การเตรียมตัวไปแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดียและเนปาล

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ เนื่องจากเราได้มีโอกาสไปแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน ที่ประเทศอินเดียและเนปาล มาเมื่อวันที่ 1 - 8 มีนาคม พ.ศ. 2563 เป็นช่วงที่ COVID-19 กำลังเริ่มระบาดทั้งในประเทศไทยและอินเดีย ตอนนั้นประเทศอินเดียยังไม่ปิดประเทศ ประกอบกับเราได้จองทัวร์จัดการทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว จึงตัดสินใจออกเดินทางไปตามกำหนดเดิม

เราอยากมาแชร์ประสบการณ์ เพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆที่ต้องการเดินทางไปแสวงบุญ ได้ใช้ชีวิตระหว่างทริปสะดวกขึ้น และไม่พลาดอย่างที่เราเคยพลาดมาก่อนค่า

สิ่งของที่ควรเตรียมไปด้วย (แล้วแต่ความสะดวกของเพื่อนๆนะคะ ถ้าไปกันหลายคนก็แบ่งๆกันขนได้ค่ะ)

ประเภทที่ 1 สิ่งของสำหรับอามิสบูชา 
1.ไม้ขีด/ไฟแช็ค ธูป เทียน กำยาน : แนะนำให้โหลดใต้เครื่องบิน ปัจจุบันเหลือแค่สถานที่พระพุทธเจ้าประสูติเท่านั้นที่สามารถจุดได้
2.ทองคำเปลว + กระปุกวาสลีนเล็กๆ ใช้สำหรับทาก่อนแปะทองคำเปลวเพื่อให้ติดได้ดีขึ้น
3.น้ำอบไทย บรรจุใส่ขวดที่ฉีดเป็นสเปรย์ได้ ใช้สะดวกดี

ประเภทที่ 2 ของใช้ทั่วไป
1.ผ้าพลาสติกรองนั่ง ใช้เวลานั่งสวดมนต์หรือนั่งสมาธิ ของทัวร์เค้ามีให้เป็นผืนใหญ่ นั่งรวมกัน แต่บางจุดอาจมีเปื้อนเศษดินบ้าง
2.เบาะผ้ารองนั่ง เราใช้รองนั่งบนรถบัส เนื่องจากบางวันต้องนั่งรถนานมาก 4 - 10 ชม. มีเบาะรองอีกชั้น ช่วยให้นั่งสบายขึ้น
3.ไฟฉายแบบใส่ถ่าน ที่อินเดียไฟดับบ่อย บางครั้งก็ดับนานเป็นวัน เพราะฉะนั้นเตรียมไฟฉายแบบใส่ถ่านไปจะดีกว่า ถ้าไฟดับจะชาร์ตแบตไม่ได้
4.Powerbank ใช้ชาร์ตโทรศัพท์ระหว่างวัน เพราะออกจากที่พักตั้งแต่เช้า กลับมืด
5.หัวแปลงปลั๊กไฟ
(ขอบคุณภาพจาก Google)
6.ปลั๊กพ่วง : บางห้องพักมีรูปลั๊กให้แค่ 2 รู
7.กระติกน้ำเล็กๆ ใส่น้ำอุ่นจิบระหว่างวัน 
8.ผ้าห่ม ผ้าปูเตียง บางที่พักผ้าห่มกับผ้าปูเตียงไม่ค่อยสะอาด มีฝุ่น/แมลง/กลิ่นอับ
9.ผ้าเช็ดตัว แนะนำให้ใช้แบบที่แห้งเร็ว ควรนำไป 2 ผืน ใช้สลับกันคนละวัน เพราะตากผ้าได้แค่ตอนกลางคืน
10.กระเป๋าเดินทาง แนะนำให้ใช้แบบที่เป็นพลาสติกแข็งมากกว่ากระเป๋าผ้า ที่อินเดียถนนยังไม่ค่อยดี เป็นดินลูกรัง 
กระเป๋าเก็บอยู่ใต้รถบัส จะมีฝุ่นแดงๆเข้ามาเปื้อนกระเป๋าได้
11.ผ้า/พลาสติกคลุมกระเป๋าเดินทาง ถ้ามีพลาสติกคลุมจะเช็ดฝุ่นออกได้ง่ายกว่า
12.ยา : ยาโรคประจำตัว ยาแก้เมารถ (ถนนเป็นหลุมมากบางจุด) ยาแก้แพ้อากาศ ยาพาราเซตามอล ฯลฯ
13.หน้ากากอนามัย : ตอนแรกเราตั้งใจใส่สำหรับกันฝุ่น แต่ไปช่วง COVID-19 เลยเตรียมแบบที่กันเชื้อโรคได้ไปด้วย
14.ทิชชู่แห้ง ทิชชู่เปียก เจลล้างมือ
15.ที่อุดหู : ช่วงกลางคืน คนอินเดียเปิดเพลงกันดังมาก อาจนอนไม่หลับได้
****แนะนำให้จัดกระเป๋าให้เป็นระเบียบ ง่ายต่อการค้นหาและจัดเก็บ เพราะเปลี่ยนที่พักบ่อย จะได้ไม่เสียเวลาจัดกระเป๋ามาก

ประเภทที่ 3 ของกิน
ทัวร์เรามีแจกน้ำเปล่า 1 ขวด/คน/วัน เก็บขวดไว้กรอกน้ำตามวัดไทยที่แวะพักระหว่างทางได้ มีขนมห่อ/ลูกอมแจกทุกวัน
แต่เตรียมขนมที่ตัวเองชอบกินไปเผื่อเล็กน้อยก็ดีค่า
1.กาแฟดำ (ที่พัก/วัดส่วนใหญ่จะมีเป็น 3 in 1)
2.ไมโล/โอวัลติน : ที่พัก/วัดส่วนใหญ่จะมีเป็น 3 in 1 แบบสูตรปกติ ใครชอบแบบหวานน้อยควรเตรียมไปเอง
3.ขนม/ถั่ว/หมูแผ่น : อาหารที่อินเดียส่วนใหญ่จะมีโปรตีนน้อย เน้นแป้ง/ผัก/มังสวิรัติเยอะ 
ใครที่ไม่กินมังสวิรัติ แนะนำให้เตรียมโปรตีนประเภทอื่นๆไปเสริมด้วย
****ที่อินเดียไม่มีน้ำแข็ง แต่จะมีน้ำขวดขายในตู้แช่เย็น พวกน้ำอัดลม เช่น โค้ก สไปรท์ น้ำส้ม ราคาไม่ต่างจากไทยมาก สามารถซื้อทานได้

คำแนะนำอื่นๆเกี่ยวกับอินเดีย
1.การให้ทานขอทาน : เวลาให้ควรดูรอบๆตัวให้ดี ถ้ามีเงินให้ไม่พอขอทานทุกคน อาจจะมีคนเข้ามารุมเรา/ยื้อแย่งเงินได้
2.เขาคิชฌกูฏ : ตอนขึ้นเขาจะมีพ่อค้าเดินตามตื้อให้เราซื้อของตั้งแต่ทางขึ้น ถ้าไม่ซื้อให้ปฏิเสธอย่างหนักแน่น 
อย่าสนใจแม้ว่าเค้าจะเดินตามเราขึ้นไปถึงยอดเขาก็ตาม
3.การซื้อของ : ให้ต่อราคาเยอะๆ หาร 2 ไว้ก่อน ส่วนใหญ่จะต่อได้ แต่ถ้าลดราคาให้ไม่ได้จริงๆ พ่อค้าก็จะปฏิเสธและเดินจากเราไปเอง
4.คนช่วยเข็นกระเป๋าที่สนามบินคยา : ตอนวันกลับช่วงขนกระเป๋าลงจากรถ จะมีคนงานสนามบินรีบเข้ามายกกระเป๋าเราใส่รถเข็น และเข็นกระเป๋าให้เราโดยไม่ได้บอกราคาทิปที่เราต้องจ่ายก่อน พอถึงที่เคาร์เตอร์เช็คอิน เค้าจะเรียกทิปจากเรา 50 - 100 บาท ถ้าเราให้น้อยกว่านั้น เค้าจะไม่ยอมไปไหน ตามติดเราเป็นวิญญาณไปทุกที่ พอจะเดินหนีก็โวยวายใส่ ไม่มีเจ้าหน้าที่สนามบินคนไหนให้ความช่วยเหลือไกล่เกลี่ย 
ใครสามารถเข็นรถขนกระเป๋าได้เองและไม่อยากจ่ายทิป แนะนำให้เข็นด้วยตัวเอง (ระยะทางใกล้มาก) 
ถ้าใครให้เค้าเข็นกระเป๋าให้ ต้องจ่ายเงินตอนเช็คอินกระเป๋าเสร็จแล้วเท่านั้น ถ้าให้เงินก่อน เค้าจะเดินหนีไปเลย ไม่รับผิดชอบงานต่อ
5.ห้องน้ำ : แนะนำให้ทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนออกจากที่พัก ระหว่างทางแวะเข้าห้องน้ำที่วัดไทยได้ แต่อาจต้องทน 2-3 ชม.กว่าจะถึง
ก่อนหน้านั้นจะไม่มีห้องน้ำเลย ถ้าปวดต้องเข้าตามข้างทาง (ไปกับทัวร์เค้ามีที่กางบังให้)
6.อินเตอร์เนต : ที่พักส่วนใหญ่จะมี wifi free แต่เราใช้โปร Ready2Fly ของ AIS ใช้ซิมเดิมซื้อแพคเน็ตไปต่างประเทศ 6 GB 399 บาท สัญญาณดีเป็นส่วนใหญ่ ใช้อัพรูป เล่นไลน์ FB 8 วันเน็ตยังเหลือ   
7.เงินรูปี : แลกไปจากไทยเรทจะดีกว่า ตอนนั้นเรทอยู่ประมาณ 1 รูปี = 0.43 บาท ถ้าไปแลกที่อินเดีย เรทจะกลายเป็น 1 รูปี = 0.5 บาท 
แนะนำให้แลกเป็นแบงค์ย่อย ถ้าเป็นแบงค์ใหญ่หาที่ใช้ยาก เราใช้แบงค์ใหญ่ทำบุญตามวัดไป
ระวังการแลกแบงค์ย่อยกับพ่อค้าที่อินเดีย อาจโดนตุกติกให้เงินรูปีไม่ครบได้
8.การใช้เงิน : ในวัดไทย สามารถใช้เงินไทยหรือรูปีก็ได้ แต่ถ้าเป็นการทำบุญหรือใช้เงินตามสถานที่ต่างๆ เงินรูปีจะสะดวกกว่า
9.พระมหาเจดีย์พุทธคยา : ห้ามเอามือถือ/แบตเตอรี่สำรอง/ปลั๊ก/สายชาร์ต/หูฟัง เข้าไปข้างใน 
ก่อนทางเข้าจะมีเคาร์เตอร์รับฝาก แต่เราไม่ได้ใช้บริการ (ไปถึงประมาณ 18.30 น. แถวค่อนข้างยาว)
สามารถนำกล้องถ่ายรูปเข้าไปได้ โดยจ่ายเงิน 100 รูปี เก็บใบเสร็จไว้ยื่นให้เจ้าหน้าที่ข้างในตรวจอีกที ตรงนี้ไม่มีทอนเงิน ใช้แบงค์รูปีจ่ายเท่านั้น 
ใครไม่มีต้องจ่ายเป็นแบงค์ไทย 100 บาทแทน จะจ่ายแบงค์ 50 บาท เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอม
10.ควรเดินทางไปไม่เกินกลางเดือนมีนาคม เรากลับวันที่ 8 มีนาคม อากาศเริ่มร้อนแล้ว
11.สำหรับผู้หญิงที่เดินทางช่วงใกล้ถึงวันนั้นของเดือน ถ้าไม่มีข้อห้าม แนะนำให้ใช้ยาเลื่อนประจำเดือน 
เนื่องจากการเข้าห้องน้ำไม่ค่อยสะดวก ลำบากในการดูแลความสะอาดมากค่ะ 

สำหรับรายละเอียดทริปแสวงบุญของเรา เดี๋ยวจะมาเล่าในกระทู้ถัดไปนะคะ ขอไปเรียบเรียงเนื้อหาก่อน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่