ดูเต็มได้ที่ลิ้งนี้นะคะ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2482387192017559&id=2306449332944680
วันนี้โฟกัสจะพาไปที่@พุทธคยา 
รัฐพิหาร ณ.ประเทศอินเดียค่ะ มาเที่ยวพุทธคยาต้องไปที่ไหน กินอะไร โฟกัสจัดมาให้ได้ชมกันละค่ะ
 ทริปนี้เดินทางด้วยสายการบิน#thaiairsia บินตรงลงพุทธคยาเลยค่ะใช้เวลาเดินทาง3ชั่วโมงครึ่ง เครื่องใหม่นั่งสบายหลับยาวๆๆตื่นอีกทีถึงละหรอเร็วแท้ส่วนเรื่องของซิมเราสามารถซื้อซิมจากสนามบินดอนเมืองได้เลยนะคะ ราคา299-399บาทใช้ได้10วัน  แต่ถ้าใครใช้AIS ก็สามารถเปิดโรมมิ่งได้เลยนะคะเค้ามีโปรโมชั่น399บาทใช้ได้10วันเท่ากันค่ะแถมไม่ต้องเปลี่ยนซิมให้วุ่นวายสะดวกสบายกันไป👏👏 ที่สำคัญที่พุทธคยาไม่มีเครื่องดื่มแอลกอร์ฮอร์ขายนะคะ  นังโฟกัสก็อดใจหนักหน่วงเช่นกัน555
อ่อลืมขอบคุณเพื่อนคู่ใจตะลุยทุกที่ในอินเดีย#nagmanitours #indiabynag มากี่ทีนางก็ดูแลดีทุกครั้งจริงๆอุ่นใจจังเมื่อมีนาง อยากไปอินเดีนแบบสบายๆไม่ลำบากไม่เสี่ยง กินดีอยู่ดี ทะลุทุกสิ่งก็ใช้บริการบริษัทนางได้ค่ะ พูดไทยชัด เขียนไทเป๊ะ
🔺ช่องทางติดต่อ
Line:nagmani

ไฮไลท์ก็อยู่ที่วัดมหาโพธิ์(มหาเจดีย์) พุทธคยาเป็น1ใน4 สังเวชนียสถาน ที่ถือว่าเป็นจุดกำเนิดของศาสนาพุทธก็ว่าได้ค่ะ เพราะเป็นที่ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ ชาวพุทธทั่วทุกมุมโลกก็จะมาศักการะกราบไหว้ นั่งสมาธิที่ใต้ต้นโพธิ์ซึ่งอยู่ติดกับเจดีย์ ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดย unescoในปี2545 
 ด้านในเราไม่สามารถนำโทรศัพท์เข้าไปได้นะคะ ส่วนกล้องถ่ายรูป กล้องวีดีโอนำเข้าได้ค่ะเสียค่านำเข้าอย่างละ 200รูปีค่ะ 
🔺เวลาเปิดทำการ 05.00-21.00

ช่วงที่โฟกัสไปจะเป็นช่วงสวดพระไตรปิฏกประจำปี ทางวัดก็จะประดับไฟที่เจดีย์งดงามมาก อุตส่าห์รีบตื่นตั้งแต่ตี4เพื่อรีบมาถ่ายรูป กะว่าคนจะไม่ค่อยเยอะ ผิดคาดค่ะคุณ คนทะลักมากในตอนเช้า

ต้นศรีมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ผู้คนก็จะแย่งกันมานั่งสมาธิกันตรงนี้ บางคนนี้นั่งเช้าจรดค่ำกันเลย ศรัทธาเต็มเปี่ยมมาก

ด้านในเจดีย์จะมีพระพุทธเมตาอายุราว 1400ปีประดิษฐานอยู่ด้านใน เข้าไปกราบไหว้ขอพรกันได้ตามสะดวกเลยค่ะ

จุดเช็คอินที่2 โฟกัสขอพามาที่ Giant Bodhda เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกที่ที่ห้ามพลาดเลยค่ะ พระพุทธรูปมีความสูงถึง 80ฟุตใช้เวลาก่อสร้างนานถึง7ปี รอบองค์พระก็จะมีพระพุทธรูปรายล้อมอยู่ทั้งหมด10องค์  เป็นสถานที่สงบมากทีเดียวเดินเล่นสบายๆไม่ร้อน ลมพัดกันตลอดเวลา เพราะระหว่างทางเข้ามีต้นไม้เต็ม2ทางเดิน ถ่ายรูปได้เลยเก๋ๆ  การเดินทางก็ไม่ยากค่ะ สามารถนั่งสามล้อมาได้ประมาณ5-7นาทีจากต้นโพธิ์ ค่ารถก็ราวๆ 50-100 รูปี ด้านหน้าก็จะมีขายของที่ระลึกให้ได้ช็อปกันแต่อาจไม่เยอะเท่าไหร่ ไม่เหมือนถนนสายหลักที่จะไปต้นโพธิ์ ตรงนั้นนี่2ฝั่งถนนกันเลยขายกันเพียบ เสียเงินกันอย่างแท้ทรู
🔺เวลาทำการ 07.00-18.00

จุดเช็คอินที่3 จะพามาที่วัดภูฏาน วัดนี้สวยงามมากค่ะ ศิลปะละเอียดมากทีเดียว การใช้สีก็เด่นสะดุดตา  ด้านในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ 3 องค์ ดูขลังมากเพราะด้านในเค้าจะเปิดไฟแบบสลัวๆนิดๆอะ และก็มีพระนั่งสวดมนต์อยู่มีความขนลุกกันเล็กน้อย5555  การเดินทางก็ไม่ยากเลยเพราะอยู่ใกล้ๆกัน Giant Bodhhaห่างกันประมาณ500เมตรน่าจะได้ เดินออกมาจากพระใหญ่ก็เลี้ยวซ้ายเดินไปนิดเจอแยกก็เลี้ยวขวาเดินไปเรื่อยๆจนเจออีกแยกก็ซ้ายอีกทีค่ะ  ก็จะเจอวัดนี้เลยค่ะ
🔺เวลาทำการ 07.00-12.00  14.00-18.00



ธรรมจักรกว้างหมอบ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธ

จุดเช็คอินที่4 วัดShechen Tennyi Dargyeling วัดทิเบต ที่ดูจากทางเข้าด้านหน้าเหมือนไม่มีอะไรแต่พอเดินเข้างานถึงตัววัด อุ้ย...สวยดีอะ สถานที่ดูโปรงสบายๆ ประดับด้วยธงหลายๆสีตามสไตส์ธิเบต  ด้านในเข้าได้นะคะต่างชาติก็เข้าได้ค่ะทางวัดไม่ได้ห้าม

อย่างที่บอกค่ะว่าวัดนี้ไม่ธรรมดาเลย ด้านในมีสถูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ถึงกับตะลึงเลยทีเดียว รอบๆสถูปมีไม้แกะสลักดูคล้ายๆกับนางอัปสรเลยอะ งานมโนก็มา555 เดินวน1รอบสายตาก็ไปสะดุดที่ห้องกระจกที่มีเทียนจุดสว่างไสว เค้าบอกว่าไฟในห้องนี้จะไม่มีวันดับเพราะเค้าจะจุดไว้แบบนี้เสมอ เปรียบเสมือนความศรัทธาที่ไม่เคยมืด
วัดนี้เดินทางไม่ยากค่ะเพราะว่าอยู่ถนนสายหลักที่จะไปต้นโพธิ์ค่ะ  อยู่ติดกับโรงแรม Mahayana Hotel 

จุดเช็คอินที่5 ก็วัดจีนเลยค่ะ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าวัดจีนค่ะแค่ประตูทางเข้าก็จี๊น..จีน เลยล่ะค่ะ  ถามว่าสวยมั๊ย..ดูภายนอกรู้สึกเฉยๆนะคะ แต่ก็ไหนๆมาถึงละก็เข้าไปซะหน่อย ไปค่ะเข้าไปดูข้างในดีกว่า

ด้านในก็ดูเรียบๆ แต่สะดุดตรงที่พระประทานนี่แหละ เหลืองทองอร่ามตามาก ตอนแรกถ่ายจากนอก เจ้าหน้าที่กวักมือเรียกเข้ามาดูข้างใน เลยได้โอกาสถ่ายรูปเลย โชคดีไป ก็สวยแบบเรียบง่ายเหมือนกันนะคะ วัดจีนอยู่ติดกับวัดทิเบตค่ะ 

จุดเข็คอินที่6 วัดพุทธเมตตา เป็นวัดไทยของคนไทยที่อยากแนะนำเลยค่ะ สวยงามมากจริงๆ คือแบบการแกะสลักละเอียดเว่อวัง ประตู หน้าต่าง เสา เพดาน เค้าทำจากเงินแท้ๆเลยนะคะ เราสามารถบอก รปภ ได้ว่าเราเป็นคนไทยเค้าจะเปิดให้เราเข้าไปกราบไหว้ด้านในโบถส์ แต่รอบนี้ที่ไปไม่ได้ถ่ายรูปพระประทานมาให้ชมเพราะเค้ากำลังบูรณะอยู่ แต่ก็มีบรรยากาศรอบๆให้ชชมกันนะคะ

ทางเข้าโบสถ์อลังกาลงานสร้างมาก ลายฉลุละเอียดเกินไปแล้วนะ  แนะนำมากๆเลยค่ะสำหรับวัดนี้ ต้องมาให้เห็นด้วยตาตัวเองจะรู้ว่า งามเกินกว่าจะหาคำมาบรรยายได้จริงๆ

จุดเช็คอินที่ 7 อันถือว่าคนไทยต้องมาค่ะ วัดไทยพุทธคยา  ถ้าให้เปรียบก็เหมือนเป็นวัดหลวงของคนไทยที่นี่ค่ะ 
พื้นที่ด้านในกว้างพอสมควรค่ะ และยังสามารถเข้ามาพักได้นะคะ ฟรีค่ะไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ต้องลงทะเบียนผ่านทางเวบไซต์ของวัดนะคะ  ภายในวัดมีพื้นที่ให้ศึกษาพระธรรมอย่างเป็นสัดส่วนมาก มีที่เดินจงกลม นั่งสมาธิ มีร้านอาหารไทยที่รสชาตไทยไทย แม่ครัวคนไทยเลยนะคุณ อยากรสชาตไทยๆก็แวะกันเข้ามาได้ค่ะ
วันนี้โฟกัสได้โอกาสที่มีพระอาจารย์พาเดินรอบวัดและอธิบายในแต่ละส่วนของวัดให้ฟัง เดี๋ยวจะมาทำรีวิวให้ละเอียดอีกทีนะคะ

พระประธานด้านในโบสถ์งดงามมากๆ ยืนตะลึงมึนงงอยู่กับความงามของพระประทาน เช่นเคยค่ะสำหรับคนไทยนั้นสามารถเข้ามากราบด้านในได้ค่ะ มีอภิสิทธิ์กันบ้าง5555

ด้านในวัดจะมีคลีนิครักษาผู้ป่วยเปิดให้บริการด้วยค่ะ และไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรักษานะคะ 

มีรถพยาบาลด้วย น่ารักเว่อ เอาใจไปเลยจร้า

จุดเช็คอินที่ 8 เรามาสายอาหารกันบ้างค่ะ  Shyam Cafe ร้านนี้ยืน1ในใจโฟกัสมากๆ มากี่ทีต้องมากินทุกครั้ง  เค้าทำเค้กอร่อยเว่อและที่ต้องสั่งคือเค้กมะพร้าวเลยนะตะเอง มีขายที่เดียวในพุทธคยา ไม่ได้มีแต่เค้กกับกาแฟนะเค้ายังมีเมนู พิซซ่า สปาเกตตี้ แซนวิส บลาๆๆๆ ลองๆๆลองแวะมาชิมกัน คอนเฟิมว่าร้องว๊าววววววว....
พิกัด...ตรงข้ามวัดพุทธเมตตา

นี่เลยเค้กมะพร้าว ชิ้นเดียวพี่ไม่เคยพอบอกเลย

 จุดเช็คอินที่ 9 ยังมาต่อกันที่ของกินนะคะ555 มาอินเดียสิ่งต้องกินให้ได้ไม่กินนี่ผิดผีเลยนะคะคุณ555 แนะนำให้มากิน จายค่ะ มันคือชานมร้อนนี่แหละแต่ทำไม๊ทำไมมันรสชาตดีขนาดนี้ เราจะเห็นร้านจายมากมายในอินเดีย แต่ร้านที่แนะนำนี้คืออร่อยสุดจริงในดินแดนนี้ ขายมาไม่ต่ำกว่า30ปีละนะร้านนี้ 
พิกัน...ตรงข้ามวัดไทยพุทธคยา

จุดเช็คอินที่ 10 เอาละเว้ย!!!
ได้ของกินใหม่ละนังโฟกัส  เอาวะมนุษย์บล็อคเกอร์แล้วต้องลอง สั่งโลดไข่ดาวทรงเครื่อง
เค้าก็จะใส่เครื่องเทศนิดหน่อย พริกไทย หอมแดง ต้นหอม ทำเหมือนไข่ดาวบ้านเราแหละ แต่แบบกรอบนอกนุ่มในไข่แดงไม่สุกเยิ้มๆๆ คำแรกกล้าๆกลัวรสชาต คำต่อไปซัดไม่พักเลย ในใจได้แต่พูดว่า เบาก่อนเดี๋ยวกินข้าวเย็นไม่ได้5555  ร้านนี้ไม่ได้มีแค่ไข่ดาวทรงเครื่องนะคุณๆ
เค้ายังมีไข่เจียวขนมปัง ไข่ต้ม  ไข่ต้มนี่เด็ดนะโรยเกลือนิดพริกไทยหน่อย แม่เจ้า!!!!! กองไฟยาว8เมตรเลยนังโฟกัส😅
พิกัดอยู่ซอยข้างต้นโพธิ์ค่ะ หาง่ายค่ะเพราะตรงนั้นเป็นแหล่งช็อปปิ้ง 

นี่เลยค่ะ วิ่งเข้าชาร์ตได้โลด

จุดเช็คอิน 11 ร้าน Hari Oom เมนูแนะนำเลยค่ะ เค้าเรียกว่า ซับชุย มันคือหมีกรอบราดหน้านั่นเองค่ะ เด็ดตรงน้ำซอสเลยแหละ เปรี้ยวนิดๆมีชีสเยิ้มๆ เนื้อไก่เด้งๆ ไข่ดาวโปะหน่า หึหึ....สวรรค์มั๊ยละแม่

จุดเช็คอินที่ 12 วัดพระนารายณ์  เป็นวัดที่คนที่นี่นับถือมากๆนะคะ ทุกวันจะมีคนพื้นที่เข้ามากราบไหว้กันเยอะมาก ไหนๆมาแล้วก็แวะเข้ามาขอพรกันนะคะ
พิกัด...อยู่ด้านข้างต้นโพธิ์เลยค่ะ

งดงามทั้ง 4 พระองค์เลยค่ะ พระราม พระลักษณ์ พระนางสีดา องค์หนุมาน

จุดเช็ค13 Big banyan ต้นไทรใหญ่ที่อายุมากกว่า800 ปี  ตรงนี้ต้องเรียกสามล้มไปนะคะ ไปเหอะค่ะคู่ควรมากเพราะเงียบสงบ ลมเย็น นั่งเล่นเพลินมาก และที่สำคัญใกล้นั้นมีเทวาลัยเล็กของพระแม่สุรัสวดีด้วยนะคะ อายุมากกว่า1000ปีเลยที่เดียว ไปขอพรกันได้ค่ะ
พระแม่สุรัสวดีที่มีอายุเก่าแก่ถึง1000ปี
จุดเช็คอิน14 วัดท่านแม่กาลีริมแม่น้ำเนรัญชรา  วัดเล็กๆแต่ถ้าได้เข้าไปจะสัมผัสถึงพลังมากมาย เพราะวัดท่านแม่วัดนี้เก่าแก่มากๆ  อย่าลืมแวะมากราบไหว้ท่านแม่กันนะคะ
ท่านดงามและรักลูกๆทุกคนเสมอ โอม กาลี โอม

จุดเช็คอินที่ 15 
ว่าด้วยเรื่องของข้าวหมกไก่ที่เด็ดที่ดังก็ต้องย่างกายมาที่โรงแรม Taj Darbar รสชาตอินเดียที่แท้ทรูค่ะ ไม่ต้องกลัวจะกินไม่ได้เพราะกลัวกลิ่นเครื่องเทศบอกตรงนี้เลยว่าคิดผิดนะ ข้าวหมกไก่ที่นี่กลิ่นเครื่องเทศไม่แรงเลยหอมกำลังพอดีข้าวไม่เละเนื้อไก่นุ่ม ต้องมาลองค่ะพลาดแล้วจะน้ำตาท่วม

จบลงละนะคะสำหรับทริปพุทธคยา ขอบคุณที่ติดตามนะคะ  พบกันใหม่นะคะ