เริ่มเรื่องจากพี่ชายโทรมาตอนต้นเดือนสิงหาบอกว่า ไปอินเดียทำบุญชวนม้า(หม่าม้า=แม่) ไปด้วย ช่วงตุลา-พฤศจิกา ครั้งนึงในชีวิต และติดต่อวัดไทยที่นั่นชื่อ วัดไทยพุทธคยา พักที่วัดทำบุญ และขอ Visa ใน Internet ไม่เกิน 24 ชม.รู้ผล สายการบินมี Air Asia บินตรง (เว็บไซต์ของวัดและเว็บขอ Visa ก็ไม่ได้ให้มา ข้อมูลเบื้องต้นที่บอกมามีแค่นี้เลย)
ความกังวลเกิดทันที ข้อมูลการเดินทางก็ยังไม่มี ไม่รู้สัญญาณ Internet เป็นยังไง จะเปิด Google Map ได้ต่อเนื่องมั้ย และก็เริ่มหาข้อมูลคร่าวๆเจอ สกปรก ฝุ่นเยอะ เดินทางค่อนข้างลำบาก Internet ไม่เสถียร คนขับแท๊กซี่ขี้โกง แลกเงินไปแบงค์500รูปีใช้ไม่ได้เลิกใช้แบงค์รุ่นนี้ไปแล้ว ฯลฯ ความกังวลมามากกว่าเดิมอีก คิดไปคิดมา เอา!! ไปก็ไป ด้วยความคิดที่ว่า พาม้าไปทำบุญ ทีนี้จึงอยากจะแชร์ข้อมูลที่ใครจะเดินทางไปและเกิดความกังวลเหมือนที่ จขกท.เป็นมาก่อน โดยในข้อมูลบางอย่างจะเหมือนกระทู้อื่นๆที่แนะนำมาก่อนหน้า และข้อมูลบางอย่างอาจจะหาไม่เจอเลยเกี่ยวกับการไปทำบุญที่ พุทธคยา หรือ อำเภอคยา (GAYA) รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
คราวนี้จะขอเล่ารายละเอียดแต่ละขั้นตอนเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนที่ต้องการจะเดินทางไปทำบุญที่คยาแบบไปกันเอง และ จขกท.เจออะไรมาบ้างใน 4 วัน เริ่มต้นจะต้องขอ Visa ก่อน จขกท. ขอ e-Visa แบบนักท่องเที่ยว 30 วัน Visa ขอวันนี้ไม่เกิน 24 ชม.เค้าก็ Mail กลับมาบอกว่า ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน หลังจากที่ Visa ผ่านแล้ว ระยะเวลาของการใช้ Visa e-Tourist 30 วันจะเริ่มนับวันแรกคือวันที่มาถึงประเทศอินเดีย เตรียมขอล่วงหน้าก่อนได้เลย
การทำเรื่องขอ Visa อินเดีย
ต้องขอบคุณกระทู้พันธ์ทิพย์หลายๆ กระทู้มากที่แนะนำการกรอกขอ Visa India ในระบบ Internet ในที่นี้ขอแนบลิงค์ให้แล้วกัน
https://indianvisaonline.gov.in/evisa/tvoa.html เพราะกระทู้อื่นๆ แนะนำไว้อย่างดีแล้ว พอเปิดเว็บไซต์ให้คลิกด้านล่างที่เขียนว่า Apply here for e-visa มีเคล็ดในการเตรียมกรอกข้อมูลคือ
1.ให้เตรียมรูปถ่าย 2 นิ้วไว้ พื้นหลังสีขาว หากไม่มีเครื่องสแกนก็เอามือถือถ่ายจากรูป 2 นิ้วก็ได้ แต่หากไม่มีรูป (ไม่ได้ไปถ่ายที่ร้านถ่ายรูป) ให้เอากล้องมือถือเนี่ยะแหละถ่ายรูปหน้าตรงพื้นหลังสีขาว กะขนาดให้ได้เป็นรูปขนาด 2 นิ้ว (จากหัวถึงอกโดยประมาณ) ถ่ายให้ชัดเจนให้เหมือนเราถ่ายที่ร้านถ่ายรูป ขนาดไฟล์ของ จขกท. เป็นไฟล์.jpg ขนาดที่ทำไว้ประมาณ 150KB.+-นิดหน่อย(ความละเอียดของภาพที่เค้าต้องการ300dpi)
2.เอามือถือถ่ายหน้า Passport ที่มีรูปหน้าเรา และแปลงไฟล์ภาพให้เป็นไฟล์ .pdf เท่านั้น (จขกท.แปลงรูปในคอม แต่หากใครเคยใช้ App.แปลงรูปในมือถือเป็นไฟล์ .pdf ก็ได้นะฝากแนะนำกันอีกที) ขนาดไฟล์ของ จขกท.ที่ทำไว้ใช้ประมาณ 150KB +-นิดหน่อย
3.การกรอกข้อมูลจะมีทั้งหมด 3 หน้า โดยกรอกหน้าหลักๆข้อมูลเยอะจะมี 2 หน้า คือหน้า 2-3
4.ตอนที่กรอกข้อมูลอยู่ในหน้า Applicant Details form อาจจะมีบางช่วงที่กรอกๆ หยุดๆ แนะนำให้กรอกให้มากที่สุดและกด Save and Temporarily Exit ไว้ จะได้รหัสเข้าแบบฟอร์มชั่วคราว Temporary Application ID 15 หลัก จขกท. Copy รหัสลงใส่ Word ไว้เลย และในการกรอกแต่ละหน้าจะมีเวลาในการกรอกทำรายการ หากทิ้งหน้าจอไว้นานหรือกรอกข้อมูลไม่ต่อเนื่อง หน้าที่กรอกข้อมูลไปแล้วเกิดหลุด และไม่ได้กด Save เพื่อเอารหัส 15 ตัว ก็ต้องคอยกลับมากรอกใหม่ตั้งแต่ข้อมูลแรก
5.พอเรามีการกด Save ตอนที่กรอกฟอร์มยังไม่เสร็จ ลองกลับมาเช็ค Email ที่เรากรอกข้อมูลที่ให้เค้าไว้ในหน้าแรก มันจะมีเมลเข้ามา Subject : Regarding partially filled e-Visa application เมลนี้จะเป็น Mail แจ้งรหัสเข้าแบบฟอร์มชั่วคราว Temporary Application ID รหัส 15 หลัก รหัสเพื่อเข้าไปกรอกข้อมูลต่อจากที่เราเข้าไปกรอกล่าสุดแล้วยังไม่เสร็จ (อันนี้จะเป็น Email ฉบับที่ 1 ที่จะได้รับหากมีการกด Save)
6. การจะกลับมากรอกใหม่อีกครั้ง ให้ไปที่เว็บขอ Visa กดที่ Reupload Login จะอยู่ด้านล่างของหน้าเว็บ พอ Reload แบบฟอร์มขึ้นมาใหม่ โดยกรอกรหัส 15ตัวแล้ว ก็กรอกข้อมูลต่อจากที่ยังกรอกไม่เสร็จได้เลย จขกท.เจอบัคขีดทับ / ตรงบ้านเลขที่ เจอ Back slash \ โผล่มาด้วย ให้ลบ \ ออกก่อน ถึงจะกด Save and Continue ไปหน้าต่อไปได้
7.จขกท.ต้องกรอกขอ Visa ให้คนในครอบครัวด้วยอีก 3 คน เพราะไปกันเอง จะมีข้อมูลที่ใช้ซ้ำกัน ก็ใช้วิธีกรอกใน Word และ Copy ข้อมูลที่เหมือนๆ กันมาวาง เช่น ที่อยู่ ชื่อพ่อ-แม่ บุคคลติดต่อฉุกเฉิน สถานที่ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว ชื่อผู้ที่ติดต่อได้ในอินเดีย (คอมไม่เปิดฟังก์ชั่นป้อนข้อมูลอัตโนมัติ เพราะใช้ที่ทำงาน ไม่อยากให้มีข้อมูลอะไรจำไว้ที่เครื่อง)
8.หลังกรอกข้อมูลเสร็จก็ให้ทำการอัพโหลดรูป2นิ้วก่อน เมื่ออัพรูปผ่านเรียบร้อยก็อัพโหลด Passport ต่อ
9.จากนั้นทำการชำระเงินค่าธรรมเนียมขอ Visa จขกท.ขอ Visa 1 เดือน ค่าธรรมเนียม 25.62 USD ตัดบัตรเครดิตอัตราวันนั้นอยู่ที่ 799.83บาท หากต้องการตัดผ่านบัตรเครดิตในช่องการเลือกชำระเงินเลือกเป็น AXIS BANK
10.หลังจากที่จ่ายเงินเรียบร้อย จะได้ Email Subject : Status regarding e-Visa application id XXXXXXXXXXXX Email ฉบับนี้จะแจ้งรหัส 12 หลัก คือ Application ID เมลนี้ยังไม่ใช่เมลแจ้ง Visa ผ่านนะ ต้องรอก่อน (อันนี้จะเป็น Email ฉบับที่ 2 ที่จะได้รับ)
11. หลังจากรอไม่เกิน 24 ชม. จะได้ Email Subject : Status regarding e-VISA application no.รหัส 12 ตัวอันเดิม ใน Mail จะแจ้ง Application Status :-Granted (แปลว่าผ่านแล้วววว) (อันนี้จะเป็น Email ฉบับที่ 3 ที่จะได้รับ)
12.เอารหัส Application ID 12 ตัว ไปกรอกที่หน้าเว็บที่ขอ Visa เพื่อปรินท์เอกสาร Visa พกติดตัวไว้ (ปรินท์สีหรือปรินท์ขาวดำได้หมด) ไปตรง Check your Visa Status > กรอก Application ID 12 ตัว > Passport No. >อักษรตามภาพที่เห็น > สั่งปรินท์ เก็บติดตัวไว้เลย (เอกสารที่ปรินท์ออกมาจะมีลายน้ำเป็น BUREAU OF IMMIGRATION INDIA)
ตอนเข้า ตม.(Immigration) เจ้าหน้าที่ ตม.เค้าจะปั้มวันที่สามารถอยู่ใน India ได้ ลงใน Passport และเอกสารที่เราปรินทร์มานั้นก็ต้องเก็บไว้จนวันเดินทางกลับ เพราะของหม่าม้าเจอเจ้าหน้าที่ที่สนามบินพูดภาษาฮินดีกันระหว่างเค้าเตอร์ แล้วก็เรียกตรวจเช็คเอกสาร e-Visa ที่ปรินท์มาเพิ่ม แต่ก็เรียกดู e-Visa กับบางคนไม่ทุกคนนะ
จองตั๋วเครื่องบิน
21/8/2062 เราจองตั๋ว สายการบิน Air Asia ดอนเมือง(DMK)-คยา(GAY) เพื่อเดินทางไปวันที่ 4-6 ตค.62 (4คน ไป-กลับ ค่าตั๋ว Net แล้วคนละ 7,924บาท) ซึ่งสายการบินนี้เปิดให้บินตรงลงที่สนามบิน Gaya(Gay) Air port เลยซึ่งสะดวกมากๆ ไม่ต้องไปต่อเครื่องหรือไปลงที่สนามบินอื่นแล้วบินมาคยา
5/9/2562 สายการบินส่ง Email แจ้งยกเลิกไฟล์ในวันที่จอง คาดว่าวันที่จองที่นั่งคงไม่เต็ม ติดต่อไปที่สายการบิน ทางสายการบินแจ้งว่าจะมีไฟล์ทบินวันแรกคือวันที่ 11 ตค.62 ทางสายการบินแจ้งให้ระบุวันเดินทางใหม่หรือยกเลิกเที่ยวบินและทำเรื่องขอเงินคืน เลยแจ้งเปลี่ยนเป็นเดินทาง 11-14 ตค.62 แทน
จองล่วงหน้าไปเกือบ 2 เดือน สำคัญมากเวลาเดินทางไปต่างประเทศต้องหมั่นเช็ค Email บ่อยๆ เผื่อไฟล์ทยกเลิกหรือเลื่อน และเช็คเวลาในการเดินทางให้ดี ตอนจองสงสัยในเรื่องเวลาเดินทางเลยโทรไปถาม ขาไป 8:30-10:30 ใช้เวลา 2 ชม. ขากลับ 11:45-16:55 น.ใช้เวลา 5 ชม. สงสัยเลยว่าทำไมเวลาถึงต่างกัน ได้คำตอบจากสายการบินว่า ใช้ความเร็วเท่าเดิมแต่เนื่องด้วยกระแสลม
สรุปวันที่เดินทางใช้เวลาบินจริงประมาณ 3:30นาที ทั้งขาไปและขากลับ พอแค่หลับหัวสัปหงกสัก4-5รอบ และเวลาที่อินเดียจะช้ากว่าบ้านเราอยู่ 1:30 น.
แลกเงินรูปี
ด้วยเป็นช่วงที่คนไทยเริ่มเดินทางไปทำบุญกันเยอะคือ ตค.62-กพ.63 เราแลกเงินกับ Super Rich ก่อนเดินทางแค่ 2 วัน พลาดเองไปแลกใกล้วันเดินทาง เราแลกที่สาขามาบุญครอง สาขามาบุญครองบอกว่าจะจองให้ วันถัดมาสาขามาบุญครองบอกว่า สนง.สีลมแจ้งมาว่าเงินหมด คราวนี้เราเลยต้องวิ่งวุ่นเช็คที่ Super rich ราชดำริแทน โชคดีหน่อยมีเงินอยู่ แนะนำให้เตรียมแลกก่อนไปสัก 1 อาทิตย์ ป้องกันปัญหาเงินหมด และที่เราแลกไปโชคดีได้แบงค์ 500รูปีมาหมดเลย และก็ไม่มีแบงค์100 รูปีให้แลก และเราเองก็ไม่ต้องการแบงค์2,000รูปี เกรงคนอินเดียตีเนียนไม่ทอน เลยใช้แบงค์ขนาดกลางๆ ไว้ ตอนแลกไปอยู่ที่ 0.425 และโชคดีอีกต่อเวลากลับมาไปแลกคืน แบงค์ 500 รูปีแลกคืนได้ราคาดีกว่า แลกคืนได้ 0.40 บาท ส่วนแบงค์ 2,000 รูปี กับ 100 รูปี หรือต่ำกว่านี้ แลกคืนได้ 0.395
ตอนก่อนกลับเราเอาแบงค์ต่ำกว่า 100 รูปีทำบุญทำทานซื้อของฝากหมดเลย ส่วนใครที่คิดว่าจะไปพักวัดไทยพุทธคยา ก็สามารถพกเงินไทยไปทำบุญใส่ตู้บริจาคได้นะไม่จำเป็นต้องเป็นเงินรูปี คราวนี้เราได้แบงค์ 500 รูปีมาหมด หากอยากได้แบงค์ 100,50,20,10 รูปี เพื่อซื้อของหรือทำบุญบ้าง ที่วัดมีให้แลก แลกกับแม่ชีที่วัดได้ แต่หน้าวัดก็มีคนอินเดียถือแบงค์ย่อยเป็นปึกๆรับแลกก็มี แต่ต้องนั่งนับกันแหละ บางบึกใหม่มากๆ ไม่รู้มีสอดไส้แบงค์ปลอมมั้ย ครบมั้ย เราเลือกแลกที่วัด หรือซื้อของในร้านสะดวกซื้อแถวหน้าวัดให้เค้าทอนแบงค์เล็กมาดีกว่า
สัญญาณ Internet
เราเอา Sim ทั้ง2ค่าย AIS และ True ไป ราคา 399/8วัน 6GB เท่ากัน ใช้เล่น Internet ได้อย่างเดียว เพราะไม่ได้เติมเงิน พอลงจากเครื่องก็เปลี่ยน Sim ได้เลย มือถือจะจับสัญญาณให้อัตโนมัติ พอเปิด Google Map ในสนามบิน AIS จับสัญญาณดีกว่า ส่วน True สัญญาณมีแค่ขีดเดียว พอออกจากสนามบินสัญญาณ AIS รู้สึกจะต่อเนื่องมากกว่า ส่วน True สัณญาณก็มีใช้ได้ไม่ได้ขี้เหร่ อาจจะมีบางช่วงบางจุดโหลดภาพเข้าโซเชียลช้า
การเดินทางออกจากสนามบินคยา
จากสนามบินมาถึงวัดไทยฯ ไม่เกิน 15 นาทีก็ถึง ซึ่งมีรถบริการเรียกได้ที่ทางออกสนามบิน แต่เราโชคดีมากๆ เจอคณะแสวงบุญคณะหนึ่ง พี่ที่ดูแลคณะดูจากลักษณะของพี่เค้าน่าจะเป็นผู้บริหารบริษัท เค้ามากันประมาณ8คน ด้วยความที่เราทุกคนมากันเป็นครั้งแรกเลยสอบถามพี่เค้าว่า หน้าสนามบินมีแท๊กซี่เดินทางไปวัดไทยพุทธคยามั้ย ไกลจากสนามบินมั้ย ทางพี่เค้าแจ้งว่าไม่ไกลและพี่เค้าก็เดินทางมาหลายรอบแล้ว พอคณะของพี่เค้าผ่าน ตม.ไปกันหมด ก็ถึงตาเราทั้ง4 คนเช็ค passport สแกนกระเป๋าใช้เวลาประมาณ20นาทีได้ พอเดินออกไปปรากฎว่าเจอคณะของพี่เค้ารออยู่และกวักมือเรียกครอบครัวเราและบอกว่าจะไปส่งที่วัดเพราะพี่เค้าพักอยู่ใกล้ๆวัดที่เราจะไป รถที่พี่เค้าไปส่งเป็นรถที่นั่งคล้ายรถตู้แต่ไซร์รถใหญ่เท่ารถเมล์เล็ก ภายในรถสะอาดสะอ้านแอร์เย็น ซึ่งเป็นรถที่ทางคณะพี่เค้าจ้างไว้ คนขับก็คนอินเดียสื่อสารกันภาษาไทยได้ รู้สึกโชคดีที่เจอพี่คนไทยใจดีตั้งแต่เครื่องลงเลย
อาหารการกินที่วัดไทยพุทธคยา
ที่วัดมีอาหารไทยให้กินครบ 3 มื้อเลย หมดกังวลเลยเรื่องนี้ กับข้าวอร่อยด้วย มื้อนึงจะมีกับข้าว 3-4 อย่าง และผลไม้1-2ชนิด ต่อมื้อ ค่าอาหารอยู่ที่เราจะบริจาคใส่ตู้ ไม่ได้มีระบุว่าต้องกี่บาทกี่รูปี ตามกำลังศรัทธา คือดีอ่ะ
เดินทางไปกันเองเพื่อแสวงบุญที่พุทธคยา อินเดีย แบบละเอียดยิบๆ
คราวนี้จะขอเล่ารายละเอียดแต่ละขั้นตอนเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนที่ต้องการจะเดินทางไปทำบุญที่คยาแบบไปกันเอง และ จขกท.เจออะไรมาบ้างใน 4 วัน เริ่มต้นจะต้องขอ Visa ก่อน จขกท. ขอ e-Visa แบบนักท่องเที่ยว 30 วัน Visa ขอวันนี้ไม่เกิน 24 ชม.เค้าก็ Mail กลับมาบอกว่า ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน หลังจากที่ Visa ผ่านแล้ว ระยะเวลาของการใช้ Visa e-Tourist 30 วันจะเริ่มนับวันแรกคือวันที่มาถึงประเทศอินเดีย เตรียมขอล่วงหน้าก่อนได้เลย
การทำเรื่องขอ Visa อินเดีย
ต้องขอบคุณกระทู้พันธ์ทิพย์หลายๆ กระทู้มากที่แนะนำการกรอกขอ Visa India ในระบบ Internet ในที่นี้ขอแนบลิงค์ให้แล้วกัน https://indianvisaonline.gov.in/evisa/tvoa.html เพราะกระทู้อื่นๆ แนะนำไว้อย่างดีแล้ว พอเปิดเว็บไซต์ให้คลิกด้านล่างที่เขียนว่า Apply here for e-visa มีเคล็ดในการเตรียมกรอกข้อมูลคือ
1.ให้เตรียมรูปถ่าย 2 นิ้วไว้ พื้นหลังสีขาว หากไม่มีเครื่องสแกนก็เอามือถือถ่ายจากรูป 2 นิ้วก็ได้ แต่หากไม่มีรูป (ไม่ได้ไปถ่ายที่ร้านถ่ายรูป) ให้เอากล้องมือถือเนี่ยะแหละถ่ายรูปหน้าตรงพื้นหลังสีขาว กะขนาดให้ได้เป็นรูปขนาด 2 นิ้ว (จากหัวถึงอกโดยประมาณ) ถ่ายให้ชัดเจนให้เหมือนเราถ่ายที่ร้านถ่ายรูป ขนาดไฟล์ของ จขกท. เป็นไฟล์.jpg ขนาดที่ทำไว้ประมาณ 150KB.+-นิดหน่อย(ความละเอียดของภาพที่เค้าต้องการ300dpi)
2.เอามือถือถ่ายหน้า Passport ที่มีรูปหน้าเรา และแปลงไฟล์ภาพให้เป็นไฟล์ .pdf เท่านั้น (จขกท.แปลงรูปในคอม แต่หากใครเคยใช้ App.แปลงรูปในมือถือเป็นไฟล์ .pdf ก็ได้นะฝากแนะนำกันอีกที) ขนาดไฟล์ของ จขกท.ที่ทำไว้ใช้ประมาณ 150KB +-นิดหน่อย
3.การกรอกข้อมูลจะมีทั้งหมด 3 หน้า โดยกรอกหน้าหลักๆข้อมูลเยอะจะมี 2 หน้า คือหน้า 2-3
4.ตอนที่กรอกข้อมูลอยู่ในหน้า Applicant Details form อาจจะมีบางช่วงที่กรอกๆ หยุดๆ แนะนำให้กรอกให้มากที่สุดและกด Save and Temporarily Exit ไว้ จะได้รหัสเข้าแบบฟอร์มชั่วคราว Temporary Application ID 15 หลัก จขกท. Copy รหัสลงใส่ Word ไว้เลย และในการกรอกแต่ละหน้าจะมีเวลาในการกรอกทำรายการ หากทิ้งหน้าจอไว้นานหรือกรอกข้อมูลไม่ต่อเนื่อง หน้าที่กรอกข้อมูลไปแล้วเกิดหลุด และไม่ได้กด Save เพื่อเอารหัส 15 ตัว ก็ต้องคอยกลับมากรอกใหม่ตั้งแต่ข้อมูลแรก
5.พอเรามีการกด Save ตอนที่กรอกฟอร์มยังไม่เสร็จ ลองกลับมาเช็ค Email ที่เรากรอกข้อมูลที่ให้เค้าไว้ในหน้าแรก มันจะมีเมลเข้ามา Subject : Regarding partially filled e-Visa application เมลนี้จะเป็น Mail แจ้งรหัสเข้าแบบฟอร์มชั่วคราว Temporary Application ID รหัส 15 หลัก รหัสเพื่อเข้าไปกรอกข้อมูลต่อจากที่เราเข้าไปกรอกล่าสุดแล้วยังไม่เสร็จ (อันนี้จะเป็น Email ฉบับที่ 1 ที่จะได้รับหากมีการกด Save)
6. การจะกลับมากรอกใหม่อีกครั้ง ให้ไปที่เว็บขอ Visa กดที่ Reupload Login จะอยู่ด้านล่างของหน้าเว็บ พอ Reload แบบฟอร์มขึ้นมาใหม่ โดยกรอกรหัส 15ตัวแล้ว ก็กรอกข้อมูลต่อจากที่ยังกรอกไม่เสร็จได้เลย จขกท.เจอบัคขีดทับ / ตรงบ้านเลขที่ เจอ Back slash \ โผล่มาด้วย ให้ลบ \ ออกก่อน ถึงจะกด Save and Continue ไปหน้าต่อไปได้
7.จขกท.ต้องกรอกขอ Visa ให้คนในครอบครัวด้วยอีก 3 คน เพราะไปกันเอง จะมีข้อมูลที่ใช้ซ้ำกัน ก็ใช้วิธีกรอกใน Word และ Copy ข้อมูลที่เหมือนๆ กันมาวาง เช่น ที่อยู่ ชื่อพ่อ-แม่ บุคคลติดต่อฉุกเฉิน สถานที่ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว ชื่อผู้ที่ติดต่อได้ในอินเดีย (คอมไม่เปิดฟังก์ชั่นป้อนข้อมูลอัตโนมัติ เพราะใช้ที่ทำงาน ไม่อยากให้มีข้อมูลอะไรจำไว้ที่เครื่อง)
8.หลังกรอกข้อมูลเสร็จก็ให้ทำการอัพโหลดรูป2นิ้วก่อน เมื่ออัพรูปผ่านเรียบร้อยก็อัพโหลด Passport ต่อ
9.จากนั้นทำการชำระเงินค่าธรรมเนียมขอ Visa จขกท.ขอ Visa 1 เดือน ค่าธรรมเนียม 25.62 USD ตัดบัตรเครดิตอัตราวันนั้นอยู่ที่ 799.83บาท หากต้องการตัดผ่านบัตรเครดิตในช่องการเลือกชำระเงินเลือกเป็น AXIS BANK
10.หลังจากที่จ่ายเงินเรียบร้อย จะได้ Email Subject : Status regarding e-Visa application id XXXXXXXXXXXX Email ฉบับนี้จะแจ้งรหัส 12 หลัก คือ Application ID เมลนี้ยังไม่ใช่เมลแจ้ง Visa ผ่านนะ ต้องรอก่อน (อันนี้จะเป็น Email ฉบับที่ 2 ที่จะได้รับ)
11. หลังจากรอไม่เกิน 24 ชม. จะได้ Email Subject : Status regarding e-VISA application no.รหัส 12 ตัวอันเดิม ใน Mail จะแจ้ง Application Status :-Granted (แปลว่าผ่านแล้วววว) (อันนี้จะเป็น Email ฉบับที่ 3 ที่จะได้รับ)
12.เอารหัส Application ID 12 ตัว ไปกรอกที่หน้าเว็บที่ขอ Visa เพื่อปรินท์เอกสาร Visa พกติดตัวไว้ (ปรินท์สีหรือปรินท์ขาวดำได้หมด) ไปตรง Check your Visa Status > กรอก Application ID 12 ตัว > Passport No. >อักษรตามภาพที่เห็น > สั่งปรินท์ เก็บติดตัวไว้เลย (เอกสารที่ปรินท์ออกมาจะมีลายน้ำเป็น BUREAU OF IMMIGRATION INDIA)
ตอนเข้า ตม.(Immigration) เจ้าหน้าที่ ตม.เค้าจะปั้มวันที่สามารถอยู่ใน India ได้ ลงใน Passport และเอกสารที่เราปรินทร์มานั้นก็ต้องเก็บไว้จนวันเดินทางกลับ เพราะของหม่าม้าเจอเจ้าหน้าที่ที่สนามบินพูดภาษาฮินดีกันระหว่างเค้าเตอร์ แล้วก็เรียกตรวจเช็คเอกสาร e-Visa ที่ปรินท์มาเพิ่ม แต่ก็เรียกดู e-Visa กับบางคนไม่ทุกคนนะ
จองตั๋วเครื่องบิน
21/8/2062 เราจองตั๋ว สายการบิน Air Asia ดอนเมือง(DMK)-คยา(GAY) เพื่อเดินทางไปวันที่ 4-6 ตค.62 (4คน ไป-กลับ ค่าตั๋ว Net แล้วคนละ 7,924บาท) ซึ่งสายการบินนี้เปิดให้บินตรงลงที่สนามบิน Gaya(Gay) Air port เลยซึ่งสะดวกมากๆ ไม่ต้องไปต่อเครื่องหรือไปลงที่สนามบินอื่นแล้วบินมาคยา
5/9/2562 สายการบินส่ง Email แจ้งยกเลิกไฟล์ในวันที่จอง คาดว่าวันที่จองที่นั่งคงไม่เต็ม ติดต่อไปที่สายการบิน ทางสายการบินแจ้งว่าจะมีไฟล์ทบินวันแรกคือวันที่ 11 ตค.62 ทางสายการบินแจ้งให้ระบุวันเดินทางใหม่หรือยกเลิกเที่ยวบินและทำเรื่องขอเงินคืน เลยแจ้งเปลี่ยนเป็นเดินทาง 11-14 ตค.62 แทน
จองล่วงหน้าไปเกือบ 2 เดือน สำคัญมากเวลาเดินทางไปต่างประเทศต้องหมั่นเช็ค Email บ่อยๆ เผื่อไฟล์ทยกเลิกหรือเลื่อน และเช็คเวลาในการเดินทางให้ดี ตอนจองสงสัยในเรื่องเวลาเดินทางเลยโทรไปถาม ขาไป 8:30-10:30 ใช้เวลา 2 ชม. ขากลับ 11:45-16:55 น.ใช้เวลา 5 ชม. สงสัยเลยว่าทำไมเวลาถึงต่างกัน ได้คำตอบจากสายการบินว่า ใช้ความเร็วเท่าเดิมแต่เนื่องด้วยกระแสลม
สรุปวันที่เดินทางใช้เวลาบินจริงประมาณ 3:30นาที ทั้งขาไปและขากลับ พอแค่หลับหัวสัปหงกสัก4-5รอบ และเวลาที่อินเดียจะช้ากว่าบ้านเราอยู่ 1:30 น.
แลกเงินรูปี
ด้วยเป็นช่วงที่คนไทยเริ่มเดินทางไปทำบุญกันเยอะคือ ตค.62-กพ.63 เราแลกเงินกับ Super Rich ก่อนเดินทางแค่ 2 วัน พลาดเองไปแลกใกล้วันเดินทาง เราแลกที่สาขามาบุญครอง สาขามาบุญครองบอกว่าจะจองให้ วันถัดมาสาขามาบุญครองบอกว่า สนง.สีลมแจ้งมาว่าเงินหมด คราวนี้เราเลยต้องวิ่งวุ่นเช็คที่ Super rich ราชดำริแทน โชคดีหน่อยมีเงินอยู่ แนะนำให้เตรียมแลกก่อนไปสัก 1 อาทิตย์ ป้องกันปัญหาเงินหมด และที่เราแลกไปโชคดีได้แบงค์ 500รูปีมาหมดเลย และก็ไม่มีแบงค์100 รูปีให้แลก และเราเองก็ไม่ต้องการแบงค์2,000รูปี เกรงคนอินเดียตีเนียนไม่ทอน เลยใช้แบงค์ขนาดกลางๆ ไว้ ตอนแลกไปอยู่ที่ 0.425 และโชคดีอีกต่อเวลากลับมาไปแลกคืน แบงค์ 500 รูปีแลกคืนได้ราคาดีกว่า แลกคืนได้ 0.40 บาท ส่วนแบงค์ 2,000 รูปี กับ 100 รูปี หรือต่ำกว่านี้ แลกคืนได้ 0.395
ตอนก่อนกลับเราเอาแบงค์ต่ำกว่า 100 รูปีทำบุญทำทานซื้อของฝากหมดเลย ส่วนใครที่คิดว่าจะไปพักวัดไทยพุทธคยา ก็สามารถพกเงินไทยไปทำบุญใส่ตู้บริจาคได้นะไม่จำเป็นต้องเป็นเงินรูปี คราวนี้เราได้แบงค์ 500 รูปีมาหมด หากอยากได้แบงค์ 100,50,20,10 รูปี เพื่อซื้อของหรือทำบุญบ้าง ที่วัดมีให้แลก แลกกับแม่ชีที่วัดได้ แต่หน้าวัดก็มีคนอินเดียถือแบงค์ย่อยเป็นปึกๆรับแลกก็มี แต่ต้องนั่งนับกันแหละ บางบึกใหม่มากๆ ไม่รู้มีสอดไส้แบงค์ปลอมมั้ย ครบมั้ย เราเลือกแลกที่วัด หรือซื้อของในร้านสะดวกซื้อแถวหน้าวัดให้เค้าทอนแบงค์เล็กมาดีกว่า
สัญญาณ Internet
เราเอา Sim ทั้ง2ค่าย AIS และ True ไป ราคา 399/8วัน 6GB เท่ากัน ใช้เล่น Internet ได้อย่างเดียว เพราะไม่ได้เติมเงิน พอลงจากเครื่องก็เปลี่ยน Sim ได้เลย มือถือจะจับสัญญาณให้อัตโนมัติ พอเปิด Google Map ในสนามบิน AIS จับสัญญาณดีกว่า ส่วน True สัญญาณมีแค่ขีดเดียว พอออกจากสนามบินสัญญาณ AIS รู้สึกจะต่อเนื่องมากกว่า ส่วน True สัณญาณก็มีใช้ได้ไม่ได้ขี้เหร่ อาจจะมีบางช่วงบางจุดโหลดภาพเข้าโซเชียลช้า
การเดินทางออกจากสนามบินคยา
จากสนามบินมาถึงวัดไทยฯ ไม่เกิน 15 นาทีก็ถึง ซึ่งมีรถบริการเรียกได้ที่ทางออกสนามบิน แต่เราโชคดีมากๆ เจอคณะแสวงบุญคณะหนึ่ง พี่ที่ดูแลคณะดูจากลักษณะของพี่เค้าน่าจะเป็นผู้บริหารบริษัท เค้ามากันประมาณ8คน ด้วยความที่เราทุกคนมากันเป็นครั้งแรกเลยสอบถามพี่เค้าว่า หน้าสนามบินมีแท๊กซี่เดินทางไปวัดไทยพุทธคยามั้ย ไกลจากสนามบินมั้ย ทางพี่เค้าแจ้งว่าไม่ไกลและพี่เค้าก็เดินทางมาหลายรอบแล้ว พอคณะของพี่เค้าผ่าน ตม.ไปกันหมด ก็ถึงตาเราทั้ง4 คนเช็ค passport สแกนกระเป๋าใช้เวลาประมาณ20นาทีได้ พอเดินออกไปปรากฎว่าเจอคณะของพี่เค้ารออยู่และกวักมือเรียกครอบครัวเราและบอกว่าจะไปส่งที่วัดเพราะพี่เค้าพักอยู่ใกล้ๆวัดที่เราจะไป รถที่พี่เค้าไปส่งเป็นรถที่นั่งคล้ายรถตู้แต่ไซร์รถใหญ่เท่ารถเมล์เล็ก ภายในรถสะอาดสะอ้านแอร์เย็น ซึ่งเป็นรถที่ทางคณะพี่เค้าจ้างไว้ คนขับก็คนอินเดียสื่อสารกันภาษาไทยได้ รู้สึกโชคดีที่เจอพี่คนไทยใจดีตั้งแต่เครื่องลงเลย
อาหารการกินที่วัดไทยพุทธคยา
ที่วัดมีอาหารไทยให้กินครบ 3 มื้อเลย หมดกังวลเลยเรื่องนี้ กับข้าวอร่อยด้วย มื้อนึงจะมีกับข้าว 3-4 อย่าง และผลไม้1-2ชนิด ต่อมื้อ ค่าอาหารอยู่ที่เราจะบริจาคใส่ตู้ ไม่ได้มีระบุว่าต้องกี่บาทกี่รูปี ตามกำลังศรัทธา คือดีอ่ะ