่เลือกเข้าร้านพวกนั้น มันกินไม่ลงจริงๆๆ
สะพาน fengqiao ตอนกลางคืน
สะพาน rainbow
สำหรับอาหารเย็นนั้น ตั้งใจจะไปทานร้านพิชซ่า ที่มีคนเคยรีวิวไว้ แต่หาไม่เจอ เลยเดินเข้าไปในถนนด้านหลังที่ไม่ติดกับแม่น้ำ เจอร้านอาหารร้านนึง ไม่มีกรงสัตว์อยู่หน้าร้าน ก็เลยเลือกร้านนี้เป็นมื้อเย็น เมนูมีแต่ภาษาจีนล้วนๆ เพื่อความปลอดภัยเลยบอกถามเค้าว่าเมนูไหนที่เป็นไก่ กับหมู ก็ได้มา 2 อย่างตามนี้
จานแรกมันคือไก่ ในน้ำซุปอะไรสักอย่าง ความคาดหวังตอนแรก คิดว่าคงมีมาแต่เนื้อไก่แบบเมืองไทย ที่ไหนได้ไก่ทั้งตัวถูกสับลงไปในหม้อนี้ ทั้งปากไก่ ตีนไก่ เครื่องใน มาครบ ใครชอบกินก็ดีไป ส่วนเราเป็นคนไม่ชอบกินเครื่องใน ก็เลือกกินชันที่มีเนื้อติดๆอยู่เอา หม้อนี้ 88 หยวน
จานที่สองเป็นเมนูหมู หน้าตาดี รสชาติดี
มื้อนี้ค่าอาหาร 130 หยวน
ร้านอาหารส่วนใหญ่จะเป็นแบบในรูปเลย มีกรงสัตว์วางอยู่หน้าร้านเลย
วันที่ 2 เฟิ่งหวง - จางเจียเจี้ย
วันนี้เราจะเที่ยวที่เฟิ่งหวงครึ่งวัน และเดินทางกลับไปจางเจียเจี้ย
เราลองสอบถามกับเจ้าของที่พักว่าสามารถจองตั๋วรถบัสกลับจางเจียเจี้ยให้ได้ไหม กว่าจะคุยกันรู้เรื่องคุยผ่านแอพแปลภาษากันนานมาก (คนจีนเค้าจะมีแอพแปลภาษาอยู่ แต่ควรให้เค้าแปล จีนเป็นอังกฤษนะ เพราะความหมายจะถูกต้องกว่าแปลเป็นไทย) สรุปสุดท้ายได้ความว่า เจ้าของที่พักจะออกไปจองตั๋วรถบัสให้ เราให้เค้าจองรอบ 12.30น. ซึ่งเค้าจะให้เป็นตั๋วจองเรามาพร้อมบอกเลขที่นั่ง พอไปถึงที่จุดขายตั๋วจะต้องเอาใบจองไปขึ้นตั๋วจริงที่หน้าเคาน์เตอร์อีกที
อาหารเช้าของที่พัก
หลังจากคุยเรื่องตั๋วรถบัสเรียบร้อย พวกเราก็ออกไปเที่ยวกันต่อ เช้าวันนี้ตั้งใจจะไปถ่ายรูปตรง Jumping rock กัน
เราออกจากที่พักมาตอน ประมาณ 8.30น. คนเยอะมากซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทัวร์คนจีน แต่พอสายๆสัก 10 โมง ทัวร์ไปกันหมด คนก็เริ่มน้อยแล้ว
รูปนี้ถ่ายจากบนสะพาน rainbow น่าจะเป็นมุมมหาชน คนถ่ายกันเยอะมาก เราเลยเข้าไปถ่ายบ้าง
จากสะพาน rainbow เราก็เดินมาเรื่อยๆ จนถึงสะพานไม้ และ jumping rock จากสะพาน rainbow มาถึงบริเวณนี้จะผ่านจุดที่เรียกว่ากำแพงเมือง แต่ตอนนั้นคนเยอะมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปทัวร์ เราเลยเดินเลี่ยงจุดนั้นเดินรอบนอกกำแพงเมืองแทน คนน้อยกว่ากันเยอะ
ตรงสะพานไม้นี้ใครอยากนั่งเรือชมเมืองสามารถขึ้นเรือได้ที่บริเวณนี้ แล้วใครอยากแต่งตัวพื้นเมืองแบบในรูปก็มีชุดให้เช่าเหมือนกัน และใครที่อยากได้รูปสวยๆ จะมีตากล้องคอยแอบถ่ายรูปแล้วมาเสนอขายรูปเช่นกัน
เราเดินมาถึงจุดนี้ก็เดินวกกลับไปที่สะพาน rainbow โดยเลือกเดินถนนด้านหลังที่ไม่ได้ติดกับแม่น้ำ มีร้านขายของเยอะพอสมควร ของที่ขายเราว่าราคาค่อนข้างสูงเพราะอาจจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ต่อราคาได้นะ ส่วนใหญ่เค้าจะลดราคาให้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้