สวัสดีเพื่อนๆทุกคนจ้า
วันนี้ปิงกลับมารีวิวกันอีกแล้ว
 
และวันนี้เราจะไปกันที่ร้าน “The Elephant Butcher & Eatery”
ร้านนี้อยู่แถวบ้านปิงเลย อยู่ที่โครงการ “Market Place นางลิ้นจี่” ตรงแถวๆถนนนราธิวาส หรือจะเข้าทางซอยเย็นอากาศก็ได้
 
ร้านนี้เพิ่งเปิดได้ไม่นานเลย เดินผ่านเห็นโปรโมชั่นเปิดร้านเพียบบบบ
เราเลยไม่รอช้าชวนเพื่อนไปกินก่อนที่โปรฯหมด 
ปล. คนในรูปนั่นคือเพื่อนปิงเอง ไม่ใช่ปิง ปิงเป็นคนถ่ายจ้า ถ้าอยากเห็นเราก็ไปดูใน IG ได้นะ 555

เอาหละ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า อย่างที่บอกตอนนี้เค้ามีโปรเยอะมาก
แต่วันนี้ไหนๆก็ไหนๆ ของานดีพรีเมี่ยมมาเลย
ตอนนี้ร้านเค้าจะมี โปรฯ Set menu อยู่มีด้วยกัน2 แบบ คือแบบ 1990++ กะ 2990++
 
คร่าวๆคือ แบบ 1990 เนี่ย จะมี 2 แบบคือ แบบ Main course ที่เป็นเนื้อออสฯวากิว และแบบที่เป็นล็อบสเตอร์
ซึ่งใน Set ก็จะมี Starter, Appetizer ให้เลือกอีก 
 
แต่เราจะขอเลือกแบบ 2990 เพราะดูแล้วว่าคุ้มค่าคุ้มราคากว่าแบบ 1990 ได้เนื้อดีกว่าด้วย
แบบ 2990 นี่จะได้ Australian WagyuRib Eye 400 กรัม 
คือแค่ Steak ก็พันสี่แล้วอะ แถมมี Lobster มาอีก

สำหรับ Set 2990++
จะมีStarter, Appetizer, Sashimi, Sushi และ Main ที่ได้ทั้ง Steak และLobster ปิดท้ายด้วยของหวานอีก
กินกันได้ทั้งหมู่บ้าน (ล้อเล่นนะ 555) แต่เอาจริงๆน่าจะกินได้ 3-4 คนเลยแหละ

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันที่จาน Starterกันเลยดีกว่า
จะเลือกเป็นซุปหรือสลัดก็ได้ 
 
ถ้าเป็นซุปจะมี Truffle, ซุปข้าวโพดและซุปมันฝรั่ง
ส่วนสลัดจะมี Caesar Salad, สลัดมันฝรั่ง และ ShiraoSalad หรือสลัดปลาเงินนั่นเอง (อยากบอกว่าร้านนี้อาหารญี่ปุ่นก็ดีอยู่นะ)
 
จริงๆอยากกินผัก แต่พอเห็น “Truffle Soup” ก็อดไม่ได้

และก็ไม่ผิดหวัง อร่อยมากกกกก
ครีมมี่ และหอมทรัฟเฟิลมาก กินคนเดียวหมด ไม่แบ่งเพื่อนด้วย 555

ต่อมาเป็น Appetizer ซึ่งเลือกได้ 1 อย่าง
Calamari
Scallop Gratin
Chicken Wings
Gambas al ajillo
 
ทางร้านเค้าแนะนำเป็น Scallop Gratin แต่เราไม่เชื่อ 555
เราเลือก Gambus al ajillo ซึ่งเป็นอาหารสเปน 
คือจานนี้เนี่ยเราแอบอินมาตั้งแต่ตอนดูรายการ Coffee Friend ของเกาหลีแล้ว 
ในรายการจะมี Gambus กุ้ง บ่อยมากๆๆจนฝังหัวแล้วก็อยากกิน
 
สำหรับใครที่ไม่คุ้นว่า Gambus al ajillo เป็นยังไง คือจานนี้เวลาทำ เค้าจะเอาน้ำมันมะกอกตั้งไฟ ใส่กระเทียมและพริกแห้งลงไปทอดในน้ำมันมะกอก แล้วก็จะใส่กุ้ง แล้วก็พวก herbs ปรุงเกลือพริกไทย
 
หน้าตาก็จะออกมาเป็นยังงี้จ้า

เวลาเสิร์ฟก็จะมาพร้อมกับ toast หรือขนมปังกรอบ
เอาขนมปังไปจิ้มกับน้ำมันมะกอกที่มีกลิ่นของกระเทียมและสมุนไพร เผ็ดเบาๆก็อร่อยดีนะ
จานนี้แนะนำเลย เพระจริงๆแล้ว Gambus จะอยู่ในร้านอาหารสเปนซะส่วนใหญ่ ไม่ได้อยู่ตามร้านทั่วไป

จานต่อมาเป็น Sashimi ที่สามารถเลือกได้ มีตัวเลือกตามนี้
Salmon, Hamachi หรือ Scallop
 
จริงๆที่มาวันนี้จะมาเพื่อกินเนื้อและล็อบสเตอร์ แต่ใน Set มีอาหารญี่ปุ่นมาด้วย
ทีแรกไม่ได้คาดหวัง เพราะดูๆแล้วเหมือนร้านเค้าจะเด่นเรื่องเนื้อซะมากกว่า
 
ทางเราและเพื่อนก็ลังเลระหว่าง Scallop กะ Hamachi
สุดท้ายก็ลงเอยที่ปลาฮามาจิ แล้วก็พบว่า เห้ยยยยย ซาชิมิร้านนี้ก็สุดยอดดดดดดด
คือสดมาก แล้วมาชิ้นใหญ่แบบเต็มปากเต็มคำ เหมือนร้านญี่ปุ่นดีดีเลย 

มาต่อกันที่จานถัดมาซึ่งก็ยังเป็นจานญี่ปุ่นกันอยู่ นั่นก็คือ Japanese Rolls
เราเลือก Sweet Soy Sauce Shrimp Rolls

จานนี้รสชาติดีอร่อย แต่กุ้งบางไปนิ้ดดดดดดนึง 
ซอสที่ราดมารสชาติดี ไม่ต้องจิ้มโชยุเลย ปาดวาซาบินิดนึงเข้าปากได้เลย 
(ทำไมพิมพ์อยู่แล้วหิวหละ T T)

ร้านนี้นอกจากเนื้อแล้ว อาหารญี่ปุ่นก็ต้องยอมรับ ดีไม่แพ้ร้านไหนเลย
มาร้านเดียวอยู่ อยากกินอะไรก็มี

มาถึงจานไฮไลท์ของวันนี้บ้าง
จริงๆไฮไลท์วันนี้ไม่ได้มีแค่จานเดียว แต่มีถึง2 
 
มาเริ่มกันที่ Main Course จานแรก
นั่นก็คือ Lobster ซึ่งเป็น Canadian Lobster ขนาด 600กรัม
จะเลือกแบบนึ่งหรือ Thermidor ก็ได้

พวกเราเลือกแบบ Thermidor
ตัวใหญ่มากกกกก

จานนี้ทำมาได้ดีมาก เนื้อไม่แห้ง ยังมีความชุ่มฉ่ำอยู่
และที่สำคัญคือสดมาก เนื้อหวานและเด้งกรอบ
เสิร์ฟมาพร้อมกับซอส 2 แบบ 
อันนึงจะเป็นน้ำจิ้มซีฟู้ด (ไม่ได้ชิม) กับอีกตัวนึงไม่แน่ใจว่าเป็นซอสอะไร แต่ว่าอร่อยมาก
แต่อยากบอกว่าจริงๆ ไม่ต้องจิ้มซอสก็อร่อยแล้ว

และแล้วจานที่เรารอคอยก็มาถึง
Main Course อีก 1 จาน นั่นก็คือ Australian Wagyu Rib Eye Steak (400 g.)

คือปิงได้กินสเต็กหลายร้านอยู่ ทั้งแพงทั้งไม่แพง แต่อยากบอกว่าร้านนี้คือที่สุดแล้วแบบไม่ได้อวย
คือนุ่มมากกกกกกกกก นุ่มจริงๆ กลิ่นของเนื้อที่ย่างมาหอมมาก 

หั่นข้างในออกมาให้ดู สามารถเลือกความสุกของเนื้อได้นะ
ของเราอาจจะดู rare ไปหน่อย บางคนอาจจะไม่ถนัด
เอาเป็นว่าสามารถเลือกได้ตามสไตล์เลย
เนื้อจะเสิร์ฟมาพร้อมกับผักย่าง ซอส 2 อย่าง เป็นซอสแจ่วกะอีกอันเหมือน red wine sauce ไม่แน่ใจว่าใช่มั้ย

ซอสก็ทำออกมาดี ทั้ง red wine sauce และแจ่ว
หรือจะโรยเกลือเฉยๆก็อร่อยแล้วนะ

เอาหละ อาหารมาพร้อมหน้าแล้ว
กินก่อน ไม่รอแล้วน้า

ตอนนี้โฮการ์เด้นท์ ก็มีโปร 1 แถม 1 เลยสั่งมาจิบ จิบบบบบ อุอิ

มาต่อที่อย่างสุดท้าย นั่นก็คือจานของ Dessert
คือลืมไปแล้วว่ามีของหวาน เพราะนั่งกินกันนานมาก อาหารเยอะมาก แต่ไปกินกันอยู่ 2 คน
 
ของหวานใน Set จะเป็น Chocolate Lava เสิร์ฟกับไอศกรีมและเบอร์รี่ซอส

ตัวเค้กรสชาติมาตรฐาน อาจจะไม่ได้ว้าวมาก แต่ก็กินหมด 555
เนื้อเค้กด้านนอกกรอบ ข้างในเป็นลาวา แต่อาจจะไม่เยอะเท่าไหร่ กินคู่กับเบอร์รี่ซอสอร่อยดี
ถือว่าจบมื้ออย่างสวยงาม

กินเสร็จบ่ายแก่ๆพอดี ช่วงนี้คนน้อยหน่อย เลยได้ถ่ายรูปบรรยากาศร้านมาฝาก
ร้านโปร่ง นั่งสบาย ไม่อึดอัด จะมากลุ่มมาเดทก็ได้หมด

มีชั้น 2 ด้วยนะ แล้วก็มีโซนด้านนอกที่ไม่ได้ถ่ายมา 555

เค้ามีตู้โชว์เนื้ออยู่ด้วย จะมาเลือกจากตรงนี้ก็ได้นะ

วันนี้ก็ประมาณนี้ละกัน ฝากเอาไว้ด้วยกับร้าน “The Elephant Butcher & Eatery”
ที่ Market Place นางลิ้นจี่
นอกจากเนื้อจะดีแล้ว อาหารญี่ปุ่นก็ดีด้วย จริงๆลืมถ่ายเมนูมาให้ดู เพราะว่านอกจากเนื้อ เค้ามีเมนูให้เลือกเยอะมาก ทั้งเมนูอินเตอร์ หรือจะอาหารไทยแบบอาหารจานเดียวก็ยังมี 
แถมช่วงนี้เพิ่งเปิดใหม่ โปรเยอะมาก อีกโปรที่น่าสนใจคือ Oyster(หอยนางรม) 1 แถม 1จ้า 
เอาไว้วันหลังจะมาลอง
 
ใครสนใจก็ตามไปได้ หรือ